### บทที่ 30: อำนาจแห่งหอคอยและโลหิตที่สาดกระเซ็น
เม่ยเจินยังคงยืนอยู่ที่หน้าต่าง รอยยิ้มของนางไม่ได้จางหายไปไหน นางไม่ได้หันกลับไปสั่งการผู้ใด นางเพียงแค่ยกนิ้วเรียวงามของตนเองขึ้นมาแล้วดีดเบาๆ ไปในอากาศครั้งหนึ่ง
เป๊าะ!
เสียงดีดนิ้วที่แ่เบาและเรียบง่าย...แต่สำหรับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของนางแล้ว มันคือคำสั่งที่เด็ดขาดยิ่งกว่าอสุนีบาตฟาด!
ณ เบื้องล่างหน้าหอหมื่นสมบัติ หัวหน้ากลุ่มผู้ไล่ล่าจากสำนักคุ้มภัยพยัคฆ์ทมิฬกำลังะโข่มขู่ด้วยความไม่พอใจ "พวกเราจะรออยู่ที่นี่! ข้าไม่เชื่อว่าพวกมันจะซ่อนตัวอยู่ในนั้นได้ตลอดไป! เมื่อท่านอู๋ซินมาถึง...ต่อให้เป็หอหมื่นสมบัติก็ต้องไตร่ตรองดูให้ดี!"
แต่ในขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้นเอง...
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
เงาร่างสีดำสนิทสิบกว่าสาย พลันปรากฏขึ้นที่หน้าประตูทางเข้าของหอคอยราวกับภูตพราย!
พวกเขาปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่าโดยไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นมาก่อน! ทุกคนสวมใส่ชุดเกราะหนังสีดำสนิทที่เข้ารูปและสวมหน้ากากโลหะสีเงินที่ปิดบังใบหน้าทั้งหมด กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากแต่ละคนนั้นเยียบเย็นและเต็มไปด้วยจิตสังหาร...และทุกคน...ล้วนอยู่ในระดับจุดสูงสุดของขั้นสร้างรากฐาน!
ผู้นำของพวกเขาก้าวออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว กลิ่นอายของมันนั้นน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า...ครึ่งก้าวสู่ขั้นปราณจิต!
พวกเขาคือ "องครักษ์เงา"...หน่วยรบชั้นยอดที่เป็ความลับและทำหน้าที่รักษากฎเกณฑ์ของหอหมื่นสมบัติโดยเฉพาะ!
"พวกเ้า...เป็ใครกัน!?" หัวหน้ากลุ่มผู้ไล่ล่าร้องถามด้วยความใระคนหวาดระแวง
หัวหน้าองครักษ์เงาไม่ได้ตอบคำถาม เขาเพียงแค่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เ็าราวกับน้ำแข็ง "ผู้ใดก็ตามที่ก่อความวุ่นวายในรัศมีหนึ่งร้อยจั้งของหอหมื่นสมบัติ...มีโทษ...สถานเดียว"
"สถานใด!?"
"...ตาย"
สิ้นเสียงคำว่า "ตาย"...องครักษ์เงาทั้งสิบกว่าคนก็ได้ทะยานร่างเข้าใส่กลุ่มผู้ไล่ล่าพร้อมกัน!
มันไม่ใช่การต่อสู้...แต่มันคือการสังหารหมู่!
การเคลื่อนไหวของพวกเขาพร้อมเพรียงและสอดประสานกันอย่างสมบูรณ์แบบราวกับเป็คนๆ เดียว พวกเขาเคลื่อนที่เป็ค่ายกลสังหารที่น่ากลัว ทุกกระบวนท่าถูกออกแบบมาเพื่อการปลิดชีวิตโดยเฉพาะ ไม่มีท่วงท่าที่งดงามหรือใหญ่โต มีเพียงความรวดเร็ว, ความแม่นยำ, และความตาย!
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นอย่างน่าเวทนา! เหล่าผู้ฝึกตนจากสำนักคุ้มภัยพยัคฆ์ทมิฬที่เมื่อครู่นี้ยังดูน่าเกรงขาม บัดนี้กลับถูกสังหารราวกับผักปลา!
เืสาดกระเซ็นไปทั่วพื้นถนน...แต่ที่น่าประหลาดคือ...ไม่มีเืแม้แต่หยดเดียวที่กระเซ็นไปถูกบันไดหินอ่อนอันขาวสะอาดของหอหมื่นสมบัติเลยแม้แต่น้อย!
เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งก้านธูป...ทุกอย่างก็สงบลง
ผู้ไล่ล่านับสิบคนได้กลายเป็ศพไปทั้งหมดแล้ว...
องครักษ์เงากลุ่มนั้นโค้งคำนับไปทางชั้นบนสุดของหอคอยครั้งหนึ่ง ก่อนที่ร่างของพวกเขาจะค่อยๆ พร่าเลือน...แล้วหายไปในเงามืดราวกับไม่เคยมีอยู่จริง...ทิ้งไว้เพียงกลิ่นคาวเืที่คละคลุ้งและภาพแห่งความตายที่น่าสะพรึงกลัว
เย่เฟิง, เซี่ยหนิงฉาง, และศิษย์น้องหลิน...ต่างยืนมองภาพทั้งหมดนั้นจากหน้าต่างบนชั้นเก้าด้วยความตกตะลึงสุดขีด!
ศิษย์น้องหลินนั้นตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ส่วนเซี่ยหนิงฉางนั้นแม้จะใ แต่ก็ยังคงความสงบนิ่งไว้ได้ เพราะนางเคยเห็นพลังขององค์กรระดับสูงเช่นนี้มาก่อน
แต่สำหรับเย่เฟิงแล้ว...นี่คือการเปิดโลกทัศน์ครั้งใหญ่!
นี่...นี่คือพลังที่แท้จริงขององค์กรที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นรึ? ไม่ใช่พลังของยอดฝีมือเพียงคนเดียว...แต่คือพลังของ "ระบบ" และ "กองกำลัง" ที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีเยี่ยม! ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้...เมื่อนำมาเทียบกับองครักษ์เงากลุ่มนั้น...มันช่างเล็กน้อยและไร้ค่าเสียจริง!
เขากำหมัดแน่น...เส้นทางแห่งการล้างแค้นของเขานั้น...มันยังอีกยาวไกลและยากลำบากกว่าที่เขาเคยจินตนาการไว้มากนัก!
ในขณะที่เขากำลังจมอยู่ในความคิดของตนเองนั้นเอง...
เม่ยเจินก็ได้หันกลับมาจากหน้าต่าง รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของนางกลับมาประดับบนใบหน้าอีกครั้ง ราวกับว่าภาพการสังหารหมู่เมื่อครู่นี้เป็เพียงละครฉากหนึ่งเท่านั้น
นางมองมายังกลุ่มของเย่เฟิงที่ยังคงตกตะลึงอยู่ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
"เอาล่ะ...เมื่อขยะถูกเก็บกวาดไปแล้ว...เรามาพูดถึงเื่ที่พักและการรักษาของสหายท่านกันดีกว่า...คุณชายเย่"
คำพูดของนางดึงสติของเย่เฟิงให้กลับคืนมา เขามองไปยังสตรีที่น่าสะพรึงกลัวเบื้องหน้า...เขารู้ตัวดีว่าตนเองได้กระโจนลงไปในกระดานหมากที่ใหญ่และซับซ้อนเกินไปเสียแล้ว
เขาหนีจากรังหมาป่า...แต่กลับต้องมาอยู่ในถ้ำพญาเสือโดยไม่รู้ตัว
(จบตอนที่ 30)