“ศิษย์พี่อวิ๋น ท่านสุดยอดไปเลย สามารถผ่านหอคอยิญญาเมฆา์เก้าชั้นได้ด้วยพลังนักยุทธ์ระดับห้า นี่เป็ความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง นี่ไม่ใช่แค่การทำลายสถิติของสำนักเราเท่านั้น แต่ยังเป็สถิติที่ดีที่สุดของทั่วทุกสำนักในอาณาจักรซินโยวเลยด้วย ศิษย์พี่อวิ๋น ตอนนี้ความชื่นชมของข้าที่มีต่อท่านมันทะลักล้นออกมาราวกับน้ำพุที่พวยพุ่งไม่หยุดเลย!” ก่อนหน้านี้เซียวหลิงอวิ๋นถูกรายล้อมไปด้วยเหล่าผู้าุโ ทำให้เ้าอ้วนไม่มีโอกาสได้เข้าไปหาศิษย์พี่ของเขาเลย ในเวลานี้เขาจึงพูดชมไม่หยุดปากทันทีที่เข้ามาในห้อง!
“เสี่ยวปิง ไม่ใช่แค่ร่างกายของเ้าที่เริ่มกลมขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่วาจาของเ้ายังนุ่มนิ่มตามไปด้วยหรือนี่!” เซียวหลิงอวิ๋นหัวเราะเบาๆ
“ฮ่าๆ ศิษย์พี่อวิ๋น ทำไมท่านถึงมัวอยู่แต่ในห้องของท่านใน่เวลาอันรุ่งโรจน์เช่นนี้ล่ะ? ออกไปข้างนอกกันเถอะศิษย์พี่ ข้าจองโต๊ะจัดเลี้ยงเอาไว้ที่ร้านฝูอวิ๋นจูแล้ว พวกเราสองพี่น้องไปฉลองกันเถอะ!” ทันใดนั้นเ้าอ้วนก็ลากเซียวหลิงอวิ๋นออกจากห้องไปโดยที่เขาไม่เต็มใจนัก!
ร้านฝูอวิ๋นจู!
ภัตตาคารสุดหรูในเมืองชิงหนิงซึ่งคึกคักและเนืองแน่นไปด้วยผู้คนตลอดเวลา ไม่มีภัตตาคารไหนในละแวกใกล้สำนักที่เทียบเคียงได้!
เ้าอ้วนได้จองห้องส่วนตัวขนาดเล็กเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อเลี้ยงฉลองให้กับเซียวหลิงอวิ๋นโดยเฉพาะ! เพียงสองคนเท่านั้น!
เซียวหลิงอวิ๋น พานเสี่ยวปิง และว่านฮวนล้วนมาจากแคว้นมู่อวิ๋นซึ่งเป็หนึ่งในสามแคว้นที่ทรงอำนาจมากในอาณาจักรซินโยว!
ตอนแรกที่พวกเขาเข้ามาในสำนักิญญาเมฆา ทั้งสามยังไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่เมื่อระดับพลังยุทธ์ของทั้งสามคนห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ ว่านฮวนก็เลิกคบหากับพวกเขาทั้งสองคนเมื่อปีที่แล้ว! และในเวลานี้แซ่เซียวกับแซ่ว่านก็ได้ยกเลิก ‘การหมั้นหมาย’ ของทั้งคู่ลงเป็ที่เรียบร้อย
ในความคิดของเ้าอ้วน เวลานี้เซียวหลิงอวิ๋นได้ทะยานขึ้นสู่ฟ้า การยกเลิกการหมั้นหมายกับผู้หญิงหน้าซื่อใจคดและเ้าเล่ห์อย่างว่านฮวนที่คิดแต่จะปีนบันทางไดสังคมนั้น คงเป็สัญญาณบ่งบอกว่าเหล่าเทพเ้าบนโลกเบื้องบนไม่ไร้สายตา และเป็สิ่งเขารู้สึกขอบคุณเป็อย่างยิ่ง!
