“ราชันัพสุธารัตนพิภพ ท่านยังพอมีเวลาเตรียมการทุกสิ่งอย่างให้ไม่ผิดพลาดน้อยที่สุดได้ ขอให้ท่านจงคิดว่านี่เป็เพียงหนทางเดียวที่ปลอดภัยและสมควรกระทำที่สุดในยามนี้ ท่านอาจจะคิดว่าด้วยรูปลักษณ์ของข้าที่ยังดูเหมือนเป็เด็กหนุ่มที่อายุยังน้อย แต่ข้าสามารถยืนยันได้ว่าองค์ความรู้และความสามารถในการหลอมสร้างปรุงโอสถหาได้แพ้ผู้อื่นแต่อย่างใด ท่านจงวางใจเถอะ” หนิงอ้ายพอจะเข้าใจในความรู้สึกของราชันัพสุธารัตนพิภพตรงหน้า อย่างไรอีกฝ่ายยังพอมีเวลาเตรียมใจอยู่บ้างด้วยเพราะยังต้องใช้เวลาในการเตรียมวัตุดิบสมุนไพรอีกหลายชนิดเช่นกัน
“ผู้าุโเหลียง ข้าคงต้องรบกวนท่านอีกครั้งแล้ว” ราชันัพสุธารัตนพิภพนิ่งเงียบขบคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกังวลอยู่บ้างเล็กน้อย
“สหายน้อยกล่าวได้เต็มที่ว่าสูตรโอสถปลุกสายเืนั่นต้องใช้สมุนไรอะไรบ้าง แม้ไม่อาจกล่าวว่าในคลังยาของอาณาจักรต้าเหลียงจิ่วมีสมุนไพรทุกชนิด แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่เคยขาดแคลนสิ่งนี้เลยเช่นกัน...” ผู้าุโเหลียงกล่าวออกมาพร้อมกับระบายยิ้มเล็กน้อย ในฐานะของนักปรุงโอสถประจำอาณาจักรเขาย่อมล่วงรู้ได้ถึงสมุนไพรวิเศษในการทั้งสิ้น
“วัตถุดิบแต่ละชนิดที่เป็ส่วนผสมของโอสถเม็ดนี้มีความซับซ้อน อีกทั่งข้ายัง้าฟังเื่ราวของอาการที่พวกท่ายเคยได้รักษาองค์รัชทายาทในก่อนหน้าเพื่อจะได้คักดลือกสมุนไพรที่เหมาะสม รบกวนผู้าุโเหลียงโปรดนำข้าไปยังคลังสมุนไพรด้วยขอรับ จะได้ไม่เป็การเสียเวลาไปมากกว่านี้” หนิงอ้ายเอ่ยขึ้นอีกครั้งพร้อมกับระยายยิ้มเล็กน้อยแม้รูปลักษณ์ภายนอกจะดูเป็เพียงเด็กหนุ่ม่อายุสิบหกสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง ทว่ากับท่าทางสุขุมดูเยือกเย็นที่ดูภูมิฐานนั้นดูราวกับนักปรุงโอสถที่มีประสบการณ์หลายสิบปี
“พาเขาไปที่นั่นเถอะ ข้าขอเวลาพูดคุยกับบุตรชายของข้าเพียงลำพัง” ราชันัพสุธารัตนพิภพพยักหน้าเป็การอนุญาติ ก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะออกไปสถานที่ดังกล่าวทันที
ผู้าุโเหลียงได้พาหนิงอ้ายกับฟานหลิงมาถคงเบื้องหน้าของอาคารหลังหนึ่ง ด้านนอกได้ถูกสลักกำกับด้วยอักขระเวทย์ที่เสริมค่ายกลให้มีความแข็งแกร่ง ก่อนจะถูกปลดสลักออกด้วยพลังลมปราณประจำตัวจนเสร็จสิ้นม่านพลังเบื้องหน้าก็เปิดออกก่อนที่ชายชราจะเดินนำเข้าไปยังคลังเก็บดังกล่าว
