ลูกแก้วอัคคีณานเป็สิ่งของที่สามารถให้ความร้อนได้ มีชื่อเสียงในดินแดนเหยียนหวง และพลังของมันช่างน่าอัศจรรย์
ลูกแก้วอัคคีณานนี้เหมาะกับความ้าของหลัวเลี่ยมาก เพราะเมื่อใส่พลังภายในเข้าไปที่ลูกแก้วเพียงเล็กน้อย ลูกแก้วก็จะปล่อยความร้อนออกมา ซึ่งมีประโยชน์มากในการต้านทานความหนาวเย็น
ประโยชน์ข้อที่สอง และยังเป็ข้อที่สำคัญที่สุด คือหากใส่พลังภายในเข้าไปที่ลูกแก้วจนครบสามครั้ง จะสามารถยิงลูกไฟซึ่งเกิดจากพลังที่อยู่ภายในของลูกแก้วนี้ออกมาได้ และพลังของไฟจากลูกแก้วนี้ทำให้หลัวเลี่ยคิดว่าหากเขาใช้มันก็คงจะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นความหนาวเหน็บในคุกกลืนอสูรได้
หลังจากเลือกลูกแก้วอัคคีณานแล้ว เขาไม่รีรอที่จะจากไป
ส่วนหลิวจื่ออั๋งจะใช้วิธีไหนจัดการกับเื่ที่ตราัเงินเซียวเหยาถูกทำลายนั้น ไม่ใช่ธุระของเขา
สิ่งที่เขาต้องทำคือ
เร็ว!
หลังออกมาจากตราหยกเชื่อมิญญาได้แล้ว หลัวเลี่ยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อเขาเก็บตราหยกเชื่อมิญญาแล้ว เขาก็ตั้งใจฟังเสียงรอบข้าง เขาไม่ได้ยินเสียงใดเลย ซึ่งหมายความว่าไม่มีใครเข้ามาที่นี่
จากนั้นเขาก็นำลูกแก้วอัคคีณานออกมา และส่งพลังภายในของตนใส่เข้าไปในลูกแก้ว
วิ้ง!
เกิดประกายไฟวูบวาบขึ้นภายในลูกแก้วอัคคีณาน หลังจากนั้นหลัวเลี่ยก็รู้สึกว่าอุณหภูมิโดยรอบอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความหนาวเย็นที่อยู่รอบๆ เริ่มจางหายไป
เขารู้สึกอบอุ่นและสบายขึ้น
“สมกับเป็สมบัติวิเศษ”
หลัวเลี่ยเอื้อมมือไปแตะกำแพงน้ำแข็งที่อยู่ชั้นในสุดของคุกกลืนอสูร เขาพบว่ามันไม่ได้เย็นอย่างที่คิด
เขามองไปที่กำแพงน้ำแข็ง และคิดหาทางทำลายมัน เขาคิดไม่ออกจริงๆ ว่าต้องใช้กำลังหมัดทั้งหมดชกไปกี่ครั้งถึงจะทำลายกำแพงได้
ยากเกินไป
ไม่น่าแปลกใจที่คนที่ถูกวางยาพิษคนนั้น แม้เขาจะใช้พลังทั้งหมดแล้วก็ยังไม่สามารถทำลายกำแพงน้ำแข็งนี้ได้
หลัวเลี่ยหายใจเข้าลึกๆ แล้ววางลูกแก้วอัคคีณานบนฝ่ามือข้างซ้าย ก่อนใช้นิ้วชี้ข้างขวาเคาะลงที่ลูกแก้วเบาๆ หลังจากนั้นพลังภายในของเขาก็พุ่งออกมาผ่านนิ้วชี้ข้างขวานั้น เขาทำเช่นนั้นติดต่อกันสามครั้ง
วิ้ง!
