อริรักร้าย คุณชายสกุลมู่ 【แปลจบแล้ว】

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        หยิ่นยวี๋โม่คิดว่าเงาคนที่โรงแรมวันนั้นคือหยิ่นยวี๋ซินแต่เธอไม่เคยได้ข่าวว่าหยิ่นยวี๋ซินจะกลับมา และไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากหยิ่นยวี๋ซินเลยสักครั้งบางทีเธออาจจะคิดมากไป

        หยิ่นยวี๋ซินและรุ่นพี่ของเธอคงมีความสุขกันมาก! ไม่เช่นนั้น หล่อนคงไม่หนีงานแต่งงานไป

        หลังจากวันนั้นมู่อี้หานมักพาเธอไปออกงานด้วยเสมอเพื่อโชว์ตัวเธอ หนังสือพิมพ์เริ่มรายงานข่าวของพวกเขาทั้งคู่บ่อยขึ้น นับวันยิ่งมากขึ้นทุกวันว่าเป็๲สามีภรรยาที่รักกันหวานชื่นเมื่อหยิ่นยวี๋โม่เห็นข่าวแบบนั้น เธอรู้ได้ว่าต่อจากนี้ไป เธอคงมีชีวิตอยู่ภายใต้เงาคู่รักจอมปลอมเช่นนี้ไปไม่รู้จบ

        วันนี้เหอหยาชิงนัดหยิ่นยวี๋โม่มาดื่มกาแฟด้วยกัน “โม่โม่ เธอสบายดีนะ? เธอคงมีความสุขมากใช่ไหม? ฉันว่ามู่อี้หานเขาก็ดีกับเธออยู่นะ! แต่ทำไมสีหน้าเธอดูแย่แบบนี้ล่ะ?”

        “เมื่อคืนฉันนอนไม่ค่อยหลับน่ะ” หยิ่นยวี๋โม่พยายามหาเหตุผลมากลบเกลื่อน

        ความจริงมู่อี้หานยังปฏิบัติต่อเธอเหมือนเดิมเขาอยากทำอะไรก็ทำ เขาอยากกลับก็กลับ ถ้าเขาไม่อยากกลับ เขาก็ไม่กลับมาทั้งคืนถ้าเขาอยากระบายอารมณ์ เธอก็ไม่มีแม้แต่โอกาสจะปฏิเสธ ทำได้เพียงตอบสนองความ๻้๪๫๷า๹ของเขาเท่านั้นชีวิตที่เป็๞อยู่ หยิ่นยวี๋โม่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้มันคุ้มค่าไหม?

        “อื้ม คนที่บ้านเธอคนนั้นคงรักเธอจนสุดหัวใจเลยสิท่า!” เหอหยาชิงมองเธออย่างอบอุ่น

        “เธอคิดเยอะไปแล้ว” หยิ่นยวี๋โม่มองตาหล่อนก็รู้ทันทีว่าหล่อนกำลังคิดอะไรอยู่

        “จริงเหรอ? ฉันไม่เห็นรู้สึกว่าตัวเองคิดเยอะไปเลยนะ” เหอหยาชิงมองหยิ่นยวี๋โม่ด้วยใบหน้ายิ้มกว้าง หยิ่นยวี๋โม่ได้แต่มองอย่างจนปัญญาจะแก้ตัวขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกัน จู่ๆ มีเสียงหนึ่งดังขึ้น 

        “พี่สะใภ้” หยิ่นยวี๋โม่เงยหน้ามองเฉินจื่อโม่ซึ่งยืนอยู่ตรงหน้า “คุณเฉิน”

        “พี่สะใภ้ยังจำผมได้ ดีใจจัง” เฉินจื่อโม่นั่งลงบนโซฟาอย่างไม่เกรงใจ 

        “คุณเคยช่วยฉันไว้นี่คะ” แม้หยิ่นยวี๋โม่จะความจำไม่ดี แต่เธอจำคนที่ทำดีกับเธอได้ เธอแปลกใจมาตลอดที่มู่อี้หานและเฉินจื่อโม่ต่างเป็๞พี่น้องที่ดีต่อกัน และคาดไม่ถึงเข้าไปอีกเมื่อเฉินจื่อเพียงโม่ดีดนิ้ว ก็บริกรคนหนึ่งเดินเข้ามา “คุณชายสามเฉิน”

        “กาแฟเหมือนเดิม”เฉินจื่อโม่ไม่เงยหน้าขึ้นมองพนักงานด้วยซ้ำเพราะมัวแต่จ้องหยิ่นยวี๋โม่

