ในสายตาของอาเล็ก ซูจื่อเยี่ยเปรียบดั่งเห็ดหอม หากได้มาเห็นเข้า คงได้จับนางมาฉีกอย่างบ้าคลั่ง
“หือ?” ซูจื่อเยี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย รอผู้อื่น? นับแต่เขาเกิดมาไม่เคยมีใครกล้าเอ่ยกับเขาเช่นนี้มาก่อน
ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ซูจื่อเยี่ยเห็นสายตาของนางมองไปทางเรือนกลางทางนั้น
เมื่อนึกถึงหลิวเสี่ยวหลันที่มีท่าทีเสแสร้ง ยังมีความเด็ก แล้วยังเลียนแบบวิธีต่ำทรามที่น่าไม่อาย ซูจื่อเยี่ยเห็นคนที่จิตใจไม่ซื่อเช่นนี้มาไม่น้อยในจวน
เมื่อคิดเช่นนี้ และเห็นความตรงไปตรงมาของหลิวเต้าเซียง ไม่มีเลศนัย ชัดว่ามองเขาเป็สหายคนหนึ่งจากใจจริง การที่ข้างกายเขามีคนเช่นนี้ นับว่า์ช่างโอบอ้อม
หัวใจของซูจื่อเยี่ยแข็งกระด้างเหมือนก้อนหิน และมุมหนึ่งก็พังทลายลงอย่างเงียบๆ แต่ตัวเขาเองก็ไม่ทันสังเกต
“เ้ามีหัวใจที่บริสุทธิ์”
หลังจากพูดแบบนี้เขาก็เข้าไปในบ้านหลังใหญ่ เมื่อออกมาอีกครั้งก็มีคันธนูและลูกศรอยู่ในมือ ซึ่งเป็ของที่หลิวซานกุ้ยใช้ประจำ
เมื่อเขาเดินผ่านนางก็พูดเบาๆ ว่า “แย่และเบาเกินไป แต่ก็พอใช้ได้ ลองดูว่าจะล่ากระต่ายได้สักกี่ตัว”
ร่างของเขาหายไปทางประตูลานบ้าน หลิวเต้าเซียงนั่งอึ้งอยู่ใต้ต้นแพร์ หัวใจที่บริสุทธิ์? ไปให้อาหารสุนัขเถิด นางแค่อยากปกป้องครอบครัวของตนเอง เพียงแค่อยากมีคนปรนนิบัติรับใช้ และมีสักวันที่ออกรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูได้
หลิวเต้าเซียงไม่้ามีหัวใจที่บริสุทธิ์ อืม นางต้องพยายามเป็คนชั่วร้ายให้มากกว่านี้
“คุณชายน้อย รอก่อน!” เสียงแหลมของหลิวเสี่ยวหลันมาจากขั้นบันไดของบ้านหลังใหญ่
หลิวเต้าเซียงได้สติมองไป เห็นหลิวเสี่ยวหลันมีสีหน้าร้อนรนวิ่งก้าวเล็กๆ ออกมาแล้วเอ่ยถาม “คุณชายน้อยท่านนั้นไปไหนแล้ว?”
