ต้วนเหลยถิงยังจมดิ่งอยู่ในห้วงความคิด ทันใดนั้นก็ได้ยินเคอโยวหรานเอ่ยถามว่า “นอกจากเื่ที่เ้าเพิ่งพูดมาเมื่อครู่ ยังมีภารกิจอื่นเช่นไล่ล่าคนหรือไม่?”
อั้นจิ่วนิ่งเงียบ เดิมยังคิดจะปิดบังเื่ราวเอาไว้บางส่วน
กลับนึกไม่ถึงว่าสตรีผู้นี้จะรู้กระทั่งว่าตนมีภารกิจตามสังหาร
ช่างเถิดๆ ยามนี้เขาพูดออกไปมากมายขนาดนี้แล้ว แม้เก็บเื่เหล่านี้ไว้แล้วยังจะมีความหมายอันใด?
มิสู้บอกออกไปทั้งหมดเพื่อแลกกับความไว้วางใจของพวกนาง ไม่แน่ว่าสตรีผู้นี้อาจยอมให้ตนกินยาเร็วขึ้นสักหน่อย
ร่างกายทรุดโทรมเช่นนี้ของเขา มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกหนึ่งวันยังทรมาน ได้กินยาเร็วสักนิดก็ยังจะได้หลุดพ้นไวขึ้นสักหน่อยเช่นกัน
เมื่อคิดเช่นนี้ อั้นจิ่วจึงตอบกลับว่า “เบื้องบนสั่งให้ข้าไล่ล่าสามบุรุษสามสตรี ในบรรดาคนเ่าั้มีสตรีสองนางกับบุรุษสามคนที่อยู่ในวัยกลางคน หากหาพบสามารถสังหารได้ทันที แค่จับกุมสตรีมีอายุผู้นั้นกลับไปก็ถือว่าภารกิจลุล่วงแล้ว”
หลังจากนั้น อั้นจิ่วยังบอกวิธีว่าจะยืนยันตัวตนคนทั้งหกได้อย่างไรออกมา และบนใบหน้าของคนเ่าั้มีลักษณะพิเศษเยี่ยงไรบ้าง
ลักษณะเช่นนี้คล้ายคลึงกับคนสกุลต้วนทั้งหกทีเดียว ต้วนเหลยถิงบีบนิ้วมือของตนจนกระดูกเสียดสีกันเกิดเสียงดังกร๊อบ เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นะเืไม่ต่างกับน้ำแข็ง
“นอกจากเ้า ยังมีผู้ใดไล่ล่าคนทั้งหกนี้อีกหรือไม่?”
อั้นจิ่วส่ายหน้า “ข้าไม่รู้ ขอแม่นางได้โปรดช่วยข้าด้วย ท่านรับปากข้าแล้ว...”
เขายังกล่าวไม่ทันจบ ต้วนเหลยถิงพลันจัดการต่อกระดูกของอั้นจิ่วกลับเข้าเบ้าภายในไม่กี่ครั้ง
เคอโยวหรานมอบยาให้เขาหนึ่งขวด “ยานี้เ้ากินวันละหนึ่งเม็ด หลังจากกินหมดให้กลับมาหาพั่วหุน ข้าจะจัดเทียบยาให้เ้าตามระดับความอ่อนตัวของหลอดเื”
“ขอบพระคุณขอรับ!” อั้นจิ่วรับยามาด้วยความดีใจ น้ำตาเปียกชื้นผ้าคลุมและริมฝีปากสั่นระริก
ในที่สุดเขาก็จะได้หลุดพ้นวันคืนอันมืดมิดตลอดสิบกว่าปี ในที่สุดก็จะได้เดินเหินอยู่ระหว่างฟ้ากับดินเหมือนคนทั่วไปเสียที
ขณะที่อั้นจิ่วกำลังตื้นตันใจอยู่นั้น เคอโยวหรานก็สาดน้ำเย็นใส่เขาอย่างได้เวลาเหมาะเจาะยิ่งนัก
“เ้าอย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไป หากเ้าหักหลังเ้านายและคนผู้นั้นรู้ว่าเ้าทรยศเขา คิดว่าต่อให้ข้าไม่บอกจุดจบของเื่ราว เ้าก็คงคาดเดาได้ว่ามันจะต้องน่าเวทนาเพียงใด
มิสู้เปลี่ยนมาสวามิภักดิ์ต่อพวกข้า กลายเป็สายลับสืบข่าวภายในให้พวกข้าเป็อย่างไร? หากอยากชะล้างร่างกายมนุษย์พิษของเ้า มิใช่เื่ที่จะทำสำเร็จได้ภายในคืนเดียว”
อั้นจิ่วถือขวดอย่างนิ่งงัน พลันงอเข่าทั้งสองข้างของตนคุกเข่าลงบนพื้น โขกศีรษะคารวะให้เคอโยวหรานอย่างหนักแน่น
“ข้าเป็เด็กกำพร้า ถูกส่งไปยังหน่วยลับแห่งหนึ่งเพื่อฝึกให้กลายเป็มนุษย์พิษ หากยามนี้แม่นางสามารถทำให้ข้ากลับไปเป็คนธรรมดาได้แม้เพียงวันเดียว
ต่อให้ตายข้าก็รู้สึกหลุดพ้นแล้ว ข้ายินดีจะฟังคำสั่งของแม่นาง รับใช้ท่านเช่นเ้านายขอรับ”
เคอโยวหรานพยักหน้า “ดี ข้าจะเชื่อใจเ้าสักครั้ง หากภายหน้าเ้าทรยศข้า เช่นนั้นก็จะได้ลิ้มรสการทรมานที่โเี้ยิ่งกว่าของสำนักพิษ”
อั้นจิ่วสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว จากนั้นค้อมกายโขกศีรษะลงจนต่ำที่สุด...
