“ฮ่าๆๆ น้องรั่วโหรว อยากไปข้างนอกงั้นหรือ? เอาสิแต่ขอพี่ตงลิ้มรสเธอก่อน หลังจากลิ้มรสเธอให้หนำใจแล้ว พี่จะปล่อยเธอไป”หลี่ตงไม่จำเป็ต้องเล่นละครอีกต่อไปและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความละโมบ
สวี่รั่วโหรวกระวนกระวายจนกำชายเสื้อตัวเองแน่นเธอพูดอย่างสุภาพ “ยะ...อย่าพูดจาแบบนั้นนะคะ ฉะ...ฉันคิดว่าคุณมันน่าขยะแขยง”
นิสัยอ่อนแอของสวี่รั่วโหรวทำให้ผู้ชายทั้งหลายเป็บ้าและอยากจะขืนใจเธอหลี่ตงยิ่งตื่นเต้นขึ้นไปใหญ่และั์ตาก็ส่องประกายความรื่นเริงออกมาสายตาของเขาจ้องเขม็งที่สวี่รั่วโหรวและเดินหาไปเธอ
“รั่วโหรว ถ้าเธอไม่ชอบก็ไม่เป็ไรนั่นเพราะเธอยังไม่มีประสบการณ์กับพี่ว่าพี่ยอดเยี่ยมแค่ไหนเมื่อเธอขึ้นเตียงกับพี่และได้ประสบกับความยิ่งใหญ่ของพี่ เธอจะรักมันแบบโงหัวไม่ขึ้นเลย”
“กรี๊ด ยะ...อย่าเข้ามานะ”
ยิ่งสวี่รั่วโหรวขัดขืนก็ยิ่งทำให้หลี่ตงมีไฟมากขึ้น“น้องรั่วโหรว ั้แ่วันนี้เธอไม่ต้องจ่ายค่าเช่าอีกต่อไปแล้วแค่นอนในห้องพี่ทุกคืน มันทั้งสบายใจและปลุกใจด้วย คิดว่ายังไง?”
หลี่ตงทนไม่ไหวอีกต่อไปเขากระโจนเข้าใส่สวี่รั่วโหรว และเธอก็ใมากจนนั่งลงพื้นเธอก้มหัวชันเข่าและเริ่มร้องไห้
ฉินเฟิงโทรศัพท์เสร็จและยืนอยู่ตรงประตูเขาได้ยินการสนทนาทั้งหมดแต่ไม่เดินเข้าไปเพราะเขาอยากจะบังคับให้สวี่รั่วโหรวรู้วิธีขัดขืนด้วยตัวเอง
เมื่อเห็นสถานการณ์ตอนนี้ฉินเฟิงส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้และเตะอย่างรุนแรงดัง ‘ปัง’และกลอนที่ล็อกประตูก็หล่นกระจายเป็ชิ้นๆ
เสียงนี้ทำให้หลี่ตงและสวี่รั่วโหรวใเมื่อสวี่รั่วโหรวเห็นคนที่เข้ามาในห้องเป็ฉินเฟิง ั์ตาของเธอก็สดใสทันทีเธอวิ่งไปหาเขาเหมือนกับเด็กหลงที่เพิ่งเจอพ่อของตัวเองเธอโน้มเข้าไปหาอ้อมกอดของฉินเฟิงและร้องไห้
ฉินเฟิงโกรธทันทีเขาดึงสวี่รั่วโหรวออกมา “เอ้าๆ ร้องเข้าไป รู้แต่วิธีร้องไห้อย่าบอกนะว่าเธออยากโดนกระทำโดยไอ้หมูนั่นน่ะ?”
สวี่รั่วโหรวส่ายหน้าด้วยความกลัวฉินเฟิงเหมือนกับสัตว์ป่าที่เกรี้ยวกราด เธอก้มหัวและไม่กล้ามองดวงตาที่เดือดดาลของเขาเธอส่ายหัวสุดชีวิต “ฉะ...ฉันไม่อยาก”
เธอมองฉินเฟิงอย่างอ่อนแออีกครั้งเห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยาก แต่เธอไม่รู้จะขัดขืนอย่างไร ฉินเฟิงผิดหวังมากเขาตะคอกใส่ “ถ้าเธอไม่อยาก ก็ขัดขืนสิ! เธอโกรธไอ้สัตว์นรกนี่ใช่ไหม? งั้นก็ตบมัน ตีมันแรงๆ!”