“ไปทางนั้นแล้ว” หลิวเต้าเซียงชี้ไปที่ประตูลานบ้าน
หลิวเสี่ยวหลันโกรธมากจนกระทืบเท้าเล็กๆ พร้อมกับดึงผ้าเช็ดหน้าในมือ แล้วต่อว่า “เลี้ยงเ้าไว้ได้ประโยชน์อะไร สิ้นเปลืองข้าวสารเสียจริง นางตัวดี ข้าถามอีกรอบ เมื่อครู่คุณชายน้อยไปทางไหน”
“ข้าจะรู้ได้อย่างไร เขาไม่ได้บอกข้า” หลิวเต้าเซียงไม่ยอมรับว่าตนเองรู้
“โกหก นางตัวดีอย่างเ้าน่ะหรือจะไม่รู้? ฮึ คิดว่าข้าไม่รู้หรือ เป็เด็กเป็เล็กไม่หัดเรียนอะไรดีๆ กลับมาหัดวิธีหลอกล่อผู้ชายราวกับนางจิ้งจอก” หลิวเสี่ยวหลันพูดจบก็หันหลังเดินจากไป สำหรับหลิวเต้าเซียง นางถูกด่าั้แ่เด็กจนชิน ส่วนหลิวเสี่ยวหลันนั้นขอเพียงหลิวซานกุ้ยกับหลิวต้าฟู่ไม่อยู่บ้าน นางก็มักจะต่อว่าทุบตีสองพี่น้องอย่างตามใจ
แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่หลิวฉีซื่อได้บอกวิธีจัดการสาวรับใช้ในจวน หลิวเสี่ยวหลันจึงใช้วิธีเหล่านี้มาฝึกกับสองพี่น้อง
หลิวเต้าเซียงอดไม่ได้ที่จะกลอกตาและตอบว่า “อาเล็ก เ้ากับข้าก็อายุเท่ากัน คนตระกูลผู้ดีชั้นสูงกล่าวกันว่าชายหญิงไม่เกินเจ็ดขวบมิควรอยู่ร่วมกัน วันๆ เ้าเอาแต่มุดเข้าห้องผู้ชาย ช่างดูไม่ออกจริงๆ อาเล็กโตแค่นี้ก็เอาแต่คิดถึงผู้ชายเสียนี่”
เื่ปากร้าย หลิวเต้าเซียงนั้นร้ายกว่า
“เ้า นางตัวดี ดูสิว่าข้าจะฉีกปากเน่าๆ ของเ้าหรือไม่” หลิวเสี่ยวหลันโมโหจนหน้าแดง สิ่งที่นางทำก็อีกเื่หนึ่ง หากปล่อยให้หลิวเต้าเซียงกระจายข่าวออกไปจนทำให้ชื่อเสียงของตนเสียหายก็เป็อีกเื่หนึ่ง
หลังจากพูดแบบนั้น นางก็หันหลังกลับและวิ่งเหยาะๆ มาทางหลิวเต้าเซียง ขณะนี้นางเพียงแค่อยากตบหน้าสักที
“เอ คุณชายซู” หลิวเต้าเซียงขานเรียกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เมื่อหลิวเสี่ยวหลันได้ยิน ใบหน้าก็เปลี่ยนกลับราวกับพลิกตำรา เมื่อครู่ยังโมโหจนแทบพุ่ง พอหันหลังก็กลายเป็ใบหน้ายิ้มแย้มดุจฤดูใบไม้ผลิ
“คุณชาย…”
แต่ตรงประตูหาได้มีิญญาแม้แต่ตนเดียว
“อาเล็ก เ้ารีบวิ่งตามไปดีกว่า อีกเดี๋ยวหาตัวไม่เจอ ใครจะรู้ว่า คุณชายน้อยเขาจะจากไปโดยไม่ลาหรือไม่”
สิ้นเสียงของหลิวเต้าเซียง หลิวเสี่ยวหลันก็วิ่งออกไปทางประตูลานบ้านอย่างรวดเร็วมาก เงาหายวับไป
นางเบ้ปากอย่างดูแคลน อ่อนหัด คิดสู้กับนาง!
หลิวเต้าเซียงไม่ได้กังวลเลยว่าซูจื่อเยี่ยจะถูกตามหรือไม่
นางลุกขึ้นมองดูหลิวชุนเซียงที่กำลังหลับสบายอยู่ในเปล อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบแก้มอ้วนท้วนของนาง ยิ้มแล้วเอ่ย “เด็กน้อย เ้าเกิดมามีชีวิตที่ดีแน่นอน มีข้าเป็พี่สาวคอยปกป้องทั้งคน ต่อไปต้องมีชีวิตอย่างคนมั่งมี”
