“แต่ว่า...” ฮองเฮาเตรียมจะคัดค้าน ทว่าฮ่องเต้ยกมือห้ามไว้ ก่อนนางจะหุบปากลง เข้าใจในทันทีว่าฮ่องเต้ทรงตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ก่อนฮองเฮาน้อมกายลง รับคำสั่งพร้อมสายตาสัดส่ายไปมาด้วยความหวั่นใจ
ความดีความชอบของเยว่จางเหม่ย ถูกกล่าวขานไปทั่วทั้งวังหลวง ว่าฝีมือด้านสมุนไพรของนาง เก่งกาจกว่าหมอหลวง เพราะรักษาอาการประชวรของฮองเฮาจนหายเป็ปกติ ขณะที่นางกำลังประทินผิวด้วยน้ำว่านอยู่นั้น ร่างของเยว่หลิวเหมยก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางราบเรียบ พลันย่อตัวลงนั่งด้านข้าง พลางเอ่ยขึ้น
“ข้าคิดไม่ถึง ว่าท่านพี่จะเอาความดีความชอบใส่ตัว เดิมทีข้าคิดว่าความดีความชอบนี้ควรเป็ของน้องสาม” เยว่จางเหม่ยวักน้ำถูกแขนตัวเองเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม
“เ้าเป็คนบอกข้าเอง ว่าหากยาของหยางเซียวรักษาฮองเฮาได้สำเร็จ จะสร้างความดีความชอบให้กับสกุลของเรา สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าความจริงจะเป็เช่นไร สกุลเยว่ของเราก็ได้รับคำชมมากมายจากเหล่าขุนนาง ข้ามิได้ทำผิดอันใด ในเมื่อหยางเซียวไม่เคยเข้าวังหลวง ข้าก็แค่เป็ตัวแทนสกุลเยว่นำยาสมุนไพรเข้าถวายฮองเฮาเท่านั้น”
‘เ้าเล่ห์อย่างไร ก็เป็เช่นนั้นเสมอ’ เยว่หลิวเหมย ลอบคิดในใจอย่างเงียบ ๆ
ทว่าทางด้านหยางเซียว ก็เต็มใจให้พี่ใหญ่ของนาง เอาความดีความชอบใส่ตัว โดยไม่คัดค้านหรือเรียกร้องสิ่งใด หวังว่านานไป นางจะเป็ที่ยอมรับในจวนสกุลเยว่ บุตรสาวที่เกิดจากอนุภรรยาอย่างนาง ทำได้เพียงให้ทุกคนในจวนพอใจ และยังคงทำหน้าที่ในจวนดังเดิม
วันนี้อากาศแจ่มใส หยางเซียวเดินออกมาจ่ายตลาดดังเดิม พร้อมได้ยินชาวบ้านกล่าวชื่นชมสกุลเยว่ ใบหน้าหวานแย้มยิ้มออกมาอย่างมีความหมาย นึกภูมิใจอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะถูกใครบางคนดึงร่างเล็กเข้ามายังซอกถนน ชายหนุ่มดันกายนางติดกับกำแพง ก่อนหยางเซียวจะพยายามกรีดร้องให้คนช่วย มือหนารีบยกขึ้นมาปิดปากนาง แล้วถกผ้าคลุมหน้าลงเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขาจับจ้องมองอยู่
“ต้าเหริน!” เมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดเจน นางจึงอุทานขึ้นด้วยความใ
“เหตุใดวันนี้ จึงแต่งตัวปกปิดใบหน้า” นางถามเขา ก่อนชายหนุ่มจะดึงตะกร้าผักไปถือ แล้วเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ข้าอยากคุยกับเ้า” ว่าแล้วเขาก็เดินนำหยางเซียวไปยังศาลากลางน้ำท้ายเมือง ท่ามกลางสายลมอ่อนพัดโชยมาเป็ระยะ หยางเซียวเดินตามหลังชายหนุ่มมาถึง พร้อมส่งรอยยิ้มอ่อนหวานให้อีกฝ่าย