“ทำอย่างฉันนี่ แค่ตบหน้ามัน!”
ขณะที่ตะคอกฉินเฟิงไปหาหลี่ตงและตบหน้าของเขา หลี่ตงไม่แม้แต่จะมีเวลาตอบสนองฟันหน้าของเขากระเด็นลอยออกไป และหน้าทั้งหน้าก็บวมตุ่ยเืกระเซ็นออกจากปากของเขา
เมื่อเห็นเืสวี่รั่วโหรวก็กลัวจนใช้มือปิดตา
ฉินเฟิงคำรามไปที่เธอ“ห้ามปิดตา เอามือออกจากหน้าซะ ฉันเพิ่งจะอุ่นเครื่องเท่านั้น!”
หลังจากพูดจบฉินเฟิงก็เตะเข้าที่ท้องของหลี่ตง เขาระบายความโกรธออกมาดังนั้นเขาเลยไม่ได้ออมแรง ลูกเตะของเขาส่งหลี่ตงลอยไปชนกำแพงอย่างรุนแรง
“ไอ้บัดซบ แกอยากฉวยโอกาสรั่วโหรวเหรอวะ กับเด็กสาวน่ารักไร้เดียงสาอย่างนี้เนี่ยนะ?แกยังเป็มนุษย์อยู่หรือเปล่า?” เขากระทืบขาของหลี่ตง
“โชคดีที่ฉันอยู่ที่นี่ ถ้ารั่วโหรวเป็อะไรไปฉันจะให้ม้าฉีกกระชากแขนขาแกให้เป็ 5 ท่อน”แล้วเขาก็กระทืบตรงท้องของหลี่ตง
“ตุบตับๆ!”
ฉินเฟิงกระทืบหลี่ตงอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับสัตว์ป่าไม่นานหลังจากนั้น หลี่ตงก็นอนจมกองเื
“เธอเห็นนั่นมั้ย? เธอต้องอัดไอ้คนแบบนี้อย่างไร้ปรานีต่อไปพวกมันจะได้กลัวเธอ!”
หลังจากกระทืบหลี่ตงฉินเฟิงได้ระงับความโกรธและยับยั้งอารมณ์ของเขาเขาเดินมาหาสวี่รั่วโหรวและจับมือของเธอเดินออกไปแต่สวี่รั่วโหรวทำตัวเหมือนกับโดนไฟฟ้าช็อกและสะบัดมือออก เธอถอยหลังห่างจากเขา
“เธอทำอะไร? อย่าทำตัวมีปัญหานักจะได้ไหม?” ฉินเฟิงรู้ว่าเขาทำให้สวี่รั่วโหรวกลัวแต่ถ้าเขาไม่ขู่เธอให้กลัวอย่างนี้สักครั้งสองครั้งเธอคงไม่มีทางที่จะเปลี่ยนนิสัยอ่อนแอแบบนี้ได้
ทั้งหวังเชาและหลี่ตงโดนเขาเฉดหัวไปแต่ต่อไปหากวันไหนเขาไม่สามารถช่วยเธอได้ทันเวลาแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กสาวอ่อนแอแบบนี้กัน?
