บันทึกลับองครักษ์เสื้อแพร (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    ข้ารับใช้ชุดเขียวสีหน้าเปลี่ยนไป สายตาดูเย็นเฉียบ มือข้างหนึ่งพลิกกลับมาจับข้อมือของหยางหนิงไว้

      หยางหนิงยิ้มแห้ง เขากับข้ารับใช้ชุดเขียวต่างจับข้อมือของกันและกันเอาไว้ อีกมือหนึ่งกำหมัดไว้แน่น แล้วชกไปที่ข้ารับใช้ชุดเขียว

      ใครจะคิดว่าข้ารับใช้ชุดเขียวจะปฏิกิริยาไว เขาถอยหลัง แล้วหลบหมัดของหยางหนิง หยางหนิงกำลังจะไปจับหน้าของเขา ก็รู้สึกเจ็บที่ฝ่ามือ เหมือนกับถูกเข็มแทง ในใจคิดว่าแย่แล้ว พริบตาเดียว ข้ารับใช้ชุดเขียวก็อ้อมตัวมาอยู่ด้านหลังของหยางหนิงแล้ว

      หยางหนิงคิดไม่ถึงว่าคนๆ นี้จะมีวรยุทธ์ดีขนาดนี้ กำลังคิดจะเตะอ้อมด้านหลัง รู้สึกเหมือนกับว่าเห็นแสงอะไรปรากฏขึ้น มันคือเส้นลวดบางๆ ที่รัดคอของเขาอยู่

      ท่ามกลางไฟสลัว มือขวาของหยางหนิงจับที่ลูกกระเดือก มืออีกข้างก็ศอกเข้าไปที่หน้าท้องของอีกฝ่ายอย่างแรง

       ถึงแม้จะเป็๞แค่เสี้ยวเวลาหนึ่ง แต่หยางหนิงก็รู้ว่า ข้ารับใช้ชุดเขียวนี่ถูกฝึกมาอย่างดี การเคลื่อนไหวของเขาว่องไวเฉียบขาด ลงมือแต่ละครั้งกะเอาถึงตาย เป็๞มืออาชีพมาก หยางหนิงเป็๞นักต่อสู้แต่เกิด วิธีที่เขาใช้ หยางหนิงคุ้นเคยดี

      ไม่มีเวลาให้หยางหนิงได้คิดนานนัก อีกฝ่ายใช้มีดล็อคพาดไปที่คอของหยางหนิง หยางหนิงใช้มือหนึ่งจับไปที่มีดที่อยู่ที่คอ ทำให้คอไม่ถูกปาด แต่มือกลับถูกเส้นลวดบาดจนเ๣ื๵๪ออก ยิ่งกว่านั้นคอของหยางหนิงยังถูกรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หายใจลำบาก

      ถึงแม้หยางหนิงจะใช้ศอกกระแทกไปที่เอวของอีกฝ่ายอย่างแรง แต่คนๆ นั้นแข็งแกร่งมาก แค่ร้องเบาๆ แล้วก็ใช้เข่าขวาดันเอวของหยางหนิงไว้ มือสองข้างดันมีดในมือ แรงทั้งหมดส่งไปที่มือทั้งสองข้าง คิดอยากจะให้มันรัดคอหยางหนิงให้ตาย

      หยางหนิงรู้สึกว่าหายใจได้ลำบาก แน่นหน้าอก ลวดค่อยๆ บาดลึกเข้ามาในมือของเขา

      สายตาของข้ารับใช้ชุดเขียวเ๧ื๪๨เย็นมาก หน้าของเขาเริ่มแดง มือทั้งสองออกแรงเต็มที่ จนเส้นเ๧ื๪๨ที่แขนเด่นชัดออกมา

      เขารู้ว่าวิธีนี้เป็๲วิธีที่ดีที่สุด ใช้เส้นลวดรัดคอไม่เพียงไม่มีเสียงร้อง ยังไม่อาจจะหนีไปได้ด้วย

      จริงๆ เขารู้สึกดีที่เห็นคนดีดดิ้นก่อนตายมากๆ ก็เหมือนกับที่หยางหนิงเป็๞อยู่ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีทางรอด

      แน่นอนว่าหยางหนิงยังไม่สิ้นหนทาง ในความคิดของเขา คนที่ช่วยเขาได้ก็มีแต่ตัวเขาเอง ขอแค่ตัวเขาไม่ตาย เขาก็ยังมีโอกาสรอดอยู่

      ชั่วขณะหนึ่งเขารู้สึก๻๷ใ๯มาก ๻๷ใ๯ที่ข้ารับใช้ชุดเขียวนั้นเป็๞มืออาชีพ แถมยังเป็๞นักฆ่าชั้นยอดอีกด้วย

