หลินกู๋หยู่เดินช้าๆ ไปยังด้านหน้าแม่หมอซาด้วยสายตาเ็า ขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยถามอย่างสงสัย "ทำไมเ้าถึงทำกับข้าเช่นนี้?"
แม่หมอซารีบก้าวถอยหลัง
ผู้คนรอบข้างเห็นรูปลักษณ์ของหลินกู๋หยู่ดังนั้น ชายฉกรรจ์สองคนจึงรีบเดินไปที่ด้านข้างแม่หมอซา ยื่นมือออกไปปกป้องให้แม่หมอซาอยู่ด้านหลัง มองไปที่หลินกู๋หยู่ด้วยความระมัดระวังอย่างเต็มที่
เมื่อเห็นท่าทีของคนเ่าั้ หลินกู๋หยู่ก็รู้สึกตลก
“ข้าไม่้าต่อสู้กับเ้า พวกเ้าหลีกไปให้พ้น” ฉือหางกล่าว หันกายเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของฉือซู่
รู้ทั้งรู้ว่าเป็พี่น้องจากท้องเดียวกัน แต่ทำไมเวลานี้พวกเขาถึงกลายเป็เช่นนี้ไปได้
ฉือเทาเป็นักฉกฉวยโอกาส เขาเฝ้าดูฉือหางป้องกันการโจมตีของฉือซู่ ลอบไปข้างหลังฉือหางพลางเงื้อท่อนไม้ในมือขึ้น
หลินกู๋หยู่มองไปที่ฉือเทาด้วยความตื่นตระหนก รีบวิ่งไปข้างหลังฉือหาง พลันผลักเขาไปด้านข้าง
ไหล่ขวาปวดแสบปวดร้อนคล้ายกระดูกเคลื่อนผิดที่
ใบหน้าของหลินกู๋หยู่ซีดลงในทันที นางใช้มือซ้ายปัดป้องไหล่ของนาง กัดริมฝีปากแน่นมองคนตรงหน้าด้วยใบหน้าไม่สู้ดีนัก
"เกิดอะไรขึ้น?” ฉือหางเดินโซเซ พยายามที่จะทำให้ร่างกายของเขาทรงตัวอย่างมั่นคง เดินไปยังด้านหน้าหลินกู๋หยู่อย่างรวดเร็วด้วยความตื่นตระหนก ะโใส่ฉือเทาโดยตรง "พี่รอง พี่ทำกับข้าอย่างโหดร้ายเช่นนี้เชียวหรือ?"
ฉือเทาได้ยินเสียงของฉือหางและทิ้งไม้ในมือโดยไม่รู้ตัว
เขาไม่ได้ตั้งใจ เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้กำลังมากขนาดนั้น
หยดน้ำเย็นๆ ผุดขึ้นที่หน้าผากของหลินกู๋หยู่ นางไม่สามารถแม้แต่จะหุบปากได้ ริมฝีปากของนางสั่นเทา มือซ้ายแตะที่ไหล่ข้างขวา แม้เป็เพียงการเคลื่อนไหวธรรมดาเท่านั้น แต่กระนั้นนางก็อดไม่ได้ที่จะเปล่งเสียง "ซี้ด" เนื่องจากความเ็ป
เมื่อเห็นหลินกู๋หยู่เช่นนี้ ฉือหางก็อดไม่ได้ที่จะก่นด่าอย่างถมึงทึง "เ้ามันโง่ ข้าโดนทุบก็ไม่เป็ไร แต่ใครขอให้เ้ามาที่นี่?"