        “นี่คุณเป็๞อะไรหรือเปล่า? ทำไมเอาแต่จ้องโม่โม่แบบนั้นล่ะ” เหอหยาชิงมองปราดเดียวหล่อนก็ทราบทันทีว่าชายตรงหน้าเป็๞ผู้ชายเหลาะแหละ

         “ไม่มองพี่สะใภ้ แล้วจะให้มองคุณหรือไง? หน้าตาแบบนี้แต่จะให้ผมมองคุณงั้นสิ?” เฉินจื่อโม่ใช้สายตามองไปทางเหอหยาชิง 

        “ช่างเถอะ” เหอหยาชิงจ้องเขาตาเขม็ง “งาช้างไม่มีวันงอกออกมาจากปากสุนัข”

        หยิ่นยวี๋โม่ฟังทั้งสองต่อล้อต่อเถียงกันไปมาคนหนึ่งพูด คนหนึ่งเถียง จนเธอรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็๲คนนอกความจริงเฉินจื่อโม่เพียงแค่มาดื่มกาแฟ แต่บังเอิญมาเจอหยิ่นยวี๋โม่และอีกอย่างที่นี่ก็ใกล้กับโรงพยาบาลมาก จึงทำให้เขาอดห่วงไม่ได้ 

        “พี่สะใภ้ พี่อยากไปไหนอีกไหม ผมขับรถไปส่งพี่ได้นะ” เฉินจื่อโม่ถาม

        หยิ่นยวี๋โม่มองดูเวลาตอนนี้ยังเช้าอยู่ “ฉันอยากไปบริษัทคุณพอจะไปส่งได้ไหมคะ?” บริษัทเฉินซื่อกรุ๊ปและหยินซื่อกรุ๊ปอยู่ไม่ไกลกันนัก

        เมื่อได้ฟังคำพูดของหยิ่นยวี๋โม่เฉินจื่อโม่ถึงกับพ่นกาแฟออกมาจนเลอะเต็มหน้าเหอหยาชิง 

        “คุณ...คุณนี่มันเป็๲ผู้ชายที่ โอ๊ย น่ารังเกียจ!” เหอหยาชิงหยิบทิชชูมาเช็ดหน้าตัวเองไม่หยุดหล่อนช่างเป็๲ผู้หญิงที่โชคร้ายเสียจริง! หยิ่นยวี๋โม่หยิบทิชชูมาช่วยเช็ดหน้าเหอหยาชิง “หยาชิง เธอโอเคนะ”

        แต่เฉินจื่อโม่กลับหัวเราะลั่นไม่มีแม้แต่คำขอโทษออกจากปากเขา มันยิ่งทำให้เหอหยาชิงโกรธเข้าไปอีก 

        “โม่โม่ เธอเป็๲พี่สะใภ้เขาใช่ไหม?” เหอหยาชิงถามขึ้น หยิ่นยวี๋โม่นิ่งๆไป เธอไม่ได้ตอบคำถามอะไรบางที ก็อาจจะใช่นะ!

        “โม่โม่ นี่เธอไม่จะไม่พูดอะไรหน่อยหรือไง? อีตาคนนี้ จงใจพ่นกาแฟใส่ฉันนะ!” เหอหยาชิงอยากจะทำให้ผู้ชายตรงหน้าแหลกเป็๞ผง หยิ่นยวี๋โม่มองเหอหยาชิงที่ทำท่าราวกับจะจับเขากินตรงนี้เธอรู้สึกว่า ถ้าเธอพาเฉินจื่อโม่ออกไปก่อนคงดีกว่า

        สุดท้าย หยิ่นยวี๋โม่ก็นั่งอยู่บนรถของเฉินจื่อโม่ “คุณเฉิน ถ้าคุณไม่สะดวก ฉันว่าฉันกลับเองก็ได้นะคะ”

        เฉินจื่อโม่คิดไปคิดมาวันนี้มู่อี้หานไม่อยู่ที่บริษัท หากเขาพาหยิ่นยวี๋โม่ไป ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรดีกว่าอยู่ที่นี่แล้วบังเอิญเจอมู่อี้หานกับซูเหยาอยู่ด้วยกันใช่ไหมล่ะ?

        หยิ่นยวี๋โม่มาถึงอาคารสำนักงานใหญ่หยินซื่อกรุ๊ปแต่ได้รับรายงานว่ามู่อี้หานไม่อยู่ที่นี่ ในจังหวะที่เธอกำลังจะออกไป ก็ดันเจอกับโจวลี่ฉีเข้าเสียได้

        ในบางเวลาคนที่เราไม่อยากเจอที่สุด มักมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเรา เหมือนกับหยิ่นยวี๋โม่และโจวลี่ฉี

        “คุณผู้หญิง วันนี้มาหาประธานมู่เหรอคะ? แต่บังเอิญจังเลย วันนี้ประธานมู่ออกไปกับคุณซูเหยาแล้วล่ะค่ะ” โจวลี่ฉีรู้ว่าระยะนี้ความสัมพันธ์ของมู่อี้หานและหยิ่นยวี๋โม่กำลังไปได้ดีแล้วมันจะยังไงล่ะ? ไม่ว่าอย่างไร นอกจากเธอมู่อี้หานยังมีผู้หญิงคนอื่นอีก คุณซูเหยาอย่างนั้นหรือ? แล้วซูเหยาเป็๲ใคร?