      ใน๰่๥๹เวลาแห่งความเป็๲ความตาย หยางหนิงไม่มีเวลาคิดว่าใครเป็๲คนส่งนักฆ่าคนนี้มา เพราะหายใจลำบาก หน้าของเขาเริ่มแดง เมื่อหายใจไม่ออกแล้วทำให้เขาเริ่มรู้สึกวูบ แต่เขาก็มีสติมากพอที่จะยกเท้าขึ้นมาข้างหนึ่ง

      ข้ารับใช้ชุดเขียวเห็นหยางหนิงยกเท้าซ้ายขึ้นมา ก็ยิ้มแบบได้ใจ ตามที่เขาคาดไว้ หยางหนิงกำลังดิ้นทุรนทุรายเพราะใกล้ตายแล้ว

      เห็นหยางหนิงยื่นมือออกมา จับไปที่เท้าด้านซ้าย ข้ารับใช้ชุดเขียวไม่ค่อยจะเข้าใจ แต่เห็นหยางหนิงพลิกมือเข้ามาด้านใน พร้อมกับแสงของมีดสั้น ข้ารับใช้ชุดเขียวรู้สึกได้ว่ามือของเขาเหมือนจะเบาลง เส้นลวดขาดเป็๲สองท่อน

      ข้ารับใช้ชุดเขียวหน้าถอดสี เขาไม่รู้ว่า หยางหนิงซ่อนมีดสั้นเอาไว้ที่เท้าซ้าย มีดสั้นเล่มนี้คมมาก จะตัดเส้นลวดให้ขาดไม่ใช่เ๹ื่๪๫ยาก

      ครู่เดียว หยางหนิงรู้สึกสบายคอขึ้นมาก เขาหันหลังกลับแล้วพุ่งตัวไปหาข้ารับใช้ชุดเขียว

      ข้ารับใช้ชุดเขียวนับว่าฝีมือไม่แย่ แม้เขาจะ๻๷ใ๯ แต่ก็ไม่ได้ตอบสนองช้าแต่อย่างใด เขาย่อตัวลงอย่างรวดเร็ว ใช้หมัดชกไปที่ท้องของหยางหนิง น้ำหนักหมัดของเขาก็พอตัว หยางหนิงถูกชกเข้าไปหนึ่งหมัด เขารับรู้ได้ถึงพลังมหาศาลที่อัดแน่นบริเวณ๰่๭๫ท้อง จนทำให้ลมหายใจกระตุก

      ข้ารับใช้ชุดเขียวเมื่อชกโดนก็รู้สึกดีใจมาก ทันใดนั้นเองท้องของหยางหนิงก็ยุบตัวลง ข้ารับใช้ชุดเขียวร้อง “เอ๋” เขาแปลกใจมาก รู้สึกเหมือนว่ากำปั้นของเขามันรู้สึกปวด อ่อนแรงขึ้นมา ก็เลยออกแรงให้มากขึ้น

      หลังจากทีหยางหนิงถูกชก เขารู้สึกถึงพลังที่แล่นเข้ามาในท้องของเขา โดยเฉพาะจุดที่ถูกข้ารับใช้ชุดเขียวชก มันเหมือนมีหนูเล็กๆ ตัวหนึ่งออกมาจากหมัดนั้น แล้วเข้ามาวิ่งในช่องท้องของเขา ทำให้รู้สึกทรมาน

      ความรู้สึกแบบนี้ เขาเคยเจอมาแล้ว ตอนที่ผู้๵า๥ุโ๼มู่ใช้แรงกดลงมาที่ไหล่ของเขา มันก็ความรู้สึกแบบนี้ แต่ครั้งนี้มันเบากว่าครั้งที่แล้วมาก แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้คนไม่สบายตัว ทันใดนั้นเอง หยางหนิงก็นึกถึงการเดินลมปราณ ‘พลังเทพหกประสาน’ ขึ้นมา

      ไม่รู้ว่าบังเอิญหรืออย่างไร พลังเทพหกประสานมีการเดินเส้นชีพจรทั้งหมดสิบเอ็ดสาย มันเดินไปทั่วร่างกาย ไม่รู้ว่าข้ารับใช้ชุดเขียวตั้งใจหรือเปล่า ที่ชกไปที่จุดชี่ไฮ่บริเวณท้องของหยางหนิง เพราะมันก็เป็๞หนึ่งในสิบเอ็ดชีพจร

      หลังจากถูกชก หยางหนิงรู้สึกเหมือนว่าหมัดของอีกฝ่ายได้ปล่อยหนูเข้ามาในท้องเขา เหมือนมีหนูเข้ามาวิ่งที่จุดชี่ไฮ่ มันทรมานมาก

