“พวกเ้าที่เป็ลูกน้อง หากไม่มีความคิดเหล่านี้ กองโจรเลี่ยหยางแห่งนี้คงถูกถล่มไปนานแล้ว”
นับั้แ่เ้าสี่ทำให้เขาหมดสติ จ้าวจือชิงก็อ่านความคิดไม่ซื่อในสายตาของเขาได้ทะลุปรุโปร่ง เห็นท่าว่าฝีมือของเขาคงถูกใจเ้าสี่คนนี้เสียแล้ว เมื่อเป็เช่นนี้ก็ดีต่างฝ่ายต่างก็มีสิ่งที่้า
เริ่มแรกเ้าสี่ยังมีความหวาดกลัวจ้าวจือชิงอยู่ อีกทั้งยังมีความกังวลว่าจะมีคนอ่านแผนการของตนออก แต่พอถูกเปิดโปงเช่นนี้ก็อดหัวเราะไม่ได้
“เ้าพูดได้ไม่ผิด ข้าคิดเช่นนี้จริงๆ แล้วอย่างไรเล่า? เ้าคิดจะนำความลับนี้ไปบอกกับหัวหน้าเช่นนั้นหรือ?”
สายตาข่มขู่กับการถือดาบของเ้าสี่ จ้าวจือชิงไม่เหลียวแลใส่ใจแม้แต่น้อย
“นำความลับนี้ไปบอกกับหัวหน้าเ้าหรือ ถ้าข้าคิดจะเสียเวลาทำเื่เช่นนั้นจะมารอเจรจากับเ้าด้วยเหตุใดกัน หากข้ารู้ว่าเ้าเป็คนไม่มีกึ๋นเช่นนี้ สู้ข้าไปคุยกับหัวหน้าเ้าเื่เข้าร่วมค่ายโจรโดยตรง แทนที่จะมาเจรจากับคนขี้ขลาดตาขาวเช่นเ้ามิดีกว่าหรืออย่างไร?”
“เ้าว่าใครขี้ขลาดตาขาว?”
เ้าสี่ถูกคำพูดของจ้าวจือชิงกระตุ้นจนเดือดดาล ทั้งที่ตนเองเป็คนคิดจะนำจ้าวจือชิงมาใช้งาน แต่ไฉนสำหรับจ้าวจือชิงกลับกลายเป็ว่าอยากจะเข้าค่ายโจรของพวกเขาเสียได้
“ผู้ใดมิกล้าทำการใหญ่ผู้นั้นย่อมเป็คนขลาดเขลามิใช่หรือ” น้ำเสียงกระแซะกับการกรอกตาของจ้าวจือชิงทำให้ความโมโหของเ้าสี่ที่ถูกสือเลี่ยหยางกดขี่มานานหลายปีปะทุขึ้นมาในคราวเดียว
เขาตั้งท่าจู่โจมจ้าวจือชิงทันที แต่อีกฝ่ายกลับหลบการโจมตีของเขาได้ในทันใด
“ช้าเกินไป!”
“มั่วซั่วเกินไป!”
“พลังไม่พอ!”
“เร็วไม่พอ!”
“……”
หลังจากผ่านไปหลายกระบวนท่า เ้าสี่ก็หายใจหอบถี่ ทั้งๆ ที่จ้าวจือชิงถูกกรอกยาอ่อนแรงแล้วเหตุใดกลับยังมีแรงเหลือเฟือเช่นนี้
“เ้าไม่ได้ถูกวางยาหรือ?”
เห็นเ้าสี่เข้าใจผิด จ้าวจือชิงก็ไม่คิดอธิบายเพิ่ม ท่าทางผ่อนคลายสบายใจของเขา ทำให้อีกฝ่ายต้องคาดคะเนแบบผิดๆ ไปเอง
เ้าสี่เก็บความคิดดูแคลนไว้ ขณะที่จ้องจ้าวจือชิงก็มิวายคอยคำนวณในใจ ตนเองพาเ้าคนยุ่งยากเช่นนี้มาอยู่ในค่ายโจร หากสือเลี่ยหยางรู้ว่าตนไม่อาจกำจัดเขาได้ จำต้องด่าทอจนน้ำไหลไฟดับแน่ ไม่แน่ว่าอาจจะถีบตนลงจากอันดับสี่ก็เป็ได้
ตอนนั้นเดิมทีเขาคือรองหัวหน้า แต่เพราะเ้าสามมักมากในกามจนทำงานพลาด สุดท้ายเื่นี้กลับกลายเป็เขาที่แบกรับไว้ ไม่เพียงแค่เสียตำแหน่งรองหัวหน้าไปยังถูกจับแขวนในค่ายโจรและทนรับสายตาดูถูกเหยียดหยามอยู่สามวันสามคืน เขาเกลียดชังที่สือเลี่ยหยางไม่แยกแยะผิดถูก เกลียดชังเ้าสามที่บ้าตัณหา ยิ่งเกลียดชังที่ตอนนั้นตนเองใจอ่อนเกินไปโดยไม่ได้ฆ่าเ้าสาม
“เ้าแกล้งทำเป็ถูกวางยา คิดจะทำอะไรกันแน่?” เ้าสี่สำรวจจ้าวจือชิงแต่ตั้งหัวจรดเท้า คนผู้นี้ไม่เผยช่องโหว่เลยแม้แต่น้อย “หรือว่าเ้าจงใจให้ถูกจับ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเ้าสี่ จ้าวจือชิงถึงมองเขาตรงๆ เหมือนกำลังบอกว่า เขาก็ไม่ได้โง่จนเกินไป
“เ้า…”
เ้าสี่ยังคงโมโหฮึดฮัด เพียงแต่แผนการของตนถูกอีกฝ่ายอ่านทางออกซ้ำยังถูกควบคุมไว้เสีย เขาจึงสูญเสียโอกาสที่จะเป็ฝ่ายควบคุมไป
“เ้า้าตำแหน่งประมุขกองโจรเลี่ยหยาง ข้าสามารถช่วยเ้าได้!”
