วัวัไฟมีพละกำลังที่แข็งแกร่งมาก กล่าวกันว่า ไฟของมันสามารถทำลายสิ่งของได้ในระยะสองลี้ และความแข็งแกร่งของมันก็สามารถทำลายกระทั่งูเาได้ มันเป็สัตว์อสูรที่ดุร้ายมาก
ส่วนเซี่ยโฮ่วจือ เขาเป็คนหนุ่มที่มีชื่อเสียงในแคว้นจินหลาน เพราะมีพลังวรยุทธ์ที่น่าทึ่ง ในบรรดาผู้ที่หอกเงิน ไม่เคยมีใครที่สามารถจัดการศัตรูด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวเช่นที่เขาทำได้ และไม่ว่าเขาจะไปที่ใดศัตรูล้วนถูกเขาจัดการได้อย่างง่ายดาย
และเขาก็เป็เหมือนคนอื่นที่มีความสนใจในหยาดจันทร์นิรวาน
หลัวเลี่ยมองไปที่เซี่ยโฮ่วจือ ก่อนจ้องไปที่วัวัไฟ
วัวัไฟตัวนี้สูงถึงสิบห้าฉื่อ[1] มีไฟลุกโชนทั่วทั้งตัว เท้าของมันมีลักษณะเป็กีบวัวที่แข็งแกร่งถึงขั้นบดหินได้อย่างง่ายดาย
“พลังแห่งผู้ฝึกตนระดับที่แปดของเคล็ดวิชาั์ ที่คำรามดั่งั และเคลื่อนไหวดั่งช้างศึก”
“ข้าอยากจะเห็นว่าพลังเคลื่อนไหวดั่งช้างศึกของข้าจะสู้พลังของวัวัไฟตัวนี้ได้หรือไม่”
เป้าหมายของหลัวเลี่ยคือวัวัไฟ
ส่วนเซี่ยโฮ่วจือนั้น
อ้า ใช่แล้ว เซี่ยโฮ่วจือคือผู้ใดหรือ?
“พลังแห่งผู้ฝึกตนระดับที่แปด!”
หลัวเลี่ยวิ่งตรงเข้าไปต่อสู้
เกิดเสียงคลื่นทะเลคำรามรอบตัวเขาอีกครั้ง จากนั้นก็มีลมพัดวูบหนึ่ง
ไอสังหารที่หลัวเลี่ยปลดปล่อยออกมาพุ่งตรงไปยังวัวัไฟ
“อวดดี!”
“ต่อหน้าผู้ฝึกัเช่นข้า เ้ายังกล้าท้าทายข้าหรือ”
เซี่ยโฮ่วจือยกยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วบังคับวัวัไฟที่เขาขี่อยู่
วัวัไฟคำรามออกมา แล้วพุ่งเข้าหาหลัวเลี่ยอย่างดุเดือดราวกับลูกไฟ
หอกเงินในมือของเซี่ยโฮ่วจือที่ยาวสองจั้งกว่าๆ มีความยาวมากกว่าวัวัที่สูงสิบห้าฉื่อ หมายจะแทงเข้าที่หลัวเลี่ยอย่างโเี้
ทุกครั้งที่เซี่ยโฮ่วจือลงมือ เขาจะชนะด้วยการต่อสู้เพียงครั้งเดียวเสมอ
การกระทำเช่นนี้ไม่เพียงแสดงถึงความแข็งแกร่งของเขา แต่ยังแสดงถึงพลังมหาศาลที่มาจากวัวัไฟอีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็พลังการต่อสู้ที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
“โฮก!”
หลัวเลี่ยพุ่งเข้าหาเซี่ยโฮ่วจืออย่างดุเดือด และทันใดนั้นเขาก็คำรามใส่เซี่ยโฮ่วจือ
เสียงคำรามราวกับเสียงของั!
เสียงคำรามหนึ่งครั้งนี้เหมือนเป็การปลุกัที่หลับใหลมานับพันปีให้ตื่นขึ้น แล้วทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและคำรามออกมา
จากนั้นคลื่นเสียงที่มองไม่เห็นนี้ก็กระแทกเข้ากับหอกยาว
ตูม!
ด้วยพลังจากเสียงคำรามทำให้หอกยาวกระเด็นออกไป
หลัวเลี่ยพุ่งตัวเขาไปปะทะกับวัวัไฟอย่างดุเดือด
เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนที่ชมอยู่หลุดเสียงร้องออกมา
“เขาบ้าไปแล้ว เขาปะทะกับวัวัไฟด้วยร่างกายของตัวเอง”
“นั่นคือวัวัไฟที่มีพลังสามารถบดขยีู้เาลูกเล็กๆ ได้เลยนะ”
ด้านเซี่ยโฮ่วจือที่สูญเสียหอกยาวในมือไปด้วยพลังของเสียงคำรามนั้นรู้สึกโกรธเคืองอย่างมาก เขาฟาดมือลงไปที่วัวัไฟที่เขาขี่อย่างรุนแรงมากขึ้น ทำให้สัตว์อสูรตัวนี้ะเิพลังที่ดุร้ายที่สุดออกมา
โฮก!
