ตอนนี้เยว่เฟิงเกอพูดมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ก็ต้องดูว่าม่อหลิงหานคิดเห็นเป็อย่างไร
เยว่เฟิงเกอและชายชาวเฟิงหลันต่างพากันส่งสายตาไปทางม่อหลิงหาน
ม่อหลิงหานเองก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น กล่าวว่า “พระชายาพูดถูกแล้ว ตอนนี้ฝ่าาทรงมีดำริเกี่ยวกับแผนการนี้อย่างชัดเจนแล้ว ตอนนี้แค่ต้องรอให้ค่อยเป็ค่อยไปทีละขั้น”
จิตใจของชายชาวเฟิงหลันพลันสว่างไสวขึ้นมา
ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจเป็อย่างยิ่งแล้วที่ตอนกลางวันหุนหันคิดลอบสังหารม่อหลิงหาน หากตอนนั้นเขาทำสำเร็จ เกรงว่าม่อหลิงหานคงไม่อาจไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ได้ และไม่สามารถนำความคิดนี้ของตนไปบอกต่อฮ่องเต้ได้
ถึงตอนนั้น ถึงแม้แคว้นเป่ยชวนจะขาดจั้นอ๋องไปคนหนึ่ง แต่าย่อมจะไม่สิ้นสุดลงเพราะเหตุนี้ กลับกันจะยิ่งเป็การทำให้ฮ่องเต้แห่งเป่ยชวนพิโรธจนก่อเกิดเป็าสู้รบกับเฟิงหลันที่หนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม
“เื่ในวันนี้ ล้วนเป็เพราะกระหม่อมที่มุทะลุเกินไป กระหม่อมต้องขออภัยท่านทั้งสอง หวังว่าจั้นอ๋องจะไม่ทรงถือโทษโกรธเคือง” ชายชาวเฟิงหลันพูดขณะกำลังจะคุกเข่าลงไปอีกครั้ง
เยว่เฟิงเกอทนมองต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ชายคนนี้เอะอะก็เอาแต่จะคุกเข่า ทั้งที่คนต่างก็กล่าวกันว่าเข่าของบุรุษมีค่าดั่งทองคำ ต่อให้เขาจะทำผิดจริงๆ ก็ไม่ควรจะคุกเข่าให้ใครง่ายๆ
เยว่เฟิงเกอจ้องไปทางม่อหลิงหาน ก็เห็นคนขึ้นหน้าไปหนึ่งก้าวแล้วใช้มือข้างหนึ่งวางไว้บนไหล่ของชายชาวเฟิงหลัน ทำให้ขาที่กำลังจะทรุดลงไปของเขาถึงกับแข็งค้าง
ม่อหลิงหานกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เปิ่นหวางถือว่าเ้าทำผิดครั้งแรก อีกทั้งการกระทำนี้ของเ้ายังเป็ไปเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้คนในแคว้นของตน ดังนั้น เปิ่นหวางจะไม่สืบสาวราวเื่อีกต่อไป และจะปล่อยเ้ากลับไปในวันนี้ เ้าจงรีบกลับไปที่แคว้นเฟิงหลันของเ้า กลับไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวของเ้า”
ม่อหลิงหานพูดพลางส่งสายตาให้เฉียวเฟย
เฉียวเฟยรีบเดินเข้ามาปลดตรวนที่ข้อมือของเขาออก
ชายชาวเฟิงหลันขอบคุณเยว่เฟิงเกอและม่อหลิงหานครั้งแล้วครั้งเล่าอีกครั้ง ก่อนจะถูกเฉียวเฟยนำตัวออกไปจากจวนอ๋อง
เมื่อชายคนนั้นจากไปแล้ว ม่อหลิงหานก็หมุนกายเดินก้าวยาวๆ ออกไปจากคุกใต้ดิน
ครั้งนี้เขาไม่ได้จับมือเยว่เฟิงเกออีก ดูท่าทางเหมือนจะยังโกรธนางอยู่
