เฉิงชิงไม่ได้ยิ้มเพราะมีสมองมีปัญหา หัวข้อการสอบง่ายเกินไปแล้ว ไม่เป็ประโยชน์ในการให้นักเรียนหัวกะทิแสดงความสามารถ ไม่อาจทิ้งห่างกับนักเรียนธรรมดาได้
นางชอบหัวข้อการสอบที่ยากสักหน่อย
แม้นางจะไม่ใช่หัวกะทิแบบเมิ่งไหวจิ่น แต่อย่างน้อยนางก็พอนับได้ว่าเป็หัวกะทิตัวน้อยคนหนึ่ง
ก่อนหน้าตอนที่ยังไม่ถูกคำสั่งให้อยู่ที่บ้าน ไม่อนุญาตให้ไปสถานศึกษา นางก็สอบได้สิบอันดับแรกของห้องเรียนตัวอักษรติงแล้ว ใน่ระยะเวลาอันสั้นนี้นางก็ไม่ได้ละเลยตำรา มีความมั่นใจในการสอบระดับอำเภอ——ส่วนที่ยากที่สุดคือการตรวจสอบร่างกาย ขอเพียงไม่ได้เปิดเผยความลับเื่เพศของนาง นางยังจะต้องกลัวอะไรอีก?
ขณะที่เฉิงชิงจรดพู่กันตอบคำถาม การออกว่าราชการยามเช้าของเมืองหลวงอันห่างไกลยังคงดำเนินต่อไป
บนพระที่นั่งจินหลวน ฮ่องเต้ตรัสด้วยพระพักตร์ที่เปี่ยมด้วยความห่วงใยกับคนหนุ่มที่ยืนอยู่ใต้บันไดพระแท่น
“อาการป่วยของเ้ายังไม่หายดี เหตุใดจึงไม่รักษาตัวให้มากหน่อยสักหลายวัน?”
ภายในพระตำหนักจินหลวนมีระบบทำความร้อนใต้ดิน แต่ฮ่องเต้ยังคงเกรงว่าเด็กหนุ่มจะล้มป่วยเพราะลมเย็น จึงมีพระบัญชาให้ย้ายเตาไฟไปไว้ข้างกาย
ผิวของเขาขาวจัด ตัวคนผอมมาก แก้มแดงเถือกดูป่วยเล็กน้อย เลื่อนเตาไฟมาใกล้แล้วเขาจึงค่อยมีแรงเอ่ยคำ
คนผู้นี้ก็คือเยี่ยอ๋องซื่อจื่อ เซียวอวิ๋นถิง!
เป็เพราะได้รับความโปรดปรานและความเชื่อใจจากฮ่องเต้อย่างลึกซึ้ง ทั้งๆ ที่ไม่มีตำแหน่งชัดเจน เซียวอวิ๋นถิงกลับได้ยืนอยู่หน้าสุดร่วมกับบรรดาเก๋อเหล่าและกั๋วกง แล้วจะไม่ให้ผู้คนริษยาได้อย่างไร?
เซียวอวิ๋นถิงถือกำเนิดมาแล้วก็มีโชคชะตาดี
ไม่เพียงเป็บุตรของเยี่ยอ๋อง ยังถือกำเนิดจากท้องของพระชายาอ๋อง เกิดมาก็เป็บุตรชายของชายาเอกแห่งจวนอ๋อง อายุไม่กี่ปีก็ถูกฮ่องเต้รับเข้าไปเลี้ยงในวัง แต่งตั้งให้เป็ซื่อจื่อ ปีนั้นพระชายาอ๋องเยี่ยถือเป็ไข่มุกงามแห่งเมืองหลวง รูปโฉมงดงามโดดเด่น เซียวอวิ๋นถิงเกิดมาหน้าตาเหมือนมารดา รูปลักษณ์โดดเด่นเหนือใคร ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นยากจะลืมเลือน
บัดนี้มีรัชทายาทและพระโอรสมากมาย ไม่ง่ายเลยหากองค์ชาย้าจะโดดเด่น แต่เยี่ยอ๋องคือบรรดาศักดิ์ที่สืบสายชั่วนิรันดร์ รอให้ในอนาคตเซียวอวิ๋นถิงสืบทอดต่อก็——อาจจะราบรื่นเกินไป เทพเซียนล้วนริษยา จึงให้เยี่ยอ๋องซื่อจื่อผู้สมบูรณ์แบบในทุกส่วนมีร่างกายอ่อนแอดุจแผ่นกระดาษ มักจะป่วยทุกๆ สิบวันหรือครึ่งเดือน หากไม่ใช่ว่าภายในวังหลวงมีสมุนไพรล้ำค่าไม่ขาด มีหมอหลวงที่ฝีมือการแพทย์ล้ำเลิศช่วยต่อชีวิตให้เขา เซียวอวิ๋นถิงก็คงมีชีวิตอยู่ไม่ถึงวันนี้!