มีห้วงมิติอยู่ในมือ ก็เดินตามทางแห่งความรุ่งโรจน์
“น้องรอง น้องเล็กหลับอีกแล้วหรือ?” หลิวชิวเซียงทำอาหารหมูเสร็จก็ออกมาจากในครัว
“เช่นนี้น่ะดีแล้ว น้องเล็กของเรากินแล้วนอน นอนแล้วกิน ร่างกายจะได้เจริญเติบโต” นางยังมีอีกคำพูดหนึ่งที่ไม่ได้พูดออกมา เด็กทารกก็ต้องเป็เช่นนี้ถึงจะเติบโตได้ดี และโตไวๆ
“น้องรอง เ้าพูดเหมือนน้องเล็กเราเป็หมูอย่างนั้น” หลิวชิวเซียงยิ้มแย้มแล้วเดินเข้ามา ขยับผ้าห่มอย่างเบามือ
หลิวเต้าเซียงตอบด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ใหญ่ ข้าอยากขึ้นไปบนูเาเพื่อเก็บฟืน พี่ช่วยดูน้องเล็กด้วย หากย่าถามก็บอกไปตามตรง”
“ตกลง ไปเถิด!” ่นี้หลิวชิวเซียงใช้ชีวิตอย่างกระตือรือร้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
มีหลิวซุนซื่อมาเข้าร่วมด้วย งานบ้านของนางก็ยิ่งเบาสบายขึ้น
หลิวเต้าเซียงหยิบมีดผ่าฟืน แบกตะกร้าขึ้นหลัง แล้วพกกระบอกน้ำไม้ไผ่เตรียมตัวออกจากบ้าน
“น้องรอง รอเดี๋ยว” หลิวชิวเซียงหยุดนาง แล้วหันกลับไปทางห้องครัว
พอออกมา ก็มีสิ่งของที่ใช้ใบตองห่อไว้ออกมาด้วย
“นี่อะไร?” นางได้กลิ่นหอมอ่อนๆ
“มันคือขนมอ้าย [1] ย่าทำเองกับมือ เดิมทีจะให้คุณชายน้อยท่านนั้นกิน แต่ปรากฏว่าเขาไม่กินแม้แต่คำเดียว อาเล็กไม่รู้ ย่าก็ออกไปแล้ว” หลิวชิวเซียงจึงกะพริบตาให้นางอย่างรื่นเริง
“พี่ใหญ่ พี่เก็บไว้หน่อยเถิด ให้พ่อแม่และพี่กินบ้าง” หลิวเต้าเซียงมองดูห่อใหญ่ เดาว่าคงมีสี่ห้าอัน
คําพูดของนางดึงดูดให้หลิวชิวเซียงหัวเราะออกมาดุจระฆังเงิน “วางใจเถอะ ย่าบอกว่าวันนี้เที่ยงเราจะกินขนมอ้ายกัน”
นี่เป็ความเอื้ออาทรที่หาได้ยากของหลิวฉีซื่อในทุกปี
หลิวเต้าเซียงได้กลิ่นหอมและแอบกลืนน้ำลาย หญ้าอ้ายนั้นมีเพียง่เดือนเมษายนถึงจะมีให้กิน ชาติก่อนตอนที่นางไปบ้านยายที่บ้านนอก ได้เคยลองชิม ตอนนั้นได้ยินยายเคยบอกว่า หญ้าอ้ายคือยาสมุนไพรชนิดหนึ่ง สามารถดับร้อนในได้และไล่ความชื้นได้ รักษาอาการดีซ่าน และแก้อักเสบ!
สิ่งสําคัญที่ทําให้นางจําได้คือรสชาติดีไม่ใช่น้อย
พอได้ยินว่าหลิวฉีซื่อได้เตรียมไว้มากมาย หลิวเต้าเซียงจึงไม่เกรงใจ คิดในใจว่าต้องไปเก็บหญ้าอ้ายมาทำขนมบ้าง แล้วก็หวนคิด ตนไม่รู้ว่าต้นหญ้าอ้ายหน้าตาเป็เช่นไร
“พี่ใหญ่ พี่หาเวลาว่างไปเก็บหญ้าอ้ายมาสิ”
หลิวชิวเซียงเอื้อมมือออกไปลูบศีรษะน้อยของนาง มีเพียงเวลาเอ่ยถึงของกิน น้องรองของตนถึงจะแสดงท่าทีดังที่เด็กน้อยควรมี
“ได้ เดี๋ยวข้าจะให้แม่ไปบอกกับย่า แล้วขอแป้งข้าวเหนียวมานวดแป้งหน่อย”