ทันทีที่ผ่านพ้นม่ายพลังวังวนประตูนั้น สิ่งแรกที่ััได้คือกลิ่นหอมของโอสถรวมไปถึงสมุนไพรต่างๆ ที่ถูกอัดแน่นอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ไม่เพียงเท่านั้นกระเเสพลังงานอันเกิดจากสมุนไพรวิเศษยังแรงกล้าเต็มเปี่ยมไปด้วยอาณุภาพยิ่ง เบื้องหน้าของทุกคนยามนี้คือห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีค่ายกลนับร้อยพันที่ปลดปล่อยพลังแห่งชีวิตออกมาเพื่อถอมรักษาสมุนไพรเหล่านี้ให้จัดเก็บได้นานมากยิ่งขึ้น
“ที่นี่ล้วนเต็มไปด้วยสมุนไพรล้ำค่าอย่างที่ท่านกล่าวเสียจริง...” หนิงอ้ายเอ่ยขึ้นขณะทอดสายตาไปโดยรอบ สมุนไพรวิเศษชนิดต่าง ๆ ล้วนถูกบรรจุเก็บไว้ในกล่องไม้ที่ไม่ธรรมดาสามัญ หากเทียบไปแล้วถือว่าใหญ่โตกว่าคลังเก็บโอสถของสำนักศึกษาอีกไม่รู่กี่เท่า
“ดูเหมือนว่าการปลุกพลังสายเืขององค์รัชทายาทเฉิงรุ่ยครั้งนี้จะต้องเลือกสมุนไพรที่สังกัดปราณธาตุไฟและปราณธาตุน้ำในปริมาณจำนวนที่เท่าเทียมกัน มากไปกว่านั้นยังต้องอาศัยแก่นปราณอสูรของสัตว์ทั้งสองปราณธาตุนี้ ซึ่งต้องเป็สัตว์อสูรระดับมายาเป็ต้นไปที่มีอายุไม่น้อยกว่าห้าหมื่นปี ยิ่งสัตว์อสูรนั้นมีความแข็งแกร่งมากเพียงใดยิ่งเป็ประโยชน์ต่อเขามากเท่านั้น ส่วนนี่คือรายการสมุนไพรชั้นรอง และสมุนไพรชั้นหลักที่ท่านต้องเตรียมให้ข้าเพิ่มเติมขอรับ...” หนิงอ้ายบอกถึงความ้าออกไปให้อีกฝ่ายได้จัดเตรียมให้เรียบร้อย
หลังจากหนิงอ้ายบอกรายละเอียดต่าง ๆ ของวัตถุดิบแบะสมุนไพรวิเศษที่จำเป็ต่อการปรุงโอสถแล้ว ผู้าุโเหลียงจึงรีบสั่งการออกไปในทันที ดูเหมือนว่าสิ่งที่เป็เงื่อนไขยากที่สุดในครั้งนี้นั่นคือการเสาะหาแก่นปราณอสูรของเผ่าพันธ์สังกัดปราณธาตุไฟและปราณธาตุน้ำที่มีอายุมากกว่าห้าหมื่นปีและเป็สัตว์อสูรระดับมายาเป็ต้นไป ด้วยเพราะนี่เป็ส่วนผสมที่สำคัญต่อการปลุกพลังทางสายเื จึงต้องเลือกให้เหมาะสมและคู่ควรที่สุดนั่นเอง...
หนิงอ้ายตั้งใจใช้สูตรโอสถปลุกสายเืตามตำราของดินแดนระดับสูงที่ได้รับการถ่ายทอดจากท่านอาจารย์เสวี่ยจิง หากกล่าวตามตรงนับเป็สูตรโอสถที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโอสถระดับเจ็ดเสียด้วยซ้ำ ในการหลอมสร้างปรุงโอสถครั้งนี้นอกจากจะเป็การทำเต็มที่ตามที่ได้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนกับองค์ราชันัพสุธารัตนพิภพแล้ว การหลอมสร้างปรุงโอสถในครั้งนี้ยังถือว่าเป็การทดสอบพลังฝีมือและขีดจำกัดในการปรุงโอสถของเขาในยามนี้อีกด้วย