เยว่เฟิงเกอรีบร้อนตามออกไปเอาอกเอาใจม่อหลิงหาน และเพื่อให้ภารกิจนี้สำเร็จโดยไว เยว่เฟิงเกอก็ทำเป็หัวเราะเริงร่า จับชายเสื้อม่อหลิงหานไว้
“ท่านอ๋อง อย่าทรงโกรธหม่อมฉันอีกเลยจะได้หรือไม่เพคะ? ” เยว่เฟิงเกอพูดพลางออกแรงเขย่าชายเสื้อม่อหลิงหาน นางออดอ้อน เล่นหูเล่นตา
ม่อหลิงหานกระชากเสื้อตนกลับโดยแรงพร้อมมุ่งหน้าเดินออกไปด้วยสีหน้าเ็า ไม่มองเยว่เฟิงเกออีก
เยว่เฟิงเกอก่นด่าม่อหลิงหานในใจว่าเป็ก้อนน้ำแข็งบ้า แต่ฉากหน้ากลับยังคงเสแสร้งทำเป็หัวเราะเริงร่า
นางรีบเร่งฝีเท้าตามไป จับมือม่อหลิงหานไว้
ทันทีที่มือเย็นเฉียบััมือม่อหลิงหาน เขาก็ชะงักฝีเท้าไปเล็กน้อย จากนั้นจึงหันกลับไปมอง และเห็นว่าเยว่เฟิงเกอยังแย้มยิ้มเริงร่า ไม่มีท่าทีสำนึกผิดแม้แต่น้อย
ม่อหลิงหานแค่นเสียงเ็า กำลังคิดจะดึงมือกลับ แต่กลับถูกเยว่เฟิงเกอจับไว้แน่นยิ่งกว่าเดิม
นี่เป็ครั้งแรกที่เยว่เฟิงเกอจับมือเขาก่อน ถึงแม้ใบหน้าของม่อหลิงหานจะยังคงความเ็าเช่นเดิม แต่ในใจเขากลับสั่นไหวน้อยๆ
“ท่านอ๋อง อย่าทรงพิโรธอีกเลยเพคะ” เยว่เฟิงเกอออดอ้อนม่อหลิงหานอีกครั้ง
แม้จะเป็เช่นนี้ แต่ม่อหลิงหานกลับไม่มีทีท่าจะอ่อนลงเพราะการออดอ้อนของเยว่เฟิงเกอ กระนั้นครั้งนี้เขาก็หาได้ดึงมือกลับอีก
เยว่เฟิงเกอเห็นว่าม่อหลิงหานไม่ดึงมือกลับ นางก็ยิ่งพยายามออดอ้อนมากขึ้น “ท่านอ๋องคนดี ท่านดูสิ วันนี้หม่อมฉันช่วยพูดแทนท่านต่อหน้าชาวเฟิงหลันคนนั้นด้วย ท่านก็ควรจะหายโกรธได้แล้วไม่ใช่หรือ? โกรธมากๆ เช่นนี้ไม่ดีต่อสุขภาพนะเพคะ หากท่านโกรธจนเสียสุขภาพ หม่อมฉันคงต้องปวดใจเป็แน่”
“อ้อ พระชายาจะปวดใจ? พระชายาไม่ได้บอกว่าระหว่างเราไร้ความรู้สึกต่อกันหรือ เช่นนั้นพระชายาจะมาปวดใจสงสารเปิ่นหวางได้อย่างไร? ” ม่อหลิงหานไม่ได้โง่สักหน่อย เขาไม่เชื่อหรอกว่าเยว่เฟิงเกอจะปวดใจสงสารเขาจริงๆ
“พูดมาเถอะ ที่เ้าทำเช่นนี้ มีเป้าหมายอะไรกันแน่? ” ม่อหลิงหานหมุนตัวไป สายตาที่ใช้มองเยว่เฟิงเกอแฝงแววตรวจสอบ
เมื่อครู่ยามอยู่ในคุกใต้ดิน เยว่เฟิงเกอพูดยกผลงานตนมาให้เขาทั้งหมด โดยที่ตัวเองไม่รับประโยชน์ไปแม้แต่น้อย นี่หาใช่นิสัยของนาง
แม้จะมีอยู่่เวลาสั้นๆ เพียง่หนึ่งที่ม่อหลิงหานรู้สึกว่าต้องมองเยว่เฟิงเกอใหม่ แต่ท่าทางออดอ้อนผิดธรรมดาในตอนนี้ของเยว่เฟิงเกอ ทำให้ม่อหลิงหานเริ่มสงสัยในตัวนางอีกครั้ง
ในใจของม่อหลิงหานได้มองเยว่เฟิงเกอในยามนี้กับองค์หญิงแคว้นเสวี่ยอวี้เป็คนละคนกันไปแล้ว
ในเมื่อคนตรงหน้าไม่ใช่องค์หญิงแคว้นเสวี่ยอวี้ เช่นนั้นการที่นางแต่งเข้าจวนอ๋องมาจะต้องเป็เพราะมีเป้าหมายอะไรบางอย่างแน่?