ต้วนเหลยถิงมองไปทางพั่วหุนแล้วเอ่ยว่า “วันพรุ่งข้าจะส่งองครักษ์เงามาฝึกฝนพวกเ้า ส่วนเื่ยาถอนพิษ ต้องรอจนกระทั่งฮูหยินน้อยศึกษาออกมาเสียก่อนจึงจะมีคนส่งมาให้”
พั่วหุนคุกเข่าข้างเดียวพลางประสานมือคารวะ ภายในดวงตาเปี่ยมด้วยความจริงใจและตื้นตัน “ขอบพระคุณนายน้อย ขอบพระคุณฮูหยินน้อยขอรับ”
เคอโยวหรานยังเอ่ยกับพั่วหุนว่า “รอกระทั่งทุกคนได้รับยาถอนพิษแล้ว สามารถส่งคนจำนวนหนึ่งแปลงโฉมออกไปข้างนอกเพื่อเยี่ยมครอบครัวของพวกเ้า
ส่วนเื่จะรับพวกเขามาที่นี่หรือไม่ก็ตามแต่เ้าจะจัดแจงรายละเอียด”
พั่วหุนมองเคอโยวหรานอย่างตะลึงงัน ดวงตาแดงระเรื่อภายในเสี้ยววินาที แต่เดิมคุกเข่าเพียงข้างเดียว ยามนี้เปลี่ยนเป็คุกเข่าทั้งสองข้างก่อนจะโขกศีรษะไปทางต้วนเหลยถิงกับเคอโยวหราน ภายในใจของเขารู้สึกตื้นตันจนมิอาจอธิบายเป็คำพูดโดยสมบูรณ์
“พวกเ้าลุกขึ้นมาพูดคุยกันเถิด” เคอโยวหรานทนไม่ไหวอยู่บ้างที่บุรุษร่างกายกำยำทั้งสองคนต้องมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าตน
รอจนพั่วหุนกับอั้นจิ่วกล่าวขอบคุณและพากันหยัดกายลุกขึ้นแล้ว เคอโยวหรานจึงถามว่า “พั่วหุน ที่นี่มีคนมากน้อยเพียงใด? ลำดับขั้นอายุเท่าใด? มีกี่คนที่รู้หนังสือ...”
เคอโยวหรานเอ่ยคำถามสำคัญรวดเดียวหลายข้อ พั่วหุนตอบกลับแต่ละข้อเท่าที่รู้ทั้งหมด
“เรียนฮูหยินน้อย ที่นี่มีผู้คนสี่หมื่นสองพันสามร้อยเก้าสิบหกคนขอรับ...”
หลังจากคนไม่กี่คนพูดคุยกันโดยละเอียดกว่าหนึ่งชั่วยาม ต้วนเหลยถิงกับเคอโยวหรานก็เข้าใจสถานการณ์ของที่นี่อย่างกระจ่างแจ้งแล้ว
ที่แท้พวกพั่วหุนคือชาวบ้านจากตำบลเล็กแถบชายแดน ถูกความเป็อยู่บีบบังคับให้ต้องขึ้นูเาไปเป็โจร
แต่แล้ววันหนึ่งกลับมีชายชุดดำสวมผ้าคลุมเช่นอั้นจิ่วกลุ่มหนึ่ง บังคับให้พวกพั่วหุนกินยาพิษออกฤทธิ์ระยะยาวกับยาถอนพิษ
อีกทั้งยังแยกคนหนุ่มออกจากเด็ก สตรี และคนชรา ส่วนพวกพั่วหุนถูกพามาเข้ารับการฝึกฝนอยู่ที่กลางหุบเขาแห่งนี้
ทว่าเด็ก สตรี และคนชราถูกทิ้งไว้บนูเาที่พวกเขาเคยอาศัยอยู่เป็เวลาสองปีกว่าแล้ว พวกพั่วหุนมิได้ข่าวคราวเกี่ยวกับคนในครอบครัวแม้แต่นิด ยามนี้ทุกคนต่างร้อนใจเจียนตายแล้ว
อั้นจิ่วเอ่ยเสริมคำกล่าวของพั่วหุน “หลังจากพวกข้าพาคนหนุ่มออกมาก็วางค่ายกลไว้บนูเาที่พวกพั่วหุนเคยอยู่อาศัย
ญาติของพวกเขาถูกขังไว้บนนั้นให้เอาตัวรอดกันเอง นายท่านมิได้แยแสความเป็ความตายของคนเ่าั้แม้แต่นิด”
พั่วหุนใบหน้าซีดเผือด พลันคว้าคอเสื้อของอั้นจิ่วทันใด “บนูเาแร้นแค้น ไม่ให้พวกเขาลงมาหากิน เช่นนั้นพวกเขาจะอยู่รอดได้อย่างไร?”
