มีเสียงฝีเท้าเดินอย่างเร่งรีบดังขึ้นจากด้านนอก ต่อมามีคนะโเสียงดัง “รีบล้อมตำหนักเว่ยยางเอาไว้ อย่าให้คนร้ายหนีไปได้เด็ดขาด!”
เสียงหัวเราะดังขึ้นแล้วหยุดลง หัวใจขององค์หญิงหลานซินสะดุด นางกำกระบี่ในมือแน่นเตรียมจะฝ่าวงล้อมออกไป
ทันใดนั้น เท้าของนางเหมือนจะพันกัน ราวกับนางเมาสุรา เวียนศีรษะ แขนขาทั้งสี่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
เสียง เคร้งงง ดังขึ้น กระบี่ยาวในมือของนางหลุดออกจากมือร่วงลงบนพื้น!
นี่นางเป็อะไรไป
หรือนางต้องพิษ
แต่จะเป็ไปได้อย่างไรกัน
ถูกต้องแล้ว ดอกไม้เ่าั้ที่อยู่ในลานเรือน...จะต้องเป็ดอกไม้เ่าั้ที่มีปัญหา!
สมควรตาย! ไฉนนางจึงได้เลินเล่อเช่นนี้ นางตกหลุมพรางของฮองเฮาเสียแล้ว
น่าเสียดายที่นางได้สติและรู้สึกตัวสายเกินไป เสียงองครักษ์กลุ่มใหญ่เข้ามายังด้านนอกตำหนัก ล้อมรอบนางเอาไว้ทุกด้านในชั่วพริบตา!
องค์หญิงหลานซินไม่เคยรู้สึกสิ้นหนทางเช่นนี้มาก่อน นางคิดจะหนี แต่กระทั่งเรี่ยวแรงจะกุมกระบี่นางก็ยังไม่มี ร่างกายของนางอ่อนปวกเปียกราวกับดินเหนียวก็ไม่ปาน
มีเสียงที่นางไม่ปรารถนาที่จะได้ยินที่สุดดังขึ้น “ค่ำมืดดึกดื่นเช่นนี้ เ้าลากอายเจียมาตำหนักของเ้าทำอันใดกัน”
เป็ไทเฮา!
องค์หญิงหลานซินมือเย็นเฉียบ นางลนลานอย่างที่สุด
อีกเสียงหนึ่งกล่าวว่า “เสด็จแม่ ลูกทุ่มเทความพยายามฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ ในที่สุดก็ตามหาแมวเทพสองหางตัวหนึ่งมาได้ อยากให้ท่านได้มาดูสักหน่อย! เอ๊ะ? พวกเ้ามาล้อมที่นี่ไว้เพื่ออะไรกัน”
เป็ฮองเฮา!
องค์หญิงหลานซินตัวสั่นสะท้าน ยิ่งลนลานขึ้นอีก
องรักษ์ตอบว่า “ทูลฮองเฮา มีคนสวมชุดดำบุกเข้ามาในตำหนักเว่ยยางยามวิกาล กระหม่อมและคนอื่นๆ ได้ล้อมที่นี่เอาไว้แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
เสียงเมื่อสักครู่ร้องขึ้นด้วยความใ “แย่แล้ว แมวเทพของข้า!”
เสียงเดินยิ่งเข้ามาใกล้ เฟิ่งเฉี่ยนเดินเข้ามาในตำหนักบรรทมท่ามกลางสายตาลนลานขององค์หญิงหลานซิน
เฟิ่งเฉี่ยนจ้องคนในชุดดำขณะเดินเข้าไปทีละก้าวๆ
มุมปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย ทุกอย่างเป็ไปตามที่นางวางแผนเอาไว้!
องค์หญิงหลานซินหลบตา นางััได้เลยว่าเฟิ่งเฉี่ยนจำนางได้ และนางแน่ใจเหลือเกินว่าทุกอย่างล้วนเป็แผนการของเฟิ่งเฉี่ยน!
ยังไม่รอให้เฟิ่งเฉี่ยนเอ่ยปาก ไทเฮาก็รีบเดินเข้ามาโดยไม่แม้แต่จะหันไปมองคนชุดดำ นางเดินเข้าไปในห้อง “แมวเทพเล่า แมวเทพยังอยู่หรือไม่”
ในสายตาของไทเฮา ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าแมวเทพที่นำมารักษาโรคของนางอีกแล้ว
นางเห็นแมวเทพนอนน้ำลายฟูมปากอยู่ในกรงบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว ร่างของนางโอนเอนลงไปคล้ายกำลังจะหมดสติ
“ไทเฮา ระวังเพคะ!”
หลิวหมัวมัวประคองนางเอาไว้ได้ทัน
เมื่อไทเฮาตั้งสติได้ ก็หันกลับมามองคนชุดดำด้วยสายตาโกรธขึ้ง “เ้าเป็ใครกันแน่ เหตุใดต้องวางยาพิษแมวเทพจนตาย”
องค์หญิหลานซินก้มหน้า หลบสายตา
ไทเฮามีโทสะราวกับเปลวไฟลุกท่วม ไม่แม้จะไต่สวนอะไรอีก ไทเฮาสั่งการทันที “เด็กๆ นำตัวผู้บุกรุกคนนี้ไปตัดหัว!”