สมองของเ้าสี่ยังไม่ถูกความดีใจครอบงำ เขาจ้องจ้าวจือชิงก่อนจะถาม “แล้วข้าต้องจ่ายอะไรเป็การตอบแทน?”
“ความตระหนักรู้ของเ้าเช่นนี้ดียิ่งนัก” จ้าวจือชิงตบบ่าของเขา “สิ่งที่ข้า้าง่ายดายนัก”
“ลั่วชีเหนียง?” เ้าสี่หยั่งเชิงถาม เห็นเพียงเขาพยักหน้าและลังเล “ลั่วชีเหนียงคือภารกิจที่สือเลี่ยหยางไปรับมาจากที่ไหนไม่รู้ หากไม่ใช่เพราะเ้า ลั่วชีเหนียงคงตายเป็ิญญาเซ่นดาบไปนานแล้ว”
“เื่นี้ข้าตัดสินใจไม่ได้ นอกจากนี้…” เ้าสี่มองเขาเหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่างทสำคัญมากๆ จากนั้นจึงกัดฟันเอ่ย “ได้ยินว่าคนผู้นี้ถูกเบื้องบนระบุชื่อมา หากเกิดความผิดพลาด กองโจรเลี่ยหยางก็คงยากจะดำรงอยู่ได้”
จ้าวจือชิงหัวเราะเย้ยหยัน “โง่เขลา! หากเ้าคือประมุขกองโจร เื่ราวทั้งหมดยังต้องเป็ไปตามการตัดสินใจของอดีตประมุขอีกหรือ? หากเป็เช่นนั้น ไยต้องเปลี่ยนประมุข ไยต้องสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงเช่นนี้?”
“ในเมื่อคิดจะก่อฏ ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด หรือว่าเ้ายังคิดอยากเป็คนดีอยู่?”
เมื่อเห็นเ้าสี่เริ่มหวั่นไหว จ้าวจือชิงก็หลอกล่อต่อ “นอกจากนี้ คนเบื้องบนบ้าบออะไรนั่น เ้าก็หาได้รู้จักไม่? หากจู่ๆ ประมุขกองโจรคนปัจจุบันเสียชีวิตไปกะทันหัน ก่อนจากไปก็ไม่ได้มอบหมายชัดเจน เื่นี้ย่อมไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเ้าที่เป็ผู้สืบทอดตำแหน่งประมุขมิใช่หรือ?”
“อีกอย่าง กองโจราเ็สูญเสียอย่างหนัก ในฐานะผู้สืบทอดตำแหน่งประมุขไม่ต้องปลอบโยนใจลูกน้องหรือ? เื่ราวแบบนี้ แม้คนเบื้องบนรู้เข้าแล้วอย่างไรเล่า? หรือว่าเขาจะไม่ใช้งานกองโจรเลี่ยหยางอีก?”
