สวี่เยว่กับกู่ซานซานเดินพลางคุยกันไปพลาง
กู่ซานซานเบะปากบ่นอย่างไม่พอใจ “ทำไมเธอกับอามาช้าจังเลย?”
“ถ้าพวกเธอมาเร็วกว่านี้ ฉันก็ไม่ต้องขูดขิงกับปอกกระเทียมนานขนาดนี้หรอก”
สวี่เยว่แสร้งถอนหายใจ “ฉันก็อยากมาเร็ว ๆ เหมือนกัน แต่มีเื่เกิดขึ้นนิดหน่อยน่ะ เลยมาช้า”
กู่ซานซานถามอย่างอยากรู้อยากเห็น “เื่อะไรเหรอ?”
สวี่เยว่จึงเล่าเื่ที่หลูเจียหงมาด่าถึงบ้านแต่เช้าให้กู่ซานซานฟังอย่างออกรสออกชาติ
แต่ไม่ยอมพูดถึงตอนที่คุณย่าลู่กับคนอื่น ๆ มาถึงและเปิดเผยความจริงในภายหลัง
เธอ้าให้กู่ซานซานเข้าใจผิดคิดว่าสวี่ฮุ่ยเป็มือที่สาม แล้วกระจายข่าวนี้ไปทั่วผ่านความปากมากของกู่ซานซาน
พอชื่อเสียงของสวี่ฮุ่ยย่านบ้านพักครูเสียหายหมดแล้ว ดูสิว่าคุณตาจะยังเห็นค่าในตัวเธออีกหรือไม่
กู่ซานซานติดกับดักเข้าเต็มเปา เธอพูดด้วยใบหน้าเหยียดหยาม “สวี่ฮุ่ยหน้าด้านจริง ๆ กล้าเป็มือที่สามด้วย!”
สวี่เยว่ทำสีหน้าจริงจัง “พี่สาวยังไม่ได้ยอมรับ เธอพูดจะแบบนี้ไม่ได้นะ!”
กู่ซานซานแค่นเสียงอย่างดูถูก “หล่อนไม่ยอมรับหรอก ใครเป็มือที่สามแล้วจะยอมรับกันล่ะ!”
สวี่เยว่ยกยิ้มมุมปาก
ยังไงเธอก็ไม่ได้พูดว่าสวี่ฮุ่ยเป็มือที่สาม ทุกอย่างเกิดจากการคาดเดาของกู่ซานซานเองทั้งนั้น
เมื่อถึงตอนที่เื่ราวใหญ่โตขึ้น ก็ไม่เกี่ยวกับเธอเลยสักนิดแล้วเธอยังเคยเตือนกู่ซานซานไม่ให้พูดจาซี้ซั้วด้วย
หลังทั้งสองซื้อยาเสร็จ สวี่เยว่ก็จะกลับบ้าน
กู่ซานซานดึงเธอไว้ “รองานเริ่มก่อนค่อยกลับ ตอนนี้กลับไปก็ต้องทำงานบ้านอีก”
สวี่เยว่ก็ไม่อยากกลับไปเหมือนกัน
ถ้ากลับไปแล้วไม่ทำงานบ้าน คุณตาจะยิ่งเกลียดเธอ
แต่เธอไม่อยากทำงานบ้านให้ตาแก่นั่นสักนิด ใครใช้ให้เขาทำไม่ดีกับเธอล่ะ!
แต่เธอต้องกลับไปประจบตาแก่นั่น
สวี่เยว่แกล้งชวนกู่ซานซานกลับบ้าน เธอรู้อยู่แล้วว่า ยิ่งเธอชวน กู่ซานซานก็จะยิ่งไม่กลับ
เป็ไปตามคาด กู่ซานซานโมโหเล็กน้อย “เธออยากกลับก็กลับไปคนเดียวสิ ยังไงฉันก็จะไม่กลับไปก่อนเที่ยง!”