แน่นอนว่าด้วยประสบการณ์ที่ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงมาตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา เขาย่อมมีกลวิธีบางอย่างแอบแฝงเข้าไปในโอสถปลุกสายเืเม็ดนี้ หลังจากที่เขาได้ช่วยเหลือองค์รัชทายาทเฉิงรุ่ยผู้นี้สำเร็จ หากราชันัพสุธารัตนพิภพไม่รักษาสัจจะสัญญา เขาก็ไม่ลังเลที่จะสังหารบุตรชายของอีกฝ่ายด้วยปราณธาตุพิษที่เขาตั้งใจจะแทรกซึมเข้าไป ในทางกลับกันหากว่าอีกฝ่ายรักษาสัญญาแล้วโอสถเม็ดนี้จะยิ่งส่งเสริมศักยภาพในทุกด้านของบุตรชายเขาอย่างแท้จริงจนไม่อาจประเมินได้ แม้จะดูมีเล่ห์กลไปบ้างแต่กับเขาที่มีชีวิตใหม่มาถึงครั้งที่สามแล้ว ประสบการณ์ที่ผ่านมาย่อมหล่อหลอมให้เขามองโลกนี้ด้วยความเป็จริงจะเป็การดีที่สุด
“สหายน้อยหนิงอ้าย ข้าได้สั่งการให้หน่วยพิเศษของอาณาจักรออกไปล่าสัตว์อสูรและวัตถุดิบส่วนอื่นที่จำเป็ต้องใช้ในครั้งนี้แล้ว ยังมีสิ่งอื่นที่ต้องจัดเตรียมอีกหรือไม่?” ผู้าุโเหลียงเหินทะยานเข้ามายังจุดบริเวณที่หนิงอ้ายกับฟานหลิงยืนอยู่พร้อมกับถามไถ่ออกไป การปรุงโอสถสำหรับองค์รัชทายาทครั้งนี้ไม่ควรเกิดข้อผิดพลาดใดได้ทั้งสิ้นจึงสมควรตระเตรียมทุกสิ่งอย่างให้สมบูรณ์พร้อมมากที่สุด
“สิ่งที่ข้า้าให้ท่านตระเตรียมเพิ่มเติมนั่นคือสถานที่สำหรับการปรุงโอสถ ท่านที่เป็นักปรุงโอสถประจำอาณาจักรแห่งนี้ย่อมทราบว่าสถานที่ใดที่เหมาะสมที่สุด แต่ข้าข้อแจ้งให้ท่านทราบเพิ่มเติม สูตรโอสถที่ข้าตั้งใจหลอมสร้างขึ้นในครั้งนี้เป็ถึงโอสถระดับเจ็ดที่มีฤทธิ์ไม่ธรรมดาสามัญ ดังนั้นผลกระทบยามที่หล่อหลอมสมุนไพรระดับสูงเ่าั้คงน่าสะพรึงกลัวไม่น้อย รบกวนท่านเตรียมสุดยอดฝีมือเอาไว้รับมือด้วย...” หนิงอ้ายเอ่ยย้ำไปอีกครั้ง
ทางฝั่งของชายชราย่อมตระหนักรู้ถึงความหมายโดยนัยที่เด็กหนุ่มพยายามสื่อออกมา อาการาเ็ขององค์รัชทายาทเฉิงรุ่ย กล่าวว่าเป็ความลับสุดยอดที่มีผู้คนในอาณาจักรล่วงรู้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น แน่นอนว่าการปรุงโอสถระดับเจ็ดย่อมเรียกความสนใจและสามารถคาดเดาได้ถึงเหตุผลในการหลอมสร้างขึ้น ดังนั้นสถานที่ปรุงโอสถนอกจากจะต้องเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังปราณอันลึกล้ำแล้ว ยังต้องเป็พื้นที่ลับสายตาและต้องมีสุดยอดฝีมือที่ไว้ใจได้คอยประจำการดูแลอย่างเข้มงวด
ไม่นานนักผู้าุโเหลียงก็ได้ตัดสินใจถึงสถานที่ที่เหมาะสมพร้อมกับให้หนิงอ้ายกับฟานหลิงติดตามออกดูสถานที่ดังกล่าว แน่นอนว่าส่วนบริเวณที่พามานั้นเป็ส่วนพื้นที่โล่งที่อยู่ไม่ไกลจากบ่อน้ำอมฤตอัคคีกาฬทมิฬ ด้วยเพราะกระแสพลังปราณธาตุไฟอันบริสุทธิ์ที่สามารถช่วยยกระดับเปลวเพลิงิญญายุทธ์ขณะปรุงโอสถได้สถานที่แห่งนี้แต่เดิมก็ถูกเสริมด้วยมหาค่ายกลป้องกันที่แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว ดังนั้นหากใคร่จะต้องเลือกสถานที่ใดที่หนึ่งสำหรับการณ์นี้แล้ว ที่นี่จึงเป็สถานที่ที่เหมาะสมที่สุด
