เนื่องจากเมื่อคืนเขาหลับทันทีที่หัวถึงหมอน วันนี้ใน่มื้อเช้าแนชจึงคุยสัพเพเหระกับเพื่อน ๆ เมื่อวานไทนี่ได้ไก่ฟ้า 2 ตัว กับกระต่าย 1 ตัว ก่อนจะออกเดินทางเข้าเมือง แบรดได้เตือนเขาว่าพรุ่งนี้ก็ต้องเข้าเมืองอีกที เพราะครบ 10 วันที่ผลการตรวจสอบหญ้าหวานเสร็จพอดี เขาลืมไปแล้วจริง ๆ
เมื่อจัดการมื้อเช้าเสร็จแนชก็เดินออกจากหมู่บ้านทันที มุ่งหน้าเข้าเมืองสไคโอ
เมื่อมาถึงหน้าเมือง ก็เวลาเท่ากับเมื่อวานเลยโดยประมาณ เขาแวะพักเล็กน้อย แล้วเดินไปที่กิลด์การค้าทันที แล้วตรงไปที่เคาน์เตอร์
" เอ่อ บอกพี่เอพริลหน่อยได้ไหมครับ ว่าแนชมาหา " เขาบอกพนักงานคนหนึ่งหน้าเคาน์เตอร์
ไม่นานนัก เอพริล ก็ตรงมาหาเด็กชาย
" สวัสดีครับ พี่เอพริล " เด็กชายเอ่ยทักทาย
" สวัสดีจ้ะ ไปกันเลยดีหรือไม่ ? "
แนช พยักหน้าแล้วเดินตาม เอพริล ไปยังกิลด์ช่างตีเหล็กทันที เมื่อมาถึง เอพริล ก็หันมาบอกเด็กชาย
" รอซักครู่นะ " แล้วเดินเข้าไปในอาคารทันที
ไม่นานเท่าไหร่ ก็เดินออกมาพร้อมกับ ช่างตีเหล็กคนแคระคนดีคนเดิม
" อ่ะ จงภูมิใจที่ได้ข้าตีมันขึ้นมาให้ ไอเด็กน้อย " คนแคระเคราถักเปียยื่นกระทะให้ " เอาไปดู ผิดพลาดตรงไหนหรือไม่
" โอ้ว เฉียบเลยครับ " แนชมองกระทะในมือ แตกต่างจากโลกเดิมที่จากมาคือมีโซ่ตรงกลางไว้ใช้แขวน มันดูสมมาตรและแข็งแรง แต่เบามากจริง ๆ " ถูกต้อง เป๊ะ ๆ "
" ไอหนูนี่ คำพูดประหลาด แต่ ข้าชอบ !!! " แล้วคนแคระผู้เสียงดังก็หัวเราะออกมา
ตรงข้างล่างด้ามจับที่ติดกับตัวกระทะ มีตัวหนังสือประหลาด ๆ ไม่ใช่ตัวหนังสือที่ใช้กันทั่วไปในโลกนี้ แนชจำได้ว่ามันคือ ตัวอักษรรูน !! แต่เขาไม่เข้าใจ
" ตรงนี้คือตัวอะไรครับ " ไม่เข้าใจก็ต้องถาม
" นามของข้า ไอสิ่งของนี้จะเป็ของที่คนทั่วไปจะอิจฉาเ้าเลยทีเดียว " เขาดูภูมิใจสุด ๆ และนี่ก็คือความภาคภูมิใจของคนแคระ
" เอ่อ มันอ่านว่าอะไรครับ ผมอ่านไม่ออก " แนชสงสัย
" เอ็งอ่านได้ก็ประหลาดแล้ว มันอ่านว่า โซวิโล นั่นคือนามข้า ฮ่า ฮ่า ฮ่า "
หัวเราะเพื่อ !! หัวจะปวดจริง ๆ
" มันมีความหมายอะไรหรอครับ ชื่อของคุณ " แนชเอ่ยถาม ภาษารูนจะมีความหมายและนัยยะของแต่ละตัวอักษร เขาอยากรู้