การแสดงออกบนใบหน้าของหลินกู๋หยู่ชะงักงัน หันศีรษะไปมองที่ฉือหางโดยไม่ได้พูดแม้แต่คำเดียว พลันเชื่อมต่อกระดูกของตนเอง
“ไม่เป็ไร” หลินกู๋หยู่พูด เสียงของนางสั่นในเวลาเดียวกัน “แค่กระดูกเคลื่อนผิดที่”
“ใครสั่งให้เ้าพรวดเข้ามาโดยไม่กลัวตายเช่นนี้ ถ้าเ้าตายจะทำอย่างไร?” ฉือหางพูดพร้อมกับโอบกอดหลินกู๋หยู่ไว้ในอ้อมแขนของเขา
เขาไม่เคยพูดถ้อยคำรุนแรงกับนาง
แปลกนัก อ้อมกอดของเขาอบอุ่นอย่างอธิบายไม่ได้
“คราวหน้าเ้าอย่าทำเช่นนี้อีก” เสียงของเขาสั่นเครือ
“ข้ายังมีบางอย่างจะต้องจัดการ” หลินกู๋หยู่นิ่งอยู่ในอ้อมแขนของฉือหางอย่างเงียบๆ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นหลังจากเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง
"เ้าจะทำอะไร?” ฉือหางรู้สึกว่าหลินกู๋หยู่สงบลงอย่างน่ากลัว
หลินกู๋หยู่หายใจเข้าลึกๆ
"ข้าแค่อยากจะถามสองสามคำ" หลินกู๋หยู่ก็พูดอย่างใจเย็น
หลินกู๋หยู่ออกจากอ้อมกอดของฉือหาง แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นเดินไปด้านหน้าแม่หมอซา
แม่หมอซามองหลินกู๋หยู่เช่นนี้
“ข้าอยากรู้ว่าเ้าเคยเห็นจิ้งจอกหรือไม่?” หลินกู๋หยู่ถามอย่างสงบ เมื่อเห็นว่ามีชายร่างใหญ่สองคนคอยคุ้มกันแม่หมอซาให้อยู่ด้านหลัง
ร่างกายของแม่หมอซาสั่นเทิ้มอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น
“จิ้งจอกคืออะไร เ้ารู้หรือไม่?” หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เหลือบมองผู้คนรอบด้าน พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เ้าคิดว่าจิ้งจอกจะปล่อยให้พวกเ้ามัดตัวและเผาหรือไม่?”
เมื่อฟังคำพูดของหลินกู๋หยู่ แม่หมอซาก็พูดอย่างตะกุกตะกัก "เห็นๆ อยู่ว่าเ้าเป็จิ้งจอกจริงๆ แต่เ้าจงใจแกล้งทำเช่นนี้"
หลินกู๋หยู่กวาดมองโจวซื่อและฟางซื่อด้วยแววตานิ่งสงบ จากนั้นมองไปที่แม่หมอซา "วันนี้ข้าจะฟ้องร้องท่านแม่สามีของข้า พี่สะใภ้รองของข้า และแม่หมอซา"
น้ำเสียงของนางมั่นคงอย่างมาก ไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง ไม่ถ่อมตัวจนดูต่ำต้อย ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่อาจปฏิเสธได้
"เราจะไม่จบเื่นี้แน่” หลินกู๋หยู่มองแม่หมอซาอย่างเ็า ความเกลียดชังในดวงตาของนางไม่สามารถชัดเจนได้มากกว่านี้
เมื่อเห็นท่าทีของหลินกู๋หยู่ แม่หมอซาก็อดไม่ได้ที่จะคุกเข่าลงกับพื้น
"ข้าขอร้อง ท่านจิ้งจอกะผู้ยิ่งใหญ่ ได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วย"
หญิงชราในวัยเจ็ดสิบหรือแปดสิบคุกเข่าลงบนพื้นและร้องขอความเมตตาจากหลินกู๋หยู่
ทุกคนมองไปที่ด้านนี้และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
หลินกู๋หยู่จ้องมองอย่างไม่แยแสมากขึ้น เปลือกตาของนางค่อยๆ ปรือลง จากนั้นก็พูดว่า "ขอร้องข้า ช่างน่าขันนัก ตอนที่ข้ากำลังจะตาย ข้าขอร้องพวกเ้า แต่พวกเ้าคนไหนบ้างที่ปล่อยข้า?"
“ถ้าไม่ใช่เพราะสามีของข้า ข้าก็คงถูกพวกเ้าฆ่าตายไปแล้ว” หลินกู๋หยู่กล่าวพร้อมกับเย้ยหยัน “เ้าอย่าคิดว่าเ้าอายุมากแล้วข้าจะเชื่อฟังเ้า”
ชายร่างใหญ่สองคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าแม่หมอซาเป็ญาติของแม่หมอซา เมื่อเห็นท่าทางหยิ่งยโสของหลินกู๋หยู่ พวกเขาก็ทนไม่ได้หลายส่วน
