เสียงของหลินเยว่ที่แทรกออกมากลางคันทำให้สาวน้อยทั้งสองที่คุยกันจุ๊กจิ๊กๆ อยู่ถึงกับหยุดชะงักไปชั่วครู่ เมื่อเห็นว่าเป็หลินเยว่ เฮ่อหลันเยว่จึงรีบเปิดทางโล่งให้กับเขาพร้อมพูดขึ้น “ได้แน่นอนสิคะ พี่หลินเยว่เป็คนเก่งมากเลยนะ น้องอีหรานวางใจได้เลย มีพี่หลินเยว่และคุณปู่ของพี่อยู่ตรงนี้ คุณย่าของน้องต้องไม่เป็อะไรอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินคำพูดไร้เดียงสาของเฮ่อหลันเยว่ หลินเยว่และท่านเฮ่อฉางเหอจึงเกิดความอึดอัดขึ้นมาลึกๆ เพราะถึงพวกเขาจะเก่งขนาดไหนแต่ก็คงไม่สามารถรับประกันได้ว่าคุณย่าของิอีหรานจะปลอดภัยได้อยู่ดี
แต่ิอีหรานที่แสนซื่อบริสุทธิ์กลับรู้สึกเชื่อมั่นในคำพูดของเฮ่อหลันเยว่ ดวงตาคู่โตของเธอมองหลินเยว่อย่างชื่นชมและเลื่อมใส
หลินเยว่ที่ถูกิอีหรานจับจ้องจึงรู้สึกเขินจนทำตัวไม่ถูก เขาจึงได้แต่อุ้มหินหยกก้อนสีดำที่ดำจนไม่น่ามองเอามาวางไว้ด้านหน้าของตัวเอง
เปลือกผิวของหินหยกด้านนอกเป็สีดำทราย เม็ดทรายเล็กๆ ้ามีความละเอียดมาก ซึ่งแสดงว่าผลึกด้านในจะมีจัดตัวอย่างหนาแน่น หากภายในมีหยกจริงๆ หยกที่พบจะมีความเป็ไปได้สูงที่จะเป็หยกชั้นดี แต่ทว่าหลินเยว่ไม่สามารถคาดการณ์สภาพหยกด้านในจากเปลือกผิวด้านนอกได้เลย แต่เปลือกผิวด้านนอกที่มีสีดำเช่นนี้ทำให้เขาคิดว่าน่าจะเป็หินหยกมาเิสูงถึง 80 – 90% ทีเดียว
ลักษณะเด่นของหินหยกมาเิก็คือภายนอกเป็สีดำทรายโดยมีสีเทาผสมอยู่ด้วย แต่หินหยกประเภทนี้ชั้นแร่จะไม่ค่อยดีสักเท่าไร มักจะมีลายเส้นสีดำหรือเป็หมอกขาวสอดแทรกอยู่ ส่วนสีเขียวจะเป็สีเขียวที่ออกไปทางสีฟ้า หินหยกที่ตัดออกมาได้จะไม่ใช่หินหยกที่ดีนัก อย่างมากจะถือว่าอยู่ในระดับกลางเท่านั้น ดังนั้น ถึงแม้ว่าเปลือกผิวนอกของหินหยกก้อนนี้จะดูมีความละเอียดมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะล้มล้างข้อสรุปของหินหยกมาเิได้เลย ดังนั้น ไม่ว่ากรณีไหนก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งหมด
และแน่นอน นี่เป็เพียงการสันนิษฐานสภาพเบื้องต้นของหยกด้านในเท่านั้น แต่ตัวหินหยกด้านนอกไม่มีดอกสน ไม่มีลายเส้นงูเหลือม และไม่มีลวดลายใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งยังไม่มีสีเขียวเลยสักนิด ดูเหมือนว่ามันไม่มีลักษณะเฉพาะที่เป็ตัวบอกว่าด้านในจะมีหยกได้เลย
หลินเยว่แอบถอนหายใจอยู่ลึกๆ นี่เป็หินหยกที่ไม่มีค่าเลยจริงๆ มิน่า ิอีหรานถึงเดินสอบถามมาตั้งนานก็ยังไม่มีใครสักคนกล้ารับซื้อไว้
ดวงตากลมโตของเฮ่อหลันเยว่จับจ้องไปยังหลินเยว่อย่างไม่คลาดสายตา เมื่อเห็นว่าหลินเยว่สังเกตหินหยกเสร็จแล้ว เธอจึงรีบถามขึ้นอย่างร้อนใจ “พี่หลินเยว่คะ หินหยกก้อนนี้เป็อย่างไรบ้าง?”
