ความจริงใน่นี้หวังเมี่ยวเอ๋อก็กินผักจากพื้นที่ของหลินลั่วหรานมาโดยตลอดภายใต้การใช้ชีวิตตามปกติทั่วไปของเธอก็ได้ลดจำนวนสิ่งแปลกปลอมออกไปจากร่างได้มากแล้วทำให้ผิวพรรณและรูปร่างของเธอเริ่มดีขึ้นมา เพียงแต่ผลของมันเป็ไปได้ช้าหวังเมี่ยวเอ๋อจึงคิดว่าเป็เพราะผักของหลินลั่วหรานนั้นเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์จากธรรมชาติไร้สารต่างๆ และไม่ได้คิดอะไรมากเกินไปกว่านั้น
แต่ว่ายาขวดนี้ เธอไม่รู้ว่าหลินลั่วหรานใช้สมุนไพรที่มีมูลค่ามากแค่ไหนแต่เมื่อเห็นความตั้งใจของหลินลั่วหรานที่มีต่อการทำยาขวดนี้ให้เธอหลินลั่วหรานใช้เวลาสิบกว่าวันในการทำมันออกมาแล้วมันจะไม่ล้ำค่าสำหรับเธอได้อย่างไร?
“ฉันเป็ลูกสาวคนเดียวมาตลอด ไม่เคยมีพี่น้อง น้องสาวเธอเป็เหมือนน้องแท้ๆ ของฉันเลย!”
เพื่อนที่เธอมี ก็มาจากการที่มีงานอดิเรกเหมือนกันเพียงอย่างเดียวเท่านั้นเมื่อเทียบกับความตั้งใจของหลินลั่วหรานที่มีให้แล้วก็สามารถกดทับเพื่อนที่คบกันเพียงชื่อมากมายของหวังเมี่ยวเอ๋อลงไปได้ ด้วยเหตุนี้เธอจึงรู้สึกประทับใจมาก
เมื่อได้ยินถึงขั้นตอนวิธีการทำแล้ว เสี่ยซุยก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาถือว่าหวังเมี่ยวเอ๋อได้รู้จักกับน้องสาวที่ดีคนหนึ่งจริงๆก่อนที่เขาจะนึกคิดมาได้ว่าตอนที่อยู่รุยลี่มู่เทียนหนานถามถึงเื่ราวของหลินลั่วหราน เขาจึงเล่าเื่ทั้งหมดให้เธอฟังเพื่อเตือนให้เธอคอยระวังมู่เทียนหนานที่ไม่รู้ที่มาที่ไปคนนี้
ใช้มือเปล่างอแผ่นเหล็กอย่างนั้นเหรอ? หลินลั่วหรานนิ่งเงียบไปภายในสังคมปัจจุบันนี้ ก็ถือว่ามีคนที่มีความสามารถระดับนี้อยู่ใช่ไหมเมื่อนึกไปถึงเื่เมื่อคืนนั้น คนที่ “มากด้วยความสามารถ” แบบนั้นถูกหลินลั่วหรานซัดจนกระเด็นไปแล้ว เธอก็รู้สึกสงบใจลงได้บ้าง
มีบางคนที่ถูกสร้างให้ไม่ชอบขี้หน้ากันมาั้แ่เกิดอย่างเช่นหลินลั่วหรานและมู่เทียนหนาน ไม่ว่าจะมองจะพูดอย่างไรก็ไม่ได้ชอบขึ้นมาแม้ว่าจะอัดเข้าไปเต็มแรงขนาดนั้น เธอก็ไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่นิดเดียว
“สิ่งที่มู่เทียนหนานตามหาอยู่ คือหยกที่มีพลัง?” แม้ว่าจะคาดเดาเอาไว้ั้แ่แรกแล้วว่าอาจจะมีคนที่สามารถมองเห็นความแตกต่างของหยกหลังจากโดนปรับแต่งพลังแต่เมื่อได้ยินคำว่า “พลัง” ออกมาจากปากของเสี่ยซุยด้วยหูของตัวเองหลินลั่วหรานก็แสดงอาการใออกมาอย่างซ่อนไว้ไม่อยู่
“ใช่แล้ว พี่ก็เป็แค่ผู้ชายอ้วนๆ ธรรมดาคนหนึ่งมีพลังบ้าบออะไรนั่นที่ไหนกัน...พี่คิดว่าตอนนี้เขากำลังจ้องเธออยู่น้องหลินก็เป็แค่ผู้หญิงบอบบาง อย่าไปปะทะอะไรกับเขาเลย ระวังเอาไว้หน่อยก็ดี”
คำแนะนำของเสี่ยซุย ทำให้หลินลั่วหรานรู้สึกขอบคุณ แต่ว่าเธออยากจะพูดออกไปเหลือเกินว่าตัวเองไม่ใช่ผู้หญิงบอบบาง ไม่ใช่เลย...
