แม้จะเป็เช่นนี้ ร้านรับแลกตั๋วเงินในยุคนี้ก็ยังเป็ตัวเลือกแรกที่คนรวยและนักธุรกิจเลือก
อย่างไรการเก็บเงินไว้ที่เรือน ก็ไม่มีผู้ใดกล้ารับประกันว่าจะไม่เกิดเื่ ดังนั้นการเก็บไว้ในร้านรับแลกตั๋วเงินที่เชื่อถือได้ แค่จ่ายเงินเล็กน้อย แต่รักษาเงินได้ ถือเป็ตัวเลือกที่ไม่เลว
ตอนที่เ้าของร้านจินเอาเงินออกมา ไม่ได้ส่งไปที่มือของเฉินจื่อิ แต่มองพวกเขาแล้วหัวเราะ “คุณชายพูดเอาไว้ว่า เที่ยงวันนี้เขาจะรอพวกท่านที่เยว่เค่อ จากคำพูดของคุณชายห้าแล้ว ดูเหมือนว่า แม่นางท่านนี้จะยังติดหนี้เขาอยู่นะ”
เ้าของร้านจินพูดจบ ทุกคนก็ยังดึงสติกลับมาไม่ได้
กวนซูเยวียนมองไปทางหลานสาวของตนเองด้วยความตึงเครียด นางกังวลว่าหลานสาวไปติดหนี้อะไรกับโจวอ้าวเสวียนอีก หากยังไม่จัดการให้เรียบร้อย เช่นนั้นคงจะมีปัญหาแล้ว
เฉินจื่อิกลับขมวดคิ้วครุ่นคิดถึงการเจอกันครั้งก่อนอย่างจริงจัง คิดไปคิดมา ดูเหมือนว่าก็ไม่ได้ติดหนี้อะไร
เฉินเนี้ยนหรานได้ยินประโยคนี้ก็หน้าแดง มือที่อยู่ในแขนเสื้อกว้างมีเหงื่อออก โจวอ้าวเสวียนคนนี้ ยังจำเื่การแข่งขันครั้งที่แล้วของพวกนางได้อยู่หรือ
ครั้งที่แล้วจบลงอย่างไรนะ? ดูเหมือนว่าตนเองต้องไปเป็สาวใช้รินชา แต่วันนั้นชงชาไปแค่ถ้วยเดียว เพราะโจวอ้าวเสวียนมีธุระต้องไปทำ ต่อมาเื่นั้นก็ไม่ได้ทำต่อแล้ว
ตอนนั้นนางยังนึกดีใจ โชคดีที่คุณชายห้างานยุ่ง ไม่เช่นนั้นนางยังไม่แน่ใจว่าจะเป็สาวใช้อย่างไร ในตอนนี้เื่ก็ผ่านมานานมากแล้ว คนเฮงซวยคนนั้นยังจำเื่นี้ได้อีก
“อะแฮ่ม คุณชายห้าของพวกเราบอกว่า หากแม่นางไม่ไป เขาจะเอาเงินในครั้งนี้ไปครึ่งหนึ่ง แม่นางมาใช้หนี้เมื่อใด ตอนนั้นเขาจะเอาเงินคืนให้กับแม่นางขอรับ”
กวนซูเยวียนได้ยินก็ร้อง ไอ๊หยา มารดาเอ๊ย หลานสาวนางไปติดหนี้อะไรคุณชายห้ากัน ถึงจำเป็ต้องหักเงินไปครึ่งหนึ่ง นั่นมันหนึ่งพันกว่าตำลึงเชียวนะ หนึ่งพันกว่า! กวนซูเยวียนคิดแล้วก็เจ็บใจ
เฉินเนี้ยนหรานมองตั๋วเงินในมือด้วยความโกรธ อยากจะเข้าไปแย่งตั๋วเงินนั้นมาก
แต่ดูเหมือนเ้าของร้านจะฉลาดมาก เขาหัวเราะพร้อมสะบัดตั๋วเงินในมือ “นี่น่ะ...เป็ตั๋วเงินที่เขียนเอาไว้ครึ่งหนึ่งตามที่คุณชายบอก ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง จะเป็คุณชายห้าจ่ายให้พวกท่าน”
เฉินจื่อิกับกวนซูเยวียนมองเฉินเนี้ยนหรานด้วยความสงสารและเ็ป จนคนถูกมองอยากจะกระอักเื
บุรุษน่ารังเกียจ นางติดหนี้เขาจริงๆ จิติญญาชั่วร้ายไม่เปลี่ยนแล้วยังคิดให้นางมาเป็สาวใช้...
