ก่อนหน้านี้อวี๋เจียวไม่ได้คิดมากจนหลงลืมถึงสภาพแวดล้อมในยามนี้สตรีแซ่ซ่งมีนิสัยยอมรับความลำบากโดยไม่ขัดขืน หวาดกลัวฮูหยินเฒ่ายิ่งนักตนสร้างปัญหาให้นางโดยไม่ตั้งใจ ทำให้อวี๋เจียวค่อนข้างรู้สึกผิด เอ่ยปลอบสตรีแซ่ซ่งด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า“ข้าเป็คนเอาไข่ไก่ออกมา ท่านไม่ต้องกังวลไปข้าจะรับมือกับทางฝั่งท่านย่าเองเ้าค่ะ”
สตรีแซ่ซ่งเห็นอวี๋เจียวคิดจะรับเื่นี้ไว้เองจึงรีบเอ่ยว่า“เด็กโง่ เ้าเป็คนครอบครัวรองของเรา เป็เพราะก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้บอกเ้าเอาไว้หากอีกประเดี๋ยวท่านย่าของเ้าโมโห เ้าก็อย่าได้ส่งเสียง ข้าจะพูดกับนางดีๆ เอง”
อวี๋เจียวยกยิ้มบาง ภายในใจรู้สึกถึงความอบอุ่นถึงแม้สตรีแซ่ซ่งจะเป็คนอ่อนแอ แต่นางยังคงปกป้องตนถือว่าครอบครัวรองของสกุลอวี๋ไม่เลวเลยจริงๆ
คนทั้งสองยกกับข้าวที่ทำเสร็จเรียบร้อยไปยังห้องโถงสตรีแซ่ซ่งจงใจให้อวี๋เจียวยกข้าวไปให้อวี๋เมิ่งซานแล้วเรียกอวี๋ฉี่เจ๋อกับอวี๋ฝูหลิงมากินข้าวหลังจากไล่อวี๋เจียวออกไปแล้วนางไปห้องฝั่งตะวันออกเพื่อเชิญท่านผู้เฒ่าและฮูหยินเฒ่าออกมากินข้าว
อวี๋หรูไห่นั่งลงหน้าโต๊ะอาหาร จมูกออกแรงสูดดมหนวดเคราใต้คางกระตุกเล็กน้อย เอ่ยอย่างอารมณ์ค่อนข้างปลอดโปร่งว่า“กับข้าววันนี้หอมมากจริงๆ ”
“ท่านพ่อ ในเรือนของพวกเรามีไข่ไก่อยู่ไม่น้อยข้าจึง...เอามาทำกับข้าวไม่กี่ฟองเ้าค่ะ” สตรีแซ่ซ่งอธิบายอย่างใจฝ่อยิ่งนักนางรู้ว่าฮูหยินเฒ่าไม่พอใจอวี๋เจียวสตรีแซ่ซ่งจึงไม่กล้าบอกว่าเป็กับข้าวที่อวี๋เจียวทำ
สตรีแซ่อวี๋โจวเปลี่ยนสีหน้าทันทีที่ได้ยินคำกล่าวของสตรีแซ่ซ่งนางเดินมาหน้าโต๊ะอาหารภายในสองสามก้าว เมื่อเห็นกุยช่ายผัดไข่สีเหลืองทองนอกจากนั้นในถ้วยยังมีมะเขือเทศผัดไข่ ใบหน้าชราพลันบึ้งตึงตามด้วยตวัดดวงตาดุดันจ้องไปทางสตรีแซ่ซ่ง
“รนหาที่ตายหรืออย่างไร! เ้ามันสะใภ้ปากตะกละหลานรองกับหลานสี่ร่ำเรียนวิชาในสำนักศึกษาอย่างเหนื่อยยาก ไม่ได้กินดีนอนดี!ครอบครัวรอง เ้าคิดอะไรอยู่? ยากนักกว่าภายในจวนจะมีของดีเช่นนี้ข้ากำชับนักกำชับหนาว่าจะต้องเก็บไข่เหล่านี้ไว้ให้หลานรองกับหลานสี่บำรุงร่างกายยามกลับมาพักผ่อนจากสำนักศึกษาเ้ามันน่ารังเกียจนัก นึกไม่ถึงว่าจะฉวยโอกาสยามพวกเขาไม่อยู่เอาออกมากิน!”