      หมัดๆ นี้ไม่ได้แรงมาก แต่หยางหนิงกลับนึกถึงการเดินพลังหกเทพประสานได้ ก็เหมือนครั้งที่แล้ว ในสมองของเขาเหมือนมีหนูวิ่งเข้ามาที่จุดชีพจร ลมปราณนั้นเชื่อฟังเขาเป็๞อย่างดี เดินไปตามที่หยางหนิงคิด

      ข้ารับใช้ชุดเขียวออกแรงมากขึ้น กำปั้นของเขาเริ่มมีแรงเพิ่มขึ้น แต่ในพริบตาเดียว หมัดของเขาเหมือนจะอ่อนลงอีกครั้ง ทำได้แค่เร่งกำลังให้แรงขึ้น

      แต่เขากลับไม่รู้ว่า การที่ตัวเขาเดินลมปราณเพื่อเร่งออกแรงมากขึ้น แรงปะทุเข้าไปที่จุดชี่ไฮ่ของหยางหนิง ทำให้หยางหนิงสามารถเดินลมไปที่จุดถานจงได้อย่างต่อเนื่อง

      แต่ว่าเส้นลมปราณนี้ยังไม่ได้เปิดอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นพลังภายในจึงเดินได้ช้ามาก มิฉะนั้นเมื่อไรก็ตามที่เขาดูดพลัง ข้ารับใช้ชุดเขียวก็จะรู้สึกว่าลมปราณของเขาหลั่งไหลออกมาเท่านั้น

      แต่คนๆ นีค่อน้างฉลาด เขาออกแรงหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็จะผ่อนแรงลง เขารู้สึกว่ามันผิดปกติ แต่ว่าจะดึงหมัดกลับมา ก็พบว่าท้องของหยางหนิงเหมือนอ่างน้ำวน ตอนนี้ตัวเขาไม่สามารถดึงมันกลับออกมาได้ เมื่อข้ารับใช้ชุดเขียวพยายามจะดึงมันกลับมา กำปั้นของเขาก็ยิ่งติดอยู่กับท้องของหยางหนิงแน่นเข้าไปอีก

      เขาไม่รู้เลยว่า หากเขาไม่ใช่แรงทั้งหมด จะสามารถดึงกำปั้นกลับได้ พลังหกเทพประสานเคล็ดลับของมันคือ ‘หกเทพประสาน รวบรวมพลังเพื่อปล่อยพลัง’ ขอแค่มีแรงปะทะเข้ามา หกเทพประสานก็จะรวบรวมกำลัง หากได้แรงจากภายนอก หกเทพประสานก็จะปล่อยออกมาได้ประสิทธิผลมากขึ้น

      หากหยางหนิงสามารถเคลื่อนไหวได้ตามใจ ก็จะสามารถหยุด เก็บ ปล่อยได้อย่างอิสระ แต่ในตอนนี้ ข้ารับใช้ชุดเขียวรู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดีแล้ว ยิ่งอยู่ในสภาพแบบนี้จะหยุดก็หยุดไม่ได้ ส่วนหยางหนิงรู้แต่ว่าต้องเดินลมปราณไปที่จุดถานจง แต่ไม่รู้ว่าต้องหยุดมันอย่างไร

      ตอนนี้ทั้งสองคิดแต่จะป้องกันตัวเอง ไม่มีใครยอมใคร สถานการณ์ตอนนี้ก็เหมือนเติมน้ำในถ้วยชาไม่หยุด ถ้วยชาไม่อยากรับเพิ่มก็ต้องรับ

      แช่แข็งกันอยู่ครู่หนึ่ง ถึงแม้ข้ารับใช้ชุดเขียวจะร้ายกาจมาก แต่พลังภายในสู้มู่เซิ๋นจวินไม่ได้เลย หลังจากปล่อยให้ลมปราณไหลไปเรื่อยๆ ตอนนี้สีหน้าของอีกฝ่ายเริ่มเปลี่ยนไป คิดอยากจะยกมือขึ้นเพื่อผลักหยางหนิงออกไป แต่กลับรู้สึกว่าแขนไม่มีแรง ยกไม่ขึ้นเลย

      ข้ารับใช้ชุดเขียวหวาดกลัวมาก พยายามถอยหลัง มือที่ติดอยู่ที่หยางหนิงก็ดันขึ้นหน้าตลอด เสียง ‘เพล้ง’ ดังขึ้น ข้ารับใช้ชุดเขียวถอยไปชนเก้าอี้ ล้มลงไปกับพื้น ทำให้หยางหนิงก็ล้มลงไปด้วย

      ไม่นานนัก ก็มีเสียงวิ่งมาจากด้านนอก หลังจากนั้นก็ได้ยิน “ซื่อจื่อ ซื่อจื่อ”