สวี่เยว่ทำท่าทางจนใจ จำต้องยอมฟังเธอ
ทันใดนั้นก็เห็นฉินยงจวินคาบบุหรี่เดินเตร็ดเตร่ไปมาอยู่ไม่ไกล
ดวงตาของสวี่เยว่เป็ประกายทันที ถึงเวลาใช้หมากตัวนี้แล้ว
สวี่เยว่พูดกับกู่ซานซาน “งั้นเธอก็ไปเดินเล่นคนเดียวนะ ฉันกลับก่อนล่ะ”
ยังเดินไปไม่ถึงสิบก้าว เธอก็เดินย้อนกลับมา ควักเงินหนึ่งหยวนยื่นให้กู่ซานซาน “เอาเงินนี่ไปซื้อไอติมกินสองแท่งนะ อากาศร้อน ฉันกลัวเธอจะเป็ลมแดด”
เธอกลัวว่ากู่ซานซานไม่มีเงินติดตัว เดินเล่นได้ไม่นานก็จะกลับมา
เธอ้าให้กู่ซานซานเดินเล่นให้นานที่สุด เธอจะได้ดูเป็เด็กดี ส่วนกู่ซานซานเป็เด็กไม่รู้จักโตในสายตาคุณตาคุณยาย
ถึงจะทำให้คุณตาหายโกรธไม่ได้ในทันที แต่อย่างน้อยก็อย่าให้ตาแก่ยายแก่เปลี่ยนไปชอบกู่ซานซานแล้วกัน
สวี่เยว่กลับมายังบ้านพักครู เห็นชายวัยกลางคนผมเกรียนกำลังลากกู่เจี้ยนกั๋วเดินไปยังมุมหนึ่งอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ
สวี่เยว่ขมวดคิ้ว
เธอรู้จักชายวัยกลางคนคนนั้น เขาชื่อหวังคุนผิง พ่อเป็ครูสอนคณิตศาสตร์ที่เกษียณจากโรงเรียนมัธยมศึกษาหมายเลขหนึ่งประจำอำเภอ
หวังคุนผิงเติบโตในย่านบ้านพักครู ถือเป็เพื่อนเล่นสมัยเด็กของกู่เจี้ยนกั๋ว
หวังคุนผิงไม่ได้เป็ครู หลังจากแต่งงานก็ไม่ได้อยู่ในย่านบ้านพักครู แต่บางครั้งเขาก็จะมาเยี่ยมพ่อแม่ที่นี่
ชื่อเสียงของหวังคุนผิงในย่านบ้านพักครูไม่ค่อยดีนัก เพราะเขามักจะถนัดหาช่องทาง เอาเปรียบใครก็ได้
สวี่เยว่อยากรู้เล็กน้อยว่าหวังคุนผิงคิดจะเอาเปรียบหรือใช้ประโยชน์จากกู่เจี้ยนกั๋วเื่อะไร?
สวี่เยว่เดินย่อง ๆ เข้าไปแอบฟังอยู่หลังต้นทับทิมที่มีใบขึ้นหนาแน่น
หวังคุนผิงหยิบซองบุหรี่ดี ๆ ออกมาส่งให้กู่เจี้ยนกั๋วหนึ่งมวน แล้วยังจุดบุหรี่ให้เขาด้วย “น้องชาย ช่วยหาผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำได้ไหม? มีคนยอมจ่ายห้าพันเพื่อซื้อมัน”
กู่เจี้ยนกั๋วได้ยินจำนวนเงินมากขนาดนี้ หัวใจก็เต้นตึกตัก
ปีที่แล้วเขาขายผลสอบของสวี่ฮุ่ยไปได้แค่สองพันหยวน
ถึงแม้จะขายให้กับหัวหน้า ไม่กล้าตั้งราคาสูง แต่ห้าพันหยวนก็มากเกินไป
อย่างไรก็ตาม กู่เจี้ยนกั๋วตื่นเต้นได้เพียงห้าวินาทีก็สงบลง
เขาดูดบุหรี่แรง ๆ สองทีแล้วส่ายหน้า “ฉันหาผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำไม่ได้หรอก”
ไม่ใช่ว่าเขาหาไม่ได้ แต่เขาใจเสาะและขี้ระแวงเกินไป
ปีที่แล้วมีข้าราชการในระบบการศึกษาขายและสับเปลี่ยนผลสอบของคนอื่นจนถูกไล่ออก เขาไม่อยากเดินตามรอยเท้าข้าราชการคนนั้น
ได้ยินมาว่าข้าราชการคนนั้นให้เงินผู้ปกครองของนักเรียนที่ขายผลสอบไปหนึ่งพันหยวน แต่พอผู้ปกครองนักเรียนคนนั้นได้เงินก็ไปฟ้องข้าราชการคนนั้น
เขากลัวว่าจะเจอเหตุการณ์แบบเดียวกัน
... เว้นแต่ว่าสวี่ฮุ่ยจะเสนอขายผลสอบของตัวเอง แบบนั้นถึงจะไม่มีความเสี่ยง
แต่ปัญหาคือ สวี่ฮุ่ยไม่ยอมให้สวี่เยว่แอบอ้างชื่อเธอไปเรียนมหาวิทยาลัยเลย แล้วจะยอมให้เธอขายผลสอบของตัวเองให้เขาได้ยังไง?