ราวกับว่ามีการร่ายเวทมนตร์ ลูกแก้วอัคคีณานสั่นะเืขึ้นทันที
มันลอยขึ้นไปในอากาศ และกลายเป็ลูกแก้วสีแดงเรืองแสง เกิดประกายไฟปลิวว่อนไปรอบๆ หลังจากนั้นก็มีเปลวเพลิงพุ่งออกมา
นี่คือเปลวไฟที่แท้จริงของลูกแก้วอัคคีณาน
ทันใดนั้น หลัวเลี่ยก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าบนร่างกายของเขา หรือแม้แต่ผมและคิ้วกำลังจะติดไฟ
เขารีบใช้วิชาตัวเบาพาตัวเองถอยหลังกว่าสามจั้งอย่างรวดเร็ว
ในระหว่างที่กำลังถอย เขาเหลือบเห็นว่าน้ำแข็งบนกำแพงน้ำแข็งละลายกลายเป็น้ำแล้ว จากนั้นก็ระเหยกลายเป็ไอ แล้วจางหายไปในที่สุด
นี่เป็่เวลาที่ดีในการพยายามทำลายชั้นกำแพงน้ำแข็งแล้ว
เปลวไฟจากลูกแก้วอัคคีณานพุ่งออกไปกระทบกับชั้นน้ำแข็งตรงหน้า
ตูม!
มีเสียงเหมือนแผ่นดินไหวเกิดขึ้น
หลัวเลี่ยถูกแรงสั่นะเืพุ่งกระทบจนถอยหลังกรูด ไม่สามารถทรงตัวได้ เขาล้มลงกับพื้นทันที และถ้าในเวลานี้เขาไม่รีบลุกขึ้น เขาอาจได้รับาเ็จากน้ำแข็งและก้อนกรวดที่ตกลงมา ซึ่งอาจทับเขาจนตายได้
เขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว พุ่งไปข้างหน้าและรับลูกแก้วอัคคีณานที่หล่นลงมาจากในอากาศ
“ซี้ด”
หลัวเลี่ยรู้สึกแสบร้อน เขาะโออกมาด้วยความเ็ป จากนั้นจึงสะบัดมือและโยนลูกแก้วอัคคีณานออกไป ฝ่ามือของเขาคล้ายถูกลวก แต่ไม่ได้เป็อะไรมาก หลังจากโยนออกไปแล้วเขาก็คว้าลูกแก้วกลับมาอีกครั้ง
ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว เพราะความหนาวเย็นได้คืบคลานเข้ามาอีกครั้ง
โชคดีที่ไฟลวกไม่นาน
หลัวเลี่ยมองไปที่ลูกแก้วอัคคีณาน น่าเสียดายที่มันล้มเหลว ซึ่งหากเปลวไฟข้างในถูกใช้แล้ว มันจะไม่สามารถใช้โจมตีได้อีก ใช้ได้เพียงให้ความอบอุ่นเท่านั้น
เขาสังเกตเห็นว่าชั้นน้ำแข็งตรงหน้าถูกเจาะจนหมด เขาเดินตรงไปยังจุดที่ลึกที่สุดในคุกกลืนอสูร โดยไม่เสียดายพลังโจมตีของลูกแก้วอัคคีณาน เขายังคงเก็บลูกแก้วไว้กับตัว เพื่อให้ความอบอุ่นป้องกันไม่ให้ร่างกายของเขาถูกแช่แข็งอยู่ที่นี่ จากนั้นเขาก็ใช้วิชาตัวเบาเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว
ตลอดทางไม่มีสิ่งกีดขวาง เขาเดินเข้าไปได้อีกราวสิบจั้ง
จากนั้นหลัวเลี่ยก็ถูกขัดขวางอีกครั้ง
ครั้งนี้แตกต่างออกไปเล็กน้อย เขามาถึงชั้นกำแพงน้ำแข็งที่ลึกที่สุดของคุกกลืนอสูรอย่างแท้จริงแล้ว ชั้นน้ำแข็งที่กั้นนั้นบางและโปร่งใสมาก
ทั้งหมดที่เขาเห็นในอีกด้านของกำแพงใส คือต้นไผ่บางส่วนที่เปล่งรัศมีเย็นออกมา
ใช่แล้ว ความเย็นทั้งหมดมาจากต้นไผ่เ่าั้
ต้นไผ่มีไม่มาก ไม่อาจรู้ได้ว่าปลูกมานานแค่ไหนแล้ว น่าแปลกที่ต้นไผ่พวกนี้ไม่ถูกทำลาย แต่กลับถูกแช่แข็งโดยที่ตรงกลางเป็ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่