เคอโยวหรานรีบปลอบ “เอาเถิดพั่วหุน เมื่อก่อนอั้นจิ่วก็ทำตามคำสั่งเช่นกัน ยามนี้สิ่งที่ต้องทำเป็อันดับแรกคือถอนพิษ จากนั้นข้าจะจัดแจงกลุ่มคนที่รู้วิธีทำลายค่ายกลให้เดินทางไปกับพวกเ้า”
พั่วหุนปล่อยคอเสื้ออั้นจิ่วแล้วประสานมือเอ่ย “ขอบพระคุณฮูหยินน้อยขอรับ ท่านเป็ดั่งพระโพธิสัตว์ของพวกเรา นับแต่นี้ต่อไปชีวิตของข้ากลายเป็ของท่านแล้ว หากท่านบอกให้ไปตะวันออก ข้าก็จะไม่ไปทางตะวันตกเป็อันขาดขอรับ”
“ดี การรับรองของเ้า ข้ารับเอาไว้แล้ว” เคอโยวหรานยินดีต่อการยอมสวามิภักดิ์ของพวกเขายิ่งนัก
ท้ายที่สุด ต้วนเหลยถิงมองคนทั้งสองพลางสั่งการว่า “เื่ที่พวกเ้ายอมรับนายอย่าเพิ่งบอกให้คนอื่นรู้ ทุกสิ่งยังคงกระทำตามเดิม”
เคอโยวหรานเอ่ยเสริม “ข้าจะสั่งให้คนส่งเสบียงมาที่นี่ ทว่าพวกเ้าก็อย่าได้ปล่อยให้กำลังคนมากมายถึงเพียงนี้สูญเปล่า
หลังกลับไป ข้าจะวาดภูมิประเทศของที่นี่และวางแผนการทำนาออกมา ในแต่ละวันนอกจากพวกเ้าจะต้องทำการฝึกฝนประจำวัน พวกเ้ายังต้องทำการไถคราดเพาะปลูกด้วยตนเอง
ภายในบันทึกของข้ามีวิธีบุกเบิกพื้นที่รกร้าง เมื่อถึง่หลังฤดูใบไม้ร่วง พวกเ้าจะได้มีกินด้วยตนเอง ไม่ต้องหวาดหวั่นว่าจะถูกตัดเสบียงอีกต่อไป”
“อึก...ฮูหยินน้อย! ฮือๆๆ...” พั่วหุนเป็บุรุษสูงแปดฉื่อผู้หนึ่ง นึกไม่ถึงว่าจะร้องไห้ออกมาเสียแล้ว
ล้วนกล่าวกันว่าบุรุษไม่หลั่งน้ำตาโดยง่าย ตอนพั่วหุนถูกบังคับให้กินยาพิษและแยกจากครอบครัวยังไม่ร้องไห้เลยด้วยซ้ำ
หลังจากพยายามต่อต้านอั้นจิ่วแล้วพานพบความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังไม่หลั่งน้ำตา แต่กลับร่ำไห้เพราะการจัดแจงที่คิดเผื่อพวกตนของเคอโยวหรานกับต้วนเหลยถิง
แม้นอนหลับฝันพั่วหุนก็ยังไม่เคยคิดว่าท่ามกลางหุบเขาเช่นนี้ พวกตนยังจะสามารถพึ่งพาตนเอง สามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของชายชุดดำได้...
หลังต้วนเหลยถิงกับเคอโยวหรานจัดแจงเื่น้อยใหญ่สิบกว่าเื่จนเสร็จก็พบว่าท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว จึงพากันย่ำแสงราตรีไปจากที่นี่
ต้วนเหลยถิงโอบเคอโยวหรานและมิได้ใช้เส้นทางเดียวกับขามา ชายหนุ่มเลือกที่จะข้ามูเาลูกตรงหน้าเพื่อมุ่งกลับไปทางหุบเขาลึกลับที่ผู้เฒ่าแพทย์พิษทั้งสองใช้ฝึกฝนโยวหราน
ประการแรก เพื่อสำรวจเส้นทางว่าภายหน้าจะขนส่งเสบียงอาหารกับสิ่งของมายังทางนี้ได้หรือไม่
ประการที่สอง เพราะคนทั้งสองคุ้นเคยกับหุบเขาที่ใช้ฝึกฝนโยวหรานเป็อย่างดี สามารถคลำทางยามค่ำคืนกลับไปได้โดยไม่อันตรายนัก
ประการที่สาม เพราะโยวหรานอยากไปบนูเาต้าชิงเพื่อเยี่ยมลูกหมาป่าทั้งสอง แยกจากกันหลายวันแล้ว โยวหรานคิดถึงพวกมันยิ่งนัก นางอยากจะไปโอบกอดและเล่นกับพวกมันสักหน่อย