        หยิ่นยวี๋โม่ยิ้มออกมาเรียบๆ “ถ้าอี้หานไม่อยู่ ฉันคงไม่ขึ้นไปแล้วล่ะค่ะ” โชคไม่ดีเท่าไหร่ที่เธอบังเอิญมาที่นี่ เขาออกไปกับซูเหยา? แล้วซูเหยาเป็๞ใครล่ะ?

        ความจริงจะเป็๲ใครก็ไม่สำคัญผู้หญิงของเขานอกจากโจวลี่ฉีกับซูเหยา จะมีใครอีกบ้างที่เธอไม่รู้

        “คุณผู้หญิง คุณเป็๞ถึงภรรยาของประธานมู่ฉันว่าคุณไปรอเขาที่ห้องทำงานก็ได้นะคะ” โจวลี่ฉีทำทีเสนอ แต่หยิ่นยวี๋โม่รู้ดีว่าโจวลี่ฉีไม่ใช่คนที่จะหวังดีกับใครง่ายๆ

        เมื่อมู่อี้หานได้รับโทรศัพท์จากเฉินจื่อโม่เขาให้คนขับรถไปส่งซูเหยากลับทันที ส่วนเขาก็รีบขับรถกลับบริษัท รถยังไม่ทันได้จอดเขาเห็นหยิ่นยวี๋โม่กำลังออกจากอาคารสำนักงาน

        “คุณมาบริษัท ทำไมไม่บอกผมสักคำล่ะครับ?” มู่อี้หานจอดรถตรงหน้าหยิ่นยวี๋โม่ และลงจากรถ

        หยิ่นยวี๋โม่เมื่อเห็นมู่อี้หานก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเธอเพียงแค่ยิ้ม “ฉันก็แค่บังเอิญผ่านมาเท่านั้นเองถ้าคุณยุ่งๆ ฉันกลับก่อนดีกว่าค่ะ”

        มู่อี้หานโอบเอวเธอ “ไม่ยุ่งหรอก ขึ้นไปกับผมนะ! แล้วเย็นนี้เราไปดินเนอร์ แล้วค่อยกลับบ้านกัน”

        หยิ่นยวี๋โม่ไม่ได้อยากไปกินอาหารเย็นกับเขาแต่ตอนนี้เธอไม่รู้จะปฏิเสธเขาอย่างไรดี ครั้งนี้ เธออยู่ตรงหน้าประตูแล้ว

        เดิมทีว่าจะไปกินอาหารเย็นแต่เพราะมีโทรศัพท์สายหนึ่งเข้ามา ทำให้กำหนดการเปลี่ยนไป หลายเดือนที่ผ่านมาไม่มีใครได้ยินข่าวการกลับมาของหยิ่นยวี๋ซิน ไม่ว่าจะเป็๞มู่อี้หานหรือหยิ่นยวี๋โม่ก็ตามหรือทั้งหมดล้วนเป็๞เหตุบังเอิญ

        สีหน้าของหยิ่นยวี๋โม่ซีดเผือดขณะที่มู่อี้หานยังคงลนลาน มู่อี้หานหยิบโทรศัพท์ขึ้น “ให้หยิ่นยวี๋ซินเข้ามาที่บริษัท” เมื่อมู่อี้หานวางสาย แล้วมองไปที่หยิ่นยวี๋โม่เขาดูออกว่าเธอไม่สบายใจ

        พวกเขาแต่งงานกันมาครึ่งปีทั้งคู่ไม่เคยเอ่ยถึงยวี๋ซินเลยสักครั้ง บางทีอาจจะเป็๞เพราะรู้อยู่แล้วจึงไม่ได้พูดออกมา จนกระทั่งวันนี้ วันที่หยิ่นยวี๋ซินกลับมา

        “ฉัน ฉัน...” หยิ่นยวี๋โม่พยายามจะพูดบางอย่างเธอรู้ว่าตอนนี้คงถึงเวลาเธอต้องไปแล้ว นี่เป็๲การกระทำของคนโง่ แต่หากเธอจะสู้ล่ะ? เธอจะมีความกล้าขนาดนั้นไหม?

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้