เล่มที่ 7 บทที่ 191 ทำลาย
สถานการณ์ฝั่งสัตว์ร้ายทั้งแปดเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไรนัก บัดนี้พวกมันอัดกระแทกจนตายหมด จึงกลายเป็ไอโเี้จำนวนมากแพร่กระจายอยู่ในค่ายกล ขณะนี้เหล่าสัตว์ร้ายไม่อาจฟื้นคืนชีพได้อีก เพราะค่ายกลแปดอสูรหลิงเป่าถูกกระแทกจนแตกเป็โพรงเสียแล้ว ลำแสงจากค่ายกลคุ้มกันเมืองที่สาดส่องลงมาจากฟ้า ก็รอดทะลุโพรงเข้ามาทำให้ดูคล้ายกับม่านน้ำตกที่กำลังเปล่งแสงเรืองรอง
อักขระมากมายที่ลุกโชนเริ่มอ่อนแรงลง และกำลังร่วงตกลงมายังค่ายกลราวกับสะเก็ดดาวตก...
แม้แต่หลินเฟยเองก็มีสีหน้าที่ย่ำแย่กว่าเดิม เพราะในตอนนี้อสุรกายกุ่ยหวังได้เคลื่อนกายยืนอยู่นอกค่ายกลแล้ว...
พลังของเหล่าอักขระที่ลุกเป็ไฟจากการทำลายมนต์สะกดในมีดบินฮั่วอู๋นั้น ถือว่ารุนแรงมาก ต่อให้เป็ค่ายกลแปดอสูรหลิงเป่าที่แข็งแกร่ง ก็ไม่อาจสกัดขวางมันได้
“ฉลาดไม่เบาเลยนี่...” ใช้ตัวเองเป็เหยื่อล่อให้ยันต์เซียนไท่หยินโจมตีจากภายนอก ผสานกับพลังจากมีดบินฮั่วอู๋ที่โจมตีจากภายใน ภายใต้แรงอัดกระแทกทั้งสองฝั่ง ถึงขั้นทำลายค่ายกลแปดอสูรหลิงเป่าจนเป็โพรงเลยทีเดียว สมกับเป็อสุรกายกุ่ยหวังที่มีชีวิตยืนยาว มันสมองและฝีมืออันล้ำเลิศของมันเช่นนี้ ต่อให้เป็หลินเฟยที่เป็คนคิดแผนนี้ขึ้นมาเอง ก็ยังอดที่จะตะลึงไม่ได้...
หลังจากที่อสุรกายกุ่ยหวังออกมา มันก็ะเิหัวเราะทันที ไออสูรรอบด้านพลันแปรปรวนเกิดเป็ภาพนิมิติญญาร้ายต่างๆ ทำให้พื้นที่รอบข้างภายในรัศมีสิบจ้างมีบรรยากาศน่าสะพรึงกลัวราวกับนรกอเวจีขึ้นมา
ทว่าหลินเฟยเห็นดังนั้นก็ทำเพียงยกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะประสานมือคารวะอสุรกายกุ่ยหวัง
“ขอบคุณ”
เมื่อสิ้นเสียงหลินเฟย กล่องกระบี่เจิงหนิงก็ปรากฏขึ้นมากลายเป็ลำแสงสายหนึ่งสาดส่องเข้าไปในค่ายกลแปดอสูรหลิงเป่า ทันใดนั้นก็มีกระแสโเี้สายหนึ่งพวยพุ่งขึ้นท่ามกลางหมอกควันอันดำมืด จากนั้นก็มีเสียงคำรามน่าเกรงขามดังตามมาอีก พริบตาต่อก็มีภาพนิมิตของสัตว์ขนาดใหญ่ซึ่งมีกายเป็พยัคฆ์หัวเป็งู ลำตัวมีปีกปรากฏออกมาอีกด้วย
สิ้นเสียงคำรามของเจิงหนิง ก็มีไอโเี้แพร่ออกมาและกดข่มค่ายกลแปดอสูรหลิงเป่าทันที
เหล่าสัตว์ร้ายทั้งแปดที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ จึงไม่ใช่คู่ต่อสู้แท้จริงของเจิงหนิง เพียงพริบตาเดียวก็ถูกไอโเี้อันแข็งแกร่งกดข่มเอาไว้
บัดนี้กล่องกระบี่เจิงหนิงกลายเป็ใจกลางค่ายกล และมันก็กดข่มจนเหล่าสัตว์ร้ายทั้งแปดไม่กล้าโงหัวขึ้นมาเลยทีเดียว สัตว์ร้ายบางตัวถึงกับหวาดกลัวจนตัวสั่นก็มี
เพราะเจิงหนิงเป็หนึ่งในเก้าปีศาจา ชอบกินเหล่ามารปีศาจเป็อาหาร ต่อให้สัตว์ร้ายทั้งแปดจะโเี้และกล้าหาญเพียงใด ก็ยังอดที่จะหวาดกลัวเจิงหนิงไม่ได้ เพราะนี่เป็ความหวาดกลัวโดยธรรมชาติ เช่นเดียวกับหนูกลัวแมวนั่นเอง