เซียวอวิ๋นถิงยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่ปี
จะสามารถมีชีวิตอยู่ถึงวันที่สืบทอดบรรดาศักดิ์หรือไม่?
ใน่ปีสองปีมานี้การคาดเดาก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อร่างกายของเซียวอวิ๋นถิงดูเหมือนจะยิ่งย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ในเดือนแรกของปีก็ป่วยหนักไปแล้วหนึ่งรอบ… คนเช่นนี้ถึงแม้จะมีความสามารถเป็เลิศ แต่มิอาจทนรับความเหน็ดเหนื่อยได้แม้เพียงนิด จึงไม่มีประโยชน์อันใด
แต่ความคิดเหล่านี้มิอาจเปิดเผยต่อภายนอกได้ ฮ่องเต้เลี้ยงดูเซียวอวิ๋นถิงราวกับโอรสของพระองค์เอง ผู้สืบทอดแห่งจวนอ๋องที่มีชีวิตอยู่ได้ไม่นานผู้หนึ่ง ฮ่องเต้ไม่หวาดกลัวเท่าใดนัก จึงมีเพียงความโปรดปรานต่อเซียวอวิ๋นถิง
ทั้งในและนอกเมืองหลวง คงจะมีแต่พวกมีตาแต่ไร้แววที่กล้าวิ่งไปยั่วยุเซียวอวิ๋นถิง นี่คือผู้ที่มิอาจแตะต้องหรือยั่วยุราวกับแก้วหลิวหลีเชียวนะ!
ผู้ที่เป็ราวกับแก้วหลิวหลีน่ะหรือ?
เสนาบดีเฉิงแห่งกรมโยธาธิการก้มหน้าจดจ่อ
ยังสามารถวิ่งไปอำเภอหนานอี๋ที่อยู่ห่างไกลเป็พันลี้ บางทีร่างกายเช่นนั้นของเซียวซื่อจื่ออาจไม่ย่ำแย่ดั่งข่าวลือ
ผู้ร่วมงานเหล่านี้บนท้องพระโรงจะตระหนักถึงข้อนี้หรือไม่ ไม่ใช่เื่ที่เกี่ยวกับตัวเขาแล้ว
เื่ที่เซียวซื่อจื่อไปจากเมืองหลวง ตัวฮ่องเต้เองจะรู้หรือไม่?
เสนาบดีเฉิงแอบซ่อนตัวเองในเงามืด
นอกจากเหล่าขุนนางผู้ใหญ่อย่างเก๋อเหล่าและกั๋วกง เขาผู้เป็เสนาบดีกรมโยธาธิการขั้นสองเต็มขั้นก็ไม่ใช้คนตัวเล็กตัวน้อยอันใด แต่วันนี้เซียวอวิ๋นซื่อจื่อลากสังขารที่เพิ่งหายจากการป่วยหนักมายังการเสด็จออกว่าราชการยามเช้า ที่้าจะพูดย่อมเป็คดียักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติเมืองเหอไถเป็แน่
คดีนี้ เสนาบดีเฉิง้าจะหลบเลี่ยงความสงสัย
เขาอยู่ในลำดับที่หกในตระกูล ยามยังหนุ่มผู้อื่นเรียกเขาว่าเ้าหกเฉิง บัดนี้เรียกเขาว่านายท่านหกเฉิง——หลานชายเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ผู้เป็อาก็ย่อมต้องหลบเลี่ยงความสงสัย!
