ชายชราอีกคนที่ลงมาพร้อมกับชายชราเคราขาวคือผู้าุโหม่า หม่าหัวอวิ๋น ซึ่งเป็ลูกศิษย์เอกของหนึ่งในสี่ผู้าุโสูงสุดเสิ่นเยาเยวี่ย รับหน้าเป็ผู้ดูแลและควบคุมสำนักชั้นนอกทั้งหมด ซึ่งนอกจากผู้าุโสูงสุดทั้งสี่แล้ว ตัวเขาถือเป็หนึ่งในผู้าุโที่มีอำนาจมากที่สุดในสำนัก!
“ิอวิ๋นเอ๋ย ิอวิ๋น ข้าและผู้าุโสูงสุดทั้งสี่ได้สั่งกำชับเ้าเป็พันเป็หมื่นครั้งแล้วว่าให้เ้านำทางและพาหลิงอวิ๋นมาหาเหวินจัว แล้วนี่มันอะไรกัน ทำไมถึงได้มีสภาพอดสูดูไม่ได้เช่นนี้ เ้าไปมีเื่กับผู้อื่นอีกแล้วหรือ?” หม่าหัวอวิ๋นแสดงสีหน้าเ็ปที่สุดๆ!
เมื่อเห็นปู่หลานคู่นี้ไถ่ถามกันแล้ว จ้าวเทียนฮ่าวและอู๋จื่อจิ้งก็พากันรู้สึกหนักใจขึ้นมา! แย่แล้ว!
เด็กหนุ่มคนนี้เป็หลานของผู้ดูแลสำนักชั้นนอกอย่างผู้าุโหม่า!
ซุนิจวิ้นที่หวังให้จ้าวเทียนฮ่าวช่วยพูดให้เขายังไม่ออกไปเสียทีเดียว รู้สึกได้เพียงแค่หัวของเขามันอื้อไปหมด จากการถูกตบสองครั้ง ทำให้หลงจู๊ของหอยาวิเศษนี้หมดสติล้มลงไป!
“ท่านปู่อวิ๋น ข้าจะไปทะเลาะกับใครได้เล่า ในที่นี้นอกจากท่านอาเซียวแล้ว ทุกก็ล้วนแต่มีพลังยุทธ์เหนือกว่าข้าทั้งนั้น ต่อให้หลานชายของท่านตาไร้แววขนาดไหน ก็ไม่มีปัญญาไปหาเื่ใส่ตัวจากคนเหล่านี้หรอกขอรับ คนนี้ต่างหากที่ตบหน้าข้าโดยไม่ไถ่ถามอะไรสักคำ!” หม่าิหย่วนชี้ไปยังซุนิจวิ้นที่นอนสลบอยู่
“ิหย่วน เ้าจะโกหกไม่ได้นะ ปู่อูก็อยู่ที่นี่ด้วย!”
“ท่านปู่อวิ๋น ท่านปู่อู เื่นี้เป็เื่จริงนะขอรับ! ถ้าหากพวกท่านไม่เชื่อข้า หลายท่านที่อยู่ที่นี่ก็สามารถเป็พยานได้ว่าคนคนนี้เป็คนตีข้าจริงๆ!” หม่าิหย่วนถือโอกาสนี้เรียกตามท่านปู่ของตัวเอง เรียกชายชราเคราขาวว่าท่านปู่อู!
ชายชราเคราขาวคนนี้ช่างเป็คนที่น่าเกรงขามจริงๆ มาถึงก็ไม่พูดอะไรทั้งนั้น ตบหน้าคนแซ่ซุนสองทีโดยไม่ลังเล ซ้ำยังลดตำแหน่งเขาให้ไปขุดเหมืองตลอดชีวิตอีก คิดแล้วก็สาแก่ใจ! เขาด่าหัวหน้าหอแซ่จ้าวราวกับด่าหลานชายตัวเองแบบนี้ ถ้าไม่รีบสานสัมพันธ์กับคนอย่างเขาก็โง่แล้ว ท่านปู่อวิ๋นให้โอกาสดีๆ เช่นนี้ หากพลาดไป คงต้องเสียตายไปตลอดชีวิตแน่!