เดิมหลินเฟยก็ไม่ได้้าสร้างค่ายกลแปดอสูรหลิงเป่าที่สมบูรณ์ขึ้นมา เช่นนั้นเขาจึงกักขังอสุรกายกุ่ยหวังเอาไว้ได้
หากคิดจะทำให้ค่ายกลสามารถสร้างอาวุธได้ละก็ วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการกำราบเหล่าสัตว์ร้ายทั้งแปดให้หมดสิ้น เช่นเดียวกันค่ายกลแปดอสูรหลิงเป่าขนาดเล็กที่อยู่หลังร้านหลอมอาวุธฟานซื่อนั่นเอง ขณะนั้นปีศาจกระบี่ถึงกับต้องตายและเกิดใหม่ขึ้นมานับสิบครั้ง จึงจะสามารถสยบเหล่าสัตว์ร้ายได้
แต่พอเป็ค่ายกลขนาดใหญ่เช่นนี้ ด้วยพลังของปีศาจกระบี่จึงไม่เพียงพอจะกดข่มเหล่าสัตว์ร้ายทั้งแปดได้ อีกทั้งกล่องกระบี่เจิงหนิงเองก็มีมนต์สะกดเพียงสิบแปดสายเท่านั้น พลังของมันในตอนนี้จึงไม่เพียงพอเช่นกัน
บัดนี้อสุรกายกุ่ยหวังกำลังเผาทำลายมนต์สะกด ทำให้เกิดะเิรุนแรงจนเหล่าสัตว์ร้ายทั้งแปดสลายกลายเป็ผุยผง หากอสุรกายกุ่ยหวังไม่รีบหนีออกมาละก็ เกรงว่ามันจะต้องกลายเป็ใจกลางค่ายกลแน่นอน
ขณะที่ค่ายกลอยู่ในภาวะอ่อนแอที่สุด ใจกลางค่ายกลก็กลับว่างเปล่า จึงเป็การเปิดโอกาสให้กล่องกระบี่เจิงหนิงเข้าไปอยู่ในใจกลางค่ายกลแทนได้
และการที่อสุรกายกุ่ยหวังหนีออกมาได้นั้น ก็กลับเติมเต็มให้ค่ายกลแปดอสูรหลิงเป่าสมบูรณ์ขึ้นมาอีกด้วย
หลินเฟยเห็นดังนั้นก็แค่นหัวเราะน้อยๆออกมา ก่อนจะยกมือบงการให้กระบี่สีดำ ขาว และทองกลายเป็ลำแสงสามสายพุ่งเข้าสู่ค่ายกล
พลังจากค่ายกลคุ้มกันเมืองหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย รวมถึงยังมีกล่องกระบี่เจิงหนิงอยู่บริเวณใจกลางค่ายกล เหล่าสัตว์ร้ายทั้งแปดก็ประจำอยู่ทั้งแปดทิศ หลังจากลำแสงกระบี่สามสายถูกส่งเข้ามายังกล่องกระบี่เจิงหนิง จากนั้นก็หายวับไปทันที
พริบตาต่อมาเหล่าสัตว์ร้ายก็พากันคำรามกึกก้องพร้อมเพรียงกัน เพียงครู่เดียวก็พวกมันก็แปลงกายเป็อักขระตัวใหญ่แปดตัว ลอยอยู่กลางอากาศประจำทั้งแปดทิศ ภายใต้ไอโเี้จำนวนมากและพลังจากค่ายกลคุ้มกันเมืองนี้เอง ทำให้ค่ายกลแปดอสูรหลิงเป่าเริ่มทำงานขึ้นอีกครั้ง
ไอโเี้มากมายเริ่มหมุนวนจนเกิดเป็พายุหมุนสีดำ แถมยังพัดพาเหล่าอักขระที่มีเปลวไฟลุกโชนน้อยๆ จมหายเข้าไปในกล่องกระบี่เจิงหลิงอีกด้วย
จากนั้นกล่องกระบี่เจิงหนิงก็เปล่งแสงสีดำระยิบระยับ แถมยังมีอักขระมากมายส่องแสงเรืองรอง ดูสดใสเป็อย่างมาก
ไม่นานก็เกิดภาพนิมิตสัตว์ร้ายเจิงหนิงปรากฏออกมา มันกำลังเขมือบกินอักขระมากมายที่ลอยอยู่กลางอากาศโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
อักขระพวกนี้ล้วนเกิดจากมนต์สะกดที่ถูกทำลายของมีดบินฮั่วอู๋ อักขระทุกตัวจึงแฝงไปด้วยพลังอันแข็งแกร่ง แต่บัดนี้มันกำลังถูกกล่องกระบี่เจิงหนิงกลืนกินอย่างตะกละตะกลามเลยทีเดียว
