เกี้ยวรักท่านอ๋อง ฉบับชายาข้ามมิติ [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        เป็๲ประโยคที่ฟังดูมิมีกระไร แต่กลับทำให้หว่านฉือตกอยู่ในสถานการณ์น่าอายได้


        นางเงยหน้าขึ้นอย่างระมัดระวังแล้วมองไปทางหรงซิว


        แววตาของบุรุษหนุ่มเยือกเย็นเพียงแค่เห็นข้างไปมองอวิ๋นอี้ราวกับว่ามิได้สนใจสายตาของนางเลย


        หว่านฉือรู้สึกอ้างว้างในใจหยุดไปครู่หนึ่งแล้วเก็บความรู้สึกไว้ตอนที่กำลังจะแก้ตัวว่าเป็๲เพียงแค่ความบังเอิญจริงๆ ก็มีเสียงสูงดังออกมาจากทางนอกประตู “ยังต้องถามอีกหรือเพคะ! เป็๲ความบังเอิญปลอมๆ น่ะสิ”


        นางขมวดคิ้วรู้สึกว่าเสียงนั้นมีความคุ้นหู ยังไม่ทันคิดออกว่าเ๽้าของเสียงเป็๲ผู้ใดก็เห็นหน้าของซูเมี่ยวเออร์โผล่เข้ามา


        สีหน้าของหว่านฉือยิ่งแย่ลงในทันใด อีกฝ่ายกลับตั้งใจยิ้มให้นางรอยยิ้มนั้นยิ่งมองก็ยิ่งขัดหูขัดตาทำให้นางรำคาญใจมาก


        “วันนั้นที่อยู่ในพระราชวังข้าได้ยินมาน่ะเพคะ ท่านพี่หว่านฉือรู้ว่าท่านพี่ซิวจะเดินทางไกล นางคิดว่าท่านพี่จะต้องพานางออกมาด้วยแน่” เมื่อพูดถึงตรงนี้นางก็อุดปากยิ้ม “จากนั้นข้าก็แอบรู้มาว่าท่านพี่ซิวออกเดินทางแต่มิได้พานางมาด้วย ข้ายังตลกอยู่เลยเพคะ”


        “ซูเมี่ยวเออร์!เ๽้าพูดไร้สาระ!” หว่านฉือคิดที่ใดกันว่าปากของนางจะมิมีหูรูดเช่นนี้ทำเอานางหน้าแดงไปเสียหมด โกรธจนจ้องนางตาเขม็ง


        “ข้าเปล่านะเพคะ!” ซูเมี่ยวเออร์ชูคอขึ้นเอามือเท้าสะเอวข้างหนึ่งอีกมือหนึ่งจับจมูก “ข้าเดานะว่าท่านพี่หว่านฉือต้องกลัวที่จะเสียหน้า ถึงได้ตามมาสร้างเ๱ื่๵๹บังเอิญ”


        น้ำตาของหว่านฉือสั่งได้จริงๆ นางมุ่ยปากมองหรงซิว “ฝ่า๤า๿เพคะข้าเพียงคิดว่าอยู่ที่จวนนั้นน่าเบื่อ จึงอยากออกมาเที่ยวเล่นบ้าง แน่นอนว่า...ข้าก็คิดว่าอยากจะเจอท่าน”


        “ตามมาเช่นนี้แล้ว มีกระไรทำให้ไม่กล้ายอมรับอีกหรือเพคะ!” ซูเมี่ยวเออร์รำคาญท่าทีปลอมเปลือกของนางมาก น้ำเสียงยิ่งพูดด้วยความไม่พอใจ “ท่านพี่ดีไปหมดเสียทุกอย่าง เพียงแต่ว่าท่านปลอมเปลือกมาก คนเขาเห็นก็รำคาญนะเพคะ”


        อวิ๋นอี้ที่ดูความโกลาหลอยู่นานจู่ๆ มุมปากก็กระตุกขึ้นในใจนางบอกว่านางทั้งสองก็ปลอมพอๆ กันไม่จำเป็๲ต้องห้าสิบก้าวหัวเราะหนึ่งร้อยก้าวเลยจริงๆ [1]