“เป็เช่นนั้นจริงหรือ?” คราวนี้ไม่ใช่หม่าหัวอวิ๋นเป็คนพูด เพราะอย่างไรเสียทั้งสองคนนั้นก็เป็ปู่หลานกัน จึงต้องหลีกเลี่ยงการลำเอียงกันบ้าง อีกทั้งทุกคนต่างก็เป็คนฉลาด ชายชราเคราขาวจึงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นะเื
“ใช่แล้วขอรับ ท่านผู้าุโ!” จ้าวเหวินจัวตอบเป็คนแรก
“ใช่ขอรับ!” กงจื่อเจี๋ยที่อยู่ข้างๆ ก็พยักหน้า!
เื่นี้เป็เื่จริงที่ปฏิเสธไม่ได้ จ้าวเทียนฮ่าวที่เพิ่งถูกดุไปเมื่อครู่จึงพยักหน้าตาม “อื้ม!”
มีเพียงอู๋จื่อจิ้งเท่านั้นที่ก้มหน้าและตอบ “จริงอยู่ที่ว่าท่านหลงจู๊ซุนเป็คนตีคนผู้นั้น แต่สาเหตุที่แท้จริงก็คือ...”
อู๋จื่อจิ้งยังพูดไม่ทันจบ ชายชราเคราขาวก็ขัดขึ้นก่อน “ในเมื่อยืนยันเื่ราวได้แล้ว ปริมาณการขุดแร่ของซุนิจวิ้นให้เพิ่มขึ้นเป็สองเท่า เมื่อใดที่ขุดแร่หินเปลวเพลิงชั้นดีได้ครบสองหมื่นหนิว เมื่อนั้นจึงจะได้กลับมาที่สำนัก!”
หากซุนิจวิ้นตื่นขึ้นมาและได้ยินคำพูดนี้ คงได้สลบไปอีกรอบแน่! ชีวิตนี้คงต้องอยู่แต่ในเหมืองไปตลอดชีวิตแล้ว!
ชายชราเคราขาวคนนี้ช่างน่าเกรงขามจริงๆ ตัดสินใจเด็ดขาดและรวดเร็ว! ที่สำคัญคือมีความเที่ยงธรรมอีกด้วย ถูกใจเรามาก ไม่เลวๆ!
เซียวหลิงอวิ๋นแอบชื่นชมในใจ!
ชายชราผู้นี้น่าจะไม่ชอบใจจ้าวหัวล้านคนนั้นอยู่เป็ทุนเดิม ปรุงยาระดับสามงั้นหรือ? แม้ว่าพลังยุทธ์ของจ้าวเหวินจัวยังต่ำไปสักหน่อย แต่หากมีเราคอยชี้แนะ การปรุงยาระดับสามขั้นต้นสักหนึ่งหรือสองเม็ดก็อาจจะพอทำได้! ชายชราเคราขาวคนนี้มีอำนาจมาก อีกทั้งจ้าวเหวินจัวและจ้าวหัวล้านก็ไม่ถูกกันอีก ถ้าอย่างนั้นเตะจ้าวหัวล้านออกไป แล้วให้จ้าวเหวินจัวแทนที่เสียเลย!
ดวงตาของเซียวหลิงอวิ๋นสว่างวาบขึ้นมา มีแผนการหนึ่งอยู่ในหัว!
จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งถ้วยชา!
“เหวินจัวเอ๋ย ตามหลักแล้วด้วยคุณูปการที่เ้ามีให้กับสำนัก ก็เพียงพอต่อการที่เ้าจะขึ้นเป็หัวหน้าหอยาวิเศษของสำนักชั้นนอกแล้ว! แต่เนื่องด้วยกฏของสำนัก และเป็คำสั่งของอาจารย์อาิ่ ที่ตั้งใจจะให้เ้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าหอยาวิเศษ ในเวลานี้ข้าจึงตัดสินใจแล้วว่า ขอเพียงเ้าสามารถปรุงยาวิเศษระดับสามขั้นต้นได้แม้เพียงเม็ดเดียวภายในสิบวัน ตำแหน่งหัวหน้าหอยาวิเศษนี้ก็จะตกเป็ของเ้า!” ชายชราเคราขาวอูิได้ตัดสินใจแล้ว!