“ไม่ต้อง พี่ใหญ่ ครั้งหน้าข้าจะไปซื้อมาจากในตำบลเอง ถึงอย่างไรหญ้าอ้ายเก็บกลับมาก็ต้องต้ม ไม่รีบร้อนทำวันนี้”
ของอะไรเช่นนี้ ก็ต้องกินให้หลายมื้อหน่อย แล้วนึกถึงพ่อของตนที่ออกไปทำนาตากฝนทั้งปี ความชื้นในร่างกายน่าจะหนักพอสมควร ต้องกินขนมอ้ายเพื่อขจัดความชื้นแล้วก็ทำให้กระเพาะอบอุ่น
“น้องรอง เ้าได้เงินมาอีกแล้วอย่างนั้นหรือ?” หลิวชิวเซียงใ ก่อนหน้านี้หลิวเต้าเซียงไปหางานในตำบลบังเอิญได้รางวัลตอบแทนมา แต่เอามาใช้เพื่อครอบครัว
หลิวเต้าเซียงรีบใส่อาหารลงในตะกร้าไม้ไผ่และตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ยังมีอีกหลายอีแปะที่ยังไม่ได้ใช้ โชคดีจะได้เอาไปแลกเป็แป้งข้าวเหนียวกลับมาบ้าง”
เพราะว่าชอบใช้จ่ายจึงจะคิดหนทางหาเงิน
“ซื้อข้าวเหนียวมาแล้วให้แม่แอบโม่เงียบๆ เถิด!” หลิวชิวเซียงได้ยินว่าต้องซื้อแป้งข้าวเหนียวจึงรู้สึกเสียดายทองแดง
หลิวเต้าเซียงไม่้าให้จางกุ้ยฮัวเหนื่อย นางอยากเลี้ยงดูร่างกายของจางกุ้ยฮัวให้ดี แล้วคลอดเ้าน้องชายตัวอ้วนพีออกมาสักคน นางข้ามมิติมายุคโบราณ นี่คือความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ถ้าเช่นนั้น ก็ต้องพยายามเปลี่ยนแปลงสิ่งรอบข้าง หากว่าจางกุ้ยฮัวให้กำเนิดลูกชายได้ นับว่าเป็เื่น่ายินดี หากว่าเพิ่มน้องสาวให้นางอีกสักคน หลิวเต้าเซียงคิดดั่งเศรษฐี ไม่เป็ไร ข้าเลี้ยงได้!
“แม่ต้องซักผ้าทำความสะอาดทุกวัน ยังต้องดูแลสวนผัก เหนื่อยมากพอแล้ว ข้ามีวิธีหาเงินให้ได้มากกว่านี้ พี่วางใจเถิด!”
เมื่อหลิวชิวเซียงได้ยินดังนั้น จึงไม่ได้โน้มน้าวไปมากกว่านี้
หลิวเต้าเซียงสนทนากับหลิวชิวเซียงอีกไม่นานก็แบกตะกร้าขึ้นหลังออกจากบ้านไป นางไปยังบ้านของชุ่ยฮัวก่อน แต่เมื่อเช้าได้ทำความสะอาดเล้าไก่แล้ว จึงไปให้อาหารไก่เพียงเท่านั้น พริบตาเดียวก็ผ่านไปสิบกว่าวันแล้ว ลูกไก่ที่ขนดกกำลังเริ่มมีขนแข็งออกมา
โชคดีที่์มีตา ลูกไก่สิบตัว ยังอยู่ดีครบทั้งสิบตัว
หลังจากทําสิ่งเหล่านี้เสร็จ ก็พูดคุยกับชุ่ยฮัวอีกสักพัก จากนั้นแบกตะกร้าขึ้นหลังแล้วออกจากบ้าน ท่ามกลางสายตาเศร้าสร้อยของชุ่ยฮัว
ความเศร้าโศกของสาวน้อยชุ่ยฮัวคืออะไรน่ะหรือ? เป็เพราะ่นี้หลิวเต้าเซียงขึ้นเขาเก็บฟืนค่อนข้างบ่อย บวกกับเพิ่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ งูพิษบนูเากำลังออกจากถ้ำ พิษที่สั่งสมมาตลอดฤดูหนาว เป็่ที่พิษนั้นร้ายแรงมากที่สุดในปี
หลิวเต้าเซียงบอกว่าจะไปเก็บฟืน แต่สำหรับเพื่อนรัก นางจะไม่เป็ห่วงได้อย่างไร?