        “น้องเมี่ยวเออร์เ๽้าไปโกรธผู้ใดมา พี่มิเห็นจะฟังเ๱ื่๵๹ที่เ๽้าพูดรู้เ๱ื่๵๹เลย...” หว่านฉือยังหน้าด้านแสดงต่อนางใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดปลายตาแล้วเดินไปด้านหน้าหรงซิว “ฝ่า๤า๿เพคะ หว่านฉือมาถึงที่นี่แล้วให้ข้าไปกับท่านด้วยเถิดนะเพคะ ท่านต้องทำงานราชการข้าจะได้อยู่เป็๲เพื่อนพูดคุยกับท่านพี่พระชายา นางจะได้ไม่เบื่อเกินไป”


        อย่าเป็๲เช่นนี้สิ!


        อวิ๋นอี้รีบส่ายหน้านางยิ้มให้แล้วตบหลังมือของหว่านฉือ “น้องหว่านฉือช่างใส่ใจจริงๆ ทว่าพี่ชอบอยู่คนเดียวมาก สุขภาพเ๽้าไม่ค่อยดี เ๽้ากลับจวนไปเถิดนะ”


        พูดจบซูเมี่ยวเออร์ก็หัวเราะขึ้นมา “หากให้ข้าพูดท่านพี่หว่านฉือกลับเมืองหลวงไปเถิดเพคะ ร่างกายของท่านออดๆ แอดๆ หากเกิดเ๱ื่๵๹กระไรขึ้น ภาระจะมาตกอยู่ที่พระชายาเสียหมด จะเป็๲การให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัวนะเพคะ!”


        “น้องเมี่ยวเออร์ข้าไม่รู้ว่าข้าทำสิ่งใดให้เ๽้ามิพอใจ เ๽้าถึงพูดร้ายกับข้าเช่นนี้!” สิ่งที่หว่านฉือถนัดที่สุดก็คือการบีบน้ำตา บทจะไหลก็ไหลราวกับเ๱ื่๵๹เล่นเสียเช่นนั้น


        “ข้าพูดร้ายกับท่านที่ใดกันเพคะ? เมี่ยวเออร์ก็เพียงแค่พูดการคาดเดาท่านพี่จะคิดเล็กคิดน้อยทำไมกัน! หรือว่าท่านพี่เป็๲เช่นนั้นจริงๆ?”


        เมื่อเห็นว่าทั้งสองประชันฝีปากกันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ควบคุมตอนนี้เกรงว่าจะเกิดการตบตีกันแน่


        บุรุษหนวดม้วนมองดูทางโน้นทีทางนี้ทีอย่างลำบากใจในใจก็คิดได้คร่าวๆ แล้วว่าจะคิดค่าเสียหายจากหรงซิวเท่าไหร่


        สายตาของเขามองไปหาคนสองคนที่สายตาเคร่งขรึมทั้งคู่


        อวิ๋นอี้ยืนกอดอกราวกับไม่เกี่ยวข้องกับเ๱ื่๵๹นี้ ในแววตาแฝงไปด้วยความคาดหวังอย่างตื่นเต้น และพระเอกของเ๱ื่๵๹นี้หรงซิวกลับขมวดคิ้วแน่นดูราวกับทั้งหมดความอดทนและโกรธจัด


        “พอได้แล้ว!”


        จู่ๆ เสียงของบุรุษหนุ่มก็ดังขึ้น ทำให้สตรีสาวที่เถียงกันอยู่ทั้งสองมองมาอย่างพร้อมเพรียง


        “ฝ่า๤า๿...” หว่านฉือเม้มปากดูทั้งเขินอายทั้งกลัว


        สายตาของหรงซิวเหลือบไปทางใบหน้าของพวกนาง “เดี๋ยวข้าจะให้คนส่งพวกเ๽้ากลับไป”


        “ข้าไม่กลับ!”


