กูเฟยเยี่ยนนอนไม่หลับทั้งคืน หญิงสาวจัดระเบียบและตรวจสอบสมุนไพรในหอกักเก็บยาสมุนไพรหนึ่งรอบ ก่อนจะจัดทำใบแสดงรายละเอียดออกมาหนึ่งชุด นางเพิ่มเติมสมุนไพรที่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจำเป็ต้องใช้ในการแช่ยาสมุนไพร ในขณะเดียวกันก็เพิ่มเติมสมุนไพรทั่วไปที่ใช้ในกรณีเร่งด่วน จากนั้นจึงไปที่สวนดอกไม้ด้านหลังอีกครั้งเพื่อไปตรวจสอบอุณหภูมิของยาในตำหนักชิงหลิว คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของยาแล้วบันทึกโดยละเอียด สุดท้ายจึงไปเก็บข้าวของเครื่องใช้และทำความสะอาดิเย่วจวีราวกับไม่เคยมีใครอาศัยอยู่มาก่อน
เช้าวันรุ่งขึ้น หญิงสาวมอบใบรายละเอียดสมุนไพรให้เซี่ยเสี่ยวหม่าน
“เ้าต้องเพิ่มเติมสมุนไพรที่ควรเพิ่มเติมให้ครบตามใบรายละเอียดชุดนี้ เวลาใช้จะได้หาเจอ จำเอาไว้ว่าคุณภาพของสมุนไพรด้านนอกนั้นแตกต่างกัน พวกเ้าไม่สันทัดเื่นี้ก็อย่าได้ซื้อสุ่มสี่สุ่มห้าเชียว หาก้าอะไรก็ให้ไปขอที่ห้องยาสำนักหมอหลวง อีกอย่างคือคุณสมบัติของยาในน้ำสมุนไพรอย่างมากก็สามารถอยู่ได้แค่ครึ่งปีเท่านั้น เ้าต้องเตือนจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยให้เตรียมแร่ศิลาไว้ให้เพียงพอ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านรับใบรายการมาด้วยความรู้สึกผิดจนไม่กล้าแหงนใบหน้าไปมองนาง
กูเฟยเยี่ยนยื่นกุญแจไปให้อีกหนึ่งดอก “นี่คือกุญแจของิเย่วจวี ข้าทำความสะอาดไปแล้วหลายห้อง ข้าวของเครื่องใช้ไม่ขาดไม่เสียหาย ไม่จำเป็ต้องเพิ่มเติม”
เซี่ยเสี่ยวหม่านรับมาอีกครั้งโดยที่ยังคงก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไรออกมาอีกเช่นกัน
กูเฟยเยี่ยนจึงยื่นสิ่งสุดท้ายให้อีกครั้งด้วยรอยยิ้ม “อะ นี่ให้เ้า ของดีเชียวนะ ฮิฮิ รอให้ข้าไปแล้วเ้าค่อยเปิดดู เ้าจะต้องชอบแน่ๆ ! ในลานด้านหลังแห่งนี้มีคนรับใช้ไม่มาก ข้ารู้ว่าอาหารที่ข้ากินมาตลอดสามเดือนนั้นอันที่จริงแล้วเ้าเป็คนทำทั้งหมด และเ้าก็เป็คนที่ทำความสะอาดลานภายในอีกด้วย…ขอบคุณนะ! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านเงยหน้าขึ้นไปมองนางแวบหนึ่ง ทว่าเขาไม่ได้รับสิ่งของชิ้นนั้นมา
กูเฟยเยี่ยนนำของชิ้นนั้นยัดใส่มือของเขาด้วยรอยยิ้ม “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยคงจะมีภารกิจมากใช่หรือไม่ ดูท่าว่าข้าจะไม่สามารถบอกลาพระองค์ได้แล้ว ข้าฝากเ้าขอบคุณแทนข้าหน่อยนะ”