แต่ว่าคำว่า “พลัง” ถูกมู่เทียนหนานพูดออกมาได้อย่างถูกต้องแม่นยำแสดงว่าคนที่อยู่เื้ัของเขา อาจจะเป็คนแบบเดียวกันกับเธอเหรอ?
ระหว่างขับรถกลับบ้านเก่า หลินลั่วหรานไม่ได้มีความคิดที่จะไป“ผูกสายเื” อะไรแม้แต่น้อย ต่อให้เป็ผู้ฝึกศาสตร์จริง ก็มีทั้งเื่ดีและไม่ดีเธอไม่ได้รู้เื่ราวอะไรเลย แต่ก็ไม่ได้อยากจะไปผูกสัมพันธ์อะไร โอเค แม้ว่าเธออยากจะแบ่งปันประสบการณ์ หรือว่าเรียนรู้เคล็ดลับก็ตามแต่ว่าเธอก็ต้องคิดถึงความปลอดภัยของชีวิตน้อยๆ ของตัวเองด้วย
เมื่อมาถึงบ้านเก่า น้าหลี่เอ้อร์ก็กำลังกวาดอยู่ด้านในตัวบ้านเมื่อเห็นรถของหลินลั่วหราน เธอก็วางไม้กวาดในมือลงแล้วเดินเข้ามาหา “เสี่ยวหราน ทำไมถึงมีเวลาว่างกลับมาได้ล่ะ วันนี้ไม่ได้ทำงานเหรอ?”
“ใช่ค่ะ ต้องรบกวนน้าช่วยดูแลบ้านมากๆ เลย”
เมื่อเห็นว่าหลินลั่วหรานนำเอาของฝากถุงเล็กถุงใหญ่มาให้แม้แต่คนเปิดเผยอย่างน้าหลี่เอ้อร์ก็ยังรู้สึกเกรงใจขึ้นมาปากก็เอาแต่พร่ำบอกว่าสิ้นเปลืองมากเกินไป
รอจนหลินลั่วหรานเดินเข้าห้องไป น้าหลี่เอ้อร์ก็พูดออกมาเสียงเบา “เสี่ยวหราน อยู่บ้านคนเดียวระวังตัวสักหน่อยนะ ่นี้หลี่อันผิงอยู่ที่บ้านชอบมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ บ้านแถมยังมาถามน้าถึงเื่หนูด้วย...แค่มองก็ดูไม่น่าไว้วางใจเท่าไร”
หลี่อันผิง? เขายังไม่ถอดใจอีกเหรอ...ความจริงเลิกกันมาก็ยังไม่ทันถึงสามเดือนแต่หลินลั่วหรานก็เปลี่ยนไปแทบจะทุกอย่าง ไม่ได้ยึดติดอะไรอยู่กับเื่เก่าๆอีกแล้ว ตอนนี้เมื่อคิดกลับไป เธอก็รู้สึกว่าหลี่อันผิงดูคลุมเครือไปเสียหมด
คงเพราะไม่ได้ใส่ใจดังนั้นความโมโหในตอนที่เขาแอบเข้ามาในห้องของเธอราวกับขโมยตอนนี้ก็เป็เพียงเื่น่าขำสำหรับเธอ
หลังจากจัดการนำคนคนนี้ออกไปจากหัว หลินลั่วหรานก็ยิ้มขึ้นเธอไม่ได้ใส่ใจอะไรเลยแม้แต่นิด “หนูแค่กลับมาเอาของน่ะอีกอย่างก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับหลี่อันผิงแล้ว ถ้าเขากล้ามาทำอะไรแย่ๆก็ไม่ยกโทษให้แน่นอน น้าหลี่เอ้อร์ไม่ต้องห่วงไปหรอก”
