เมื่อหันไปมองบริเวณรอบๆ ตัวนางนั้นเต็มไปด้วยความสกปรกเละเทะจากการต่อสู้เมื่อครู่ ร่างของงูชื่อเหลียนที่ถูกฆ่าโดยชายลึกลับผู้นั้นยังคงมีเืไหลหยดออกมาไม่หยุดและส่งกลิ่นเหม็นลอยคลุ้งไปทั่ว
สายลมพัดโชยแ่เบา ทำให้กลิ่นเหม็นคาวนั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หานโม่พบว่าบนร่างของนางมีคราบเืของงูชื่อเหลียนเปื้อนอยู่เล็กน้อย และเริ่มเหม็นจนมิอาจทนไหว
สถานที่แห่งนี้ไม่เหมาะกับการกินผลชื่อหลิง
โชคดีนักที่เมื่อตอนหานโม่เดินทางเข้ามา นางได้เห็นธารน้ำใสสะอาดอยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่
หานโม่เด็ดผลชื่อหลิงมาแล้วกอดไว้ในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็วิ่งไปยังธารน้ำใสสะอาดในความทรงจำทันที
เมื่อวิ่งมาถึงที่ หานโม่ก็ปลดเสื้อผ้าของนางออก หลังจากที่ซักทำความสะอาดเสื้อผ้าไปสักหน่อยแล้ว นางก็แขวนไว้บนพุ่มไม้ที่บริเวณด้านข้างธารน้ำแล้วะโลงไปทันที งูชื่อเหลียนนั้นเป็สัตว์อสูรระดับสามและยังเป็สัตว์อสูรที่มีแรงกดดันที่แข็งแกร่งยิ่ง จึงสามารถปิดตาเหล่าสัตว์อสูรไม่ให้มารบกวนได้ชั่วขณะหนึ่ง
หานโม่แหวกว่ายอยู่กลางน้ำด้วยความสบายใจ ปล่อยให้สายน้ำเย็นๆ ของธารน้ำช่วยขจัดความเหนื่อยล้าทั้งตัวที่สะสมมาหลายวันให้คลายออกไป
ตอนที่นางขึ้นมาหลังจากที่แหวกว่ายจนพอใจแล้วนั้น กลับพบว่าเสื้อผ้าของนางได้หายไปจากบนพุ่มไม้เสียแล้ว
มีผู้ใดมาหรือ?
แต่ว่าหากมีคนมาที่นี่ นางจะไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อยได้อย่างไร? หรือว่าระดับการระมัดระวังตัวของนางลดลง?
สิ่งที่หายไปพร้อมกับเสื้อผ้าของนางก็ยังมีผลชื่อหลิงที่เปล่งประกายสีแดงระยิบระยับผลนั้นอีกด้วย
บัดนี้บนพุ่มไม้นั้นว่างเปล่า และกิ่งไม้ที่แห้งเหี่ยวสองสามกิ่งสั่นไหวราวกับจะเยาะเย้ยให้กับความประมาทของหานโม่
ดวงตาของหานโม่เย็นเยียบ นางกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว ความระมัดระวังตัวของนางในฐานะที่เคยเป็ราชินีนักฆ่ารับจ้างมาก่อนนั้นพุ่งถึงขีดสุด
หลังจากที่ตั้งสมาธิจดจ่ออย่างแรงกล้าในที่สุดหานโม่ก็สังเกตเห็นถึงการสั่นไหวที่ผิดปกติอยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตร จึงเดินเข้าไปหาตามความรู้สึกของนาง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นทันที หานโม่ก็พบว่าบนต้นไม้ใหญ่ด้านข้างมีนกสีสันสดใสสวยงามตัวหนึ่งกำลังไซ้ขนเพื่อทำความสะอาดตัวอย่างช้าๆ
"นางหญิงโง่"
ไม่มีผู้ใดอยู่แถวนี้ นางดูแล้ว
นางมองดูนกที่กำลังอยู่เกาะบนกิ่งไม้ด้วยท่าทางสบายๆ ราวกับิญญา แม้ว่าที่โลกแห่งนี้จะมีเวทมนตร์ แต่ระหว่างสัตว์อสูรและมนุษย์ก็ยังมีสิ่งที่แตกต่างกัน ถึงงูชื่อเหลียนที่เป็สัตว์อสูรระดับสามจะยังไม่บรรลุถึงระดับที่จะสามารถพูดได้ แต่กลับกันแล้วนกตัวนี้กลับดูสดใสและมีชีวิตชีวา ทว่าพอมาพิจารณาดูดีๆ แล้วกลับคล้ายกับตาเฒ่าผู้หนึ่ง
“เป็เ้านกโง่ที่เรียกข้าหรอกหรือ?” หานโม่ไม่อาจเพิกเฉยต่อดวงตาแวววาวที่ส่อประกายเยาะเย้ยตัวนาง แต่เ้านกตัวนี้ยังเปิดปากพูดขึ้นอีก
“นางหญิงโง่งมนี่ ไม่คิดเลยว่าเ้าจะกล้าเรียกข้าว่านกโง่ ข้านั้นคือสัตว์เทพเข้าใจหรือไม่ ไม่เหมือนกับพวกสตรีชั้นต่ำข้างนอกนั่น!”