แต่ถึงอย่างไรนั้น เหล่าผู้แกร่งกล้าของอาณาจักรที่จงรักภักดีต่อองค์ราชันัพสุธารัตนพิภพกับองค์รัชทายาทเฉิงรุ่ยยังคงสำแดงวิชาอักขระเวทย์ป้องกันสร้างผนึกขึ้นเป็ม่านพลังอันแข็งแกร่งเพื่อกั้นพื้นที่บริเวณดังกล่าวไม่ให้มีสิ่งใดเข้ามารบกวนการปรุงโอสถครั้งนี้ หนิงอ้ายกวาดสายตาและแผ่ญาณััออกมาจึงพอทราบได้บ้างว่าเป็อักขระวิถีที่ปรากฏต่างมุ่งเน้นในการป้องกันที่ค่อนข้างลึกล้ำไม่อาจดูเบาได้เลยทีเดียว
“ในการปะทะกับแม่ทัพมารในครั้งนั้นนอกจากที่กายเนื้อของข้าจะสูญสลายไปแล้ว ของวิเศษที่เคยทั้งหมดก็ถูกทำลายไปด้วยทั้งสิ้นเช่นกัน แต่ด้วยความเมตตาเอ็นดูของท่านอาจารย์ทั้งสองและท่านพ่อบุญธรรมจึงทำให้ยามนี้ข้าจึงไม่ต่างตู้สมบัติเคลื่อนที่คงไม่เกินจริงไปนัก มากไปกว่านั้นท่านอาจารย์เสวี่ยจิงยังได้มอบสุดยอดเตาหลอมโอสถประจำตัว ที่เคยสร้างชื่อเสียงในมหาพิภพให้ข้าอีกด้วย...” หนิงอ้ายเอ่ยออกมาด้วยความซาบซึ้งใจ เทพาทั้งสามล้วนเมตตาเอ็นดูเขาเป็อย่างมากที่สุด
“จิ้งจอกน้อยน้องพี่ เ้าไม่รู้ตัวอย่างนั้นรึว่าใบหน้าของเ้านั้นน่าเอ็นดูมากเพียงใด ยิ่งตอนที่ยังอายุไม่ถึงห้าขวบปีและเรียกแทนตัวเองว่าเสี่ยวเปาแล้ว คลังสมบัติทั้งหมดของท่านลุงทั้งสามได้ถูกมอบให้เ้าทั้งหมดเสียแล้วกระมัง ฮ่าฮ่าฮ่า” ฟานหลิงอดไม่ได้ที่จะหยอกเย้าเด็กหนุ่ม พออีกฝ่ายได้รับความทรงจำเดิมท่าทีน่าเอ็นดูดังกล่าวได้ถูกทดแทนด้วยท่าทางเคร่งครึมราวกับผู้ใหญ่ไปเสีย แต่อย่างไรแล้วในสายตาของพวกเราไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็เสี่ยวเปาหรือหนิงอ้าย พวกเขาก็ยังรักและเอ็นดูอีกฝ่ายไม่เปลี่ยนแปลง
“ท่านพี่ฟานหลิงใส่ร้ายข้าแล้ว ข้าเคยเรียกแทนตัวเองว่าเสี่ยวเปาเสียเมื่อไหร่กัน”
“แต่เ้าก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงในความจริงที่ว่ามหาพิภพแห่งนี้คงไม่มีผู้ใดที่มีเื้ัสนับสนุนที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับเ้าได้เพียงนิด สมบัติวิเศษระดับตำนานและสมบัติวิเศษระดับต้นกำเนิดนับไม่ถ้วนที่เ้าถือครองอยู่ขณะนี้ บางชิ้นถึงกับมีประวัติความเป็มาและอายุที่เกินกว่าเ้าจะคาดเดาได้เลยทีเดียว” ฟานหลิงเอ่ยเสริมขึ้นอีกครั้ง บทสนทนาของทั้งสองแม้ผู้าุโเหลียงจะได้ยินแม้จะไม่ตั้งใจก็ตามแต่ก็พอกระจ่างชัดในเื่ราวทั้งหมด ดูเหมือนว่ารุ่นเยาว์นามว่าหนิงอ้ายผู้นี้เป็อีกหนึ่งสุดยอดอัจฉริยะที่ถูกบ่มเพาะมาเป็อย่างดี
"เ้าจะเริ่มปรุงโอสถเลยหรือไม่?"