เสนาบดีเฉิงเหม่อลอยเล็กน้อย ขุนนางใหญ่บุ๋นบู๊อื่นๆ รอจนครึ่งค่อนวัน ในที่สุดฮ่องเต้และเซียวอวิ๋นถิงก็พูดคุยเกี่ยวกับสารทุกข์สุกดิบในครอบครัวเสร็จเรียบร้อย
เซียวอวิ๋นถิงกังวลเกี่ยวกับความคืบหน้าใหม่ของคดี ฮ่องเต้จึงมีรับสั่งให้เรียกผู้พิพากษาศาลต้าหลี่ขึ้นหน้ามาตอบกลับ
ผู้พิพากษาศาลต้าหลี่เป็ขุนนางขั้นสามเต็มขั้น แม้แต่คุณสมบัติที่จะเข้าท้องพระโรงอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ก็ไม่มีเช่นเดียวกับมือปราบหลิวที่ก่อนหน้านี้ไปอำเภอหนานอี๋ น้องเล็กทำงาน พี่ใหญ่รายงานผลลัพธ์ ผลลัพธ์จากการสอบสวนของมือปราบหลิวต้องให้ผู้พิพากษาศาลต้าหลี่ออกหน้ารายงาน
แต่วันนี้คดีที่ผู้พิพากษาศาลต้าหลี่รายงานไม่ได้เกี่ยวข้องกับเฉิงจือหย่วน ในการเสด็จออกว่าราชการยามเช้าเมื่อกว่าครึ่งเดือนก่อนก็ได้เคยถกม้วนคดีการสืบสวนที่มือปราบหลิวนำจากหนานอี๋กลับมายังเมืองหลวงแล้ว
มือปราบหลิวค่อนไปทางเฉิงจือหย่วนไร้ความผิด ขุนนางเล็กที่ใช้คุณวุฒิจวี่เหรินมารับราชการผู้หนึ่งยากที่จะอาจเอื้อมไปถึงจวนเยี่ยอ๋องได้
ฮ่องเต้มีพระราชบัญชาให้ไต่สวนเหล่าขุนนางเมืองเหอไถอีกครั้ง เ้าเมืองคนก่อนของเหอไถซึ่งถูกคุมขังที่คุกหลวงมิอาจทนต่อการสืบสวนโดยใช้เครื่องมือทรมานได้ จึงวิ่งชนเอาศีรษะโขกจนตายในคุกไปแล้ว ก่อนหน้าที่จะตายก็ะโว่า้าจะตามรอยของเฉิงจือหย่วน พลีชีพแก่ผู้อื่นที่ไม่เข้าใจคุณธรรม——มลทินยักยอกทรัพย์นี้ไม่ถูกต้อง แต่พวกเขายักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติเพื่อค่าใช้จ่ายในกองทัพของเยี่ยอ๋อง หากคุณและโทษมิอาจสมดุลกันได้ก็ต้องใช้ชีวิตทดแทน!
ขุนนางฉ้อฉลผู้หนึ่ง ก่อนตายก็ยังเชิดชูการกระทำของตนเอง สรุปแล้วการยักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติก็ยังเพื่อชาติ เพื่อราษฎรหรือ?
ขุนนางตรวจสอบผู้เที่ยงตรงรีบยื่นฎีกาต่อเยี่ยอ๋องหนึ่งฉบับอย่างโเี้ ใจความแิของฎีกาคือเยี่ยอ๋องไม่เห็นฮ่องเต้อยู่ในสายตา สมคบคิดกับขุนนางท้องที่เป็การส่วนตัว มีใจคิดคด!
ฮ่องเต้จึงมีรับสั่ง ณ ที่ตรงนั้นให้คนลากขุนนางตรวจสอบที่พูดจาเหลวไหลไปโบยนอกพระตำหนัก การตัดสินของฮ่องเต้นี้แทบจะเป็การแหย่รังแตน โบยขุนนางตรวจสอบหนึ่งคน ก็ยิ่งมีขุนนางตรวจสอบออกมามากขึ้น
ขุนนางตรวจสอบแต่ละคนไม่กลัวการถูกโบย ขุนนางตรวจสอบที่ไม่เคยถูกโบยถือว่าไม่มีคุณสมบัติ
แต่ละคนทำหูทวนลม ยิ่งดีใจที่ถูกฮ่องเต้โบย เพราะยิ่งเป็การยืนยันว่าพวกเขาทำหน้าที่ได้อย่างดี
ร่างกายของเซียวอวิ๋นถิงมิอาจทนรับการก่อกวน ล้มป่วยลงในทันที การไต่สวนของคดีนี้จึงต้องเลื่อนไปอีกครั้ง
เหล่าขุนนางตรวจสอบเรียกร้องให้ตรวจสอบรายการบัญชีของในกองทัพเยี่ยอ๋อง ด้านนอกเล่าลือกันสะพัดว่าเยี่ยอ๋องยักยอกค่าใช้จ่ายในกองทัพไปหลายแสนตำลึงเงิน ย่อมไม่มีทางเป็ข่าวลือที่ไร้มูล!
