หลังจากคารวะเหล่าผู้าุโของตระกูล จั๋วอวิ๋นเซียนก็แอบกลับไปที่เรือนของตัวเองเงียบๆ
ในห้องของนายน้อยจั๋วไม่ได้หรูหรานัก กลับดูเรียบง่าย ด้านในไม่มีเครื่องประดับหรือของตกแต่งตระการตา นอกจากของใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว มีเพียง ‘อุปกรณ์ิญญาสุญญตา’ เก่าแก่อันหนึ่งวางอยู่ตรงมุมห้อง
‘อุปกรณ์ิญญาสุญญตา’ มีความสูงเท่าคน มีลักษณะคล้ายกับอุปกรณ์ส่องท้องฟ้า มันเป็หนึ่งในอุปกรณ์ิญญาสายช่วยเหลือที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดบนแผ่นดินเซียนฉยง โดยมีต้นกำเนิดใน่ต้นของยุคสมัยเซียนที่เก้า...ในวันที่ศิลาเทวะตกลงมาจากฟากฟ้า แล้วค่อยๆ กลายเป็มิติมายา นามว่า ‘สุญญตา’
มิติมายาสุญญตามหัศจรรย์เป็อย่างมาก มันถือกำเนิดเป็โลกใบหนึ่งที่มิใช่ภาพลวงและมิใช่ความจริง โดยอยู่ในการควบคุมของพันธมิตรเซียนศักดิ์สิทธิ์
ถึงจะบอกว่าเป็การควบคุม แต่แท้จริงแล้วพันธมิตรเซียนศักดิ์สิทธิ์มีอำนาจเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น มิอาจควบคุมมิติมายาสุญญตาได้ทั้งหมด
ไม่มีใครรู้ความเป็มาของมิติมายาสุญญตา เช่นเดียวกับที่ไม่มีใครรู้ว่าทำไมมิติมายาจึงปรากฏขึ้นบนแผ่นดินเซียนฉยง แต่ไม่ว่าปุถุชนหรือผู้บำเพ็ญเซียนล้วนสามารถใช้จิตเข้าไปฝึกฝนหรือต่อสู้ในนั้นได้ และภายใต้เงื่อนไขที่พิเศษทำให้สามารถพูดคุยกับคนที่อยู่ห่างออกไปหมื่นลี้ได้ เรียกได้ว่าเป็ศูนย์กลางการสื่อสารของแผ่นดินเซียนฉยงก็ว่าได้
ในความเป็จริงแล้ว ความเจริญของแผ่นดินเซียนฉยงทุกวันนี้ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับมิติมายาสุญญตาอย่างมาก แม้แต่ ‘ดวงตามหาสุญญตา’ ของพันธมิตรเซียนศักดิ์สิทธิ์ก็คือส่วนหนึ่งของมิติมายาสุญญตาเช่นกัน
น่าเสียดาย หลังจากพลังปราณฟ้าดินสลายหายไปจนสิ้น มิติมายาสุญญตาก็มิอาจเปิดด้วยตัวเองได้อีก มีเพียงใช้ ‘อุปกรณ์ิญญาสุญญตา’ ถึงจะสามารถเข้าไปในนั้นได้ ทว่าเป็เื่ค่อนข้างยุ่งยากเล็กน้อย
……
“์ไร้ลักษณ์ วิถีกลับสู่ความว่างเปล่า เรียกขานกันว่า ‘สุญญตา’ ”
จั๋วอวิ๋นเซียนนั่งอยู่ในอุปกรณ์ิญญา ใช้จิตหลอมรวมเข้าไปในมิติมายาสุญญตา เสียงที่แ่เบากระซิบข้างหู ราวกับตราประทับจากโบราณกาล
มิติมายาสุญญตากับแผ่นดินเซียนฉยงเชื่อมต่อกันอย่างแนบสนิท เพื่อความสะดวกและลดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ พันธมิตรเซียนศักดิ์สิทธิ์จึงแบ่งมิติมายาสุญญตาออกเป็เก้าเขตสามดินแดน เพื่อให้สอดคล้องกับเก้าทวีปสามเกาะ อีกทั้งยังวางเขตแดนไร้ลักษณ์ขวางกั้น มีเพียงคนในทวีปเดียวกันถึงจะสามารถเข้าไปติดต่อกันผ่านมิติมายาสุญญตาได้
เมื่อจั๋วอวิ๋นเซียนลืมตาอีกครั้ง เขาก็ปรากฏตัวในสุสานโบราณแห่งหนึ่งซึ่งโอบล้อมด้วยกระดูกกองเรียงกันเป็ูเา บรรยากาศน่ากลัวยิ่งนัก
ถึงแม้มิติมายาสุญญตาจะเป็โลกอีกใบหนึ่ง ทว่ากลับให้ความรู้สึกสมจริงมาก
ในที่แห่งนี้พลังถูกจำกัด ทุกคนล้วนเท่าเทียมกัน นอกจากไม่อาจบำเพ็ญตนและไม่มีเกิดแก่เจ็บตายแล้ว เื่อื่นๆ แทบไม่ต่างจากโลกความจริงเท่าใดนัก มีขั้วอำนาจ มีการแย่งชิง แต่ก็ยังมีโอกาสซ่อนอยู่ไม่น้อย เรียกได้ว่ามีสีสันยิ่งกว่าโลกความจริง...อย่างน้อยสำหรับคนธรรมดาอย่างจั๋วอวิ๋นเซียนแล้วก็เป็เช่นนี้