" โอ๊ะ เอ็งสนใจรึ ชื่อข้าถ้าเป็ภาษากลางก็คือ ดวงอาทิตย์ ความหมายคือ พลังชีวิต สุขภาพ ่เวลาแห่งความสำเร็จ " เขาพูดอย่างโอ้อวด พลางยืดอก
“ โอ้วว ” แป๊ะ ๆ ๆ ๆ แนชตาโต พร้อมปรบมือ แสร้งตื่นเต้น " ยิ่งใหญ่สุด ๆ "
" ไอ้เด็กนี่มันรู้ความ ฮ่า ฮ่า ข้าถูกใจ " แล้วคนแคระกับเด็กเผ่ามนุษย์ก็ยืนหัวเราะกัน โดยมีสายตาของพนักงานสาว ยืนดูแบบหน่าย ๆ
" เพี้ยนพอกัน "
" เอาละ ข้าใช้เหล็กกล้าตีให้ ใช้ทักษะลับของข้า รังสรรค์มันขึ้นมาเลย เอาไปทำอาหารได้แน่นอน ไอโซ่ตรงกลางไม่ต้องกลัวจะเอียง ข้าวัดให้และทดลองดูแล้วไม่ต้องห่วงเื่ความปลอดภัย ใช้ได้ไปอีกหลายร้อยปี ใช้เป็อาวุธได้นะ ความคงทนของมัน เอ็งเชื่อมือข้าได้ " เขาสาธยายไปเรื่อย
" เอ่อ ผมจะเอาไปทำอาหารครับ ไม่ได้ไปออกรบ "
" ไอเด็กนี่ ทำอาหารก็ต้องใช้ไฟ ช่างตีเหล็กก็ใช้ไฟ พวกข้าทุกครั้ง ก็เสมือนไปออกรบ เพราะฉะนั้น เ้าก็เปรียบเสมือนออกรบเช่นกัน อย่าดูถูกไฟ เข้าใจหรือไม่ !!!!! " เขาะโออกมา
แนช และเอพริล เอามือปิดหูทันที จะแหกปากเพื่อ ?
" เข้าใจครับ " แนชตอบพร้อมทำท่าตะเบ๊ะ
" ดีมาก !! " โซวิโลพูดออกมา
" ท่านโซวิโล คงไม่ได้ลืมใช่ไหมคะ ว่าแนชเป็เด็กกำพร้า แต่ท่านดันใช้ว้สดุค่อนข้างแพงแบบนั้น จะขูดเืขูดเนื้อเขาหรือคะ " พนักงานสาวเอ่ยขึ้น
แนชมองตาปริบ ๆ เขาเห็นด้วย
" ทำไม ข้าจะเอาอะไรทำ มันก็เื่ของข้า แล้วที่สำคัญ " โซวิโล หันกลับมาหาเด็กชาย " ข้าจะให้เอ็งฟรี ๆ "
" ห๊ะ !! " เสียงพนักงานและเด็กกำพร้า อุทานขึ้นพร้อมกัน
" แต่ " เขาเอ่ยขัดขึ้นมา " เอ็งต้องเอาอาหารชนิดใหม่ ที่เอ็งทำด้วยสิ่งนี้ มาให้ข้าลอง "
" เอ่อ ถ้ามันไม่ถูกปากละครับ " เด็กน้อยเอ่ยขึ้นอย่างกังวล
" ขอแค่เป็อาหารชนิดใหม่ที่ข้าไม่เคยพบ เ้าก็เอามันไปฟรี ๆได้เลย แต่ถ้าไม่ใช่ ... ข้าจะเก็บเงินเอ็ง " ตามนิสัยคนแคระ พวกเขาอยากรู้อยากเห็นสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอๆ เขาคิดั้แ่เมื่อวานแล้ว ทันทีที่ได้ยินคำว่าอาหารชนิดใหม่
" เอิ่ม ตกลงครับ " แนชตอบตกลง ในขณะที่พนักงานสาวอ้าปากค้าง คนแคระที่ชื่นชอบความมั่งคั่ง ให้ของฟรี ๆ หายากพอ ๆ กับ การพบเจอัโบราณเลย
เด็กชายยืนยิ้ม จ้องมองกระทะในมือ กระทะระดับแรร์ ดีนะใช้แค่เหล็กกล้า ไม่ใช้มิธริล ...
