ฉันที่ได้เห็นเื่ราวั้แ่ต้นจนจบในจังหวะที่กำลังจะเอ่ยปากบอกสำทับให้เขาฟังอีกครั้ง...ถึงเื่ที่ฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรในเื่นี้แล้ว และอีกอย่างในเมื่อเขาหาคนที่เป็ลูกหนี้มาได้แล้ว บริษัทก็ยกใช้หนี้ให้ไปแล้วก็สมควรแก่เวลาที่เขาควรจะต้องปล่อยฉันให้กลับบ้านไปได้สักที และในจังหวะที่ฉันกำลังจะเปิดปากพูดออกไปนั้น เขาที่เหมือนกับจะรู้ทันในความคิดของฉันก็ได้เอ่ยปากพูดสวนออกมาทันที
“นี่เป็แค่เฉพาะเงินต้นที่มึงเอาไป...แล้วดอกเบี้ยอีก 100 ล้านล่ะมึงจะหาคืนกูได้ยังไง” สิ้นเสียงประโยคที่เหมือนกับการขูดเืเอากับปู ก็ทำให้ฉันถึงกับอ้าปากค้างตกตะลึงในความอำมหิตใจจืดใจดำของเขาอย่างเสียไม่ได้
(โอ้แม่เ้า!! ดอกร้อยล้าน ต้นร้อยล้าน นี่มันขูดเืขูดเนื้อกันชัด ๆ) ฉันที่ถึงกับตะลึงพึงพรืดกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งได้ยิน และถึงแม้ว่าฉันจะรู้สึกสยองในใจ และอดไม่ได้ที่จะสงสารผู้ชายที่อยู่ด้านข้าง แต่ทุกอย่าง ณ เวลานี้มันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของฉันอีกแล้วเพราะฉะนั้น...รีบปล่อยฉันไปสักทีซิไอ้บ้านี่!!
ส่วนคนที่เป็ลูกหนี้ที่นั่งอยู่ด้านข้างของฉัน เขาเองก็ดูจะใไม่ต่างกันถึงกับเอ่ยปากสั่นละล่ำละลักพูดไม่เป็ภาษา
“ห๊ะ...ดะ...ดอกร้อยล้าน ปะ...เป็ไปได้ยังไง...นะ...ในสัญญามันไม่มีนี่...ระ...หรือว่า...มึงโกงกูงั้นเหรอ” ผู้ชายด้านข้างของฉันถึงกับอึ้งไปไม่เป็ ก่อนจะคว้าสัญญามาดูด้วยความตื่นตระหนกอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง
แต่แล้วรายละเอียดทุกอย่างในนั้นมันก็ทำให้เขาถึงกับอึ้งกิมกี่ไปไม่เป็จริง ๆ เมื่อดอกจันเล็ก ๆ ที่อยู่ในเอกสารสัญญาตรงด้านล่างสุดได้บอกว่า ‘ดอกเบี้ย จะเท่ากับเงินต้นเมื่อผิดสัญญาตามที่ตกลงกันไว้'
และด้วยประโยคที่ระบุอยู่ในเอกสารแบบนั้น ก็ทำให้ผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านข้างของฉันถึงกับหน้าถอดสีสายตาเหม่อลอยทันที เพราะความจริงที่เหมือนกับโดนกลั่นแกล้งกันซึ่ง ๆ หน้า ได้ทำให้ชายที่เพิ่งจะสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะเพิ่งเซ็นยกบริษัทให้กับเ้าหนี้ไปถึงกับบันดาลโทสะคำรามลั่นเตรียมพุ่งตัวออกไปอย่างลืมกลัว
“ไอ้เวรนี่!! นี่มึงโกงกูนี่หว่า แม่งเอ๊ย...” เขาพูดพร้อมกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน อีกทั้งยังพยายามที่จะพุ่งตัวทะยานเข้าใส่ผู้ชายหน้าเืที่นั่งไขว่ห้างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอย่างเอาเื่
แต่ทว่า...มีหรือที่คนที่ไร้ซึ่งอำนาจการต่อสู้ทั้งทางธุรกิจและทางกายอย่างผู้ชายที่อยู่ด้านข้างฉันเขาจะสามารถเข้าประชิดตัวเพื่อทำร้ายร่างกายคนที่ทำให้เขาเจ็บแค้นได้ เพราะเพียงแค่เขาคิดจะขยับตัวเตรียมที่จะพุ่งตัวทำร้ายคนตรงหน้าเพื่อระบายความแค้น ก็ต้องเจอกับสิ่งที่สวนกลับมาด้วยความรวดเร็วและแรงจนฉันเองยังมองตามไม่ทัน...
ป๊าบ...
“อ๊ากกกกก ~~”
แรงที่อัดเข้ากลางลำตัวอย่างเต็มแรงจากหน้าแข้งของลูกน้องของคนที่นั่งไขว่ห้าง ที่ยืนตั้งท่ารอปกป้องผู้เป็นายของตนอยู่ก่อนแล้ว ส่งผลทำให้คนโดนถึงกับร้องเสียงหลงล้มลงไปนอนตัวงอกุมท้องร้องโอดโอยด้วยความเ็ปทันที
(OoO) ฉันที่ใเบิกตาโพล่งอ้าปากค้าง ตัวแข็งทื่อ ให้กับภาพตรงหน้า พร้อมกับลำคอที่พยายามกลืนน้ำลายลงไปอย่างยากลำบาก ก่อนความคิดที่ไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้นได้ผุดขึ้นมาในหัวอย่างเลี่ยงไม่ได้
(เอ๊ะ...!! ถ้าหากไอ้ปีศาจหน้าเืเกิดเพี้ยน หันมาทวงดอกเบี้ย 100 ล้านเอากับฉันแทนเข้าล่ะ...แล้วทีนี้ฉันจะทำยังไงดีล่ะเนี้ย...) ฉันคิดพลางขนลุกไปพลาง...บรึ๊ยยยย...