“ได้ ในเมื่อคุณชายห้ามีน้ำใจเช่นนี้ หากพวกเราไม่ไป เช่นนั้นก็เหมือนไม่ไว้หน้ากันเกินไป ฮ่าๆ ลำบากเ้าของร้านนำข้อความไปบอกคุณชายห้าสักหน่อยนะเ้าคะ บอกว่าท่านป้าที่รักของข้าชอบดื่มชาหลงจิ่งจากซีหู ท่านลุงของข้าชอบกินเนื้อห่านฟ้าที่บินอยู่บนท้องฟ้า ส่วนข้าชอบตีนหมีที่ดูแล้วโง่เขลา หากคุณชายห้ารังเกียจที่จะหาวัตถุดิบหายากเหล่านี้และไม่คู่ควรต่อความนิยมชมชอบของคุณชายห้า ก็สามารถส่งจดหมายมาที่โรงเตี๊ยมได้ พวกเราจะไม่รบกวนคุณชายห้าแล้ว ฮ่าๆ...”
กวนซูเยวียนแลบลิ้นออกมา แม่หนูหรานช่างกล้ายื่นเงื่อนไขเสียจริง เฉินจื่อิรีบพูดเสริม “ใช่ๆ เป็เช่นนั้น หากคุณชายหาวัตถุดิบอาหารพวกนี้ไม่ได้ เช่นนั้นก็จะไม่ขอรบกวนขอรับ”
เ้าของร้านจินแอบต่อว่าในใจ ์ นี่คือการเลี้ยงอาหารนะ! คุณชายห้า แขกของท่านน่าใยิ่งกว่าพวกวางมาดในเมืองหลวงเสียอีก แต่เื่ของคุณชายห้า ให้เขาจัดการเองก็พอ
“ใช่ ใช่ แม่นางพูดได้ถูกต้อง ข้าจะเอาเื่นี้ไปแจ้งกับเขา หากไม่มีคนส่งจดหมายไปที่โรงเตี๊ยม เช่นนั้นก็หมายความว่าจะต้องให้พวกท่านไปที่เยว่เค่อแล้ว”
เฉินเนี้ยนหรานพยักหน้า บอกลาเ้าของร้านจินแล้วออกจากร้านไป ระหว่างทางก็แอบสาปแช่งเ้าคนสมควรตายนั่น
พอออกจากร้านมา กวนซูเยวียนดึงนางมาคุยด้านข้างด้วยความกังวล “แม่หนู เ้าไปมีเื่อะไรกับคุณชายห้า ถึงมีค่าพอให้เขามาหักเงินเราหนึ่งพันกว่าตำลึงน่ะ” นางในตอนนี้ไม่มีความดีใจที่หาเงินได้เป็จำนวนมากแล้ว มีเพียงความกังวลเท่านั้น
เมื่อเห็นท่าทางเป็กังวลของท่านป้า เฉินเนี้ยนหรานจึงปลอบโยนนางด้วยความไม่พอใจ “ไม่มีอะไรหรอกเ้าค่ะ แค่คุณชายห้าเขาอารมณ์คึกคักมาก อีกทั้งเงินก็ไม่มีที่ให้ใช้ เขาจึงอยากเลี้ยงท่านด้วยชาหลงจิ่ง และเลี้ยงท่านลุงให้ได้ทานห่านฟ้า เป็คุณชายห้าที่อยากจะแสดงความเคารพต่อท่านป้าและท่านลุงทั้งสอง เื่ติดหนี้หรือ ฮ่าๆ...ข้าจำได้ว่าเขาติดหนี้ข้านะ เื่นั้น อีกเดี๋ยวพวกเราก็ไปทานข้าวกันเถิดเ้าค่ะ”
เห็นนางหัวเราะฮ่าๆ ตัดบท ไม่พูดว่าติดหนี้อย่างไร กวนซูเยวียนจึงทำได้แค่หันไปคุยกับเฉินจื่อิ
“เื่นั้นหรือ ข้าเองก็บอกไม่ค่อยถูก อย่างไร ขอแค่แม่หนูหรานพูดดีๆ ข้าว่าเงินนี้คงจะได้กลับมานั่นแหละนะ”