ในความเป็จริง หลิวเต้าเซียงก็กลัวงูเช่นกัน แต่นางเพียงแค่วนเวียนอยู่ตรงเชิงเขา หนึ่งคือมีคนไปมาตลอดเวลา สองคือ มีกิ่งไม้อยู่ทั่ว ทุกคนต่างบอกว่าแหวกหญ้าให้งูตื่น เดินไปใช้ไม้เขี่ยไปด้านหน้า ทั่วไปแล้วคงไม่มีทางเจองู
นางคิดเช่นนี้ อีกทั้งระหว่างทางก็เจอกับหลิวเสี่ยวหลัน
“อาเล็ก!” หากพูดจากใจจริง นางไม่ได้อยากจะเรียก แต่นี่คือข้างนอกบ้าน นางไม่อยากให้หลิวฉีซื่อได้โอกาสเอาเื่นี้มาสั่งสอน
หลิวเสี่ยวหลันตามซูจื่อเยี่ยไม่ทัน นี่เป็เื่แน่นอนอยู่แล้ว
“ฮึ!”
นางยืดอกเชิดหน้า สะบัดผ้าเช็ดหน้าขณะเดินผ่านหลิวเต้าเซียง
“หยุด!” หลิวเสี่ยวหลันหันมาเรียกหลิวเต้าเซียงที่กำลังจะเตรียมตัวจากไป
“อาเล็ก มีเื่อะไรหรือ?”
“เ้าจะไปไหน?” ดวงตาของหลิวเสี่ยวหลันหยุดที่ตะกร้าไม้ไผ่บนหลังของนาง
หลิวเต้าเซียงตอบว่า “ข้าต้องไปเก็บฟืน” โชคดีที่ตะกร้าไม้ไผ่นี้ไม่ว่างเปล่า และหลิวเสี่ยวหลันมองไม่เห็นข้างใน
“ไปที่ด้านหลัง?” คิ้วของหลิวเสี่ยวหลันบิดเบี้ยว สายตาของนางก็ดูไร้ความเมตตามาก
หลิวเต้าเซียงยิ้มแล้วเอ่ย “อาเล็ก หรือไม่เ้าไปกับข้าดีกว่า เมื่อครู่ตอนผ่านบ้านป้าหลี่ ชุ่ยฮัวก็อยากไปกับข้า แต่บอกว่าตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ งูพิษจะออกจากถ้ำ อันที่จริง ในใจข้าเองก็กลัว ไม่กล้าให้ชุ่ยฮัวไปกับข้า”
คําพูดของนางปัดเป่าความคิดในใจของหลิวเสี่ยวหลันทันที เมื่อได้ยินเกี่ยวกับงูพิษ ตีให้ตายหลิวเสี่ยวหลันก็ไม่มีทางไปด้านหลังเขาแน่
“เ้าเห็นคุณชายน้อยเอาธนูและออกไปข้างนอกหรือ?”
“อืม ข้าเห็น” หลิวเต้าเซียงตอบด้วยรอยยิ้ม
“เหตุใดเ้าไม่พูด? แล้วมาหลอกข้าว่าเขาจะจากไป?” หลิวเสี่ยวหลันโมโหจนแทบหงายหลัง เพียงแต่อยู่ด้านนอก นางะเิอารมณ์ไม่ได้ ห้ามเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่เช่นนั้นจะออกเรือนยาก
หลิวเต้าเซียงมองหลิวเสี่ยวหลันด้วยใบหน้าประหลาดใจ แล้วบ่นด้วยความหงุดหงิดว่า “หือ? เขาไม่ได้ทำเช่นนั้นหรือ? คุณชายซูนี่จะไปเมื่อไรกันนะ? แม่ไก่ในบ้านก็ถูกเขากินจนหมดแล้ว จริงๆ เลย”
“นางคนตะกละ ไร้ประโยชน์จริงๆ ไสหัวไป!” หลิวเสี่ยวหลันเห็นว่านางไม่ได้ช่วยอะไร จึงไม่มีแก่ใจจะสืบสวนต่อ
หลิวเต้าเซียงหันหลังและเดินจากไป นางี้เีเกินกว่าจะพูดเื่ไร้สาระกับหลิวเสี่ยวหลัน นางเสียเวลาไปมากและไม่รู้ว่าปีศาจที่ชอบทรมานคนอื่นตอนนี้จะโมโหเป็ฟืนเป็ไฟไปแล้วหรือยัง
-----
เชิงอรรถ
[1] ขนมอ้าย หรือ 蒿子粑粑 hao zi ba ba คือของว่างที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวผสมกับหญ้าอ้าย