วัวัไฟพุ่งทะยานขึ้นไปในอากาศพร้อมกับเปล่งเสียงร้องออกมาอย่างดุร้าย และสะบัดเขาับนหัวตัวเองอย่างรุนแรง
หลังจากที่พลังจากเสียงคำรามของวัวัไฟเข้ามาปะทะร่างกายโดยตรง หลัวเลี่ยก็ส่งเสียงร้องออกมา
ร่างกายเคลื่อนไหวราวกับช้างศึก!
นี่คือลักษณะเฉพาะของเคล็ดวิชาั์
ช้างศึกหรือที่รู้จักกันในนามของสัตว์าขนาดั์ ตัวตนของมันแข็งแกร่งถึงขั้นที่แม้แต่ัยังต้องหวั่นเกรง เช่นนี้แล้ววัวัไฟที่ร่างกายมีสายเืของัอันน้อยนิดจะเทียบเคียงกับช้างศึกได้อย่างไร
ตูม!
ทั้งสองชนกัน
หลัวเลี่ยซึ่งสูงประมาณห้าฉื่อสามารถสั่นคลอนร่างของวัวัไฟที่สูงถึงสิบห้าฉื่อได้
่เวลานั้นทุกคนที่จับจ้องดูอยู่ราวกับถูกหยุดเวลาไว้ การต่อสู้ครั้งนี้ถูกบันทึกลงในจิตใจของพวกเขาแล้ว
ตูม!
หลังจากนั้นหลัวเลี่ยก็รวบรวมคลื่นพลังที่อยู่รอบตัวเขาแล้วทรงตัวขึ้นมา
วัวัไฟร้องโหยหวนแล้วปลิวลอยออกไป นอกจากนั้นมันยังโยนเซี่ยโฮ่วจือขึ้นไปในอากาศด้วย
“สุดท้ายแล้วใครคืออสูร?”
“หลัวเลี่ยต้องเป็ัที่แปลงกายเป็มนุษย์แน่!”
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง หลัวเลี่ยก็พุ่งไปคว้าหางของวัวัไฟที่กำลังจะตกถึงพื้นขึ้นมาแล้วเหวี่ยงมันออกไปอีก
ตูม!
วัวัไฟลอยออกไปแล้วชนเข้ากับเซี่ยโฮ่วจือที่กำลังจะตกถึงพื้น จากนั้นทั้งสัตว์อสูรและเ้านายของมันก็หายลับตาไป
หลัวเลี่ยมองไปรอบๆ ผมของเขาปลิวไสว ท่าทางช่างดูเย่อหยิ่ง
“มีใครไม่ยอมรับไหม?”
“มีใครจะสู้อีกหรือไม่!”
บริเวณโดยรอบเงียบสนิท
ชายหนุ่มผู้มีฝีมือทั้งหลายแห่งแคว้นจินหลานที่เพิ่งตามมาตอนเห็นปรากฏการณ์นวัล้อมเดือนต่างก็หวาดกลัวและนิ่งเงียบเช่นกัน
ไม่มีใครตอบ
แม้แต่คนที่อ้างว่าเคยประลองกับเซี่ยโฮ่วจือในตอนที่มีการจัดลำดับชายหนุ่มผู้แข็งแกร่งของแคว้นจินหลานก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาต่อสู้ แม้พวกเขาจะมีความมั่นใจในการเอาชนะเซี่ยโฮ่วจือ แต่สำหรับการต่อสู้ครั้งนี้พวกเขาไม่กล้าเสี่ยง
หลัวเลี่ยยอดเยี่ยมมาก เขาใช้เสียงคำรามของักระแทกใส่เซี่ยโฮ่วจือจนลอยออกไป
ไม่มีใครกล้าขวางทางหลัวเลี่ยที่พาเสวี่ยปิงหนิงขึ้นรถม้าไล่ตามพระจันทร์ จากนั้นซูชิวเชิงก็ขับรถม้าออกไปอย่างช้าๆ