เมื่อหาข้อมูลไม่ได้ กวนซูเยวียนก็โมโหมาก นางยกมือขึ้นไปหยิกแขนเขา “เ้านี่ช่างไม่ได้เื่ ครั้งก่อนแม่หนูหรานก็อยู่กับพวกเ้าแต่เ้ากลับไม่รู้เื่ เ้าพูดสิว่า เหตุใดเ้าถึงได้เปลี่ยนเป็คนไม่ได้เื่เช่นนี้ หากข้าเผลอไปครู่เดียว แล้วแม่หนูถูกคุณชายห้าทำให้ลุ่มหลงเข้าจะทำเช่นไร ดูจากใบหน้าและการกระทำของคุณชายห้าน่ะ ไอ๊หยา มารดาเอ๊ย สตรีสามารถถูกหลอกได้ง่ายๆ เลยหนา” อีกทั้งสองคนนี้ยังเคยมีความสัมพันธ์กันมาก่อน พอคิดถึงเื่นี้ จากที่ไม่กังวล กวนซูเยวียนกลับเป็กังวลเสียแล้ว หลังจากที่นางรู้ว่าโจวอ้าวเสวียนจะต้องแต่งงาน จึงไม่อยากให้หลานสาวของตนเองไปมีความสัมพันธ์อะไรเกี่ยวข้องกับเขาอีก
“เจ็บนะ ภรรยา เ้าเห็นข้าเป็มนุษย์เหล็กไปแล้วจริงๆ หรืออย่างไร เบาหน่อย เบาหน่อย ยังมีคนมองอยู่นะ”
กวนซูเยวียนกวาดตามองไปรอบๆ มีคนเดินไปมาอยู่ไม่น้อยจริงๆ นางอยู่ติดกับสามีของตนก็หยิกในที่ลับ คนทั่วไปจะมองไม่ออก อย่างไรก็มีแขนเสื้อบังเอาไว้ แต่หากตั้งใจมองสักหน่อยก็ไม่ยากที่จะเห็น
เพื่อหน้าตาของสามี นางจึงร้องเหอะออกมา ถอยหลังไปอยู่กับเฉินเนี้ยนหราน
“แม่หนู เ้าจะต้องยึดมั่นในจุดยืนตัวเองให้ดีนะ ตอนนี้...เฮ้อ...เด็กน้อยในท้องของเ้า อย่าให้เขารู้เื่นี้เชียว หากปิดความลับไว้ไม่ได้ ชีวิตนี้ทั้งชีวิตของเ้าจะต้องจบลงแล้วแน่ๆ ” เื่ที่คุณชายมีเงินมักจะไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยด้านนอกมีอยู่เยอะแยะมากมาย กวนซูเยวียนไม่อยากให้เฉินเนี้ยนหรานเดินบนเส้นทางนี้ แม้โจวอ้าวเสวียนดูแล้วจะไม่เลว แต่สตรีที่ถูกเก็บเป็ภรรยาอยู่เงียบๆ นั้น ไม่ว่าจะตัวนางเอง หรือว่าลูกของพวกนาง สุดท้ายก็ไม่ได้แตกต่างกับการเป็ลูกอนุอยู่ดี
ในความคิดของกวนซูเยวียน แม่หนูหรานของนางมีค่ามากพอที่จะมีอนาคตที่ดี ไม่จำเป็ต้องขดตัวอยู่ในเรือนเล็กรอให้บุรุษมาเอาใจ
“ท่านป้า วันนี้พวกเราไปทานอาหารเหลากันสักมื้อ เขามีเงินแต่ไม่มีที่ใช้ ท่านทานอย่างวางใจเถิดเ้าค่ะ ส่วนข้านั้น ข้าก็ยังเป็ข้า ไม่มีทางเป็สตรีที่ทำให้ท่านเป็ห่วงเด็ดขาด เอาล่ะ พวกเราไปซื้อของกันเถิดเ้าค่ะ”
ไม่สนใจแล้ว เฉินเนี้ยนหรานจูงมือท่านป้าไปซื้อของ จู่ๆ ก็มีเงินเยอะเช่นนี้ จะอย่างไรก็ต้องดูแลคนในเรือนให้ดีเสียหน่อย