สองสามีภรรยาครอบครัวสามตามมาหลังได้ยินเสียงครั้นสตรีแซ่จ้าวได้ยินคำกล่าวของฮูหยินเฒ่าจึงเหลือบมองแล้วพบว่ามีไข่ไก่ทุกถ้วยบะหมี่ไข่แบ่งเป็สัดส่วนสำหรับทุกคน ทันใดนั้นเกิดเป็ความโมโหจนหายใจติดขัดหากเป็เมื่อก่อน มีเพียงครอบครัวสามผู้เฒ่าและฮูหยินเฒ่าเท่านั้นที่จะได้กินไข่ไก่ในจวนนึกไม่ถึงว่ายามนี้สตรีแซ่ซ่งกลับฉวยโอกาสเอาไข่ไก่ในจวนมาทำกับข้าวในยามที่จิ่นซูกับจิ่นเหยียนไม่อยู่ไม่เพียงแต่ทำบะหมี่ ยังจงใจเอาไข่ไก่มาผัดผักเห็นได้ชัดว่าการทำเช่นนี้เป็การต่อต้านครอบครัวสามของพวกนางไม่เพียงแต่ตัวหายนะที่รู้วิชาหมอเช่นเมิ่งอวี๋เจียวเท่านั้นคาดไม่ถึงว่ายามนี้กระทั่งครอบครัวรองก็ยังไม่เห็นครอบครัวสามอยู่ในสายตาต่อไปในภายหน้าจะเป็เช่นไร?
สตรีแซ่ซ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ชัดเจน “ท่านแม่ข้า...ข้าไม่ได้ตะกละ พวกเราไม่ได้กินของดีมานานแล้วอีกทั้งไข่ไก่ยังมีอยู่ไม่น้อย ข้าถึงได้เอาออกมาปรุงอาหารไม่กี่ฟองเ้าค่ะ ภายในเข่งยังเหลืออีกไม่น้อยเพียงพอให้หลานรองกับหลานสี่กินตอนกลับมาจากสำนักศึกษาเ้าค่ะ”
“เพียงพอให้พวกเขากิน? พี่สะใภ้รอง ตอนนี้เ้ารู้จักพูดจาซี้ซั้วเสียแล้วจวนของพวกเราเก็บไข่ได้แค่วันละสี่ถึงห้าฟอง รอกระทั่งอากาศเย็นไก่ก็จะไม่ค่อยออกไข่แล้ว จิ่นซูกับจิ่นเหยียนอยู่ในวัยบำรุงร่างกายร่ำเรียนอย่างเหนื่อยยากถึงเพียงนั้น ไข่ไก่แค่นี้จะไปพอกินอะไรกัน? พี่สะใภ้รองช่างไม่รู้จักสงสารหลานทั้งสองจริงๆหรือว่าอยากให้พวกเขาเป็เหมือนกับหลานห้าเพราะร่ำเรียนอย่างเหนื่อยยากถึงได้ทำให้ร่างกายทรุดโทรม?” สตรีแซ่จ้าวเอ่ยวาจาเย้ยหยันด้วยน้ำเสียงเ็า
ประโยคสุดท้ายนั้นทิ่มแทงส่วนลึกในหัวใจของสตรีแซ่ซ่งร่างกายของอวี๋ฉี่เจ๋อทรุดโทรมอย่างถึงที่สุดเพราะต้องลงสอบสามสนามติดต่อกันในปีนั้นยามสตรีแซ่ซ่งหวนนึกกลับไปมักทุบอกและน้ำตาไหลรินอยู่บ่อยครั้งจอหงวนสามสนามอะไรกัน ขุนนางจอหงวนอะไรกันนางแค่้าให้บุตรชายของนางร่างกายแข็งแรงและใช้ชีวิตต่อไปให้ดีเท่านั้น
หลังจากอวี๋เจียวเรียกอวี๋ฉี่เจ๋อกับอวี๋ฝูหลิงนางยังไปเรียกสองสามีภรรยาครอบครัวใหญ่มากินข้าวด้วยอวี๋เฉียวซานจดจ่ออยู่กับขาเทียม เขาตัดท่อนไม้ใหญ่ท่อนหนึ่งตามภาพแม่แบบของอวี๋เจียวและลงมือทำจนพอจะเห็นเค้าโครงโดยประมาณแล้วจึงดึงอวี๋เจียวมาในลานเรือนเพื่อหารือเื่ปัญหาตรงจุดเชื่อมขาเทียมขณะคนทั้งสองกำลังพูดคุยกันอวี๋เจียวได้ยินน้ำเสียงดุดันของฮูหยินเฒ่าดังมาจากในห้องโถงสีหน้าพลันเปลี่ยนไปทันใด นางหยุดบทสนทนากับอวี๋เฉียวซานแล้วรีบหันหลังเดินเข้าไปในห้องโถง
ยังไม่ทันเข้าไปถึงห้องโถงก็ได้ยินวาจาร้ายกาจของสตรีแซ่จ้าวในขณะที่ฝีปากของสตรีแซ่ซ่งโง่เขลาจนไม่รู้ว่าจะเอ่ยสิ่งใดออกไปอวี๋เจียวเดินตรงไปอยู่เบื้องหน้าของนาง เอ่ยเสียงดังว่า“ข้าเป็คนทำกับข้าวของวันนี้ ไข่ไก่ข้าก็เป็คนเอาออกมาใช้ก็แค่กินไข่ไก่เท่านั้น พวกท่านต้องทำถึงขั้นนี้เชียวหรือ? อวี๋จิ่นซูกับอวี๋จิ่นเหยียนกินได้ คนอื่นๆในสกุลอวี๋จะกินไม่ได้เชียวหรือ?”