จากการคาดเดาของผู้าุโยอดฝีมือ มิติมายาสุญญตาน่าจะเป็สถานที่ฝึกฝนของสำนักนิกายบางแห่งในสมัยโบราณ เพียงแต่ที่นี่ไม่ได้ทดสอบการบำเพ็ญหรือพลัง แต่เป็จิตใจและสติปัญญา หรืออาจจะเป็สิ่งอื่น
แต่น่าเสียดายนัก ไม่รู้ว่ามันผ่านภัยพิบัติแบบใดมา มรดกสืบทอดมากมายในมิติมายาสุญญตาสูญสลายสิ้น หลงเหลือเพียงเศษซากโบราณสถานที่อยู่ในการควบคุมของพันธมิตรเซียนศักดิ์สิทธิ์
พันธมิตรเซียนศักดิ์สิทธิ์ประกาศว่ามิติมายาสุญญตามีโบราณสถานนับพันแห่ง และในเขตทวีไท่เซียนก็มีมากถึงหนึ่งร้อยสิบเอ็ดแห่ง ทุกที่ล้วนเป็มิติเอกเทศ สามารถเข้าไปตามลำพังหรือพาสหายเข้าไปด้วยก็ได้
ในนั้นมีซากโบราณสถานระดับต่ำเก้าสิบเก้าแห่งที่ไม่มีข้อจำกัดอะไร ส่วนซากโบราณสถานระดับกลาง หาก้าเข้าไปต้องจ่ายเงินมายาเล็กน้อย และซากโบราณสถานระดับสูงเท่าที่รู้มีเพียงสามแห่ง หาก้าเข้าไปจะต้องจ่ายเงินมายาจำนวนมาก
สำหรับที่มาของ ‘เงินมายา’ มันก็คือสิ่งของที่พบได้เฉพาะในมิติมายาสุญญตาเท่านั้น ไม่อาจเลียนแบบและไม่อาจทำลายได้ มีเพียงเข้าร่วมการทดสอบของซากโบราณสถานครั้งแรกเท่านั้นถึงจะได้เงินมายาเป็รางวัล อีกทั้งหลังจากสะสมได้จำนวนหนึ่งยังสามารถใช้แลกเปลี่ยนเป็สมบัติ โอสถสมุนไพร อาวุธวิเศษ กระบี่บินหรือสิ่งของอื่นๆ กับพันธมิตรเซียนศักดิ์สิทธิ์ผ่านช่องทางต่างๆ ได้...นี่นับว่าเป็การส่งเสริมผู้บำเพ็ญเซียนจากพันธมิตรเซียนศักดิ์สิทธิ์
ผ่านไปนานวันเข้า ทุกคนในมิติมายาล้วนใช้เงินมายาในการแลกเปลี่ยน ทำให้มีขั้วอำนาจไม่น้อยที่มองเห็นโอกาสทำการค้า พวกเขาใช้ทรัพย์สินในโลกความจริงแลกเปลี่ยนกับเงินมายาเพื่อเป็ทุนในมิติมายาสุญญตา
แน่นอนว่าซากโบราณสถานทุกแห่งล้วนมีด่านทดสอบที่ต่างกัน ยิ่งเป็ระดับสูงก็ยิ่งยากและอันตราย บางที่เป็การฝึกฝนจิตใจ บางที่เป็การทดสอบพลังจิต ยังมีบางที่ต้องฝึกฝนงานฝีมือ...แต่เพราะมันไม่สมบูรณ์จึงมีความหลากหลาย บางครั้งมีอันตรายถึงชีวิตด้วย ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับซากโบราณสถานขนาดใหญ่ ผู้คนจำนวนมากล้วนเดินทางเป็กลุ่มเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
มรดกสืบทอดของห้าศาสตร์วิถีเซียนล้วนได้มาจากซากโบราณสถาน มีกระทั่งวิชาลับไร้นามมากมายก็ปรากฏอยู่เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้บำเพ็ญคิดว่า เลขเก้าคือตัวเลขที่เก่าแก่ที่สุด ในซากโบราณสถานทุกแห่งล้วนมีความเชื่อมโยงบางอย่างต่อกัน เพียงแต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถไขความลับของซากโบราณสถานเหล่านี้ได้
พูดได้เต็มปากเลยว่ามิติมายาสุญญตาคือมหาสมบัติ ทั้งยังเป็ต้นกำเนิดมรดกสืบทอดของแผ่นดินเซียนฉยง
……
สถานที่ที่จั๋วอวิ๋นเซียนอยู่คือซากโบราณสถานระดับต่ำหมายเลขเก้าสิบเก้า มีบททดสอบการสร้างค่ายกลเป็หลัก โดยมีบททดสอบเก้าด่าน หลังจากใช้ความพยายามมาสามเดือนกว่า เขาก็มาถึงก้าวสุดท้ายแล้ว นี่ก็คือโบราณสถานระดับต่ำที่สุดท้ายของเขา
ใช่แล้ว เป็ที่สุดท้ายแล้ว!