บนเขาอวิ๋นเยว่ที่เงียบสงบ
หลังจากรถม้าไล่ตามพระจันทร์ขับออกไปแล้ว ก็เริ่มมีเสียงวิจารณ์ของผู้คนที่ยังอยู่ดังขึ้น
ทุกคนตกตะลึงในตัวของหลัวเลี่ย เพราะทุกคนรู้ว่าหลัวเลี่ยยังไม่ได้แสดงพลังออกมาทั้งหมด แม้แต่เคล็ดวิชามหาสรรพฟ้าดินที่ช่วยเพิ่มพลังภายใน เขาก็ยังไม่ได้นำมันออกมาใช้
ข่าวสารของหยาดจันทร์นิรวานถูกแพร่ไปทุกทิศทุกทางอย่างรวดเร็วราวกับติดปีก
ในขณะเดียวกันอ๋องชวนหลง ชงโหวหู่แห่งแคว้นเป่ยสุ่ย ซึ่งให้ความสนใจกับหลัวเลี่ยอยู่เสมอก็ได้รับข่าวทันที
ั้แ่ที่ชงจ้านหยวนลูกชายคนโปรดของเขาถูกหลัวเลี่ยสังหาร ชงโหวหู่ก็สาบานกับตัวเองว่าจะฆ่าหลัวเลี่ยเพื่อแก้แค้นให้ได้ อย่างไรก็ตามหลิวจื่ออั๋งได้บอกกับเขาว่า ก่อนการแข่งขันยุวราชันแห่งสิบแคว้นเขาไม่สามารถทำร้ายหลัวเลี่ยได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่อดทน
เดิมทีเขาอดทนกับมันมากอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นว่าหลัวเลี่ยสร้างปรากฏการณ์นวัล้อมเดือน และได้รับหยาดจันทร์นิรวาน ภายในใจที่สงบนิ่งของเขาก็ราวกับว่าถูกทุบจนแหลกละเอียด
หลังจากชงโหวหู่สงบจิตสงบใจลงได้แล้ว เขาก็เรียกชายสิบสามคนในชุดเกราะสีดำและหน้ากากสีดำเข้ามา
“นายท่าน!”
ชายสิบสามคนในชุดเกราะสีดำคุกเข่าข้างเดียวเพื่อรอรับคำสั่ง
เสียงของชงโหวหู่สงบลงอีกครั้ง และไม่มีความสั่นไหวใดๆ “ข้าจะมอบหมายภารกิจที่ถ้าไม่ตายพวกเ้าหน่วยอินทรีดำก็ห้ามหยุด ั้แ่วันนี้เป็ต้นไปให้พวกเ้ารีบไปที่แคว้นจินหลาน แล้วจับตาดูหลัวเลี่ยไว้ หากมันแข่งขันยุวราชันแห่งสิบแคว้นเสร็จสิ้นแล้ว ให้พวกเ้านำหัวมันกลับมาให้ข้า”
“ขอรับ!”
ชายสิบสามคนในชุดเกราะสีดำออกไปตามคำสั่ง พวกเขาหายไปจากจวนอ๋องชวนหลงในพริบตาราวกับนกอินทรีสีดำสยายปีกบิน
ชงโหวหู่มองไปยังทิศของแคว้นจินหลานผ่านทางหน้าต่าง พูดขึ้นอย่างเ็า “หลัวเลี่ย ข้าจะใช้หัวของเ้ามาเซ่นไหว้ดวงิญญาของลูกชายของข้าที่อยู่บน์!”
ในขณะเดียวกันทางตระกูลเลี่ยแห่งแคว้นซวนิก็ได้รับข่าวเช่นกัน
หลังจากได้ยินข่าวแล้วเลี่ยหงหยุนก็กระอักเืออกมาด้วยความโกรธ
“หลัวเลี่ย!”