แต่แล้ว...อาจจะเป็เพราะว่ามันคงถึงคราวซวยของฉันเข้าแล้วจริง ๆ เมื่อความคิดที่เพิ่งจะผุดขึ้นมาในหัวของฉัน ดูท่าจะส่งไปเชื่อมจิตเข้าให้กับเขาคนนั้นคนที่ฉันกำลังหวาดหวั่นในอำนาจที่ฉันเพิ่งประจักษ์เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้
“กูรักษาคำพูดอยู่แล้ว ในเมื่อเงินต้นกูได้จากมึงแล้ว ส่วนดอกเบี้ยกูจะเอากับคนค้ำของมึงก่อนก็แล้วกัน...แล้วถ้ามึงมีมาจ่ายเมื่อไรมึงค่อยมาเอาตัวเมียมึงกลับไป...หึหึ” ใบหน้าคมเข้มที่ดูร้ายกาจเหลือเกินเอ่ยพูดกับคนที่นอนกองอยู่กับพื้นเพราะความจุกและปวดร้าวที่กลางลำตัว ก่อนที่สายตาทรงเสน่ห์ที่บัดนี้ดูยากหยั่งถึงจะปรายตามองมาที่ฉัน จนทำให้ฉันถึงกับเหงื่อกาฬผุดแตกเต็มกรอบหน้าสวย
ทันทีที่เขาพูดจบประโยค ฉันก็ถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความใ พร้อมกับสายตาที่ส่งไปสอดประสานเข้ากับชายที่นอนตัวงออยู่ด้านข้างอย่างไม่เข้าใจ เพราะไม่ใช่แค่ความรู้สึกแปลกใจที่ฉายขึ้นบนใบหน้าสวยของฉันเท่านั้น แต่ทว่า...คนด้านข้างของฉันเขาเองก็แสดงสีหน้าที่สับสนไม่แพ้กัน
นั่นก็เพราะต่างฝ่ายต่างกำลังนึกขึ้นมาในใจว่า...ผู้ชายคนนี้ / ผู้หญิงคนนี้ เป็ใครกัน...
จากนั้นฉันที่ตั้งสติได้ก่อน ก็ขมวดคิ้วรีบส่ายหัวไปมาอย่างไม่ยินยอม นั่นก็เพราะคนที่อยู่ด้านข้างของฉันนั้น ฉันไม่เคยรู้จักเขามาก่อนด้วยซ้ำ แล้วจะมาให้ฉันใช้หนี้แทนได้ยังไงกัน และทันทีที่สมองไตร่ตรองได้อย่างนั้นฉันก็รีบโพล่งบอกออกไปอย่างลืมกลัว
“เดี๋ยวนะ...ฉันไม่รู้จักผู้ชายคนนี้เลยสักนิด ละ...แล้วจะให้ฉันมารับผิดชอบใช้หนี้แทนเขาได้ยังไงกันล่ะ” ฉันรีบบอกออกไปด้วยความสัตย์จริง พร้อมกับสีหน้าที่เหลอหลาสับสนงงงวยไปหมด
“หึ...นี่มึงยังไม่ยอมรับอีกเหรอ หลักฐานก็ออกจะทนโท่ ลายเซ็นนี้ก็ลายเซ็นของมึงเอง มึงก็เป็คนยอมรับเองด้วย” หลังจากที่ฉันพูดจบ ผู้ชายที่หล่อแค่หน้าแต่นิสัยน่ายี้ รีบตอบฉันกลับมาด้วยความรู้สึกได้ใจ
แต่คำพูดของเขากลับไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัวอะไรกับท่าทางเอาเื่ของเขาตอนนี้ เพราะว่าความรู้สึกโมโหที่ฉันมีมันมากจนกลบความรู้สึกเ่าั้ไปจนหมดสิ้น
“เอ๊ะ!! นายนี่พูดไม่รู้เื่หรือไงกัน ก็ฉันบอกอยู่นี่ไงว่ามันเกิดจากการผิดพลาด ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเซ็นเอกสารฉบับนี้ แล้วอีกอย่างผู้ชายคนนี้ฉันก็ไม่รู้จัก...ใช่ไหมคุณ เราไม่รู้จักกันใช่ไหมคะ” ฉันเถียงออกไปอย่างเหลืออด ก่อนจะหันไปหาผู้ชายที่ยังคงนอนกุมท้องตัวงออย่าง้าให้เขาช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ของฉัน
แต่ใครมันจะไปคาดคิดว่า...สันดานของมนุษย์นั้นยากแท้หยั่งถึง ในเมื่อคนด้านข้างที่ไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อน จะกลับมาทำกันได้ลงคอเพียงเพื่อการอยู่รอดของตัวเอง
ผู้ชายที่วินาทีนี้ฉันไม่อยากเรียกหรือยกเกียรติให้เขาเป็ผู้ชายด้วยซ้ำ รีบเสหน้าหลบสายตาขอความช่วยเหลือจากฉันทันที หลังจากที่ฉันเอ่ยปากขอให้เขาช่วยยืนยันให้ว่าฉันไม่เกี่ยวข้องกับเื่นี้ แต่ก็นั่นแหละเพราะการที่อยู่ดี ๆ แล้วมีคนมารับผิดชอบหนี้ 100 ล้านแทนให้แบบสบาย ๆ นั้น มันช่างทำใจได้ยากเหลือเกินที่จะปฏิเสธโชคหล่นทับแบบนี้...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้