เขาไม่สนใจสีหน้าไม่พอใจของจ้าวเทียนฮ่าวที่อยู่ใกล้ๆ เลยแม้แต่น้อย ส่วนอู๋จื่อจิ้งนั้นหน้าซีดเผือดไปแล้ว!
จะ...เ้าอ้วนจ้าว แท้จริงแล้วได้เส้นสายมาจากผู้าุโสูงสุดหรอกหรือ ทั้งยังมีผู้าุโจากยอดเขายาวิเศษของสำนักฝ่ายในอูิ และผู้ดูแลสำนักชั้นนอกหม่าหัวอวิ๋น สองผู้าุโมาประกาศแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหอยาวิเศษอีก!
ในเวลานี้ ผู้าุโอูิยังยินยอมให้เ้าอ้วนจ้าวคนนี้ลองเปิดเตาปรุงยาระดับสาม ซึ่งหากทำสำเร็จก็จะได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็หัวหน้าหอยาวิเศษโดยทันที!
อีกฝ่ายได้เป็ถึงหัวหน้าหอ ในขณะที่ตนเองเป็แค่เพียงพ่อบ้านตัวจิ๊บจ้อย จะไม่ถูกเ้าอ้วนจอมจองเวรคนนี้เล่นงานไปจนตายหรอกหรือ!
อู๋จื่อจิ้งกัดฟันแล้วรวบรวมความกล้าพูดออกไป “เรียนท่านผู้าุโ หากทำสำเร็จก็จะได้เป็หัวหน้าหอ แล้วหากล้มเหลวล่ะ มีบทลงโทษหรือไม่?”
อูิมองอู๋จื่อจิ้งด้วยสายตาเ็า แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็าไม่ต่างกันว่า “แล้วเ้าเป็ใครกัน ถือสิทธิ์อะไรมาพูดสอดเื่การคัดเลือกหัวหน้าหอของสำนักนี้! จ้าวเทียนฮ่าว เ้าดูคนที่เ้าพามาซิ คนหนึ่งทักษะการปรุงยาก็ย่ำแย่มาก พร์ในการบำเพ็ญเพียรก็ธรรมดา แต่เื่การหาช่องทางแสวงหาผลประโยชน์เข้าตัวช่างเก่งกาจนัก!”
เหงื่อที่เพิ่งเหือดแห้งไปของจ้าวเทียนฮ่าวกลับไหลออกมาอีกครั้ง จ้องมองอู๋จื่อจิ้งอย่างขุ่นเคืองแล้วก้มหัวคำนับ “ถูกแล้ว ถูกแล้ว ท่านผู้าุโกล่าวถูกต้องแล้ว!”
“เมื่อหัวหน้าของเ้าก็เห็นด้วยว่าข้าพูดถูก เ้าชื่ออะไรนะ... อู๋จื่อจิ้งใช่หรือไม่ อู๋จื่อจิ้งเ้า ก็ไปขุดแร่ในเหมืองหินเปลวเพลิงพร้อมกับซุนิจวิ้นด้วยกันเลย ดูจากพลังยุทธ์ของเ้าแล้ว คงคาดหวังว่าจะได้สักสองหมื่นหนิวไม่ได้ ให้เ้าขุดแค่สองพันหนิวก็พอ!”
ทันทีที่คำพูดของอูิจบลง!
อู๋จื่อจิ้งล้มลงหมดสติพร้อมด้วยเสียงดัง ‘ตุบ’ ทันที!
เหงื่อบนหัวล้านของจ้าวเทียนฮ่าวผุดออกมายิ่งกว่าเดิม!
ทางเซียวหลิงอวิ๋น จ้าวเหวินจัว และหม่าิหย่วนที่หน้าบวมไปหนึ่งข้างลอบยิ้มให้อย่างรู้กัน!
...