หนึ่งคนต่อผ้าฝ้ายหนึ่งพับ และชุดใหม่ที่จะสวมในวันปีใหม่ รวมถึงผ้าห่มผ้าฝ้าย และยังมีของอื่นๆ เมื่อคำนวณแล้ว ของที่ต้องซื้อก็มีไม่น้อยเลย
ดอกฝ้ายในอำเภอรวมถึงเนื้อผ้าอื่นๆ ถูกกว่าในเขตมากจริงๆ
ถึงแม้ร้านของกวนซูเยวียนเองจะขายผ้า แต่นางก็ยังอยากจะซื้อผ้าไปให้คนในเรือน เพียงเพราะผ้าในอำเภอมีหลากหลายชนิด
เมื่อซื้อกลับไปแล้ว หลายคนเห็นเข้าก็รู้ว่าในเขตนี้ไม่มีขาย
ส่วนเื่ขนกลับไป พวกนางไม่ได้กังวลกับเื่นี้ มีรถม้าอยู่ วางของพวกนี้ใส่รถม้าไปสองคนนั่งเบียดกันสักหน่อย เช่นนี้ของพวกนี้ก็สามารถนำกลับไปได้แล้ว
เมื่อหาเงินได้เร็ว ทั้งสองคนจึงใช้เงินกันได้อย่างไม่รู้สึกปวดใจ
โชคดีที่หลายร้านทำธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด ได้ยินพวกเขาบอกว่าให้ส่งไปที่โรงเตี๊ยมเยว่เค่อ ขอแค่จ่ายเงินมากหน่อย ทางร้านจะนำสินค้าไปส่งให้
เมื่อเป็เช่นนี้ ของในมือที่เฉินจื่อิถือจึงน้อยลงเล็กน้อย เดินจนถึงเวลาเที่ยง ทั้งสามคนถึงได้กลับไปที่โรงเตี๊ยม
พอกลับมาเฉินจื่อิก็รีบไปถามหาข้อความจากหน้าโต๊ะบริการ คนดูแลคิดอยู่นานก่อนจะส่ายหน้าบอกว่าไม่มี
เมื่อเป็เช่นนี้ อารมณ์เบิกบานของสองสามีภรรยากวนซูเยวียนตอนเดินซื้อของก็สงบลง กลับเป็เฉินเนี้ยนหรานที่เดาออกว่าโจวอ้าวเสวียนไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ จุดจบเช่นนี้นางกลับนิ่งมาก
กวนซูเยวียนเป็กังวลมาก แต่เมื่อเห็นว่าหลานสาวตนไม่ได้กังวลอะไร นางคิดแล้วก็ปล่อยวาง หันไปพูดกับเฉินจื่อิที่ทำหน้าบึ้ง “แม่หนูบอกว่าพวกเราควรกินก็กิน ควรจะทำอะไรก็ทำ ดังนั้นสามีเอ๋ย พวกเราไปทานข้าวแต่โดยดีเถิด ฮี่ๆ คิดไปแล้วก็จริงนะ คุณชายห้าเลี้ยงข้าว เื่นี้จะต้องมีหน้ามีตามากนะถึงจะมีได้น่ะ ยามพวกเราแก่แล้วก็สามารถพูดได้ว่า ตอนนั้นคุณชายห้าเคยเลี้ยงข้าวมาก่อนเลยนะ”
เมื่อเห็นภรรยาที่เมื่อครู่ยังทำหน้ากังวลอยู่ ตอนนี้กลับหัวเราะคิกคักมีความสุข เฉินจื่อิก็หมดคำพูด แต่อารมณ์คนเรามักจะแพร่ถึงกันได้ เมื่อถูกกวนซูเยวียนปลอบใจเช่นนี้ เขาก็ผ่อนคลายขึ้นมาไม่น้อย
“ฮ่าๆ ภรรยาเอ๋ย ข้าเองก็รอคอยมากเลยนะ ครั้งนี้คุณชายห้าจะเลี้ยงให้พวกเรากินตีนหมีจริงหรือ พวกเนื้อห่านฟ้าพวกนี้ และอะไรนะที่แม่หนูพูด ชาหลงจิ่งจากซีหู มันคืออะไรกัน?”