“เอ้า ศิษย์พี่อวิ๋น ดื่ม! ขอแสดงความยินดีให้กับความสำเร็จของศิษย์พี่ในการเป็สุดยอดอัจฉริยะด้วย ฮ่าๆ จากนี้หากมีใครกล้ากล่าวหาว่าศิษย์พี่อวิ๋นเป็ไอ้ขยะอีก ท่านพานคนนี้จะไปตบหน้ามันเอง!” เ้าอ้วนหยิบจอกเหล้าผลไม้ที่ส่งกลิ่นหอมหวนออกมา!
“ขอบใจมาก เสี่ยวปิง!” เซียวหลิงอวิ๋นััถึงความอบอุ่นที่ห่างหายไปนานในหัวใจ ยกจอกเหล้าขึ้นดื่มจนหมดจอก!
เส้นทางการบำเพ็ญเพียรอันยาวนานนั้นเต็มไปด้วยหนามแหลมคม ที่ทั้งโหดร้ายและโดดเดี่ยว ถือว่าเป็โชคดีเป็อย่างยิ่งที่มีสหายพี่น้องที่แท้จริงอยู่เคียงข้างเช่นนี้!
เสี่ยวปิง ข้าหวังว่ามิตรภาพระหว่างเราจะไม่มีวันเสื่อมคลาย!
...
ห้องส่วนตัวอีกห้องหนึ่งที่อยู่ติดกัน!
ชายวัยกลางคนสองท่านกำลังรับประทานอาหารและพูดคุยด้วยเสียงแ่เบา!
ทางซ้ายเป็ชายชราร่างสูง เขาขมวดคิ้วและมองดูกระดาษผ้าในมืออย่างตั้งใจ: “ยาหยกไหมโลหิต ยาวิเศษที่ใช้บำรุงร่างกาย ตาเฒ่าหวัง พวกเราต่างก็รู้จักกันมานานแล้ว ตำรับยานี้มีสรรพคุณตามที่เ้าว่ามาจริงๆ หรือ?”
ชายชราที่อยู่ทางขวาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็หมอยาหวังที่ถูกไล่ออกจากร้านยาเชียนตันฟาง เมื่อได้ยินคำถามแล้ว หมอยาหวังก็ลูบเคราของตัวเองอย่างภาคภูมิใจแล้วกล่าว “ผู้จัดการไช่ นี่คือสิ่งที่ข้าเห็นด้วยตาของตัวเอง จริงแท้แน่นอน ทั้งสูตรการปรุงและวัตถุดิบล้วนตรงตามนั้นเลย ด้วยศักยภาพของร้านขายยาซื่อไห่ของท่านแล้ว การจะเลียนแบบตำรับยานี้ให้สมบูรณ์ไม่ใช่เื่ยาก ส่วนแบ่งท่านเอาไปเจ็ดส่วนก็ย่อมได้ ข้าขอเพียงสามส่วนเท่านั้น! เพียงแต่หลังจากที่ท่านทำยาเลียนแบบสำเร็จแล้ว ก็แค่บอกไปว่าได้ตำรับยานี้มาจากศิษย์ของสำนักิญญาเมฆาก็พอ ข้าขอแค่นี้ คงไม่มากเกินไปใช่หรือไม่?”
...
“ศิษย์พี่อวิ๋น ท่านลองทานดูสิ!” ในขณะที่กำลังกินอยู่ จู่ๆ เ้าอ้วนก็ตระหนักได้ว่าเซียวหลิงอวิ๋นยังไม่ได้คีบเอาเนื้อหมาป่าหิมะชิ้นโตเข้าปากเลย จึงอดไม่ได้ที่จะเร่งเร้าเขา!
เซียวหลิงอวิ๋นวางตะเกียบลงแล้วพูดเสียงเบา : “เสี่ยวปิง เ้าช่วยอะไรข้าหน่อยสิ!”
“อืม...อืม... ได้ขอรับศิษย์พี่ ไม่ต้องเป็ห่วง ประเดี๋ยวข้าจะไปพาตัวเขามาเอง!” ชายอ้วนพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว!
หลังจากที่เ้าอ้วนจากไป ใบหน้าของเซียวหลิงอวิ๋นก็มืดดำทันที!
ด้วยพลังของเคล็ดวิชามหาเทพโกลาหลและวิชาเซียนเต่ากระเรียน ไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งกว่านักยุทธ์ระดับเจ็ดทั่วไปเท่านั้น ทว่ายังทำให้ประสาทััทั้งห้าของเขาเฉียบคมมากกว่านักยุทธ์ระดับเก้าหลายๆ คนอีกด้วย!