“เ้าหายไปหลายวัน ข้าคิดว่า...” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะเอ่ยถาม ชายหนุ่มก็พูดสวนขึ้นในทันทีด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
“ฝีมือการรักษาฮองเฮา เป็ฝีมือของเ้าใช่หรือไม่” ชายหนุ่มไม่รอช้า หันกลับมายังหญิงสาวแล้วเอ่ยถามนาง ก่อนหยางเซียวจะชะงักนิ่ง สบสายตาอีกฝ่ายครู่หนึ่งอย่างมีความหมาย
“ท่านรู้ได้อย่างไร”
“ข้ารู้ได้อย่างไรนั้นไม่สำคัญ แต่เหตุใดเ้าจึงยกความดีความชอบให้กับเยว่จางเหม่ย เ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้นางกำลัง...” เขาหยุดพูด แล้วเบี่ยงตัวหันกลับไปยังสระน้ำพร้อมสายลมอ่อนพัดโชยมา ก่อนหยางเซียวจะเดินเข้ามาจับแขนอีกฝ่ายเบา ๆ พลันเอ่ยขึ้นด้วยสายตาอ่อนโยน
“อาการประชวรของฮองเฮา เดิมทีข้าคิดว่าหมอหลวงคงรักษาได้ไม่ยากนัก ทว่านานวันเข้า หากปล่อยไว้อาจจะทำให้พระอาการแย่ลง ข้าจึงตัดสินใจเปิดตำราของท่านแม่ แล้วปรุงยาขึ้นเพื่อรักษาฮองเฮา จุดมุ่งหมายของข้าก็เพื่อรักษาชีวิตของฮองเฮา ส่วนความดีความชอบข้ามิได้ใส่ใจ” ชายหนุ่มค่อย ๆ หันมายังหญิงสาว ทอดสายตามองนางอย่างมีความหมาย ก่อนนางส่งยิ้มอ่อนโยนให้เขา
“ข้าได้ข่าวว่าพี่ใหญ่ทูลขอฮ่องเต้ อภิเษกกับองค์ชายสาม แต่ว่าข้าไม่้าอภิเษกกับองค์ชายสาม ดังนั้นความดีความชอบนี้ยกให้นางไปเถิด ข้ามิใส่ใจ” คำตอบของหยางเซียวทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจ แล้วเดินเข้ามาหาอีกฝ่าย พลันยกมือขึ้นลูบศีรษะนางช้า ๆ อย่างมีความหมาย
“เ้ารู้หรือไม่ ว่าองค์ชายสามมีฐานะสูงส่งเพียงใด”
“สูงส่งเพียงใดข้าก็ไม่สนใจ เพราะคนที่ข้ารัก ก็คือท่าน!” นางตอบชายหนุ่ม พร้อมรอยยิ้มอ่อน ก่อนเขาจะค่อย ๆ ดึงร่างเล็กเข้าสวมกอด ท่ามกลางสายลมอ่อนพัดโชยมาเป็ระลอก
เยว่หลิวเหมยค่อย ๆ กำมือแน่นหลังจากเข่อเหยียน สาวใช้คนสนิทนำข่าวของจางเหม่ยทูลขอพระราชทานงานอภิเษกกับองค์ชายสามมารายงาน
“เ้าว่านางส่งจดหมาย ไปทูลขออภิเษกกับองค์ชายสามงั้นเหรอ นางกล้าทำเช่นนั้นจริง ๆ เหรอ” เข่อเหยียนรีบเอ่ยขึ้นในทันที
“นางกำนัลในวังหลวงพูดถึงเื่นี้กันหนาหู อีกทั้งฮ่องเต้ก็ทรงรับปากแล้ว ว่าจะจัดงานอภิเษกระหว่างองค์ชายสามกับคุณหนูใหญ่” เยว่หลิวเหมยค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แล้วเดินตรงไปยังตู้ไม้ ที่เก็บภาพวาดของเด็กชายตัวเล็กไว้ นางค่อย ๆ หยิบภาพนั้นขึ้นมาคลี่ออก พร้อมมือสั่นระริกด้วยความโกรธ
“ข้าจะต้องจบเื่นี้ งานอภิเษกจะไม่มีวันเกิดขึ้น”
“คุณหนูรองจะทำเช่นไรเ้าคะ” เข่อเหยียนรีบเดินตามมา แล้วเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ ทว่าสายตาของอีกฝ่ายเอาแต่จับจ้องไปยังภาพวาด โดยไม่ตอบสิ่งใดกลับมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้