ครั้นกูเฟยเยี่ยนเอ่ยจบแล้วก็หันหลังเดินออกไป
เซี่ยเสี่ยวหม่านอยากจะพูดอะไรออกมา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้อีก ระยะเวลาสามวันที่ผ่านมานี้เขาพยายามออกตามหาจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทุกวัน แต่น่าเสียดายที่หาไม่เจอ
เซี่ยเสี่ยวหม่านเม้มริมฝีปากแล้วรีบวิ่งตามไป
เมื่อมาถึงหน้าประตูเซี่ยเสี่ยวหม่านก็อดไม่ได้ที่จะปริปากพูดจา “นังหนู ข้าพเ้าจะเข้าไปในพระราชวังกับเ้า! ข้าพเ้า…ข้าพเ้า ข้าพเ้าจะคิดหาวิธีมาเกลี้ยกล่อมฝ่าาเอง! ”
จากน้ำเสียงของเขาแล้วทราบได้ว่าเขากำลังฝืนเอาไว้
กูเฟยเยี่ยนเกิดความอบอุ่นในใจ แต่ก็แสร้งทำเป็กล่าวเตือนด้วยความจริงจัง “เซี่ยเสี่ยวหม่าน ข้าจะเตือนเ้าเป็ครั้งสุดท้ายว่าอย่าเรียกข้าว่านังหนู ข้าโตกว่าเ้าจนสามารถเป็พี่สาวเ้าได้แล้ว! รอให้ข้ายืนหยัดอยู่ในห้องยาสำนักหมอหลวงอย่างมั่นคงเสียก่อนเถอะ เหอะๆ ไม่นานข้าจะกลับมาจัดการเ้า! ”
ในที่สุดเซี่ยเสี่ยวหม่านก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องมองนาง
ใน่เวลาสามเดือนที่ผ่านมานี้ กูเฟยเยี่ยนกับเซี่ยเสี่ยวหม่านต่างคนต่างก็จ้องตามองกันมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ในครั้งนี้นางไม่ได้จ้องมอง นางหัวเราะแล้วก้าวเท้าออกจากจิ้งหวางฝู่ ครั้นเดินออกมาแล้วกูเฟยเยี่ยนก็หันกลับไปมองแผ่นป้ายเหนือประตูที่สลักคำว่า “จิ้งหวาง” จากนั้นจึงโน้มกายแสดงออกถึงความซาบซึ้งใจอย่างจริงจัง
แม้ว่าจะอาลัยอาวรณ์แต่นางก็ไม่ได้หยุดค้าง นางก้าวขึ้นเกี้ยวแล้วจากไป
เซี่ยเสี่ยวหม่านไล่ตามไปได้ไม่กี่ก้าวก็หยุดลงแล้วเปิดห่อสิ่งของที่อยู่ในมือออกมา ภายในนั้นล้วนเป็ตั๋วเงิน หลังจากที่เขานับทั้งหมดแล้วพบว่านี่เป็เงินที่เขาถูกจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยลงโทษปรับไปครึ่งเดือน!
เมื่อเหม่อมองเกี้ยวที่ห่างออกไป เซี่ยเสี่ยวหม่านจึงเม้มริมฝีปากอดกลั้นเอาไว้แน่น ทว่าสุดท้ายเบ้าตาของเขาก็แดงก่ำและเปียกชื้น ใบหน้าอ่อนวัยของเขาไร้ซึ่งการเสแสร้งแกล้งทำเป็ผู้ใหญ่อีกแล้ว ในตอนนี้เขาเหมือนกับเด็กน้อยที่อยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่กล้าร้องออกมา ทำได้เพียงแค่สูดน้ำมูกอย่างแรง “พี่สาว…ข้าขอโทษ! ข้าขอโทษ !”