เ้าอ้วนที่เป็ถึงนักยุทธ์ระดับหกยังไม่ได้ยินเสียงที่ดังเล็ดลอดมาจากห้องข้างๆ แต่เซียวหลิงอวิ๋นได้ยินการสนทนาของออีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนราวกับอยู่ใกล้!
ขโมยและขายตำรับยายังพอทน แต่ยังคิดจะใส่ร้ายข้าอีก! เื่นี้ยกโทษให้ไม่ได้!
ตาเฒ่าหวัง ก่อนหน้านี้ข้าให้เ้าตบหน้าตนเองไปแล้ว แทนที่จะรู้สำนึก กลับมีความคิดที่ชั่วร้ายและคิดแผนร้ายเช่นนี้ โชคยังดีที่คราวนี้ตัวเขาบังเอิญมาพบเข้าพอดี ไม่อย่างนั้นตัวเขาคงไม่อาจรู้ได้ว่าใครอยู่เื้ักันแน่!
จากนั้นเขาก็ยกตะเกียบขึ้นเพื่อกินต่อ และเงี่ยหูฟังเสียงจากห้องข้างๆ ต่อไป!
...
ในขณะที่หมอยาหวังและชายอีกคนกำลังเดินออกจากห้องส่วนตัว เสียงดังฟังชัดก็ดังขึ้น “อ้าว นั่นหมอยาหวังมิใช่หรือ? อีกคนก็ผู้จัดการไช่จากร้านยาซื่อไห่นี่นา? จุ๊ๆ หมอยาจากร้านยาเชียนตันฟางกับเ้าของร้านยาซื่อไห่ มานั่งดื่มพูดคุยกันในห้องส่วนตัวเช่นนี้ หรือข่าวลือที่ว่าร้านยาเชียนตันฟางกับร้านยาซื่อไห่กำลังจะควบกิจการกันจะเป็เื่จริง?”
ร้านฝูอวิ๋นจูแห่งนี้มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามากินดื่มมากมายในตอนเย็น ถึงแม้เสียงที่ฟังชัดนี้จะไม่ดังมากนัก แต่ด้วยพลังที่แข็งแกร่ง ทำให้เสียงทะลุทะลวงไปทั่ว จนแขกส่วนใหญ่ในร้านฝูอวิ๋นจูต่างก็ได้ยิน
ร้านยาเชียนตันฟางและร้านยาซื่อไห่จะควบรวมกิจการกัน! ทั้งสองร้านนี้ต่างก็เป็ร้านขายยาระดับแนวหน้า หากพวกเขาควบรวมกิจการขึ้นมาจริงๆ ก็จะกลายร้านขายยาวิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรซินโยวอย่างไม่ต้องสงสัย
หน้าต่างของห้องส่วนตัวหลายห้องพากันเปิดออกจนเกิดเสียงดังต่อเนื่อง ดวงตาหลายคู่ต่างก็พากันจับจ้องมาทางนี้ มีแม้กระทั่งบางคนที่ชะโงกหน้าออกมาดูด้วย!
หนึ่งในคนที่ชะโงกหน้าออกมานั้นก็บังเอิญเป็คนรู้จักกับหมอยาหวังกับผู้จัดการไช่พอดี เมื่อเขาเห็นเช่นนี้ก็รีบถามด้วยเสียงอันดังทันที: “ผู้จัดการไช่ จริงหรือไม่ที่ร้านยาซื่อไห่ของท่านกำลังจะควบรวมกิจการกับร้านยาเชียนตันฟางน่ะ?”
ตอนที่เซียวหลิงอวิ๋นถามคำถามนี้ออกมา หมอยาหวังและผู้จัดการไช่ถึงกับหน้าถอดสี ยิ่งในตอนที่สายตาของทุกคนเพ่งความสนใจมาทางนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่มีคนรู้จักเอ่ยคำถามนี้ด้วยเสียงดังแล้ว ผู้จัดการไช่ก็รีบเงยหน้าขึ้น มองคนรู้จักท่านนั้น แล้วยื่นมือโบกไปมา เป็สัญญาณบอกว่าไม่ใช่เื่จริงทันที ก่อนจะก้มหน้าลง ใบหน้าเหี่ยวย่นด้วยวัยชราของเขาแปรเปลี่ยนเป็ดุร้ายทันที หันหน้ามาหาหมอยาหวังและกัดฟันพูดด้วยเสียงกระซิบ “ตาเฒ่าหวัง เ้ากล้าหลอกข้าหรือ!”