หรือจริงๆแล้วเธอชอบโดนข่มเหงโดยคนพวกนี้? แค่คิดเื่นี้ก็ทำให้ฉินเฟิงเดือดขึ้นมา
“ปะ...เปล่า” สวี่รั่วโหรวเงียบไปสักพัก แล้วรวบรวมความกล้าพูดออกมา“ฉินเฟิง คะ...คุณไปเถอะ ฉะ...ฉันจะไม่ไปตำหนักฉินกับคุณแล้ว”
เมื่อเห็นความร้อนใจของสวี่รั่วโหรวฉินเฟิงก็ใจอ่อนลง เขากอดสวี่รั่วโหรวอย่างอ่อนโยนและลูบผมสีดำสลวยของเธอด้วยความรักใคร่
สวี่รั่วโหรวกั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่อีกต่อไปและปล่อยโฮออกมาเธอร้องไห้สะอึกสะอื้น “ฉินเฟิง ทะ...ทีหลังอย่าะโใส่ฉันแบบนั้นอีกนะคะฉะ...ฉันกลัวจริงๆ ตะ...ตอนนี้ฉันคิดว่าคุณเป็เพื่อน ตอนที่ฉันอยู่กับคุณ ฉันรู้สึกปลอดภัยตะ...แต่ถ้าคุณรุนแรงอย่างนั้น ฉะ...ฉันคิดว่าแม้แต่ฉันก็กลัวคุณ”
เมื่อเห็นสวี่รั่วโหรวดูหมดหนทางหัวใจของฉินเฟิงก็เ็ป เขาปลอบเธอชั่วขณะหนึ่งและเธอก็ค่อยๆทำให้เขาอบอุ่นอีกครั้ง ในตอนนี้เธอกอดแขนของฉินเฟิงแน่น
ฉินเฟิงพาเธอไปข้างหน้าของหลี่ตงเมื่อเธอเห็นร่างของหลี่ตงที่โดนกระทืบจนนอนจมกองเืสวี่รั่วโหรวก็แอบข้างหลังฉินเฟิงด้วยความใฉินเฟิงดึงเธอออกมาจากข้างหลังเขาอย่างอ่อนโยน
“รั่วโหรว เธอเกลียดผู้ชายเวรตะไลนี่ไหม?” เมื่อเขาเห็นหลี่ตงสีหน้าของฉินเฟิงก็เ็าอีกครั้ง
สวี่รั่วโหรวพยักหน้า
“ด่ามัน” ฉินเฟิงบอก แล้วเขาก็จำได้ว่าสวี่รั่วโหรวไม่รู้วิธีด่าคนฉินเฟิงจึงตัดสินใจสอนเธอ
“รั่วโหรว พูดตามฉันนะ ไม่ว่าฉันจะพูดอะไร เธอก็พูดตามด้วย”
สวี่รั่วโหรวลังเลนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้า
“ไอ้เวร ไอ้ชาติหมา แน่จริงก็ตบฉันสิ ฉันจะฆ่าแก!”
เมื่อฉินเฟิงเปิดปากสวี่รั่วโหรวก็ตะลึงงัน ริมฝีปากลูกพีชของเธอเปิดปิดพะงาบๆแต่เธอก็ไม่สามารถพูดตามได้แม้แต่คำเดียว
ฉินเฟิงเกาหัวและเปลี่ยนประโยค“ไอ้บัดซบ ตาหมาๆ ของแกบอดหรือไงวะ? กล้าดียังไงมาหลงความสวยของฉัน?ฉันจะตบแกให้ตาย!”
สวี่รั่วโหรวเกือบจะบ้าเธออยากจะปิดหูเพื่อป้องกันไม่ให้ได้ยินคำพูดของฉินเฟิง มันหยาบคายมาก
ฉินเฟิงคิดว่านี่คงไม่ได้ผลเขาจึงจับไหล่ทั้งสองของสวี่รั่วโหรวและจ้องั์ตาของเธออย่างเคร่งเครียด“รั่วโหรว เอางี้เป็ไง ฉันพูดคำหนึ่ง เธอพูดคำหนึ่ง ตามฉันนะ”
หลังจากลังเลสักพักสวี่รั่วโหรวก็พยักหน้าเล็กน้อย
“ห่า!”
สวี่รั่วโหรวจ้องฉินเฟิงอย่างเซ่อซ่าโดยไม่พูดอะไร
“ฮา” ฉินเฟิงไม่ออกเสียงวรรณยุกต์
“หา” สวี่รั่วโหรวพูดตามอย่างตั้งใจ
“ไม่ใช่ มันคือ ฮา”
“ฮะ” สวี่รั่วโหรวยังพูดไม่ได้
ฉินเฟิงหน้ามืดเขาโกรธจนอยากจะตาย!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้