น้าหลี่เอ้อร์พยักหน้าลง เมื่อได้ยินว่าหลินลั่วหรานจะมาเอาของเธอก็กังวลว่าในบ้านจะมีของมีค่าอะไรเก็บเอาไว้เธอเป็คนนอกจึงไม่สามารถจะช่วยอะไรได้ก็เลยบอกหลินลั่วหรานว่าต้องไปทานข้าวที่บ้านให้ได้ ก่อนจะวิ่งกลับบ้านไป
หลินลั่วหรานไม่สามารถปฏิเสธได้อีกทั้งเธอก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับบ้านน้าหลี่เอ้อร์เสมอมา เธอจึงได้แต่ตกลงไป
เมื่อเห็นว่าแผ่นหลังของน้าหลี่เอ้อร์ลับตาไปจากรั้วไม้ไผ่หลินลั่วหรานจึงเดินเข้ามาในตัวบ้าน นี่เป็เวลาสั้นๆ ไม่ถึงหนึ่งเดือนแต่ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านกลับถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่น หลินลั่วหรานเปิดกล่องหนังสีแดงเก่าๆในห้องของพ่อและแม่ออก แล้วหยิบกระเป๋าใบน้อยที่ถูกผ้าห่อหุ้มเอาไว้ขึ้นมา
เมื่อเปิดออกดูก็พบหนังสือร้อยด้วยเชือกปกสีน้ำเงินเนื้อกระดาษเปลี่ยนเป็สีเหลืองซีดเซียว และยังมีรอยแมลงกัดแทะอยู่บ้างเป็จุดๆมันคือหนังสือยาที่ตระกูลหลินสืบทอดส่งต่อกันมาั้แ่สมัยไหนก็ไม่อาจทราบได้
หลินลั่วหรานเผยรอยยิ้มออกมาเธอกลัวว่าสิ่งของที่ดูไม่ได้มีค่าชิ้นนี้จะหายไป แค่ยังอยู่ก็ถือว่าดีแล้วเธอภาวนาขึ้นในใจ ก่อนจะจัดการเอาหนังสือยาเล่มนี้เข้าไปเก็บไว้ในพื้นที่ลึกลับบนโลกแห่งนี้ไม่มีที่ไหนที่ปลอดภัยไปกว่าพื้นที่ลึกลับของตัวเธอเองแล้ว
ในระหว่างที่หลินลั่วหรานกำลังหาหนังสืออยู่นั้นบ้านของหลี่อันผิงที่ท้ายหมู่บ้านก็มีเื่ขึ้นมา ั้แ่ที่หลินลั่วหรานขับรถเข้ามาในหมู่บ้านก็ถูกพี่หลี่ปาที่ว่างอยู่ตลอดทั้งวันเห็นเข้า
พี่หลี่ปาขึ้นชื่อเื่ความปากสว่าง แน่นอนว่าเธอรีบนำเื่นี้ไปบอกบ้านของหลี่อันผิงในทันที เธอเพียงแค่รักความคึกคักเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับความมีน้ำใจแต่อย่างใด
หลี่อันผิงที่่นี้กำลังสูญเสียทั้งความรักและงานได้เรียนรู้ความยากลำบากอันขมขื่นบนโลกแห่งนี้เป็ครั้งแรก ในเวลาที่กำลังท้อใจเมื่อได้ยินว่าหลินลั่วหรานที่เคยยอมเขาทุกสิ่งมาตลอดแถมตอนนี้ยังมีฐานะที่ดีขึ้นมามากกลับมาที่นี่ในที่สุดเขาก็รีบวิ่งออกไปยังประตูทันที!