ใบหน้าเหี่ยวย่นของหมอยาหวังก็ซีดเผือดเช่นกัน รีบแก้ตัวทันที: “ไม่ใช่นะ ผู้จัดการไช่ ข้าจะหลอกลวงท่านได้อย่างไร?” จากนั้นเขาก็ชี้นิ้วไปที่เซียวหลิงอวิ๋นซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณหกถึงเจ็ดเมตรด้วยใบหน้าชั่วร้าย “เป็เ้าเด็กนี่ต่างหาก เป็เ้าเด็กนี่ที่จงใจ...”
ผู้จัดการไช่พูดขัดอย่างดุดันทันที “เ้าเด็กคนนี้คงจะเป็พรรคพวกเดียวกันกับเ้าด้วยสินะ ตาเฒ่าหวัง เ้าช่างเ้าเล่ห์เพทุบายมากแผนการจริงๆ!”
“ไม่ใช่นะ ผู้จัดการไช่ เ้าเด็กคนนี้คือเ้าของตำรับยาโบราณ ที่ข้าเพิ่งบอกกับท่านไปต่างหาก!” หมอยาหวังโพล่งความจริงออกมาอย่างเร่งรีบ!
“เด็กหนุ่มนี่เป็เ้าของตำรับยางั้นรึ!” หัวใจของผู้จัดการไช่เต้นรัว ไม่นะ หรือเ้าเด็กหนุ่มคนนี้จะได้ยินการสนทนาระหว่างเขากับหมอยาหวังเมื่อครู่เข้าแล้ว...
เมื่ออยู่ต่อหน้าเ้าของตัวจริง หากเื่นี้กลายเป็เื่ใหญ่ แล้วผู้อื่นรู้ว่าเขาสมรู้ร่วมคิดเพื่อขโมยตำรับยาอันล้ำค่าของร้านยาเชียนตันฟางไป ทั้งเขาและหมอยาหวังได้จบเห่แน่! “ไปกันเถอะ!” ผู้จัดการไช่จึงพูดเตือนหมอยาหวังด้วยเสียงกระซิบทันที ตั้งท่าจะเดินจากไปอย่างรวดเร็ว!
คิดจะหนีงั้นหรือ?
เซียวหลิงอวิ๋นขยับตัวเข้ามาขวางทางทันที พูดกลั้วหัวเราะเบาๆ: “ผู้จัดการร้าน ท่านเห็นหรือไม่? มีคนจำนวนมากกังวลเื่ของการควบกิจการของร้านยาซื่อไห่และร้านยาเชียนตันฟางอยู่นะ พูดอะไรสักหน่อยสิ หรือเปิดเผยข้อมูลบางอย่างก็ยังดี เป็ราคายาวิเศษที่มีแนวโน้มจะขยับขึ้นหรือลงก็ได้ เพื่อที่พวกเราจะได้รับมืออย่างทันเวลา ว่าควรรีบไปซื้อยามาตุนเอาไว้ก่อนที่พวกเ้าจะควบรวมกิจการหรือไม่!”
“ใช่แล้วๆ น้องชายคนนี้พูดถูก ผู้จัดการไช่ เปิดเผยสักหน่อยเถอะ!”
“ผู้จัดการไช่ อย่าเพิ่งรีบไป บอกอะไรพวกเราสักหน่อยสิ!”
“ตาเฒ่าไช่ พวกเราต่างก็เป็สหายกันมานานนับสิบปีแล้ว จะบอกกันสักหน่อยไม่ได้เชียวหรือ?”
...
คำพูดของเซียวหลิงอวิ๋นได้รับการสนับสนุนจากผู้คนอีกครั้ง!
กรณีที่มีการควบรวมกิจการ ราคาของยาวิเศษย่อมสูงขึ้นเป็ธรรมดา ดังนั้นจำเป็ต้องกักตุนวัตถุดิบยาและยาต่างๆ เอาไว้ล่วงหน้า!