ที่จริงแล้วกูเฟยเยี่ยนไม่ได้โทษเซี่ยเสี่ยวหม่านเลยแม้แต่น้อย เพราะในเื่ของความสัมพันธ์ที่ได้ประโยชน์และโทษ นางเข้าใจดีกว่าใครๆ นางนั่งอยู่บนเกี้ยวโดยที่หันไปมองย้อนกลับตลอด
การเดินทางค่อยๆ ไกลออกไป เมื่อมาถึงพระราชวัง กูเฟยเยี่ยนก็ตรงไปยังห้องยาสำนักหมอหลวง หญิงสาวไม่ทราบว่าเทียนอู่ฮ่องเต้จะมีรับสั่งเมื่อใด นางจึงปฏิบัติตามกฎระเบียบที่บัญญัติเอาไว้ว่าผู้ที่ถูกโยกย้ายจะต้องกลับมารายงานการปฏิบัติภารกิจกับผู้ดูแลห้องยาสำนักหมอหลวง
ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่นางมายังห้องยาสำนักหมอหลวงล้วนจะไม่มีเื่ดี
ทันทีที่มาถึงหน้าประตูทางเข้าก็พบเห็นกลุ่มหญิงสาวยืนรายล้อมอยู่ภายใน ผู้ที่เป็แกนนำไม่ใช่ใครที่ไหน คนๆ นั้นก็คือเวินอวี่โหรวที่ชื่นชอบรักใคร่เฉิงอี้เฟยนั่นเอง
เมื่อดูท่าทีของพวกเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าตั้งใจมารอนางโดยเฉพาะ
นี่จะทำอะไรกัน?
ดูเื่ราวครึกครื้นของนางมาหลายครั้งแล้วยังไม่พออีกหรือ?
กูเฟยเยี่ยนทำราวกับว่าพวกเขาคือธาตุอากาศ นางก้มหน้าเดินไปอีกด้านหนึ่ง
ในขณะเดียวกันก็มีน้ำเสียงโมโหของเวินอวี่โหรวดังขึ้น “แพทย์หญิงกูอยู่ในจิ้งหวางฝู่มาสามเดือนจนนิสัยเสียขึ้นสินะ! เป็เพียงแค่แพทย์หญิงตัวเล็กเมื่อเห็นอาจารย์แพทย์อย่างข้าแล้วยังไม่มาแสดงความเคารพอีก! หรือว่าออกไปนานจนไม่รู้จักกฎระเบียบแล้ว? จะต้องให้อาจารย์แพทย์อย่างข้าสั่งสอนเ้าใหม่หรือไม่?”
กูเฟยเยี่ยนขมวดคิ้ว นางเพิ่งจะได้รู้ว่าระยะเวลาสามเดือนที่นางจากไป เวินอวี่โหรวได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากแพทย์หญิงไปเป็อาจารย์แพทย์แล้ว
แพทย์หญิงต้องได้รับการเลื่อนขั้นเป็แพทย์ชั้นสูงก่อนแล้วค่อยเลื่อนขั้นไปเป็อาจารย์แพทย์ ทุกการเลื่อนขั้นล้วนจำเป็ต้องผ่านการประเมินที่เข้มงวด หากไม่ได้ร่ำเรียนและฝึกฝนมาอย่างยาวนานกว่าห้าปีถึงสิบปี ไม่มีทางเลื่อนขั้นได้แน่
ทักษะยาสมุนไพรของเวินอวี่โหรวธรรมดาแต่กลับสามารถเลื่อนตำแหน่งได้อย่างราบรื่น ผู้ที่อยู่เื้ันั้นแข็งแกร่งจริงๆ !
ทว่าเป็อาจารย์แพทย์แล้วอย่างไรเล่า? ผู้ที่อยู่เื้ัแข็งแกร่งแล้วอย่างไรเล่า?
ในวันนี้ที่นางย่างก้าวเข้ามาในพระราชวัง นางรวบรวมแรงจิตแรงใจเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเทียนอู่ฮ่องเต้ ดังนั้นนางจะเกรงกลัวคนที่เป็เพียงอาจารย์แพทย์หรือ?