ด้วยเื่นี้ ทำให้ม่อหลิงหานคิดหนักมาตลอด
ในตอนนี้เองเยว่เฟิงเกอคิดไม่ถึงว่าม่อหลิงหานจะมองออกอย่างทะลุปรุโปร่งรวดเร็วเพียงนี้ นางยิ้มเยาะชั่วร้าย กล่าวว่า “แหม ท่านอ๋องตรัสอะไรออกมาเพคะ หม่อมฉันมีเป้าหมายอะไรที่ไหนกัน หม่อมฉันแค่ไม่อยากให้พระองค์กริ้วอีก แล้วก็ชมเชยหม่อมฉันสักเล็กน้อยก็เท่านั้น”
เมื่อม่อหลิงหานฟังมาถึงตอนสุดท้าย สายตาพลันส่องประกายนึกสนุก
“อ้อ? ” ม่อหลิงหานลากหางเสียงยาว “พระชายาอยากให้เปิ่นหวางเอ่ยชมอะไรเ้าอย่างนั้นหรือ? ”
เยว่เฟิงเกอยิ้มเริงร่ามองม่อหลิงหานที่คล้ายจะคลายความโกรธลงครึ่งหนึ่งแล้ว ถึงได้กล่าวขึ้นว่า “หม่อมฉันอยากให้ท่านอ๋องชมว่า หม่อมฉันเป็พระชายาที่ขยันขันแข็งและมีความสามารถ”
ม่อหลิงหานฟังถึงตรงนี้ก็เกือบจะกลั้นหัวเราะไม่ไหว
ตอนอยู่ในคุกใต้ดิน สตรีตัวน้อยนางนี้พยายามสร้างผลงานให้เขาเต็มที่ ที่แท้ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เขาชมนางว่าเป็พระชายาที่ขยันขันแข็งและมีความสามารถ
“เช่นนั้นคงต้องทำให้พระชายาผิดหวังแล้ว เปิ่นหวางเป็คนเ้าคิดเ้าแค้น คำพูดเ่าั้ของพระชายาที่ทำร้ายจิตใจเปิ่นหวาง จนถึงตอนนี้เปิ่นหวางก็ยังจดจำได้อยู่ ดังนั้น พระชายาเลิกหวังให้เปิ่นหวางออกปากชมเ้าไปได้เลย” ม่อหลิงหานพูดจบก็ดึงมือตนออกจากการเกาะกุมของเยว่เฟิงเกอ เดินก้าวยาวๆ จากไป
เยว่เฟิงเกอมองเงาหลังที่จากไปของม่อหลิงหาน โกรธจนอดยื่นหมัดกวัดแกว่งไปทางเขาไม่ได้
“ม่อหลิงหาน ฝากไว้ก่อนเถอะ ข้าจะทำให้ท่านเอ่ยปากชมข้าให้ได้”
แน่นอนว่าคำพูดของเยว่เฟิงเกอนี้ ม่อหลิงหานได้ยินทุกคำไม่มีตกหล่น มุมปากเขาโค้งขึ้นน้อยๆ
เยว่เฟิงเกอกลับไปที่เรือนเยว่เหยาด้วยความกรุ่นโกรธ ช่างเป็การออดอ้อนม่อหลิงหานที่นับว่าล้มเหลวที่สุด ม่อหลิงหานไม่สนใจนางสักนิด
“ดูท่าข้าคงต้องลองหาวิธีอื่นแล้ว ไม่เช่นนั้นภารกิจนี้คงไม่มีทางสำเร็จแน่” เยว่เฟิงเกอพาดตัวไปบนเตียง นางเล่นโทรศัพท์ขณะที่ปากยังคงพึมพำอยู่คนเดียว
นางเปิดแอปไป่ตู้ [1] ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำให้บุรุษพึงใจ
บางคนว่า: “อยากจะเอาอกเอาใจอีกฝ่าย อันดับแรกต้องรู้ก่อนว่าเขาชอบอะไรแล้วค่อยลงมือ”
บ้างก็ว่า: “มันคือการยกยอปอปั้นไม่ใช่เหรอ พูดจาน่าฟังให้เยอะๆ สักหน่อย ชมเชยเขาว่ากล้าหาญและเก่งกาจ ไม่มีทางเสียหรอกที่เขาจะไม่หวั่นไหว”
เยว่เฟิงเกออ่านอยู่นานก็ยังไม่เจอคำตอบที่ตนพอใจ
นางปิดโทรศัพท์ เหม่อมองม่านเหนือศีรษะอย่างใจลอย
นางรู้ คำพูดของนางที่ห้องอาหารคงจะทำให้ม่อหลิงหานโกรธเข้าแล้วจริงๆ เขาถึงได้โกรธมาจนตอนนี้อย่างไม่มีทีท่าว่าจะยอมอภัยให้นาง
หากนางขอโทษม่อหลิงหาน เขาก็จะไม่โกรธแล้ว หรือเปล่านะ?
ทว่า คำพูดของนางก็ไม่ผิด แรกเริ่มเดิมทีพวกเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดต่อกัน ท่าทางสามีภรรยารักใคร่ลึกซึ้งที่เขาแสดงออกมาเ่าั้ไม่ใช่ว่าแสดงให้คนอื่นดูหรอกหรือ
“เฮ้อ ไม่คิดแล้ว น่ารำคาญจริงๆ ” เยว่เฟิงเกอยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด นางลุกขึ้นนั่งทันที ก่อนจะตัดสินใจไปรับลมในสวน
————————————————————————————————
เชิงอรรถ
[1] ไป่ตู้(百度)คือ เสิร์ชเอนจินชื่อดังของจีน