กล่าวอีกนัยหนึ่ง หลัวเลี่ยเดินมาถูกทางแล้ว แม้เขาจะเจออุปสรรคเป็กำแพงน้ำแข็ง แต่กำแพงน้ำแข็งในบริเวณนี้ก็ไม่จะหนานักเพราะมีสิ่งกีดขวางกั้นอยู่
หลัวเลี่ยรู้เื่นี้เป็อย่างดี ดังนั้นเขาจึงเอาลูกแก้วอัคคีณานออกมาแล้ววางลงบนกำแพงนี้
เป็ความจริงที่เปลวไฟที่แท้จริงภายในลูกแก้วอัคคีณานนั้นหมดลงแล้ว แต่เนื่องจากลูกแก้วอัคคีณานเป็สมบัติวิเศษ จึงมีความสามารถอย่างอื่นนอกจากปล่อยเปลวไฟแท้จริงอีก
หลังจากใส่พลังภายในเข้าไปในลูกแก้วเล็กน้อย ลูกแก้วก็ปล่อยความอบอุ่นออกมา มันสามารถละลายน้ำแข็งได้เล็กน้อย
หลัวเลี่ยวางลูกแก้วอัคคีณานลงในรูที่เพิ่งโดนหลอมละลายไป และปล่อยให้ชั้นกำแพงน้ำแข็งละลายอย่างต่อเนื่อง ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็ใช้เคล็ดวิชามหาสรรพฟ้าดินร่วมกับหมัดพญาัประจัญบานเข้าโจมตี
การโจมตีด้วยสองพลังที่แข็งแกร่งที่สุดตรงเข้าไปกระทบกับกำแพงน้ำแข็ง
เพราะรู้ว่าทางหอเซียวเหยาจะต้องรีบจัดการเื่ตราัเงินเซียวเหยา เขาต้องเร่งความเร็วขึ้นอีก ดังนั้นหลัวเลี่ยจึงโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
ไม่สำคัญว่าจะทำลายได้หรือไม่
เขาโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
แท้จริงแล้วในตอนนี้ระดับพลังของหลัวเลี่ยก็ใกล้จะทะลวงระดับพลังถัดไปได้แล้ว การใช้พลังอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้จะส่งผลให้ร่างกายเหนื่อยล้าได้ แต่ทุกครั้งหลังจากที่เขาฟื้นขึ้นจากความเหนื่อยล้า พลังงานของเขาจะกลับมาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม สิ่งนี้แสดงถึงสัญญาณของการทะลุทะลวง
ชั้นกำแพงน้ำแข็งที่น่ากลัวนั้นแข็งแกร่งมาก และหลัวเลี่ยก็ยังไม่สามารถทะลุผ่านได้
แต่ด้วยอุณหภูมิอบอุ่นที่ปล่อยออกมาจากลูกแก้วอัคคีณานนั้นกำลังหลอมละลายกำแพงน้ำแข็ง ก็หมายความว่าชั้นน้ำแข็งไม่ได้แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และยังละลายอย่างต่อเนื่องอีกด้วย บวกกับพลังจากการโจมตีของเขา สักพักการทำงานอย่างหนักของเขาก็แสดงผลแล้ว
หนึ่งวันต่อมา ภายใต้พลังการโจมตีของหลัวเลี่ย และพลังความอบอุ่นของลูกแก้วอัคคีณาน ในที่สุดชั้นน้ำแข็งบาง ๆ นั้นก็แตกและละลายไปมาก
มันไม่ง่ายเลยที่จะทะลวงผ่าน
หลังจากนั้นอีกห้าชั่วโมง หลัวเลี่ยก็นั่งลงบนพื้นอย่างหมดแรง
เขาหอบหายใจอย่างหนัก หลังจากที่เขาสามารถใช้พลังจากเคล็ดวิชาั์ได้ ความเร็วในการฟื้นตัวของเขาก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน
เมื่อเขาไม่รู้สึกเหนื่อย เขาก็พบว่าพลังภายในร่างกายของตนเองเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทันใดนั้นพลังภายในเส้นลมปราณของเขาก็เริ่มสั่นะเืและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง
และในท้ายที่สุด พลังภายในก็กลับไปที่จุดตันเถียน
ตูม!
