ขณะที่ทุกคนเดินออกไปหมดแล้ว ภายในห้องนั้นเหลือเพียงแค่กู่เทียนและกวงลี่เหมยเพียงสองคน บรรยากาศรอบตัวเงียบสงัด มีเพียงสายลมบางเบาที่พัดผ่าน
กู่เทียนนั่งอยู่ที่เดิม เขายิ้มเล็กน้อยคล้ายกับกำลังรอคอยบางสิ่ง ขณะที่กวงลี่เหมยที่ยังคงอยู่ในสภาพเขินอาย เธอขบริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นช้าๆ จากนั้นก็ทรุดตัวลงคุกเข่าโดยไม่ลังเล ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความจริงจัง
“ฉัน… ฉันจะขอสาบานด้วยเื ว่าจะภักดีต่อนายน้อยกู่ตลอดไป จนกว่าฉันจะตายไป”
แม้คำพูดของนางจะหนักแน่น แต่ใบหน้าของกวงลี่เหมยกลับแดงระเรื่อเล็กน้อยด้วยความรู้สึกบางอย่าง กู่เทียนไม่ได้มีสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไป
“ขอบคุณครับ คุณกวง”
ทันใดนั้น แสงสีทองก็พุ่งตรงไปที่หัวใจของกวงลี่เหมย แสงสว่างเจิดจ้าเป็สัญญาว่าพันธสัญญาถูกสร้างขึ้นแล้ว กวงลี่เหมยรับรู้ได้ถึงพลังบางอย่างที่ซึมลึกเข้าไปในร่างกายของตนเอง เธอหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวคำอำลาด้วยเสียงแ่เบา
“ลาก่อน ไอ้ตัวแสบ”
กู่เทียนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะโบกมือเบาๆ เป็เชิงบอกลา กวงลี่เหมยรีบลุกขึ้นและบินออกไปจากห้องทันที ราวกับ้าปกปิดความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นมา ใบหน้าของนางแดงก่ำไปหมดขณะที่เร่งความเร็วออกไป
ทันทีที่กวงลี่เหมยจากไป สีหน้าของกู่เทียนก็เปลี่ยนเป็จริงจังทันที ก่อนที่ร่างของเขาจะเลือนหายไปในความว่างเปล่า
1 วันผ่านไป
ภายในห้องทดลองลับของกู่เทียน บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด
ตอนนี้ภายในห้องมีเพียง กู่เทียน กู่โม่ เมิ่งชิง กวงเยว่ และกู่หลง ห้าคนที่รวมตัวกันอยู่ ขณะที่ทุกคนรอฟัง กู่เทียนก็เริ่มกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ตอนนี้ดูเหมือนว่าโลกใบนี้กำลังเร่งพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว พลังงานในโลกนี้เพิ่มขึ้นเป็สิบเท่าภายในเวลาเพียงไม่ถึงสองเดือน และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด”
ทุกคนฟังด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนที่กู่เทียนจะพูดต่อ
“จากการคาดการณ์ของผม เวลาที่เคยคำนวณไว้เดิมจากสองปี ตอนนี้เหลือเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น และถ้าเป็สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด อาจจะเป็ภายในอาทิตย์หน้าเลยก็ได้”
บรรยากาศภายในห้องเงียบลงทันที ความเคร่งเครียดปกคลุมทั่วห้อง เมิ่งชิงที่รับรู้ถึงว่าโลกกำลังจะเปลี่ยนไปก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“หลานคิดว่าพวกเราควรจะทำยังไงดี?”
กู่เทียนครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไป
“ตอนนี้ เราควรตั้งเมืองแห่งสายฝนเป็ฐานบัญชาการหลัก และอัปเกรดมันให้แข็งแกร่งขึ้น เราต้องสร้างหลุมหลบภัยและทางหนีเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด และเราต้องขยายเมืองออกไปให้กว้างขึ้น โดยงานนี้ผมจะให้คุณพ่อดูแลและผมจะช่วยด้วย”
กู่หลงพยักหน้าเข้าใจ สีหน้าของเขาจริงจังขึ้นขณะที่เขารับฟังคำสั่ง
กู่เทียนพูดต่อ
“ส่วนเื่วัตถุดิบ ผมจะให้คุณแม่ดูแลเหมือนเดิม และจะส่งคนเข้าไปเพิ่มเพื่อเร่งกำลังในการซื้อ รวมถึงขยายเครือข่ายของเราให้กว้างขึ้น นอกจากนี้ ผมอยากให้คุณแม่ควบคุม สัตว์ร้ายที่ไม่ได้ทำสัญญาที่มีระดับสูงๆ ให้อยู่ในกรงที่สามารถกักขังพวกมันได้ รวมถึงต้อง กำจัดพวกแมลงและมดภายในเมืองให้หมด”
ทุกคนหันมาสบตากันด้วยความเข้าใจ แมลงและมดอาจฟังดูไม่ใช่ภัยคุกคามที่น่ากลัว แต่เมื่อพลังิญญาของโลกเพิ่มขึ้น สัตว์เหล่านี้ก็สามารถวิวัฒนาการได้ และหากพวกมันวิวัฒนาการขึ้นมา มันจะเป็หายนะ เพราะจำนวนของพวกมันมหาศาลจนไม่สามารถควบคุมได้
กู่เทียนหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ
“ต่อมา ผม คุณปู่ และคุณย่า ตอนนี้คุณย่าฟื้นพลังขึ้นมาแล้ว และพวกเราทุกคนก็มีพลังระดับจักรพรรดิระดับสูงสุดกันหมดแล้ว ดังนั้น หน้าที่ของพวกเราคือ ออกเดินทางไปทั่วโลก ค้นหาคนที่มีความสามารถและอาณาจักรลับที่มีอยู่ทั้งหมด รวบรวมทรัพยากรทุกอย่างเท่าที่จะหาได้”