เพราะแมวเทพตัวหนึ่ง ไม่มีการตรวจสอบหรือไต่สวนใดๆ ทั้งสิ้น สั่งปะาทันที!
เฟิ่งเฉี่ยนแค่นหัวเราะเสียงเย็นในใจ คนในราชวงศ์ล้วนเืเย็น
องค์หญิงหลานซินได้ยินแล้วร้อนใจทันที นางไม่อาจไม่ส่งเสียง “ไทเฮา อย่าเพคะ!”
ตุบ!
นางคุกเข่าลงบนพื้น
ไทเฮาได้ยินเสียงอันคุ้นเคย หัวใจพลันกระตุก “เ้า เ้าคือ...”
“ไทเฮา เป็...เป็หม่อมฉันเพคะ!” องค์หญิงหลานซินดึงผ้าปิดหน้าลงอย่างมิเต็มใจ นางมองไทเฮาด้วยสายตาอ้อนวอน
ไทเฮาก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวอย่างตกตะลึง นางไม่อยากเชื่อ “หลาน หลานซิน ไฉนจึงเป็เ้า”
นางชี้นิ้วที่สั่นระริกนั้นไปที่แมวเทพ “หากพูดเช่นนี้ แมวเทพตัวนั้นก็เป็เ้า...เป็เ้าวางยาพิษมันจนตายหรือ เหตุใดเ้าจึงทำเช่นนี้ หรือเ้าไม่รู้ว่าแมวเทพนั้นนำมาใช้เป็ยารักษาโรคของอายเจีย”
ทำให้แมวเทพตายเท่ากับคร่าชีวิตอีกครึ่งหนึ่งของไทเฮาไปด้วย ต่อให้มารดาขององค์หญิงหลานซินและนางจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่สามัญ นางก็ไม่อาจให้อภัยและตามใจนางอย่างในอดีตได้อีกแล้ว!
ไม่ว่าผู้ใดต่างรักชีวิตของตนเองทั้งสิ้น หากเป็เื่ที่เป็อันตรายต่อชีวิตของตนเอง นั่นย่อมถือเป็เื่ใหญ่!
ดังนั้น เฟิ่งเฉี่ยนจึงเชิญไทเฮามาที่นี่ ให้นางได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงขององค์หญิงหลานซินด้วยตาของตนเอง
องค์หญิงหลานซินก้มหน้าด้วยความละอายแก่ใจ นางคิดจะแก้ต่างให้ตัวเอง “ไทเฮา พระองค์ฟังหม่อมฉันอธิบาย...”
ไทเฮาโบกมือตัดบท “เ้าไม่ต้องพูดแล้ว! เ้าทำให้อายเจียผิดหวังจริงๆ!”
องค์หญิงหลานซินนั่งแปะลงกับพื้นอย่างสิ้นหวัง
เฟิ่งเฉี่ยนมองนางด้วยแววตาเย็นเยียบ ไร้ซึ่งความเห็นอกเห็นใจ เมื่อแรกที่องค์หญิงหลานซินวางแผนเพื่อบีบให้นางไปจากวังหลวง ตอนนี้นางตามหา “แมวเทพ” มาได้อย่างมิง่ายดาย อีกฝ่ายยังคงใช้ร้อยพันวิธีเพื่อวางยาพิษแมวเทพจนตาย ที่นางทำเช่นนี้ก็เป็เพียงการตอบโต้อย่างตาต่อตา ฟันต่อฟัน เท่านั้น!
“เสด็จแม่ พระองค์ยังจำได้หรือไม่เพคะว่าแมวเทพสามหางตัวนั้นตายอย่างไร” เฟิ่งเฉี่ยนเดินเข้าไปหยิบกรงขึ้นแล้วเดินกลับมา นางชี้ไปที่กรงและกล่าวว่า “มันก็ถูกวางยาพิษตายเช่นกันเพคะ อีกทั้งหากดูจากลักษณะการตายและกลิ่นของแมวเทพตัวนี้บอกได้ว่าพวกมันล้วนตายเพราะพิษชนิดเดียวกัน พิษชนิดนี้ชื่อว่า เถาวัลย์แดงเก้าหัว! ตามที่ 《ตำราพิษ》ได้บันทึกเอาไว้ เถาวัลย์พิษชนิดนี้มักจะขึ้นตามพื้นที่ที่มีอุณหภูมิร้อนชื้นตลอดทั้งปี และมักจะพบเห็นเสมอในป่าของแคว้นหนานเยียนเพคะ!”