ให้อภัยเขาที่ปกติมักจะดื่มแค่ชาดอกเก๊กฮวยที่แม่หนูหรานเลือกให้เขา เขาเป็คนหยาบๆ ปกติแล้วมักจะทำงานยุ่งงกๆ จะมีเวลาว่างดื่มชาดีๆ ได้อย่างไร ชาหลงจิ่งจากซีหู ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน
“ไม่รู้ อีกเดี๋ยวเห็นแม่หนูหรานทำอย่างไร พวกเราเพียงทำตามแล้วกัน อย่างไรก็อย่าทำให้แม่หนูเสียหน้าเป็พอ” กวนซูเยวียนพูดกำชับเสียงเบา
เฉินเนี้ยนหรานที่เดินอยู่ตรงหน้าแอบส่ายหน้า สองสามีภรรยาอารมณ์ดีคู่นี้ หากในชีวิตมีพวกเขาทั้งคู่ วันเวลาผ่านไปคงจะรู้สึกดีไม่น้อย
โจวอ้าวเสวียนที่อยู่ในร้าน กำลังนั่งตัวตรงอยู่ที่เดิม
เ้าของร้านจินที่มากับเขาก็มองเขาอย่างพิจารณาอยู่ตลอด รู้สึกว่าคุณชายของตนยิ่งควบคุมความคิดของตนเองไม่ได้ขึ้นมากทุกที คุณชายที่ไม่ว่าจะดีใจหรือโกรธเคือง ก็มักจะไม่แสดงสีหน้าอะไร นี่เหมือนกับเด็กหนุ่มอายุแค่ไม่กี่สิบขวบเสียที่ใดกัน
เมื่อเห็นคุณชายห้ากวาดตามองไปทางประตูอีกครั้ง เ้าของร้านจินจึงเข้าไปใกล้อย่างไม่กลัวตาย “ให้ข้าไปเร่งไหมขอรับ?”
พัดในมือของโจวอ้าวเสวียนสะบัด เหล่ตามองไปทางเ้าของร้านจินโดยไม่ได้พูดอะไร
เมื่อไม่มีคำสั่ง เ้าของร้านจินก็ไม่กล้าทำอะไร ทำได้แค่นั่งลงที่เดิมแต่โดยดี
จนกระทั่งหน้าประตูปรากฏร่างพวกเฉินเนี้ยนหราน เ้าของร้านจินถอนหายใจ ในที่สุดแขกพวกนี้ก็มาถึงแล้ว คุณชายให้พ่อครัวเตรียมตีนหมี ห่านฟ้า ชาหลงจิ่งไว้จริงๆ ...ของพวกนี้ราคาแพงมากเชียวนะ โดยเฉพาะชาหลงจิ่ง แม้เขาจะไม่รู้จัก แต่ได้ยินคนด้านนอกพูดกันมา ถึงได้รู้ว่านี่คือชาขึ้นชื่อของเมืองหาง!