หญิงชั้นต่ำ...
เ้าสิ่งนี้เคยทะลุมิติมาก่อนหรืออย่างไร ไม่นึกเลยว่าจะใช้คำนี้
เมื่อมองไปที่เ้านกโง่ที่กำลังวางท่าเสียใหญ่โตโอ้อวดว่าตนเป็สัตว์เทพ รวมทั้งยังมีเสื้อผ้าของนางที่เพิ่งซักและตากแดดไว้เมื่อครู่อยู่บนกิ่งไม้ข้างๆ เ้านกตัวนี้ด้วย หานโม่ก็ทั้งขุ่นเคืองทั้งขำ "ข้าไม่เคยเจอสัตว์เทพที่ขโมยเสื้อผ้าของหญิงสาวมาก่อนเลย เ้านกโง่นี้จงคืนเสื้อผ้าและผลชื่อหลิงมาให้ข้าเสีย”
"หากมีความสามารถก็จงมาเอาไปเอง" นกสีสันสดใสที่ยังคงดูเหมือนตาเฒ่า กำลังจัดการสางขนเป็มันวาวให้เรียงตัวสวยงาม
หานโม่ไม่มีทางเลือกอื่น ด้วยไม่อยากจะลดตัวลงไปทะเลาะกับเ้านกตัวนี้อีก นางจึงะโเบาๆ ด้วยร่างกายที่คล่องแคล่วเหมือนนกนางแอ่นขึ้นมาคว้าเสื้อผ้าของตัวเองบนต้นไม้ไป
หลังจากที่ได้เสื้อผ้ามาแล้ว ใบหน้าของหานโม่ก็ดำทะมึนลงอีกครั้ง
เพราะเสื้อผ้าของนางเหลือเพียงเสื้อครึ่งตัวชั้นนอก แต่ข้าวของอื่นๆ หายไปหมด รวมทั้งผลชื่อหลิงที่เพิ่งได้มาและยังไม่ทันได้มองดูชัดๆ นั่นด้วย
หานโม่คว้าเสื้อผ้าชิ้นเดียวที่เหลืออยู่มาและะโลงจากต้นไม้ ตาเรียวมองไปยังมุมปากของเ้านกโง่ที่ยังมีคราบสีแดงน่าสงสัยติดอยู่
หานโม่ไม่จำเป็ต้องคิดให้ซับซ้อนก็รู้ได้ทันทีว่าผลชื่อหลิงคงจะเข้าไปอยู่ในท้องของเ้านกโง่ตัวนี้เรียบร้อยแล้ว
นางเป็ผู้ที่ต้องเผชิญความเหน็ดเหนื่อยและยากลำบากทั้งหลายมา แต่เ้านกโง่กลับได้ผลประโยชน์ทั้งหมดไป!
หานโม่ส่งรอยยิ้มแฝงความนัยให้กับเ้าสัตว์เทพที่อยู่บนกิ่งไม้ พลางจับจ้องเ้านกโง่ที่กำลังสั่นเทาไปทั้งร่าง
“นางหญิงโง่ เ้าคิดจะทำอันใด?”
........................................................................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้