นางเพียงชี้ความเกี่ยวข้อง ไทเฮาเป็คนฉลาด ฟังมาถึงตรงนี้นางย่อมจะกระจ่างแจ้งว่าผู้ใดที่เป็คนวางยาพิษแมวเทพจนตาย
ไทเฮาโกรธมาก นางเอามือกุมหน้าอก มององค์หญิงหลานซินด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ “นี่เป็ความจริงหรือ แมวเทพสามหางก็เป็เ้าที่ทำร้ายจนตาย หลานซิน เหตุใดเ้าจึงทำเยี่ยงนี้”
องค์หญิงหลานซินสั่นสะท้านไปทั้งตัว นางคิดจะปฏิเสธ “ไทเฮา หม่อมฉันไม่ได้ทำเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ทำจริงๆ พระองค์อย่าได้เชื่อคำพูดของฮองเฮา!”
เฟิ่งเฉี่ยนแค่นหัวเราะเสียงเย็น “ทำหรือไม่ได้ทำ ค้นตัวก็รู้แล้ว! ข้าเดาว่ายาพิษนั้นต้องอยู่บนตัวนางแน่นอน!”
ไทเฮาออกคำสั่ง “เด็กๆ ค้นตัว!”
องค์หญิงหลานซินสิ้นหวังอย่างแท้จริง ได้แต่ปล่อยให้หลิวหมัวมัวค้นตัวนางจนพบขวดกระเบื้องสีแดงขวดหนึ่ง
หลิวหมัวมัวประคองไว้ด้วยมือทั้งคู่ “ไทเฮา พระองค์ทอดพระเนตรเพคะ!”
ไทเฮามิยื่นมือออกไปรับ มองขวดกระเบื้องใบนั้นด้วยสายตารังเกียจอย่างที่สุด “หลานซิน ตอนนี้หลักฐานมัดตัวแ่า เ้ายังมีอะไรจะแก้ตัวอีก อายเจียคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเ้าจะเป็คนใจคอเหี้ยมโหดเช่นนี้! เด็กๆ ควบคุมตัวองค์หญิงหลานซินกลับไปตำหนักยีหลัน ไม่มีคำสั่งของอายเจีย ไม่อนุญาตให้นางก้าวออกมาจากตำหนักยีหลันแม้เพียงครึ่งก้าว!”
“ไทเฮา! ไทเฮาเพคะ!” องค์หญิงหลานซินโถกายเข้ามากอดขาทั้งคู่ของไทเฮา ไทเฮากลับหันหน้าหนีอย่างเ็า ปล่อยให้องครักษ์เข้ามาลากตัวองค์หญิงหลานซินออกไปจากตำหนักเว่ยยาง
เฟิ่งเฉี่ยนมองทุกอย่างอยู่ในสายตา ในใจได้แต่ปลง ต่อให้เห็นคนใกล้ชิดที่สุด ทันทีที่มีอันตรายต่อชีวิต การตัดขาดก็เป็เื่ง่าย นี่ก็คืุ์!
แต่นางคิดไม่ถึงว่า นางคาดเดาได้เพียงครึ่งแรก ทว่ากลับมิได้คาดเดาตอนจบ
ไทเฮาละเลื่อนสายตามาบนร่างของนาง “ฮองเฮา เ้ารู้หรือไม่ว่ามีความผิดอันใด”
เฟิ่งเฉี่ยนงงงัน “เสด็จแม่ หม่อมฉันมีความผิดอันใดเพคะ”
ไทเฮาแค่นหัวเราะเสียงเย็น “อย่าคิดว่าอายเจียโง่เขลา! เื่ในคืนนี้ล้วนเป็เ้าที่วางแผนไว้ล่วงหน้ากระมัง”
ดวงตาของเฟิ่งเฉี่ยนไหววูบ ได้ยินไทเฮาพูดอีกว่า “นับั้แ่เช่อเอ๋อร์ขึ้นครองราชย์มา ยังไม่เคยเรียกตัวสนมและชายาคนใดเข้าถวายงาน เหตุใดคืนนี้จึงพลิกป้ายของเ้าอย่างกะทันหัน เ้าอย่าได้บอกอายเจียว่าเป็เพราะเช่อเอ๋อร์หวั่นไหวต่อเ้า ดังนั้นจึงให้เ้ามาปรนนิบัติ! เื่เหลวไหลเช่นนี้ อายเจียไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียว!”
เฟิ่งเฉี่ยนแอบใ ดูท่าแล้วนางประเมินไทเฮาต่ำไป
“อายเจียไม่รู้ว่าเ้าและเช่อเอ๋อร์ทำข้อตกลงอะไรกันไว้ แต่เื่การถวายงานในค่ำคืนนี้ รวมไปถึงเกี้ยวหงส์ ล้วนเป็การทำเพื่อยั่วโทสะองค์หญิงหลานซิน ล่อนางให้มาวางยาพิษแมวเทพ ให้นางเดินเข้ามาตกหลุมพรางที่เ้าได้วางเอาไว้ ถูกต้องหรือไม่”
ไทเฮาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดอีกว่า “เ้าเองก็ไม่ได้เชิญอายเจียมาดูแมวเทพด้วยความจริงใจ เ้า้าให้อายเจียมาเห็นว่าใครเป็ฆาตรกรที่ทำร้ายแมวเทพด้วยตาตนเองเท่านั้น!”