ชายร่างใหญ่ทั้งสองชำเลืองมองกันและกัน ก่อนพุ่งไปหาหลินกู๋หยู่
โดยไม่รอให้หลินกู๋หยู่เคลื่อนไหว ฉือหางเข้าไปอย่างรวดเร็ว ชกสองคนจนกระเด็นไปด้านข้าง
ชายร่างใหญ่สองคนลงไปนอนกองกับพื้น
เมื่อเห็นสีหน้าโกรธถมึงทึงของหลินกู๋หยู่ ฉือหางก็รู้สึกไม่สบายใจหลายส่วน
จะฟ้องท่านแม่สามี
หากฟ้องโจวซื่อ สิ่งที่ฉือหางกังวลไม่ใช่โจวซื่อ หากแต่เป็หลินกู๋หยู่
ในแคว้นที่ให้ความสำคัญกับ "ความกตัญญู" แนวทางปฏิบัติของหลินกู๋หยู่จะต้องถูกต่อต้านอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นหลินกู๋หยู่เช่นนี้ ฉือหางก็ขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาย่ำแย่
แม่หมอซามองดูคนสองคนที่นอนอยู่บนพื้นอย่างประหวั่นพรั่นพรึง น้ำเสียงของนางสั่นเครือ "ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเ้าจริงๆ"
"ถ้าเช่นนั้นเ้าก็จงใจทำ” หลินกู๋หยู่มองแม่หมอซาอย่างเฉยเมย เดินช้าๆ ไปยังด้านหน้าแม่หมอซาและย่อตัวลงเล็กน้อย
เมื่อเผชิญหน้ากับหลินกู๋หยู่ สีหน้าของแม่หมอซาก็ยิ่งหวาดหวั่น นางอดไม่ได้ที่จะกล่าวถ้อยคำขอโทษ
"พูดมา ใครขอให้เ้าบอกว่าข้าเป็จิ้งจอก?” หลินกู๋หยู่มองไปที่รูปลักษณ์ของแม่หมอซาก่อนจะเอ่ยเสียงเบา "แน่นอนว่า เ้าสามารถเลือกที่จะไม่บอกได้ เช่นนั้นข้าจะเข้าเมืองและยื่นเื่ร้องเรียนเดี๋ยวนี้"
แม่หมอซามองไปที่หลินกู๋หยู่อย่างละล้าละลัง นางคาดเดาไม่ได้ว่าหลินกู๋หยู่กำลังพูดความจริงหรือโกหก
“เ้าอาจจะคิดว่าข้าไม่กล้าฟ้อง ถ้าข้าฟ้องท่านแม่ของข้า นั่นจะเป็การอกตัญญู” หลินกู๋หยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มบาง หันศีรษะมองไปที่โจวซื่อที่อยู่ข้างๆ "แต่แล้วอย่างไรหรือ?"
ก่อนที่แม่หมอซาจะทันได้ตอบโต้ หลินกู๋หยู่ก็พูดต่อว่า "เมื่อสองสามวันก่อน ข้าช่วยขุนนางในเมืองใกล้เคียง และครอบครัวของพวกเขารู้สึกขอบคุณข้าอย่างมาก ถ้าข้าแค่้าร้องเรียน พวกเขาย่อมต้องช่วยข้า"
หลังจากได้ยินสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูด แม่หมอซาก็กลัวมากจนขาอ่อนแรง ร่างของนางทรุดตัวลงนั่งบนพื้น หลังจากนั้นไม่นานพื้นรอบตัวนางก็เปียกโชก
เมื่อเห็นแม่หมอซาเช่นนี้ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากและจมูก
"เ้าจะพูดหรือไม่พูด?” หลินกู๋หยู่พูดพลาง มองแม่หมอซาอย่างเฉยเมย "อ้อ ข้าลืมบอกเ้า เมื่อสองวันก่อน ข้าไปหาท่านอาจารย์ในเมือง นางบอกว่าโชคชะตาชีวิตของข้าจะได้เป็คนร่ำรวยมั่งคั่งมีบุญมีวาสนา”
แม่หมอซาเบิกตากว้าง หยดน้ำไหลพรูออกจากดวงตาทั้งสองอย่างควบคุมไม่ได้ ร่ำไห้พลางะโ "เป็ฟางซื่อ นางบอกว่าถ้าข้าบอกว่าเ้าเป็จิ้งจอก นางจะมอบเงินให้ข้าสิบตำลึง"
"อ้อ” หลินกู๋หยู่เงยหน้าขึ้นมองฟางซื่อ "แล้วอย่างไรอีก?"
แม่หมอซานอนคว่ำอยู่บนพื้น ร้องไห้อย่างขมขื่น "ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ ทั้งหมดเป็ความผิดของข้า ทั้งหมดเป็ความผิดของข้า!"
สายตาของทุกคนที่มองหลินกู๋หยู่แปรเปลี่ยนไป ความรู้สึกผิดผุดขึ้นมาในจิตใจ ยกเว้นกลุ่มคนที่เชื่อในหลินกู๋หยู่ในตอนแรก
ฟางซื่อ
อันที่จริงนางก็พอจะคาดเดาได้
แต่สิ่งที่หลินกู๋หยู่ไม่เคยเข้าใจก็คือ ทำไมฟางซื่อถึงต้องพุ่งเป้ามาที่นาง
หรือเป็เพราะนางเปิดเผยความจริงที่ว่าฟางซื่อไม่ได้ตั้งครรภ์?