กูเฟยเยี่ยนเหลือบพิจารณาเวินอวี่โหรวั้แ่หัวจรดปลายเท้า ก่อนจะแค่นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ พลางหันหลังเตรียมเดินออกไป
เวินอวี่โหรวโกรธเป็อย่างยิ่ง นางจึงรีบไล่ตามไป
“นังคนชั้นต่ำ เ้าทำให้ท่านแม่ทัพเฉิงได้รับาเ็เพียงนี้แล้วยังมีหน้าปรากฏตัวออกมาอีก? ทักษะยาสมุนไพรของเ้ายอดเยี่ยมมากไม่ใช่หรือ? เ้าจะรับผิดชอบจนถึงที่สุดไม่ใช่หรือ? เ้ามันตัวปัญหา ตัวซวย! วันนี้ตัวข้าอาจารย์แพทย์ผู้นี้จะให้บทเรียนแก่เ้าเอง! ข้าจะทำให้เ้ารับรู้ว่ากฎระเบียบคืออะไร ความละอายคืออะไร! ”
เวินอวี่โหรวเอ่ยพลางง้างฝ่ามือขึ้นพร้อมที่จะตบลงไปบนใบหน้าของกูเฟยเยี่ยน กูเฟยเยี่ยนรีบยกมือป้องกันแล้วสะบัดมือนางออกด้วยความรุนแรงในทันที
ในตอนนี้เองที่กูเฟยเยี่ยนได้ทราบว่าที่แท้เื่ราวการฟื้นตัวของเฉิงอี้เฟยนั้นยังไม่ได้แพร่กระจายออกมา เดิมทีนางไม่ได้ใส่ใจคำพูดของพ่อบ้านตระกูลเฉิง แต่บัดนี้ดูเหมือนว่าข่าวลือด้านนอกจะยังคงดำเนินต่อไป!
ทันใดนั้นกูเฟยเยี่ยนก็นึกขึ้นได้ว่าเฉิงอี้เฟยเคยกล่าวเอาไว้ว่าทันทีที่กำหนดการสามเดือนสิ้นสุดลง เขาจะไปสู่ขอนางที่ตระกูลกู นางอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เกรงว่าในสามวันนี้เฉิงอี้เฟยล้วนนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงใช่หรือไม่? ด้วยความระมัดระวังของหลินฟูเหรินผู้เฒ่าแล้ว อาจเป็ไปได้ว่าจะบีบบังคับให้เขานอนรักษาตัวอีกสามสี่วัน ขาทั้งสองข้างของเขาเกือบจะพิการไป เขาน่าจะลืมเื่นี้ไปนานแล้วใช่หรือไม่?
ดีเลย เช่นนี้ในวันข้างหน้านางก็จะสามารถหยอกล้อเขาได้โดยกล่าวว่าเขาไม่รักษาคำพูด ดังนั้นนางจะไม่แต่งงานกับเขา!
ที่จริงแล้วกูเฟยเยี่ยนไม่ทราบว่าเมื่อเผชิญหน้ากับเทียนอู่ฮ่องเต้แล้วตนเองจะยังมีโอกาสพบเฉิงอี้เฟยหรือไม่ ยามนี้นางกำลังมีความสุขอยู่ท่ามกลางความทุกข์
ครั้นเวินอวี่โหรวเห็นว่ากูเฟยเยี่ยนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ นางจึงโมโหมากขึ้นกว่าเดิม “เ้ายิ้มทำไม? เ้าไม่มีความรู้สึกผิดเลยหรือ? เ้าไม่มีความละอายใจเลยหรือ? ”
กูเฟยเยี่ยนี้เีอธิบายและไม่จำเป็ต้องอธิบาย ั์ตาเยือกเย็นของนางเผยถึงการตักเตือน “ไสหัวไป อย่ามายุ่งกับข้า! ”
เวินอวี่โหรวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางเอ่ยออกมาว่า “กูเฟยเยี่ยน เ้าฟังให้ดี บัดนี้ข้าคืออาจารย์แพทย์! ข้าสูงกว่าเ้าถึงสองระดับ เ้ากล้าเอ่ยวาจาเช่นนี้ต่อข้าได้อย่างไร? เ้าคิดว่าเ้ายังเป็คนของจิ้งหวางฝู่อยู่อีกหรือ? ”
เวินอวี่โหรวก้าวถอยหลังพลางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเ็าทันที “พวกเ้า มาสั่งสอนแพทย์หญิงที่ไม่รู้จักกฎระเบียบนางนี้เสียหน่อย! ”
ในคราวนี้เหล่าแพทย์หญิงที่อยู่รอบข้างต่างก็เข้ามารายล้อมรอบตัวกูเฟยเยี่ยน ทางด้านของซ่างกวนยิงหงกับอาจารย์แพทย์สองสามคนที่รีบมาหลังจากได้ยินข่าวคราวล้วนยืนดูความครึกครื้นอยู่ด้านข้าง พวกเขาไม่คิดที่จะแทรกมือเข้าไปยุ่ง…