“อืม ก็ไม่เลวนะ” หลินเยว่พูดจาตรงกันข้ามกับความรู้สึกที่แท้จริงของเขา และประโยคนี้ก็ทำให้ิอีหรานที่จ้องหลินเยว่อยู่นิ่งๆ ถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก
“จริงหรือคะ?” เฮ่อหลันเยว่ถามด้วยน้ำเสียงแฝงความนัยบางอย่าง
“แน่นอนสิ” หลินเยว่ยกมือขึ้นเคาะศีรษะน้อยๆ ของเฮ่อหลันเยว่
“เจ็บนะ พี่หลินเยว่ใจร้าย!” เฮ่อหลันเยว่ยกมือกุมศีรษะของตัวเองแล้วพูดอย่างงอนๆ
แต่ิอีหรานที่อยู่ข้างๆ กลับยกมือขึ้นปิดปากแล้วแอบหัวเราะออกมา
“เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งพูดอะไรนะ!” หลินเยว่ยกมือขึ้นห้ามสาวน้อยทั้งสองคน หลังจากนั้นเขาก็มองตรงไปที่ตำแหน่งหนึ่งบนเปลือกผิวของหินหยกก้อนนี้ ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งค้นพบอะไรบางอย่าง
เฮ่อหลันเยว่กับิอีหรานเข้าใจว่าหลินเยว่กำลังเล็งเห็นอะไรบางอย่าง สาวน้อยทั้งสองจึงยกมือเล็กๆ ของพวกเธอขึ้นปิดปากไว้ ดวงตาสดใสของพวกเธอเบิกกว้างและจับจ้องไปยังตำแหน่งที่หลินเยว่กำลังจดจ่ออยู่ ราวกับว่าพวกเธอก็อยากจะเห็นตามที่หลินเยว่เห็นเช่นกัน
อันที่จริงหลินเยว่ไม่ได้เห็นอะไรเลย เขา้าเบี่ยงเบนความสนใจของสาวน้อยทั้งสองเท่านั้นเอง เพื่อที่เขาจะได้สะดวกในการใช้พลังพิเศษของตัวเองอีกด้วย เพราะหากอยู่ในเวลาปกติ การที่คนคนหนึ่งจดจ่ออยู่กับตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งนานๆ ก็จะสามารถสร้างความสงสัยให้กับคนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวน้อยที่อยากรู้อยากเห็นอย่างเฮ่อหลันเยว่ เธอเป็ปีศาจน้อยตัวแสบที่ช่างสงสัยยิ่งนัก แต่ทว่าตอนนี้เขาไม่ต้องกังวลถึงจุดนี้แล้ว เพราะพวกเธอกำลังถูกสะกดไว้ด้วยตำแหน่งน่าสงสัยที่ไม่มีจริงตรงนั้นอยู่
หลายวันมานี้ หลินเยว่พบว่าสภาวะจิตสงบนิ่งไม่ว่อกแว่กของเขามีผลดีต่อพลังพิเศษของเขามาก เนื่องจากสภาวะเช่นนี้ทำให้สมาธิของเขาถูกจดจ่อรวมเป็หนึ่งเดียวได้ตลอดเวลา แต่ทว่าหลินเยว่ไม่ได้้าเข้าสู่สภาวะเช่นนี้เองมากกว่า เพราะเขารู้สึกว่าสภาวะเช่นนี้ไม่ควรจะใช้ตามใจตัวเอง เขาจึงมักจะเก็บไว้ใช้ตอนกลางคืนเพียงอย่างเดียว