แน่นอนว่าเ้าสี่ไม่รู้ว่าผู้ใดคือคนที่สั่งให้กองโจรเลี่ยหยางสังหารชีเหนียง แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าคนที่กองโจรเลี่ยหยางคบค้าด้วย มิใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่
เ้าสี่ไตร่ตรองคำพูดของจ้าวจือชิง “เ้าให้เวลาข้าคิดก่อน ข้า้าไตร่ตรอง”
จ้าวจือชิงก็ไม่เร่งเร้าเขา ส่วนตนเองนั่งลงบนเก้าอี้และแกล้งหลับพักผ่อน จนกระทั่งได้ยินเสียงตบหน้าตักเสียงดัง
“ข้าเอาด้วย!” หลังจากเ้าสี่พินิจอย่างถี่ถ้วน ตอนนี้เขาพบเจอกับโอกาสอันดี แม้ว่าเขาจะไม่รู้ชัดถึงเบื้องลึกของจ้าวจือชิง แต่จากท่าทีที่มีต่อลั่วชีเหนียง ดูออกได้ไม่ยากว่าเขาคือคนที่มีศีลธรรม ขอเพียงตนเองไม่ลงมือกับลั่วชีเหนียงหรือสามารถช่วยเขาแก้ไขปัญหาของลั่วชีเหนียงในภายหลัง แม้คนผู้นี้อาจจะไม่ช่วยเหลือตนเองไปตลอด แต่ก็ไม่มีทางลากเขาลงน้ำแน่
“เ้าช่วยข้าให้สมปรารถนา ข้าก็จะช่วยเ้าจัดการเื่ความปลอดภัยของลั่วชีเหนียง หากความสามารถถึง ข้าจะช่วยเ้าสืบหาคนที่คิดปองร้ายนาง เป็เช่นไร?”
จ้าวจือชิงเห็นเ้าสี่ติดกับเช่นนี้ก็ยื่นมือใหญ่ออกไปเป็สัญญาณว่ายอมรับข้อตกลงนี้ “ยินดีที่ได้ร่วมงานกัน!”
ตกดึกคืนนั้น ลูกน้องที่สือเลี่ยหยางส่งไปติดต่อกับคนเบื้องบนก็ถลากลับมาพร้อมกับสายลม แต่ดันเจอกับเ้าสี่ก่อนจะเข้ามาในค่ายโจร
“นายท่านสี่? ท่านอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
“พี่ใหญ่ให้ข้ามารอเ้าที่นี่ เป็อย่างไรบ้าง ได้ข่าวคราวอะไรกลับมาหรือไม่?”
ลูกน้องไม่สงสัยเป็อื่น จากนั้นก็นำสาส์นลับออกมา เ้าสี่รับสาส์นลับมา “อืม ครั้งนี้เ้าปฏิบัติหน้าที่ได้ดีมาก นี่คือรางวัลจากพี่ใหญ่”
เ้าสี่ยื่นสุราฤทธิ์แรงไปให้หนึ่งไห ลูกน้องรับไว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“จะเก็บไว้ทำไม ดื่มตอนนี้เลย ตลอดทางทั้งลมพัดหนาวเย็น ยังไม่รีบทำร่างกายให้อบอุ่นอีก”
ลูกน้องจึงรีบดื่มสุราชั้นดี แต่กลับคิดไม่ถึงว่าวินาทีถัดมาตัวเองก็สิ้นลมเสียแล้ว
ท่ามกลางความมืดมิดเงาของชายร่างใหญ่ปรากฏขึ้นหลังต้นไม้ เ้าสี่ยื่นสาส์นไปให้ จากนั้นก็ช่วยชูคบไฟอย่างเอาอกเอาใจ
จ้าวจือชิงอ่านสาส์นใต้แสงคบไฟ คำว่า ‘ฆ่า’ โผล่หราอยู่บนกระดาษ เขาพับสาส์นไว้ในอ้อมอก เ้าสี่แปลกใจว่าเหตุใดเขาจึงไม่ทำลายหลักฐาน เพียงแต่เมื่อเห็นท่าทางล้ำลึกยากจะคาดเดาจึงไม่กล้าถามให้มากความ
……
หลังจากรออยู่สองวัน สือเลี่ยหยางก็ไม่ได้ข่าวการกลับมาของลูกน้อง เดิมทีในใจก็พะวงอยู่แล้วว่าคนผู้นั้นจะกลับคำพูด ตอนนี้ก็ยิ่งไม่สบายใจ
“เ้าสาม คนที่ส่งไปยังไม่กลับมาหรือ?”
เ้าสามรีบปกปิดความง่วงบนใบหน้า “พี่ใหญ่ ไม่แน่ว่าท่านผู้นั้นอาจมีเื่ต้องกำชับจึงล่าช้าไปหลายวัน อีกอย่างเราร่วมงานกันมานานเช่นนี้ ย่อมไม่มีทางเกิดปัญหาแน่”
ยังไม่ทันรอเขาพูดจบ ก็ได้ยินเสียงลูกน้องมารายงาน
“พี่ใหญ่ ด้านล่างเขามีเศรษฐีท้องที่หลายคน นี่คือหลักฐานยืนยันตัวตนจากพวกเขาขอรับ!”
หลักฐานยืนยันตัวตนที่กล่าวถึงคือตราสัญลักษณ์ของกองโจรเลี่ยหยาง มันคือไม้แกะสลักรูปทรงดวงอาทิตย์ ครั้นผู้ใดก็ตามที่มาพร้อมกับตราชิ้นนี้ ย่อมต้องได้รับการแนะนำผ่านคนคุ้นเคย
-----