มีเสียงฟ้าร้องดังขึ้นมา
ทันใดนั้นร่างของหลัวเลี่ยก็สั่นสะท้าน เกิดแสงสว่างวาบขึ้นทั่วทั้งร่างกาย เขาเบิกตาโพลง ขณะเดียวกันก็พบว่าเสื้อผ้าของเขาคับขึ้น เขาหมดแรง แต่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลัง
“ทะลวงได้แล้ว!”
“ระดับผู้ฝึกตนระดับหก!”
ลักษณะของระดับที่หกของเคล็ดวิชาั์ คือสามารถมองเห็นในที่มืด และมีพลังที่สามารถทำลายได้แม้กระทั่งูเา!
ความสามารถในการมองเห็นได้ในที่มืดนี้ หมายถึงว่าแม้หลัวเลี่ยจะอยู่ในที่มืด ซึ่งโดยปกติแล้วไม่สามารถมองเห็นได้แม้กระทั่งนิ้วของตนเอง แต่เขาจะสามารถมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนราวกับอยู่ในเวลากลางวันที่มีแสงอาทิตย์ส่องถึง นอกจากนี้เขายังสามารถมองเห็นทุกสิ่งภายในรัศมีหนึ่งร้อยเมตรได้อย่างชัดเจน
และการมีพลังความสามารถในการทำลายแม้กระทั่งูเาได้ หมายถึงพละกำลังความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมาก และการใช้พละกำลังทางกายถึงขั้นนี้น่ากลัวกว่าการใช้พลังภายในมากนัก
เมื่อรวมกับความจริงที่ว่า ตอนนี้เขามีพลังภายในถึงระดับที่หกของระดับผู้ฝึกตนแล้ว พลังของเขาก็ยิ่งมากขึ้น และร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เมื่อมองไปยังกำแพงน้ำแข็งที่แตกร้าว หลัวเลี่ยก็ะโขึ้นมาและพุ่งออกไปราวกับัคลั่ง
ทันใดนั้นพลังจากเคล็ดวิชามหาสรรพฟ้าดินก็ปรากฏขึ้น
ตามด้วยทักษะหมัดพญาัประจัญบาน
และบวกกับพลังภายในที่เพิ่มขึ้นจากการเลื่อนระดับพลังของตนแล้ว ทำให้เกิดเป็แรงปะทะขนาดใหญ่ถึงขนาดทำให้กำแพงน้ำแข็งแตกออกมา
ตูม! ตูม! ตูม!...พรึ่บ!
หลังจากระดมส่งหมัดออกไปห้าร้อยครั้งภายในลมหายใจเดียว ในที่สุดกำแพงน้ำแข็งก็ปรากฏรอยร้าว และชั้นน้ำแข็งที่ถูกละลายโดยลูกแก้วอัคคีณานไปแล้วบางส่วนนี้ ก็ถูกเขาทำให้พังทลายลงมาในที่สุด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้