สมาธิถูกรวมเป็หนึ่งเดียว พลังพิเศษตาทิพย์ของเขาเปิดออก
เปลือกนอกสีดำไม่น่ามองของหินหยกก้อนนี้ค่อยๆ จางหายไป สภาพหินสีเทาขาวด้านในค่อยๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้าสายตาของหลินเยว่
เมื่อเห็นว่าสภาพหินที่มีความแข็งแรงเช่นนี้ ก็ทำให้หลินเยว่รู้ได้ทันทีว่าเพราะเหตุใดเม็ดทรายบนเปลือกผิวนอกถึงมีความละเอียดขนาดนั้น ก็เป็เพราะสภาพหินด้านในนี่เอง ถึงแม้ว่าหลินเยว่จะไม่ได้คาดหวังว่าจะพบหยกด้านใน แต่ทว่าสภาพหินที่ปรากฏตรงเบื้องหน้าของเขาก็ทำให้เขารู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง
หลินเยว่เพ่งทะลุลึกเข้าไปอีกหลายเิเ แต่ทว่าก็ยังเป็หินสีเทาขาวเท่านั้น ดูไม่มีวี่แววว่าจะพบสีเขียวได้เลย และจุดนี้ก็ทำให้เขารู้สึกผิดหวังมากยิ่งขึ้น
ขณะที่หลินเยว่กำลังจะล้มเลิกความตั้งใจนั้น สภาพหินสีเทาขาวก็จางหายไป แต่กลายเป็หินสีขาวเข้ามาแทนที่ ซึ่งหินสีขาวนี้เป็สีขาวที่เหมือนกับฝ้ายเลยทีเดียว หลินเยว่รู้ดีว่านี่เป็สิ่งที่เรียกว่าฝ้ายขาว
เมื่อมีฝ้ายขาวก็แสดงว่าภายในน่าจะมีหยกอยู่ มีหินแข็งล้อมอยู่แ่าขนาดนี้ ไม่แน่ภายในหินหยกก้อนนี้อาจจะมีหยกเกรดสูงอยู่ก็ได้
หลินเยว่มองลึกลงไปด้วยความดีใจ เขากำลังรอคอยอะไรบางอย่าง
เพียงไม่นาน ฝ้ายขาวก็ค่อยๆ ลดลง สิ่งที่แทนที่ก็คือเนื้อหยกที่ดูเหมือนอยู่ท่ามกลางหมอกทรายหนา ทำให้คนที่มองรู้สึกราวกับกำลังล่องลอยอย่างเบาสบายอยู่
มันคือเนื้อหยก!!!
ถึงแม้ว่าความโปร่งใสจะไม่สูงสักเท่าไร แต่ทว่ามันเป็เนื้อหยกจริงๆ!!!
ด้านในมีหยกจริงๆ!!!
หลินเยว่หัวใจกระตุกอย่างแรงทันที เขารู้สึกตื่นเต้นมาก เขาคาดไม่ถึงว่าหินหยกที่ดูไม่น่าสนใจก้อนนี้จะมีหยกด้านในจริงๆ เมื่อตะกี๊ที่เขาใช้พลังพิเศษเพื่อสำรวจหินหยกภายในก็เพราะเขาแอบคิดเฉยๆ ว่าเขาอาจจะโชคดีก็ได้ คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าความปรารถนาของเขาจะเป็จริง!