และผลที่ตามมาก็คือมนต์สะกดของกล่องกระบี่พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว สีของลำแสงทั้งสามสีก็ดูเข้มข้นขึ้นจากเดิมเช่นกัน
ทุกครั้งที่มันกลืนกินลงไปก็จะทำให้ลำแสงกระบี่ทั้งสามขยายออกมาหนึ่งเฟิน และเพียงไม่กี่อึดใจ ลำแสงกระบี่ก็พุ่งทะยานออกมาจากกล่องกระบี่
ขณะนี้ลำแสงกระบี่สีดำ ขาวและทองกำลังลอยอยู่กลางอากาศ เพียงครู่เดียวก็กลายเป็กลุ่มควันดำ ปล่อยให้พลังอันแข็งแกร่งและโเี้ของค่ายกลปะทะเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า
เดิมทีกระบี่ทั้งสามไม่มีมนต์สะกดแม้แต่สายเดียว ทว่าครู่เดียวก็เกิดมนต์สะกดขึ้นมาถึงเก้าสาย ทุกครั้งที่เกิดการปะทะของพลัง ตัวกระบี่ทั้งสามก็จะมีมนต์สะกดเพิ่มมาทีละหนึ่งสาย
ไม่นานกระบี่ทั้งสามก็มีมนต์สะกดเพิ่มยี่สิบเจ็ดสาย แม้จะมีมนต์สะกดแค่ยี่สิบเจ็ดสาย ทว่ากลับมีไอโเี้ที่รุนแรง ถึงกับสามารถกดข่มค่ายกลแปดอสูรหลิงเป่าได้เลยทีเดียว
นอกจากนี้กระบี่ทั้งสามเล่มก็มีพลังดุดันราวกับสัตว์ร้ายที่ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล มันกำลังเขมือบไอโเี้ภายในค่ายกลอย่างบ้าคลั่ง กระบี่ทั้งสามสั่นะเืเล็กน้อย ก่อนจะแพร่กระจายเรียงหน้ากระดานออกมาคล้ายกับกำลังประกาศศักดาตนเอง
หลังจากกระบี่ทั้งสามถือกำเนิดขึ้น พวกมันก็สลายกลายเป็ลำแสงสามสี พุ่งเข้าใส่อสุรกายกุ่ยหวังที่อยู่นอกค่ายกลทันที
อสุรกายกุ่ยหวังเห็นดังนั้นก็แค่นหัวเราะออกมา ไออสูรรอบด้านก็รวมตัวกันกลายเป็สายฟ้าจำนวนและฟาดลงมาราวกับห่าฝน ทว่าสุดท้ายกลับไม่สามารถสกัดลำแสงทั้งสามสายที่พุ่งเข้ามาได้
อสุรกายกุ่ยหวังเห็นดังนั้นก็สีหน้าของมันก็ถอดสีลง มันรีบอ้าปากพ่นไออสูรสีดำออกมาทันที เพียงครู่เดียวไออสูรมากมายก็รวมตัวกันกลายเป็ประตูเหล็กสามบานขวางกั้นอยู่ด้านหน้า เสียงโลหะกระทบกันอย่างรุนแรง ไม่นานประตูโลหะก็แตกร้าวกลายเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อย
อสุรกายกุ่ยหวังในตอนนี้ คล้ายกับกำลังถูกทุบด้วยค้อนอย่างแรง บัดนี้ทั้งตัวของมันได้สลายกลายเป็เงาดำสายหนึ่ง ลอยกระเด็นออกไปไกล ก่อนจะกระแทกเข้ากับสิ่งก่อสร้างที่อยู่ด้านหลัง ทันใดนั้นตึกรางบ้านเรือนพากันพังทลายจนกลายเป็ผุยผงทันที ราวกับว่าเมืองวั่งไห่แห่งนี้มีถนนโล่งที่ทอดยาวนับสิบจ้างโผล่ขึ้นมาลอยๆ
บริเวณสุดปลายถนนก็มีไออสูรกลุ่มหนึ่งที่สลายจนกลายเป็แอ่งน้ำสีดำ และไม่นานหยดน้ำเ่าั้ก็รวมตัวกันอย่างรวดเร็วกระทั่งเกิดเป็ร่างของอสุรกายกุ่ยหวังขึ้นมาอีกครั้ง บัดนี้ร่างของมันเบาบางลงมาก บางครั้งก็โปร่งใส บางครั้งก็ชัดเจน ที่หน้าอกก็มีรูขนาดเท่าหัวคนอยู่ด้วย และบริเวณปากแผลก็มีไอกระบี่อันโเี้หลงเหลืออยู่...
หลินเฟยที่ยืนดูจากไกลๆ เห็นดังนั้นก็แอบยิ้มออกมา
---------------------------------------------------------------------------------------------------