ั้แ่อายุหกขวบ จั๋วอวิ๋นเซียนก็ขอให้บิดาสร้างอุปกรณ์ิญญาให้เขาอันหนึ่ง ในเวลาปกตินอกจากอ่านตำรากับบำเพ็ญเซียนแล้ว สิ่งที่เขาชอบที่สุดคือการท่องเที่ยวในโลกมิติมายาแห่งนี้ เพราะมีเพียงที่นี่เขาถึงสามารถััได้ถึงกลิ่นอายของอิสรภาพและความสุข ทุกคนเสมอภาค ไร้ข้อผูกมัด ไร้ความกดดัน และไม่มีใครรู้สถานะของเขา
ในเวลาหกปี เขาผ่านการทดสอบจากซากโบราณสถานระดับต่ำมาแล้วเก้าสิบแปดแห่ง สำเร็จภารกิจมาแล้วนับไม่ถ้วน ห้าศาสตร์วิถีเซียนก็ฝึกฝนมานานแล้ว ถึงไม่นับว่าเชี่ยวชาญแต่ก็มีพื้นฐานแน่นมาก
ั้แ่มิติมายาสุญญตาร่วงลงมาที่โลก เซียนและปุถุชนอยู่ร่วมกัน แต่คนที่สามารถผ่านซากโบราณสถานระดับต่ำเก้าสิบเก้าแห่งมาได้ ไม่ใช่ไม่มีแต่มีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย และไม่ใช่เพราะพลังหรือสติปัญญาไม่พอ แต่เป็เพราะกระบวนการนี้ยากลำบากและน่าเบื่อยิ่งนัก มีไม่กี่คนที่สามารถอดทนผ่านมันไปได้ ถึงอย่างไรแต่ละศาสตร์ล้วนมีความพิเศษของมัน ผู้คนมากมายต่างเลือกฝึกฝนในซากโบราณสถานที่เกี่ยวข้องกับทักษะของตัวเอง หลังจากเติมเต็มเงื่อนไขแล้วจึงจะไปซากโบราณสถานระดับกลางหรือระดับสูง การไม่เชี่ยวชาญด้านใดเลยถือว่าเป็ข้อห้ามของผู้บำเพ็ญเซียน
แน่นอนว่าถึงแม้จั๋วอวิ๋นเซียนจะผ่านการฝึกฝนจากซากโบราณสถานระดับต่ำมามากมายขนาดนี้ แต่ไม่ได้เรียนรู้ทุกกระบวนการอย่างสมบูรณ์ ทำให้ทักษะฝีมือมากมายค่อยข้างจับฉ่าย รู้เพียงวิธีทำ แต่ไม่รู้ขั้นตอน...นี่ก็คือสาเหตุสำคัญที่เขาอยากไปสำนักเซียน
ห้าศาสตร์วิถีเซียน กว้างขวางลึกล้ำ มีบันทึกในตำราโบราณว่า...
วิถีโอสถ ฝืนท้าชะตาฟ้า ลดสิ่งที่เกินเพื่อเติมสิ่งที่ขาดหาย
วิถีอาวุธ แข็งแกร่งที่ภายนอก เน้นหนักที่อาวุธ หากร่างกายไม่แข็งแกร่งพอคงมิอาจแบกรับไหว
วิถีควบคุมสัตว์ จิตเชื่อมเจ็ดชีพจร พลังิญญารวมที่จุดสูงสุด หากไร้พร์ยากจะสำเร็จ
วิถีค่ายกล มีอักขระเป็ฐาน มีกฎเป็สื่อนำ ใช้พลังจากฟ้าดิน สร้างการเปลี่ยนแปลงได้ไร้สิ้นสุด
วิถียันต์ มีจิตเป็พลัง มีิญญาเป็สื่อกลาง เปลี่ยนความซับซ้อนเป็ความเรียบง่าย แสดงพลังกลไกได้นับพัน