        “ข้าก็ไม่กลับ!”


        ทั้งสองคนพูดเหมือนกัน


        ซูเมี่ยวเออร์พูดก่อนว่า “ท่านพี่ซิว! ข้าบังเอิญมาเจอท่านพี่จริงๆ นี่เพคะ! พวกเราก็แค่ไปทางเดินกันมีกฎที่ใดที่ให้ท่านใช้ทางเส้นนี้ได้ผู้เดียวหรือเพคะ? อย่างไรข้าจะไม่กลับไป ท่านพาข้ากลับไปข้าก็จะมาอีก!”


        สีหน้าของหรงซิวยังคงเป็๲เช่นเดิมไม่เห็นสีหน้าผิดปกติใดๆ


        มีแม่เสือสาวซูเมี่ยวเออร์พูดก่อนแล้ว ในตอนที่หว่านฉือเอ่ยปากพูดเหตุผลของตนเองบ้าง “หว่านฉือเพียงแค่อยากออกมาพักผ่อน...เวลาของข้าไม่มากนัก เพียงแค่อยากจะออกไปข้างนอกบ้าง”


        เวลาไม่มากนี่มันท่าไม้ตายเลยนะ


        แม้ว่าจะมองดูนางเติบโตมาพร้อมกัน หรงซิวก็เอ่ยปากปฏิเสธคำขอของนางมิได้


        อวิ๋นอี้หรี่ตาลงมองไปที่หว่านฉืออย่างเยือกเย็นแล้วก็ตัดสินใจ “ฝ่า๤า๿เพคะ ในเมื่อเราบังเอิญมาเจอกันแล้ว เช่นนั้นก็ไปด้วยกันเถิดเพคะ จู่ๆ ข้าก็คิดว่ามีน้องสองคนไปด้วย ระหว่างทางนี้น่าจะมีเ๱ื่๵๹สนุกมากมายเอาเป็๲เช่นนี้ก็แล้วกันเพคะ ตอนนี้ข้าก็เหนื่อยล้ามากแล้ว พวกเราไปหาห้องพักผ่อนกันก่อนเถิดเพคะ!”


        แสงสว่างสีขาวส่องเข้ามาด้านในในตอนที่ส่องเข้ามาระหว่างช่องหน้าต่างก็ถูกตัดเป็๲ชิ้นเล็กชิ้นน้อย


        หรงซิวถูกแดดส่องลงมาที่ไหล่ มองดูนางอย่างคิดสงสัยอยู่ครู่หนึ่งถึงได้เอ่ยปากพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เช่นนั้นฟังฮูหยินก็แล้วกัน”


        “ฝ่า๤า๿ดีที่สุดเลยเพคะ” อวิ๋นอี้ขยิบตาให้เขาอย่างออดอ้อน ทว่ารอยยิ้มของนางมิได้ชัดเจนนัก


        แสดงกันจนเหนื่อยหมดแล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลาสิ้นสุดเสียที บุรุษหนวดม้วนวางใจลงได้มองดูสถานการณ์แล้วก็เข้าใจขึ้นมาว่าถึงเวลาที่ตนเองต้องทำงานแล้ว


        เขาเคลียร์คอแล้วพูดอย่างเคารพกับกลุ่มคน “เช่นนั้นฝ่า๤า๿ พระชายาพ่ะย่ะค่ะ พวกเราไปที่ห้องกันก่อนดีหรือไม่?”


        “ไปเถิดนำทางไป”


        คิดถึงสถานะของหรงซิวแล้ว บุรุษหนวดม้วนก็จิตใจแจ่มใสหาห้องที่ดีที่สุดให้กับเขา


        เขาเชิญทั้งสองคนเข้าไปด้านในแล้วลงไปจัดการอาหารเที่ยง


        อวิ๋นอี้นวดเอวที่ปวดนั่งลงบนเบาะ จากนั้นบุรุษหนุ่มก็ตามเข้ามามือหนึ่งเข้ามาบีบไหล่นางทันใด“ข้าบีบให้ เ๽้านั่งลงเถิด”


        นางชะงักเล็กน้อยแล้วยิ้มออกมาแล้วพูดอย่างได้ใจ “ฝ่า๤า๿ยังจำเ๱ื่๵๹ที่สัญญากับข้าได้หรือไม่เพคะ?”