แม้เนื้อจะส่งให้ถึงปาก แต่กู่เจี้ยนกั๋วก็ไม่กล้ากิน
หวังคุนผิงพูดว่า “นายจะยอมทิ้งโอกาสนี้จริง ๆ เหรอ?”
“บอกตามตรงนะ คนที่จะซื้อผลสอบคือรองผู้อำนวยการหรงจากสำนักงานศึกษาธิการมณฑล”
“หัวหน้าสำนักงานศึกษาธิการอำเภอของพวกนายกำลังจะเกษียณแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ถ้านายหาผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำให้ผู้อำนวยการหรงได้ ผู้อำนวยการหรงสามารถดันนายขึ้นเป็หัวหน้าสำนักงานศึกษาธิการอำเภอแทนหัวหน้าคนเก่าได้นะ”
กู่เจี้ยนกั๋วเริ่มหวั่นไหว
เขาหมายปองตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานศึกษาธิการอำเภอมานานแล้ว ไม่งั้นคงไม่คิดจะเกาะสกุลลู่เพื่อให้ได้ตำแหน่งนี้หรอก
แต่ถึงจะหวั่นไหว กู่เจี้ยนกั๋วก็ยังปฏิเสธ
รู้อยู่แล้วว่ามีความเสี่ยงสูง ยังจะทำอีก นั่นไม่ใช่คนโง่เหรอ?
สวี่เยว่แอบฟังประมาณหนึ่งแล้วจึงหันหลังกลับไปเงียบ ๆ
แต่หารู้ไม่ว่ากู่เจี้ยนกั๋วเหลือบไปเห็นเงาคนแวบหนึ่งตรงที่เธอซ่อนตัวโดยบังเอิญ
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยในใจ เงาคนนั้นคล้ายสวี่เยว่เลย
เธอผ่านมาพอดี หรือว่ากำลังแอบฟัง?
สวี่เยว่แสร้งทำเป็ไม่รู้ไม่ชี้กลับไปที่บ้านกู่ เห็นกู่ซิ่วกำลังปอกกระเทียมและขูดขิงอยู่
เธอก็ยกเก้าอี้ตัวเล็กมานั่งลงตรงหน้ากู่ซิ่ว แล้วช่วยเธอปอกกระเทียมและขูดขิงอย่างว่าง่าย
ซือล่าเหมยเหลือบมองสวี่เยว่ “ทำไมเธอกลับมาคนเดียว ซานซานล่ะ?”
สวี่เยว่ตอบเสียงอ่อนหวาน “ซานซานเหมือนมีของอะไรจะซื้อค่ะ หนูเลยกลับมาก่อน”
คุณยายกู่พูดอย่างไม่พอใจ “มันมีอะไรจะซื้อกัน แค่หาข้ออ้างไปเดินเล่นข้างนอกเท่านั้นแหละ!”
สวี่เยว่ยกยิ้มมุมปากอย่างสังเกตเห็นได้ยาก
ซือล่าเหมยหันไปมองสวี่เยว่ เห็นรอยยิ้มไม่หวังดีแวบหนึ่งบนใบหน้าของเธอพอดี
สวี่เยว่ขูดขิงไปพลาง พูดเสียงเบาว่า “แม่คะ เมื่อกี้หนูเห็นฉินยงจวินด้วย”
กู่ซิ่วรู้ว่าฉินยงจวินมีชื่อเสียงฉาวโฉ่ จึงพูดอย่างจริงจัง “เห็นมันก็เดินหนี อย่าไปยุ่งกับมัน ถ้าโดนมันตามตอแยเข้าแย่แน่ แม่มันเป็คนไม่มีเหตุผล ถ้าเกิดเื่อะไรขึ้นมา แม่มันจะโทษว่าเราเป็ฝ่ายไม่ระวังเอง”
“หนูรู้ค่ะ” สวี่เยว่พูด “ก่อนหน้านี้หนูอยากให้แม่หาคู่หมั้นที่อยู่บ้านนอกให้พี่สาว แม่บอกว่าไม่มีลู่ทาง หาไม่ได้”
“งั้นเราให้พี่สาวแต่งงานกับฉินยงจวิน แม่ว่าดีไหมคะ?”
กู่ซิ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ว่าไม่ได้ แต่ถ้าฝ่ายสกุลฉินไม่มาสู่ขอ แม่ก็ทำอะไรไม่ได้”
สวี่เยว่พูดว่า “แม่เป็ฝ่ายไปหาก่อนได้ บอกให้บ้านฉินมาสู่ขอที่บ้านเรา แล้วถือโอกาสตกลงเื่สินสอดกับน้าฉิน ขอไปสองพันหยวน”
กู่ซิ่วใแทบร้องเสียงหลงออกมา