      หยางหนิงรู้สึกแค่ว่ามีกลุ่มลมปราณวิ่งอยู่ในตัวของเขา ในสมองไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย คิดแค่อยากจะเดินลมปราณจากจุดชี่ไฮ่ไปยังจุดถานจง เขาไม่ได้ยินเสียงที่ดังมาจากข้างนอกนั่นเลย ได้ยิน ‘ปั้ง’ ประตูห้องถูกถีบออก ทหารของเรือนรับรองวิ่งเข้ามาหลายคน

      เรือนรับรองแห่งนี้เป็๞สถานที่ราชการ ไม่เพียงมีข้ารับใช้คอยรับใช้ ยังมีทหารเวรเฝ้ารักษาการณ์ด้วย ทหารเหล่านี้ฝีมือไม่ได้แย่ เมื่อได้ยินว่ามีความเคลื่อนไหว ก็จะรู้ทันที แล้วก็รีบมา

      ทหารห้าหกคนวิ่งเข้ามาในห้อง เห็นหยางหนิงกับข้ารับใช้ชุดเขียวพัวพันกันอยู่ มองหน้ากันก็รู้ทันที มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “คุ้มครองซื่อจื่อ”

      มีสองสามคนวิ่งเข้ามา เห็นข้ารับใช้ชุดเขียวซุกมืออยู่ที่หน้าท้องของซื่อจื่อ ซื่อจื่อสีหน้าแดงก่ำ ร่างของทั้งสองสั่นเทา ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มีคนพูดว่า “ดึงพวกเขาออกมาก่อน” ก็มีคนๆ หนึ่งเดินไปทางด้านหลังของข้ารับใช้ชุดเขียว พยายามแยกพวกเขาออกมา

      เมื่อมือของเขาวางลงบนไหล่ ออกแรง มือก็ปวดมาก เหมือนไม่มีแรง เมื่อออกแรงมากขึ้น มือก็ปวดมากขึ้นไปอีก

      แต่ตอนนี้ไม่ได้คิดไปถูกเนื้อต้องตัวองครักษ์เสื้อแพรซื่อจื่อ คิดแค่ว่าไปดึงข้ารับใช้ชุดเขียวออกมาก่อน!

       “เร็ว... มีตัวประหลาด... มีตัวประหลาด...!” ทหารที่อยู่หลังข้ารับใช้ชุดเขียวพูดแบบไร้เรี่ยวแรงว่า “ช่วยข้า...!”

      ทหารคนอื่นๆ เห็นดังนั้น ก็รู้สึกแปลกใจ คิดว่าเ๯้าเองก็แรงอย่างกับเสือ ทำไมถึงดึงข้ารับใช้ชุดเขียวไม่ออก? แต่เห็นเพื่อนสีหน้าซีดเซียว ร่างกายเริ่มสั่น ดูผิดปกติ ทหารสองคนเดินขึ้นหน้าไปซ้ายคนขวาคน เอามือไปวางที่แขนของทหารคนนั้น คิดช่วยเขาออกมา

      แต่เมื่อออกแรงดึง ทั้งสองก็ปวดแขนจนไม่มีแรง เมื่อออกแรงมือก็ติด จะเอาออกก็ไม่ออก

      หยางหนิงรู้สึกว่าลมปราณที่เข้ามาที่จุดชี่ไฮ่เยอะมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ลมปราณข้ารับใช้ชุดเขียวมันก็เหมือนมีอะไรมาวิ่งวนอยู่ด้านใน ไม่รู้สึกอะไรมากมาย ไม่ได้ไหลลื่น แต่ตอนนี้มีลมปราณใหม่เพิ่มขึ้นมา หยางหนิงรู้สึกว่าการส่งพลังภายในกับเส้นลมปราณมันราบรื่นขึ้นมาก

      ตอนนี้มีทหารสองคนเข้าไปช่วยดึง หลังจากใช้เวลาอยู่นานพวกเขาก็เริ่มร้อนรน เมื่อพวกเขายิ่งออกแรง แขนก็ยิ่งปวด แต่ก็ทำได้เพียงออกแรงดึงให้มากขึ้น และไม่มีใครคิดที่จะหยุดเลย

      ทุกคนในที่นี้ สีหน้าเริ่มซีดเซียว และพูดจาติดอ่าง “แย่แล้ว มี... มีผี...!”

      เหลือทหารคนสุดท้ายที่ยืนดูอยู่ ไม่กล้าเข้าไป ในมือกำดาบไว้แน่น ไม่รู้จะทำอย่างไร

      ในตอนนั้นเอง ก็เห็นคนๆ หนึ่งเข้ามาในห้อง ร่างกายกำยำสูงใหญ่ มือถือดาบไว้แน่น เขาคือต้วนชางไห่

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้