วันนี้ผู้พิพากษาศาลต้าหลี่ประกาศผลลัพธ์ในราชสำนัก รายการบัญชีที่ดึงกลับมาต้องใช้รถในการจดบันทึก ที่ต้องตรวจสอบเป็พิเศษคือบัญชีระหว่างรัชศกเฉิงผิงปีที่สามถึงรัชศกเฉิงผิงปีที่ห้า
“ทูลฝ่าา กระหม่อมได้ขอความช่วยเหลือจากกรมคลัง สมุดบัญชีเหล่านี้ล้วนไร้ปัญหา ที่ว่าเยี่ยอ๋องยักยอกค่าใช้จ่ายในกองทัพหลายแสนตำลึงนั้นคงจะเป็ข่าวลือพ่ะย่ะค่ะ”
รายการบัญชีสามปีติดต่อกัน มีเพียงข้อผิดพลาดไม่ถึงหนึ่งหมื่นตำลึงเงิน รายการบัญชีนี้สมบูรณ์แบบมากแล้ว
ใต้หล้าไหนเลยจะไม่มีแมวขโมย ผู้พิพากษาศาลต้าหลี่รู้ดี แม้จะเอาบัญชีภายในของบ้านตนเองมาให้กรมคลังตรวจสอบ ย่อมต้องพบรอยรั่วด้วย ถึงฮูหยินที่บ้านของตนเองไม่ได้ยักยอก บนทำงานเบื้องล่างก็ยังสามารถเล่นแง่ได้อยู่ น้ำที่ใสสะอาดจนเกินไปย่อมไร้มัจฉา[2] ตรวจสอบพบรอยรั่วไม่กี่พันตำลึงในค่าใช้จ่ายในกองทัพ เยี่ยอ๋องก็ถือว่าควบคุมเข้มงวดมากแล้ว!
ฮ่องเต้เองก็ยอมรับผลลัพธ์นี้ได้เช่นกัน
มีเพียงเหล่าขุนนางตรวจสอบที่ถูกโบยที่ไม่ยอมรับ จะรู้ได้อย่างไรว่ารายการบัญชีเหล่านี้ไม่ได้จงใจจัดเตรียมไว้ก่อนแล้ว?
ฮ่องเต้รู้สึกว่าเหล่าขุนนางตรวจสอบเป็ตัวน่ารำคาญ เซียวอวิ๋นถิงยังคงไอไม่หยุดจนสองแก้มแดงเถือก
“ฝะ ฝ่าา เป็ไปได้หรือไม่ที่จะให้คนนำสมุดบัญชีมาส่ง ณ ท้องพระโรงพ่ะย่ะค่ะ?”
ฮ่องเต้ไม่อาจต่อต้านเซียวซื่อจื่อได้ จึงมีรับสั่งให้คนนำกองสมุดบัญชีมาส่งถึงท้องพระโรง
เซียวอวิ๋นถิงสุ่มหยิบขึ้นมาหลายเล่ม ขุนนางตรวจสอบผู้หนึ่งที่ถูกโบยเอ่ยถามเขาว่าดูบัญชีเป็ด้วยหรือ คำพูดนี้ย่อมเป็การส่อเสียด
เซียวอวิ๋นถิงมองขุนนางตรวจสอบพวกนั้นด้วยสายตาเย็นเยียบ “แม้ข้าจะดูบัญชีไม่เป็ แต่ก็รู้ว่าสมุดบัญชีเหล่านี้ย่อมมีปัญหาแน่ รัชศกเฉิงผิงปีที่สี่ข้าได้รับจดหมายจากท่านแม่ กล่าวว่าค่าใช้จ่ายในกองทัพของท่านพ่อเผชิญความยากลำบาก… ถอนเงินส่วนตัวจากคลังจวนอ๋องไปไม่น้อยแล้ว… ยังคงขาดหายไปอยู่หลายพันตำลึง ท่านแม่เหลือเพียงยังไม่เอ่ยขึ้นมาเป็พิเศษว่าสมุดบัญชีเหล่านี้เป็ของปลอม!”
——หากเฉิงชิงสามารถอยู่ตรงนี้ด้วย คงคิดจะบิดหัวสุนัขของเซียวอวิ๋นถิงเป็แน่ บัญชีเหล่านี้ย่อมเป็ของปลอมแน่นอน เป็บัญชีปลอมที่นางทำให้จวนอ๋องอย่างยากลำบาก เซียวซื่อจื่อกลับไม่เดินตามแผนการที่เฉิงชิงวางไว้!
[1] สุนัข ในที่นี้เป็การเปรียบเปรยถึงคนเลว
[2] น้ำที่ใสสะอาดจนเกินไปย่อมไร้มัจฉา หมายถึงผู้ที่ชัดเจนและเอาจริงเอาจังเกินไปในทุกเื่จะไร้เพื่อน