“ลูกชายของข้าเสียชีวิตก็เพราะเ้า แล้วข้าจะปล่อยให้เ้ามีชีวิตที่ก้าวหน้าได้อย่างไร”
“ข้า เลี่ยหงหยุน ขอสาบานว่า นับแต่นี้เป้าหมายสูงสุดในชีวิตข้าคือการฆ่าเ้า”
เลี่ยหงหยุนะโออกมาเสียงดัง
มีเสียงถอนหายใจดังขึ้น
ผู้เฒ่าแห่งตระกูลเลี่ยเอ่ย “หงหยุน เ้านำนักดาบทั้งเจ็ดของตระกูลเราไปเถอะ จำไว้ว่าเ้าลงมือได้ก็ต่อเมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขันยุวราชันแห่งสิบแคว้นแล้วเท่านั้น”
เลี่ยหงหยุนมีความสุขมาก หลังจากขอบคุณผู้นำตระกูลเลี่ยแล้ว นางก็เรียกนักดาบทั้งเจ็ดที่มีชื่อเสียงที่สุดของตระกูลเลี่ยมา และออกเดินทางไปยังแคว้นจินหลานทันที
คืนนั้นหลังจากที่หลัวเลี่ยกลับมาถึงจวนท่านราชครู เขาก็ประกาศออกไปว่าเขาจะเก็บตัวบ่มเพาะพลังเป็เวลาสามวัน และไม่ว่าใครขอพบ เขาก็จะไม่ออกไปพบเด็ดขาด
ทุกคนเชื่อว่าหลัวเลี่ย้าใช้หยาดจันทร์นิรวานด้วยตนเอง
ส่งผลให้สถานการณ์ภายในแคว้นจินหลานค่อนข้างวุ่นวาย
แม้แต่องค์ชายสามก็พาอาจารย์ของเขาไปที่จวนท่านราชครูโดยไม่สนใจข้อครหา
แล้วพวกเขาก็ถูกหยุดไว้ด้วยท่านราชครูซาเฉียนหลี่
“ท่านราชครูโปรดให้ข้าได้เข้าพบหลัวเลี่ยด้วย หากข้าได้หยาดจันทร์นิรวานมาและได้ขึ้นเป็กษัตริย์ ข้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่านราชครูแน่” องค์ชายสามกล่าวคำสัญญา
ซาเฉียนหลี่กล่าวอย่างเฉยเมย “องค์ชาย ท่านโปรดพิจารณาเื่ราวดูเถิด”
สีหน้าขององค์ชายสามเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “ท่านราชครูขู่ข้าหรือ”
“ไม่ใช่” ซาเฉียนหลี่พูดอย่างใจเย็น “องค์ชาย ท่านเคยคิดหรือไม่ว่า ครั้งหนึ่งผู้าุโหลิวแห่งสาขาหลักของหอเซียวเหยาเคยช่วยหลัวเลี่ยแก้แค้นด้วยตัวเขาเอง แม้แต่ศิษย์ที่ใกล้ชิดที่สุดของผู้าุโก็ยังถูกลงโทษไปด้วย เื่ราวในครั้งนั้นถือว่าเป็การพลิกสถานการณ์ของแคว้นเป่ยสุ่ย อีกทั้งแม้ไร้อาจารย์ช่วยชี้แนะ แต่หลัวเลี่ยกลับมีวิชายุทธ์ที่แกร่งกล้า โดยเฉพาะเคล็ดวิชามหาสรรพฟ้าดินอันแข็งแกร่งนั่น ท่านคิดว่าเื่ราวทั้งหมดนี้หมายถึงอะไรหรือ”
หัวใจขององค์ชายสามสั่นไหวเล็กน้อย “ท่านราชครูหมายความว่าหลัวเลี่ยอาจเป็ศิษย์ของผู้าุโหลิวอย่างนั้นหรือ?”
ซาเฉียนหลี่กล่าวว่า “ข้าหาได้กล่าวเช่นนั้น ข้าเพียงบอกถึงความเป็ไปได้ เพราะแต่ไหนแต่ไรมาข้าก็ไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ถือตราัเงินเซียวเหยาคนไหนที่ได้รับความสนใจจากผู้าุโแห่งสาขาหลักมาก่อน”
ั์ตาขององค์ชายสามเหม่อลอย จากนั้นเขาก็โค้งคำนับหนึ่งครั้ง “ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นคงต้องขอลาไปก่อน”
หลังจากที่เขาจากไป ในแคว้นจินหลานซึ่งวุ่นวายเนื่องจากเื่หยาดจันทร์นิรวานก็เงียบสงบลงในทันที
มีเพียงผู้คนที่คร่ำครวญว่าในที่สุดหยาดจันทร์นิรวานก็ถูกใช้โดยหลัวเลี่ย
แต่สถานการณ์จริงคือ...หลัวเลี่ยมองไปที่หยาดจันทร์นิรวานแล้วยิ้ม ก่อนจะพูดว่า “ทุกคนคงสนใจสิ่งนี้สินะ เพราะมันคือสิ่งที่จะทำให้กลายเป็ระดับกายทองคำ”
เขาโยนขวดลายครามขนาดเล็กที่บรรจุหยาดจันทร์นิรวานไปมาอย่างไม่ตั้งใจ
หากสามารถฝึกฝนเคล็ดวิชาั์ได้ก็หมายถึงสามารถเป็เทพได้ ดังนั้นหยาดจันทร์นิรวานนี้ถือว่าไร้ประโยชน์สำหรับเขาจริงๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงองค์ชายสามและองค์ชายเก้าที่ดูโกรธเช่นนั้น ของแบบนี้ก็คงพอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง
[1] 1 ฉื่อ เท่ากับ 33.3 เิเ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้