กู่เทียนกล่าวต่อ
“หากพวกเราพบ คนที่มีพร์และความสามารถสูง ก็ให้เชิญพวกเขาเข้ามาอยู่ที่เมืองแห่งสายฝนโดยทันที เมืองนี้จะกลายเป็ศูนย์กลางของผู้แข็งแกร่งในอนาคต และหากใครปฏิเสธ… ก็ไม่ต้องไปบังคับพวกเขา เราไม่้าคนที่เราควบคุมไม่ได้”
ทุกคนพยักหน้าเข้าใจ ทุกคนเริ่มมองเห็นภาพรวมของแผนการที่กู่เทียนกำลังวางไว้ พวกเขารู้ดีว่าความเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้น และมันไม่ใช่เื่เล็กน้อย
กู่หลงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะกล่าวขึ้น “ดูเหมือนว่าพวกเราจะมีงานให้ทำเยอะเลยสินะ…”
เมิ่งชิงมองไปที่หลานชายของตนด้วยความตกตะลึง ั้แ่ที่เธอได้รับการรักษาจากกวงเยว่ เธอก็ได้รับรู้เื่ราวมากมายเกี่ยวกับกู่เทียน ซึ่งเป็สิ่งที่เธอไม่เคยจินตนาการมาก่อน ไม่ว่าจะเป็ พร์ที่หาตัวจับยาก ความสามารถพิเศษ การวางแผนและบริหารจัดการ การควบคุมผู้คน รวมถึงความเด็ดขาดของเขา
สิ่งที่ทำให้เมิ่งชิงใที่สุดก็คือ สาร FU ที่สามารถยกระดับพร์ของเธอขึ้นไปอีกขั้น แม้ว่าเธอจะมีพร์ระดับ SSS อยู่แล้วก็ตาม แต่เมื่อได้รับสาร FU ความสามารถของเธอก็พัฒนาไปจนถึงจุดที่เธอเองยังไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่า พร์ของตัวเองนั้นสูงส่งมากพอแล้ว แต่กู่เทียนกลับมอบสิ่งที่เหนือกว่านั้นมากให้เธอ เมิ่งชิงรู้สึกว่าเธอไม่อาจนำกู่เทียนไปเปรียบเทียบกับใครได้เลย เพราะการทำเช่นนั้นจะเป็การดูถูกหลานชายของเธอเสียเปล่า
กู่โม่ที่เงียบมาตลอดเอ่ยถามขึ้น
“แล้วอาณาจักรลับระดับจักรพรรดิที่หลานจะไปก่อนหน้านี้ล่ะ ยังจะไปอยู่ไหม?”
กู่เทียนส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นคง
“ผมเคยเห็นสัตว์ร้ายที่มีพลังเหนือกว่าระดับจักรพรรดิมาแล้ว และตอนนี้โลกกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ผมจะไม่เสี่ยงโดยไม่จำเป็ อาณาจักรลับระดับจักรพรรดิไม่ได้สำคัญขนาดนั้นเมื่อเทียบกับสิ่งที่เรากำลังเผชิญหน้า”
ทุกคนเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ต่างเข้าใจถึงเหตุผลของกู่เทียนเป็อย่างดี จากนั้นเขาก็ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขึ้น
“เอาล่ะครับ อาทิตย์นี้ทุกคนคงต้องทำงานหนักหน่อย แต่ขอให้พยายามสุดความสามารถนะครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างยิ้มออกมา แม้จะเป็งานหนัก แต่นี่คือสิ่งที่พวกเขายินดีจะทำเพื่ออนาคตของตระกูล พวกเขายื่นมือออกมาและวางซ้อนกันเป็สัญลักษณ์ของความสามัคคี ก่อนจะเปล่งเสียงออกมาพร้อมกัน
“ตระกูลกู่!”
หลังจากนั้น ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง แต่ในใจของพวกเขาล้วนมีความคิดเดียวกัน
“เมื่อกี้ฉันทำอะไรลงไปวะ... โคตรอายเลย”
ขณะนั้นเอง กู่เทียนก็เริ่มติดต่อไปยังกองกำลังทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา เพื่อแจ้งแผนการที่เปลี่ยนไป ก่อนจะมอบหมายหน้าที่ใหม่ให้แก่แต่ละฝ่าย
ตระกูลเมิ่ง ได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลือกู่หลงในการสร้างและขยายเมือง พวกเขายังมีหน้าที่สำรวจและส่งคนไปหาอาณาจักรลับต่างๆ เพื่อนำข้อมูลกลับมาให้กู่เทียน กู่โม่ และเมิ่งชิง
หอการค้านกยูง ได้รับคำสั่งให้ใช้อำนาจทางการเงินของตนเองเพื่อกว้านซื้อวัตถุดิบทุกชนิด อย่างบ้าคลั่ง พร้อมส่งทรัพยากรทั้งหมดไปยังเมืองแห่งสายฝนเพื่อกักตุนและป้องกันภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น
หลินหยุนเทียน ย้ายมาอยู่ที่เมืองแห่งสายฝนอย่างถาวร และกลายเป็อาจารย์ของมหาวิทยาลัยเป็ที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้เขาได้รับหน้าที่จากกู่เทียนในการตามหาผู้ที่มีพร์เช่นเดียวกับกู่เทียน
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียงแค่พวกเขาที่กำลังเคลื่อนไหว ตระกูลจักรพรรดิและตระกูลศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เองก็รู้ถึงสิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน พวกเขาต่างเริ่มขยับตัว อย่างรวดเร็ว เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้
าแห่งการสับเปลี่ยนอำนาจที่แท้จริง... กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!