แต่มือทั้งสองที่ผอมแห้งของผู้เป็แม่ของเขาโอบกอดเขาเอาไว้จากด้านหลังอย่างแแ่ “อันผิงอย่าเสียสติไปเลย ยัยเด็กสารเลวคนนั้น ครั้งก่อนเคยขู่ว่าจะจัดการเราผู้หญิงร้ายกาจแบบนั้น จะมาเป็ลูกสะใภ้บ้านหลี่ได้ยังไง?!”
พี่หลี่ปายังคงอยู่บ้านของหลี่อันผิงเพื่อรอดูสถานการณ์เมื่อได้ยินคำพูดไร้ยางอายของสาวแก่ก็ได้แต่เบ้ปากออก ไร้ยางอายเสียจริงยังจะพูดว่าไม่้าให้หลินลั่วหรานมาเป็สะใภ้บ้านตัวเองตอนนี้มันเป็เพราะเด็กคนนั้นเขาไม่้าลูกชายของเธอแล้วมากกว่ามั้ง?
เมื่อนึกถึงใบหน้าสวยงามเกินจะบรรยายที่โผล่ขึ้นมาจากกระจกของหลินลั่วหรานแล้วหันกลับมามองหลี่อันผิงที่เต็มไปด้วยหนวดเครารุงรังแม้แต่ในสายตาหยาบกระด้างของพี่หลี่ปา ทั้งสองยังไม่เหมาะสมกันเลยแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินคำพูดของแม่ ในตอนที่กินข้าวกลางวันเขาก็ยังแอบออกไปที่บ้านหลินจนได้ แต่กลับพบว่าที่บ้านมีรถ BMW จอดอยู่หนึ่งคัน ความใหม่ประกายแวววับกระทบกับดวงตาของเขาเมื่อนึกถึงแผนที่หลินลั่วหรานสร้างขึ้นมาหลอกไอลี่ที่รุยลี่และเื่ที่ได้ยินมาจากแม่ของตัวเอง จากที่มีความมั่นใจอยู่เต็มอกหลี่อันผิงก็เริ่มลังเลขึ้นมา...
ในระหว่างที่เขากำลังหลบใช้ความคิดอยู่ภายใต้เงาก็พบว่าเป้าหมายของเขาอย่างหลินลั่วหรานพุ่งตัวออกมาจากบ้านของน้าหลี่เอ้อร์ด้วยความรีบร้อนเธอรีบเข้าไปในตัวรถ BMW เห็นได้ชัดว่าเธอเดินผ่านตัวเขาไปแต่กลับทำราวกับไม่รู้จักเขา ใบหน้าของหลี่อันผิงเปลี่ยนเป็สีแดงจัดในใจของเขาได้แต่พร่ำด่า “ยัยคนเลว”ในใจของเขารู้สึกเกลียดหลินลั่วหรานขึ้นมาจนแทบตายแต่ร่างกายกลับไร้การขยับเขยื้อนใดๆ ได้แต่มองตามหลินลั่วหรานที่ขับรถออกไปจากหมู่บ้านหลี่
“จะต้องมีสักวัน ต้องมีสักวัน...” หลี่อันผิงส่งเสียงขึ้นในคอแต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสักวันหนึ่งนั้น เขาจะทำอะไร
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้