" เอ่อ คุณโซวิโลครับ ผมอยากได้ ครกบดยา น่ะครับ แต่มันจะลึกกว่าปกติหน่อยครับ " ไหน ๆ ก็จะได้กระทะฟรีแล้ว ซึ่งเขามั่นใจว่าจะได้แน่นอน " อยากสั่งทำหน่อยได้ไหมครับ "
" เอาไปทำอะไรอีก " คนแคระขี้วีนถามเด็กชาย
" ทำอาหารนี่แหละครับ จริง ๆ ข้ามีแผน ว่าจะมาขายอาหาร ในเมืองน่ะครับ "
" อืมมมมมมม " เขาหรี่ตามอง " ไหนเอ็งลองอธิบายมาคร่าว ๆ ซิ "
แนช จึงอธิบายให้ โซวิโล ฟัง เมื่อฟังจบ โซวิโล จึงตบปากรับคำเด็กชาย
" ได้ พรุ่งนี้ก็เสร็จ "
" เอ่อ ไม่ต้องเอาวัสดุมีค่ามาก ๆ ผสมไปในครกกับสากของผมนะ " เด็กชายร้องขอ เขากลัวจะจ่ายไม่ไหวจริง ๆ
" เฮ้ย !! เอ็งคิดว่าข้าใจดีมากรึไงฟร๊ะ คนแคระไม่ได้โง่จะทำอะไรให้ใครฟรีนะเว้ย !! " ขึ้นเฉย
" แหะ ๆ ๆ " เด็กหนุ่มหัวเราะแห้งๆ
" ได้ของแล้ว จะไปไหนก็ไป อย่ามายืนเกะกะหน้าโรงตีเหล็กของข้า " เขาโบกมือไล่ แล้วหันหลังกลับเดินเข้าอาคารไป ทิ้งให้เผ่ามนุษย์ 2 คน ยืนงง ๆ อยู่ตรงนั้น
" คาดเดายากชะมัด " เอพริลบ่นออกมา โดยมีแนชพยักหน้าสนับสนุน อยู่ข้าง ๆ
" เราไปกันดีกว่า "
ทั้ง 2 คนเดินกลับกิลด์การค้า ในระหว่างทางแนชก็ถามข้อสงสัยเื่คนขายของที่ไม่ใช่อาหาร
" พี่ทำไมมีคนขายพวก เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ตรงตลาดด้วยละครับ ? " เขาเริ่มคำถาม
" ก็ทางกิลด์จะขายทีละ 1 กิโลกรัมขึ้นไป ชาวบ้านข้างนอก ที่ไม่ใช่สมาชิคกิลด์ ก็สามารถแยกซื้อ ทีละนิดหน่อยได้ไงจ๊ะ คนซื้อก็ได้ซื้อ เท่าที่มีกำลังสามารถซื้อได้ คนขายก็ได้ส่วนต่างนิดหน่อย จากส่วนลดของการเป็สมาชิคกิลด์ กับการแยกขายอีกนิดหน่อย " เธอตอบ
แต่จากที่เดินดูเมื่อวาน มีแต่หมู ไม่มีเนื้อวัวกับไก่ เนื้อวัวเข้าใจได้ อาจจะราคาสูงไปแต่ไก่ ไม่มีใครคิดขายแยกส่วนรึยังไง
" เอ่อ พี่เอพริล " แนชถามขึ้น " มีพวกขวดหลายขนาดั้แ่ประมาณนี้ จนถึงประมาณนี้ไหมครับ " เขาทำท่าทางให้เอพริลดู เขาจะเอาไปใส่พวกเครื่องเทศต่าง ๆ จำพวก น้ำหญ้าหวาน น้ำมะนาว พริกไทย ไม่อยากให้ใครรู้เร็วเกินไป เดี๋ยวจะโดนตัดช่องทำมาหากินง่าย ๆ ส่วนเกลือคนเห็นก็ไม่เป็ปัญหา แค่อาหารมีรสเค็มขึ้นมานิดหน่อย คนที่นี่ก็แทบอยากจะร้องให้ด้วยความปิติยินดีแล้ว
" มีจ้ะ " เธออยากถาม ว่าจะเอาไปทำอะไร แต่ด้วยความเป็มืออาชีพ จึงจะไม่ถามละลาบละล้วงความเป็ส่วนตัวของลูกค้า จนเกินไป " อยากได้เท่าไหร่ละ เดี๋ยวไปดูที่กิลด์ก่อนก็ได้ "
" ครับผม " แนชตอบรับ
เมื่อเดินมาถึง เอพริลก็ให้แนชมายืนรอหน้าเคาน์เตอร์ ส่วนเธอก็เดินไปบอกพนักงานยกของ ให้ยกขวดหลาย ๆ ขนาดมาให้เด็กชายดู ไม่นานนักพนักงานก็ยกขวดขนาดต่าง ๆ มาวางตรงหน้าหนุ่มน้อย
" ลองเลือกดูได้เลยนะ เลือกได้แล้วก็ค่อยบอกพี่ก็ได้นะ " เธอบอกแนช
" ครับผม "