แปดวันต่อมาในห้องปรุงยาของหอยาวิเศษ เซียวหลิงอวิ๋นกล่าวกับจ้าวเหวินจัวที่ค่อนข้างเป็กังวล “ผู้าุโจ้าว ผ่อนคลายเข้าไว้ ท่านมีพร์ในการปรุงยาดีอยู่แล้ว เชื่อมั่นในตัวเองหน่อย! ก็แค่ยาระดับสามขั้นต้นอย่างโอสถละมุนเท่านั้นเอง ใน่ที่ผ่านมานี้ท่านเองก็ฝึกซ้อมจนคล่องแล้ว!
ท่านเป็นักปรุงยาโดยกำเนิด แต่พร์ดีๆ กลับถูกพวกคนไร้ความสามารถมาทำลายจนเสียสิ้น!
ข้ากล้าพูดได้เลยว่า หากท่านปรุงยาโอสถละมุนนี้ได้สำเร็จภายในสองวัน พลังยุทธ์ของท่านก็จะบรรลุไปถึงชั้นปรมาจารย์ิญญาขั้นสูงเลย!
สำหรับผู้ที่เป็นักปรุงยาโดยกำเนิด การบรรลุชั้นของการบำเพ็ญเพียรนั้นมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับทักษะวิชาปรุงยาของท่าน! ต่อแต่นี้ไปท่านต้องทุ่มเทใช้พลังและเวลาทั้งหมดที่มี ไม่ก็สองในสามไปกับการปรุงยา พัฒนาให้ทักษะการปรุงยาได้ดีขึ้น ก็จะสามารถปรุงยาในระดับที่สูงขึ้นได้ด้วย และเมื่อใดที่คุณภาพของยาที่ท่านปรุงดีขึ้นแล้ว พลังยุทธ์ของท่านก็จะเพิ่มพูนและบรรลุขึ้นไปชั้นต่อไป! และจะกลายเป็วัฏจักรที่เพิ่มพูนขึ้นไปเรื่อยๆ!”
“การปรุงยาสามารถเพิ่มพูนพลังยุทธ์ได้จริงหรือ?” จ้าวเหวินจัวเบิกตากว้าง
“หากท่านพูดเช่นนี้กับอูิ ข้ารับรองได้เลยว่าท่านอูิจะต้องตบหน้าท่านสักทีแน่! นี่เป็เื่ที่นักปรุงยาที่เก่งกาจทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว ดังนั้นข้าถึงได้บอกท่านอย่างไรล่ะว่า เมื่อใดที่ปรุงยาโอสถละมุนนี้สำเร็จ ก็กลับไปอ่านตำราปรุงยาของสำนักให้หมด แล้วเริ่มหัดปรุงยาั้แ่ยาระดับหนึ่งใหม่เสีย
ปีแรกปรุงแต่ยาระดับหนึ่ง สองปีต่อมาปรุงยาระดับหนึ่งและระดับสอง หลังจากสามปีผ่านไปค่อยกลับมาหัดปรุงยาโอสถละมุนนี้ใหม่อีกครั้ง ภายในสี่ปี ข้ารับรองว่าท่านจะบรรลุขึ้นเป็มหาปรมาจารย์ิญญาได้แน่!”
“หลิงอวิ๋น เ้าพูดจริงหรือ?”
“หากท่านเชื่อข้า แล้วทำตามที่ข้าบอกอย่างเคร่งครัด ก็เป็เื่จริง แต่ถ้าไม่...”
“เชื่อ เชื่อ!” ผู้จ้าวพูดซ้ำๆ มหาปรมาจารย์ิญญา! ความมั่นใจและความทะเยอทะยานของจ้าวเหวินจัวในเวลานี้ราวกับต้นหญ้าป่าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว!
จากนั้นก็หันไปจุดเตา ใส่สมุนไพร และปรุงยาวิเศษ...
สองวันต่อมา!
อูิ หม่าหัวอวิ๋น และจ้าวเทียนฮ่าว รวมถึงผู้าุโจากยอดเขายาวิเศษของสำนักชั้นในอีกสองคน! ทั้งห้าท่านเฝ้ารออยู่ที่หน้าประตูห้องปรุงยาใน่ที่จวนจะหมดเวลา!
เสียงดัง ”แกร๊กๆ” ประตูเหล็กหนาๆ ของห้องปรุงยาก็เปิดออกอย่างช้าๆ!
คนสองคนก้าวเดินออกมา!