“ทุกท่านๆ นั่นไม่ใช่เื่จริงเลย ไม่ใช่เื่จริง!” ผู้ที่สามารถเข้ามาทานอาหารค่ำที่ร้านฝูอวิ๋นจูได้ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา เมื่อต้องเผชิญกับคำถามของทุกคนที่นี่ ผู้จัดการไช่ก็ไม่กล้าเพิกเฉยต่อพวกเขา! เพราะถึงอย่างไรก็มีหลายคนที่เป็ลูกค้ารายใหญ่ของร้านยาซื่อไห่!
“จะไม่เป็ความจริงได้อย่างไร ผู้จัดการ อย่าได้ปิดบังเลย หากไม่ใช่เื่จริง เหตุใดผู้จัดการร้านยาซื่อไห่ และหมอยาาุโของร้านยาเชียนตันฟางถึงได้มากินดื่มที่ร้านฝูอวิ๋นจูกันอย่างชื่นมื่นนักเล่า?” เซียวหลิงอวิ๋นพูดด้วยเสียงราบเรียบ ผลักให้หมอยาหวังและผู้จัดการไช่ตกเข้าไปอยู่ใจกลางวังวนอีกครั้ง
“จริงด้วย ตาเฒ่าไช่ หลังจากควบรวมกิจการแล้ว เ้าก็จะได้เป็ผู้จัดการร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรซินโยว จะเลี่ยงไม่พูดอะไรสักหน่อยได้อย่างไร?”
“หากไม่ใช่ เ้ากับหมอยาหวังจะมาที่นี่เพื่อรำลึกถึงวันเก่าๆ กันเท่านั้นหรอกหรือ? พวกเ้าทั้งสองดูไม่น่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก่อนเลยนะ”
“ผู้จัดการ ยอมรับมาเถอะ! อย่างไรเสียเื่เช่นนี้ก็ต้องมีการประกาศในไม่ช้าก็เร็วอยู่ดี ดังนั้นบอกพวกเรามาเสียั้แ่เนิ่นๆ เถอะ!” เมื่อเห็นทุกคนพูดเช่นนี้กันอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าชราของผู้จัดการไช่ก็กลายเป็ขาวซีด!
“ลูกค้าผู้ทรงเกียรติและมิตรสหายที่รักทุกท่าน เื่นี้ไม่ใช่เื่จริงจริงๆ เป็เพียงคำพูดเหลวไหลของเด็กหนุ่มคนนี้!” เ้าของร้านไช่ทำมือคารวะให้ผู้คนเป็วงกลม ท้ายที่สุดก็จ้องมองมาที่เซียวหลิงอวิ๋นด้วยดวงตาที่แทบจะลุกเป็ไฟ!
“ข้าก็แค่ได้ยินข่าวลือมาผ่านๆ บังเอิญวันนี้ได้พบกับพวกท่านทั้งสองคนเข้าพอดี ข้าจึงอยากถามเพื่อขอคำยืนยันเท่านั้น ข้าไม่กล้าพูดอะไรเหลวไหลหรอก!” เซียวหลิงอวิ๋นกล่าวตอบด้วยใบหน้าของผู้บริสุทธิ์!
ผู้จัดการไช่ไม่คิดชักช้าโอ้เอ้อีกต่อไป รีบก้าวเดินไปข้างหน้า ยื่นมือของเขาออกเพื่อผลักเซียวหลิงอวิ๋นที่อยู่ตรงหน้าไปให้พ้นทางทันที!
ดวงตาของเซียวหลิงอวิ๋นสว่างวาบขึ้นมาทันที!
ร่างของเขาพลันกระเด็นออกไปด้านข้าง!
ทันใดนั้นก็ล้มลงไปกองกับพื้นด้วยเสียงดังตึง! เสียงกระดูกแตกดังขึ้นอย่างชัดเจน ชั่วขณะต่อมาเซียวหลิงอวิ๋นซึ่งกระเด็นลอยออกไปถึงสี่เมตรก็จับเท้าซ้ายของตัวเอง และร้องด้วยความเ็ป “อ๊าก ขาข้าหักแล้ว ผู้จัดการร้านยาซื่อไห่ทำร้ายและหักขาศิษย์สำนักิญญาเมฆา!”