หลินเยว่พยายามสะกดความตื่นเต้นภายในใจลง เพราะข้างๆ เขายังมีสาวน้อยอีก 2 คนดูอยู่ด้วย เขาต้องห้ามแสดงออกทางสายตาอย่างเด็ดขาด เขายังคงมองลึกลงไป พบว่าเนื้อหยกที่อยู่ท่ามกลางหมอกนั้นยังมีสีเขียวราวกับใบอ่อนที่ผลิออกมาในยามฤดูใบไม้ผลิ ช่างดูมีชีวิตชีวาน่าดึงดูดยิ่งนัก
และแล้ว หยกทั้งก้อนก็ปรากฏสู่สายตาของหลินเยว่อย่างรวดเร็ว มันมีขนาดประมาณไข่ไก่ สภาพด้านในสวยงามราวกับก้อนผลึก เป็เหมือนูเาล่องลอยอยู่ในหมอก์ มีพลังเทพเซียนล้อมรอบ ปรากฏเป็ยอดเขาเนื้อหยกอยู่รำไร เป็ความงามลึกลับที่อยู่เหนือวัตถุต่างๆ บนโลกใบนี้
เป็หยกที่สวยจริงๆ!
และเวลานี้เองที่หลินเยว่พลันรู้สึกวิงเวียน เขาจึงรีบถอนสายตาออกมา และหลับตาลง จากการสังเกตการณ์ใช้พลังพิเศษในแต่ละครั้งทำให้เขาพบว่า ระยะเวลาในการใช้พลังพิเศษและวัสดุที่เขามองทะลุจะมีความสัมพันธ์กันโดยตรง ยิ่งเป็ของแข็งมากเท่าไร ระยะเวลาในการใช้พลังพิเศษก็จะสั้นขึ้นเท่านั้น เหมือนหินหยกเบื้องหน้าเขาก้อนนี้ ถ้าเป็ปกติก็ไม่จำเป็ต้องใช้พลังเยอะขนาดนี้เลย แต่วันนี้เนื้อหินมีความแข็งมากเกินไป
“เธอเห็นอะไรหรือเปล่า?” เฮ่อหลันเยว่พยายามขยับปากกว้างๆ โดยไม่มีเสียงถามิอีหรานพร้อมชี้ไปยังหินหยกที่วางอยู่ตรงเท้าของหลินเยว่
ิอีหรานส่ายศีรษะ เธอก็เลียนแบบการพูดของเฮ่อหลันเยว่โดยการพยายามอ้าปากกว้างๆ และก็ขยับปากพูดโดยไม่มีเสียงว่า “ไม่เห็น”
เมื่อเฮ่อหลันเยว่เข้าใจความหมายที่ิอีหรานบอกเธอ ใบหน้างามของเธอก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง หลังจากนั้นเธอจึงหันไปมองหลินเยว่ผู้เป็ต้นเหตุในครั้งนี้ และเวลานี้เองที่หลินเยว่หลับตาลงอย่างกะทันหัน ใบหน้าของเขาซีดขาวจนทำให้เฮ่อหลันเยว่ใ
“พี่หลินเยว่เป็อะไรคะ?”
หลินเยว่ได้ยินน้ำเสียงของเฮ่อหลันเยว่ที่แสดงความห่วงใยกับเขา ในใจของเขาจึงคิดว่าสาวน้อยตัวแสบคนนี้ก็ไม่เลวอยู่เหมือนกัน อย่างน้อยเธอก็ยังเป็ห่วงเขาอยู่ แต่ไม่รู้ว่าถ้าเธอรู้ความจริงว่าเขาหลอกเธอแล้ว เธอจะอาละวาดขึ้นมาทันทีหรือเปล่า
หลินเยว่ลืมตาขึ้นมาพร้อมส่ายศีรษะ “ไม่เป็อะไร” เมื่อเขาพูดประโยคนี้ออกมา แม้กระทั่งตัวเขาเองยังรับรู้ได้ว่ามันแหบพร่าเป็อย่างมาก
“พี่ชายไม่สบายหรือคะ?” ิอีหรานที่อยู่ข้างๆ เขาก็ถามออกมาด้วยความเป็ห่วงเช่นกัน