“เพื่อให้ได้โอสถปลุกพลังสายเืที่ยอดเยี่ยมเหนือล้ำ จึงจำเป็ต้องใช้สมุนไพรปราณธาตุไฟและปราณธาตุน้ำั้แ่ระดับสูงเป็ต้นไปเพื่อให้เกิดความทัดเทียมกันมากที่สุด” หนิงอ้ายกล่าวขึ้นขณะพิจารณาสมุนไพรตามสูตรโอสถนี้อีกครั้ง
“ยามนี้บรรดาสมุนไพรชั้นรองได้ถูกเตรียมพร้อมทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงแก่นปราณอสูรสังกัดสองปราณธาตุรวมไปถึงสมุนไพรระดับ์อีกสองสามชนิดเท่านั้น สหายน้อยหนิงอ้ายจะเริ่มการหลอมสมุนไพรชั้นรองเหล่านี้ก่อนเลยหรือไม่?” ผู้าุโเหลียงถามหนิงอ้ายออกไป
“โอสถปลุกสายเืมีความลึกล้ำไม่ธรรมดาและต้องใช้เวลาจัดการสมุนไพรอยู่ไม่น้อย เมื่อสมุนไพรชั้นรองครบถ้วนแล้วข้าว่าควรเริ่มหลอมสมุนไพรเหล่านี้ก่อนก็ดีขอรับ คงต้องรบกวนผู้าุโเหลียงกับนักปรุงโอสถท่านอื่นด้วย...” หนิงอ้ายตอบกลับไปพร้อมกับมองไปยังกลุ่มนักปรุงโอสถท่านอื่นที่ถูกรวบรวมตัวมาครั้งนี้ ประกอบด้วยผู้าุโเหลียงที่เป็นักปรุงโอสถระดับหก มีชายชราอีกท่านที่เป็นักปรุงโอสถระดับห้าขั้นสูง และบุรุษวัยกลางคนอีกสามคนตรงด้านหลังที่เป็นักปรุงโอสถระดับห้า ด้วยจำนวนของสมุนไพรชั้นรองที่มากว่าหนึ่งพันชนิด ดังนั้นการร่วมลงแรงของนักปรุงโอสถทั้งหมดเหล่านี้จะช่วยลดเวลาในการหลอมรวมสมุนไพรไปได้มากเลยทีเดียว
พรึบ!!
หนิงอ้ายไม่รอช้าตวัดมืออกไปเบื้องหน้าคราหนึ่ง แหวนมิติที่ถูกสวมใส่อยู่นั้นเปล่งประสายแสงวูบวาบออกมาพร้อมกับเสียงดังสะท้านไปทั่ว ฉับพลันนั้นเตาหลอมโอสถเทียบเท่ากับบรรพตขนาดย่อมได้ปรากฏโฉมออกมา ห้วงอากาศบริเวณดังกล่าวถึงกับบิดเบี้ยวด้วยเพราะถูกแรงดึงดูดอันมหาศาลจากเตาหลอมดูดซับด้วยความรวดเร็ว กลิ่นอายอหังการกล้าแกร่งสายหนึ่งแผ่ซ่านกำจายออกเป็วงคลื่นสาดซัดออกไปโดยรอบทิศทาง ตัวของเตาหลอมเป็สีดำสนิทแวววาวเป็ประกายระยิบระยับพร้อมกับพลังปราณพิศดารสายหนึ่งที่ลอยวนเวียนอยู่ เห็นเป็ลวดลายสลักเป็ังดงามตัวหนึ่งที่ขยับเขยื้อนเลื้อยพันไปมาทั่วเตาหลอม ฐานด้านล่างนั้นถูกสลักกำกับด้วยอักขระเวทย์โบราณลี้ลับ กล่าวได้ว่าเพียงปรากฎขึ้นก็ได้สร้างความพรุ่นพรึงแก่นักปรุงโอสถที่อยู่ในที่แห่งนี้อย่างแท้จริง
“เตาหลอมโอสถหมื่นดาราจรัสสดับห้วงนทีมหรรณพ หนึ่งในสุดยอดเตาหลอมสร้างชื่อของเทพโอสถาเสวี่ยจิงอันเลื่องชื่อ ไม่คาดคิดว่าครั้งหนึ่งข้าจะได้พบเห็นอย่างใกล้ชิดถึงเพียงนี้...” เสียงของชายชรานักปรุงโอสถระดับห้าขั้นสูงเอ่ยขึ้นอย่างเลื่อนลอย ตลอดระยะเวลาในเส้นทางของนักปรุงโอสถเขายอมรับว่ายังไม่เคยพบเจอเตาหลอมโอสถที่มีความอหังการมากมายถึงเพียงนี้
“ข่าวคราวที่ลือกันว่าเทพโอสถาเสวี่ยจิงรักและเอ็นดูศิษย์ลำดับที่สิบมากที่สุดคงไม่เกินจริงไปนัก ถึงกับมอบเตาหลอมประจำกายนี้ให้ใช้เสียด้วยซ้ำ ช่างเป็วาสนาของเด็กหนุ่มผู้นี้เสียจริงพวกเ้าเห็นด้วยหรือไม่?”