ฉินหรูเยียนและพร้อมด้วยพี่น้องอีกสองคนของนางที่กำลังพูดคุยและหัวเราะกันในขณะที่พนักงานกำลังพาพวกนางไปยังห้องส่วนตัวของร้านฝูอวิ๋นจู ทันใดนั้นพวกนางก็ได้ยินว่ามีคนกล้าทำร้ายศิษย์ของสำนักิญญาเมฆา!
ผู้หญิงทั้งสามคนจึงทิ้งพนักงานไว้เื้ัและรีบเดินมาทันที!
ผู้จัดการร้านไช่ตกตะลึง แรงที่เขาผลักออกไปเมื่อครู่นี้อาจแรงไปหน่อยก็จริง แต่มันไม่เพียงพอที่จะทำให้ชายหนุ่มที่ร่างกายแข็งแรงกำยำกระเด็นออกไปถึงสี่ถึงห้าเมตรได้เลย ที่เป็ไปไม่ได้ออย่างยิ่งก็คือการที่ชายหนุ่มคนนั้นถึงกับขาหัก!
“ไอ้หนู...เ้าอย่าพูดอะไรเหลวไหล ข้าไม่ได้ทำร้ายเ้าสักหน่อย!” หากเขาอยู่ในสถานที่ห่างไกลและร้างไร้ผู้คน ผู้จัดการไช่คงจะอยากสับเด็กเวรตัวน้อยที่น่ารังเกียจคนนี้ให้ตายด้วยมือของเขาไปแล้ว แต่ในเวลานี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าทุกคน เขาไม่กล้าทำเช่นนั้นแน่! อีกทั้งศิษย์ส่วนใหญ่ของสำนักิญญาเมฆาก็ล้วนร่ำรวย หรือไม่ก็เป็บุตรหลานขุนนาง ที่สำคัญที่สุดคือศิษย์เหล่านี้ก็อาจกลายเป็ว่าที่ศิษย์ของในห้าสำนักใหญ่ของอาณาจักรซินโยวก็เป็ได้!
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเื่ที่ตัวเขาเป็เพียงผู้จัดการตัวจ้อยของร้านยาซื่อไห่เท่านั้น
“โอ๊ย โอ๊ยยย!” เซียวหลิงอวิ๋นเมินเฉยต่อคำพูดของผู้จัดการไช่ที่กำลังตื่นตระหนก จับเท้าซ้ายของตัวเองแล้วร้องด้วยความเ็ป!
หน้าที่จับคนขโมยทรัพย์สินของร้าน ควรเป็หน้าที่ของคนของร้านยาเชียนตันฟางเอง สิ่งที่เขาต้องทำคือถ่วงเวลาทั้งสองคนนี้เอาไว้ที่นี่! เซียวหลิงอวิ๋นที่ตัดสินใจได้แล้ว ยอมลงทุนแม้กระทั่งหักขาของตัวเองเพื่อออกอุบายอันแสนเจ็บแสบ
“จะ เ้า...” ผู้จัดการไช่ต้องเผชิญหน้ากับเซียวหลิงอวิ๋นที่เอาแต่เอามือกุมเท้าและร้องโอดโอยด้วยความเ็ป เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ชักบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆ! หมอยาหวังก็ก้มหน้าก้มตาเพื่อหลบหน้าและคิดที่จะหลบหนีไป!
เซียวหลิงอวิ๋นจะปล่อยให้หมอยาหวังหนีไปได้อย่างไร เขารีบกวักมือเรียกทันที: “ท่านหมอยาหวัง อย่าเพิ่งไปสิ เท้าของข้าหักอยู่ มาช่วยพยุงข้าขึ้นที...”
ก่อนที่เซียวหลิงอวิ๋นจะทันได้พูดจบ เสียงหนึ่งพลันดังขึ้น “คนตาบอดที่ไหนกล้ามาทำร้ายศิษย์ของสำนักิญญาเมฆาของพวกข้า!”
ฟึ่บๆๆ ทันใดนั้นสตรีทั้งสามผู้กล้าหาญก็พุ่งพรวดเข้ามา!