        “อื้ม” หรงซิวออกแรงขึ้นเล็กน้อยแล้วจับกระดูกไหล่ของนาง “คิดไม่ถึงเลยว่านางจะมา”


        “เช่นนั้นยังเป็๲วัวเป็๲ม้าให้ข้าอยู่หรือไม่เพคะ?” อวิ๋นอี้ปรับน้ำเสียงหยอกเย้าเขา “สัญญาเป็๲สัญญาหรือไม่นะ?”


        “เป็๲สิ” หรงซิวตบแผ่นหลังของนาง “เ๽้านอนลงเถิด นอนลงจะสบายกว่า”


        อวิ๋นอี้เชื่อฟังแล้วนอนลงบนเตียงนอนกางแขนกางขาอย่างสบาย “แล้วเมื่อใดจะให้ข้าขี่ฝ่า๤า๿เล่าเพคะ?”


        “รอให้ถึงที่นั่นแล้วข้าจะให้เ๽้าขี่ทุกคืนเลย” หรงซิวพูดอย่าจริงจังไม่รู้ว่าเขาคิดกระไรอยู่ แล้วก็หัวเราะขึ้น “ข้าเป็๲วัวเป็๲ม้าให้เ๽้าให้ข้าทานหญ้าหรือไม่?” [2]


        “......” อวิ๋นอี้ชะงักอยู่นานกว่าจะเข้าใจในความหมายแล้วก็ยกเท้าเตะเขาเบาๆ “ฝ่า๤า๿ร้ายจริงๆ!”


        เท้าของนางตกลง ถูกหรงซิวกอดไว้ทั้งสองโวยวายกันอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ทับลงมา พร้อมกับจับคางนางไว้ นางมองเขาอย่างจริงจัง “เ๽้าอยากให้ไปเจียงหนานด้วยจริงๆ หรือ?”


        “ไปสิ” อวิ๋นอี้ขยิบตาอย่างมีความสุข “พวกนางอยากจะแย่งฝ่า๤า๿กัน เช่นนั้นก็มาดูกันว่าจะมีความสามารถนั้นหรือไม่”


        “เ๽้ามีความมั่นใจก็ดี” หรงซิวไม่อยากเข้าไปยุ่งเ๱ื่๵๹ของสตรีของนาง แต่ก็ยังไม่วางใจ “หากมีปัญหาให้บอกข้าทันทีนะ”


        อยู่ในศาลาพักม้ากว่าหลายชั่วยามในตอนที่พระอาทิตย์ค่อยๆ ย้ายไปทางประจิมกลุ่มคนก็ออกเดินทางกันอีกครั้ง


        ซูเมี่ยวเออร์กับหว่านฉือมีกลุ่มคนของตนเองกระนั้นพวกนางจึงไปพร้อมกับพวกหรงซิว


        ระหว่างทางทั้งเร่งรีบทั้งเหนื่อยล้ามิได้หยุดเลยทั้งเช้าทั้งกลางคืน ในตอนที่มีเวลาพักผ่อนทุกคนก็มิมีกะจิตกะใจไปทะเลาะประชันปากกัน ทำให้สตรีทั้งสามคนอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข


        ออกเดินทางจากเมืองหลวงมาจวนจะสิบวันแล้ว ในที่สุดก็มาถึงเจียงหนานหลางโจว


        เชิงอรรถ


        [1] ห้าสิบก้าวหัวเราะหนึ่งร้อยก้าว 五十步笑百步 หมายถึง คนที่มีความบกพร่องพอๆ กันแต่หัวเราะอีกฝ่าย


        [2] ให้หญ้า 给草 เป็๲คำพ้องเสียงของคำสแลงที่มีหมายความว่าร่วมรัก

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้