“แม้เขาจะอายุยังน้อย แต่ข้าััได้ถึงพลังจิติญญานักปรุงโอสถที่ลึกล้ำไม่ธรรมดา” บุรุษอีกคนที่ยืนข้างกันเอ่ยเสริมขึ้น
“เริ่มหลอมสมุนไพรชั้นรองกันเลยเถอะขอรับ!!” ไม่รอช้าไปมากกว่านี้ หนิงอ้ายได้เริ่มขั้นตอนการหลอมสมุนไพรเหล่านี้โดยทันที พร้อมกับผู้าุโเหลียงและนักปรุงโอสถคนอื่น ๆ ได้แยกย้ายไปประจำตำแหน่งที่ว่างอยู่โดยรอบของเตาหลอมโอสถหมื่นดาราจรัสสดับห้วงนทีมหรรณพนี้ การหลอมสมุนไพรชั้นรองสำหรับพวกเขาทุกคนในที่นี้ที่เป็ถึงนักปรุงโอสถระดับห้าเป็ต้นไปมิใช่ปัญหาที่ควรเป็กังวลแต่อย่างใดทั้งสิ้น
หนิงอ้ายก้าวมาทางด้านหน้าของเตาหลอมโอสถที่ยังว่างอยู่พร้อมกับหลับตาลงเพ่งสมาธิ ไม่นานเกินรอนั้นเปลวเพลิงสีแดงประกายทองและเพลิงสีรุ้งได้ลุกโชนประกายออกมาสอดประสาน แผ่ซ่านกลิ่นอายแห่งปราณธาตุต้นกำเนิดที่ไม่ธรรมดาสามัญ แน่นอนว่าเปลวเพลิงเหล่านี้ล้วนเข้มข้นไปด้วยพลังจิติญญาที่กล้าแกร่งอย่างถึงที่สุด
จากนั้นหนิงอ้ายจึงได้ตวัดเอาเปลวเพลิงทั้งสองนี้ตวัดขีดเขียนเป็อักขระเวทย์หลายตัวเหนือเตาหลอมโอสถก่อนจะลุกโชนด้วยเปลวเพลิงดังกล่าวสว่างโชติ่ เมื่ออักขระวิถีแห่งเปลวเพลิงได้ถูกสลักกำกับครบถ้วนแล้วตรงด้านล่างของเตาหลอมโอสถหมื่นดาราจรัสสดับห้วงนทีมหรรณพได้ลุกโชนโหมกระหน่ำด้วยความรุนแรงด้วยความพิศดารของอักขระเวทย์ดังกล่าว รอบด้านนั้นตลบอบอวนไปด้วยพลังจิติญญาของนักปรุงโอสถทุกคนที่แผ่ซ่านออกมาอย่างเข้มข้น นอกจากนั้นแล้วอักขระเวทย์เหล่านี้ยังได้ผนึกขึ้นเป็ม่านพลังล้อมรอบเตาหลอมโอสถเพื่อช่วยเพิ่มพูนและรักษาสมดุลของเปลวเพลิงทั้งหมดที่กำลังหลอมรวมสมุนไพรชั้นรองเหล่านี้ กลวิธีดังกล่าวที่แยบยลเช่นนี้ถือเป็อีกสิ่งหนึ่งที่ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจากเทพโอสถาเสวี่ยจิงผู้เป็อาจารย์ของตนนั่นเอง...
**ั้แ่บทที่126 ถึงบทที่145 ไรท์ขออนุญาติติดเหรียญอ่านล่วงหน้า (2 เหรียญ) พร้อมแจ้งวันอ่านฟรีนะครับ **