ไหล่ของนางมีอาการปวดตุบๆ จึงยกมือซ้ายขึ้นมาปิดไหล่
"ท่านแม่!" โต้ซาดิ้นออกจากอ้อมแขนของโจวซื่อ วิ่งไปหาหลินกู๋หยู่อย่างรวดเร็วด้วยขาสั้นๆ ใบหน้าเล็กๆ ของเด็กน้อยกำลังร้องไห้ เขากอดต้นขาของหลินกู๋หยู่ ร้องไห้และะโเรียก "ท่านแม่!"
หลินกู๋หยู่ก้มลงอุ้มโต้ซาขึ้นมา เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของโต้ซาอย่างระมัดระวัง
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของโต้ซา หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้ว เอ่ยปลอบโยนเบาๆ ว่า "ไม่เป็ไร ไม่ต้องร้องไห้"
“เ้าอย่าไป เรามีเื่ต้องชี้แจงให้กระจ่าง” หลินกู๋หยู่ช่วยโต้ซาเช็ดใบหน้าและพูดอย่างเฉยเมยในเวลาเดียวกัน
โต้ซามองไปที่หลินกู๋หยู่ด้วยดวงตาสีแดงจากการร้องไห้
หลินกู๋หยู่หันศีรษะไปมองฟางซื่อที่ยืนอยู่ด้านข้าง ลุกขึ้นและเดินไปหาฟางซื่อ "พี่สะใภ้รอง เราต้องสะสางเื่ระหว่างเราใช่หรือไม่?"
ฟางซื่อก้มศีรษะลงเล็กน้อย จับแขนเสื้อด้วยมือทั้งสองข้าง ใบหน้าของนางเหนียมอายระคนกระอักกระอ่วนเล็กน้อย นางฝืนยิ้มเอาใจ "น้องสะใภ้สาม เ้ากำลังพูดถึงเื่อะไร ระหว่างเราสองคนจะมีอะไรให้ต้องสะสางหรือ?"
หลินกู๋หยู่ไม่้าต่อว่าโจวซื่อจริงๆ เพราะไม่ว่าอย่างไรโจวซื่อก็เป็มารดาผู้ให้กำเนิดของฉือหาง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านางจะไว้ชีวิตฟางซื่อ
“ไม่มีหรือ?” หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่า “เพราะข้าบอกว่าเ้าไม่ได้ตั้งครรภ์ใช่หรือไม่?”
ฉับพลันใบหน้าของฟางซื่อออกอาการกระอักกระอ่วนเล็กน้อย มุมริมฝีปากของนางโค้งงอผิดธรรมชาติ "น้องสะใภ้สาม เป็ไปได้อย่างไร ไม่มีอะไรเลย"
“ทำไมเ้าถึงบอกแม่หมอซาว่าข้าเป็จิ้งจอก” หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย หรี่ตามองหน้าฟางซื่ออย่างชาญฉลาด ไม่ให้โอกาสนางหนี
“เ้ากำลังพูดอยู่กับใคร?” โจวซื่อมองไปที่ท่าทีของหลินกู๋หยู่อย่างโกรธเคือง
สกุลฉือ นางโจวซื่อเป็คนตัดสินในทุกเื่ ตอนนี้หลินกู๋หยู่เก่งกาจมีอำนาจมาก เพียงคำพูดสองสามคำ แม่หมอซาก็ฉี่ราดพูดความจริงออกมาแล้ว และตอนนี้นางกำลังข่มขู่สะใภ้รอองจนต้องหวั่นเกรง
หลินกู๋หยู่คิดว่านางเป็ใคร ผู้คนมากมายกำลังเฝ้าดูอยู่ นางไม่รู้จักควบคุมตัวเองเลยแม้แต่น้อย
“ข้าเกือบลืมไปแล้ว” หลินกู๋หยู่มองโจวซื่อด้วยรอยยิ้มบาง คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเอ่ยขึ้น “แน่นอนว่ากำลังพูดกับคนที่ใส่ความว่าข้าเป็จิ้งจอก ท่านแม่ ท่านเองก็มีส่วนอย่างมากเช่นกัน”
ฉือหางเดินไปหาหลินกู๋หยู่ แล้วยื่นมือออกไปจับมือของหลินกู๋หยู่ไว้แน่น
หลินกู๋หยู่หันศีรษะมองไปที่ฉือหาง คิ้วขมวดเผยความดิ้นรนแวบหนึ่ง "พี่สะใภ้รอง ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ถึง้าฆ่าข้า? หรือเป็เพราะพี่มีความลับอะไรที่ไม่อาจเปิดเผย แต่ข้าดันรู้เสียก่อน?"