ย้อนเวลากลับมาเป็แฟนหนุ่มที่ดีแบบ 300%
Chapter 3
/
ยินดีต้อนรับเข้าสู่วันที่ห้าในการวาร์ปกลับมาเข้าร่างของตัวเองในอดีต
หากนี่เป็หนังทะลุมิติคงจะมีซาวน์เท่ ๆ เปิดตัวพระเอกอย่างแซคที่วิ่งหน้าตั้งออกจากห้องนอนเพราะตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอคนรักที่ควรจะนอนอยู่บนเตียงข้าง ๆ กัน—เขารู้สึกตื่นตระหนกปนหวาดกลัวเสียจนกลั่นออกมาเป็เม็ดเหงื่อที่ติดอยู่ข้างขมับ
“จานิน”
“...”
“จานิน!” อัลฟ่าหนุ่มะโเรียกชื่อคนรัก เสียจนดังก้องไปทั่วทั้งห้องแต่ทว่าก็ไร้การตอบกลับเหมือนเช่นทุกที แซคมือสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ มันเป็อาการแพนิคอย่างหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นแทบทุกครั้งที่เขาอยู่ในภวังค์แห่งความกังวล
พรึ่บ
ร่างสูงทิ้งตัวลงกับพื้น ก่อนจะใช้สองมือปิดหน้าด้วยสภาพที่ใครมองมาก็คงรู้สึกสงสารอย่างจับใจ...ตอนนี้เขาไม่สามารถควบคุมลมหายใจให้เป็ปกติได้ด้วยซ้ำ แซคกำลังสติหลุด เขารู้ดี แผ่นหลังของจานิน รูปหน้าศพของจานิน ทุก ๆ อย่างที่เกี่ยวกับอีกฝ่ายหลั่งไหลเข้ามาในหัวและถูกแปรเปลี่ยนเป็หยาดน้ำตาในที่สุด
...ไหล่กว้างที่กำลังสั่นไหวบวกกับเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นทำให้คนที่ลงไปซื้อมื้อเช้าใเสียจนทำน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋หล่นลงพื้นจนแตกกระจาย แต่กระนั้นจานินก็หาได้สนใจไม่ ่ขาเรียวรีบสาวเท้ายาว ๆ ไปหาคนรักที่ไม่รับรู้ถึงการมาของเขาด้วยซ้ำ
“แซค เป็อะไร”
“อึก จ...จานิน”
“แซค”
“...”
“แซค! มองหน้าเรา” มือขาวประคองใบหน้าหล่อที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาให้เงยหน้าขึ้นมามองกัน ซึ่งในคราแรกดวงตาคมของแซคดูเหม่อลอยราวกับคนที่ไร้สติแต่ทว่าพอเอ่ยชื่ออีกฝ่ายซ้ำเป็ครั้งที่สามท่อนแขนแกร่งก็รวบเอวเขาเข้าไปกอดอย่างแรงเสียจนลมหายใจขาดห้วง
“หายไปไหนมา แซคถามว่าเธอหายไปไหนมา!” ไหล่กว้างยังคงสั่นเทิ้ม น้ำเสียงที่เคยเต็มไปด้วยความอ่อนโยนบัดนี้กลับแข็งกร้าวจนจานินอดไม่ได้ที่จะใช้ฝ่ามือลูบแผ่นหลังให้อีกฝ่ายใจเย็น ๆ
ั้แ่คบกันมาจวนจะเข้าปีที่สามแซคไม่เคยเป็แบบนี้มาก่อน อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะร้องไห้หรือปล่อยให้ตัวเองเป็แบบนี้เลยสักครั้ง...จะมีก็แต่เขา ที่มักจะร้องไห้ฟูมฟาย ตัวสั่นไร้สติยามที่รู้ว่าคนรักได้แบ่งปันร่างกายให้คนอื่นได้เชยชม
หากให้พูดกันตามตรง—แซคในตอนนี้มีสภาพไม่ต่างจากจานินเลยสักนิด
“แซค ใจเย็น ๆ ร...เราเจ็บ” ่เอวที่ถูกท่อนแขนแกร่งบีบรัดอยู่นั้นอยู่สึกรวดร้าวจนคนที่ถูกกอดเผลอร้องออกมาซึ่งยังดีที่อัลฟ่าหนุ่มเริ่มได้สติ เรี่ยวแรงทั้งหมดจึงถูกคลายลงเหลือแค่เพียงการโอบกอดธรรมดา
“ขอโทษ แซคขอโทษ” ขอโทษที่ทำให้เจ็บ –น้ำเสียงทุ้มยังคงสั่นไหวไร้การควบคุม ปลายจมูกโด่งซุกลงบริเวณซอกคอก่อนจะสูดกลิ่นฟีโรโมนที่ทำเอาเขาคลั่งเสียแทบทุกครั้งเข้าปอดฟอดใหญ่
!!
ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่ออยู่ ๆ คนที่ร้องงอแงกับอกเมื่อครู่ก็โอบอุ้มเขาพาดบ่าก่อนจะค่อย ๆ บรรจงวางลงบนโซฟา โดยที่อีกฝ่ายนั้นนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น แล้วใช้วงแขนโอบรอบเรือนร่างของจานินอีกครั้งและปิดท้ายด้วยการวางปลายคางลงกับต้นขานุ่มราวกับลูกหมาที่กำลังออดอ้อนเ้าของ
แซคหอบหายใจอย่างหนักหน่วงและนั่นทำให้ลมหายใจอันร้อนผ่าวกระทบกับผิวเนื้อขาวซีดภายใต้กางเกงขาสั้น จนร่างบางที่กำลังรับมือกับอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของคนรักนั้นขนลุกชันไปทั่วทั้งตัว...
“หอม”
“อื้อ อย่าดม—”
“หอมมาก แซคโคตรชอบกลิ่นเธอเลย” เรียวขาข้างหนึ่งถูกจับพาดลงบนไหล่แกร่ง ก่อนร่างสูงที่นั่งต่ำกว่านั้นจะใช้ปลายจมูกโด่งเขี่ยกางเกงขาสั้นให้พ้นทางจนในที่สุดเนื้อผ้าก็ร่นลงมาเสียจนเห็นชั้นในสีขาววับ ๆ แวม ๆ
ฟอด
แซคดอมดมบริเวณซอกขา พร้อมกับใช้มืออีกข้างกำข้อเท้าเรียวให้มาวางแหมะอยู่ตรงเป้ากางเกงที่มีบางสิ่งนอนสงบนิ่งอยู่ในนั้น...จานินใเตรียมจะชักเท้ากลับ แต่มีหรือที่โอเมก้าร่างจ้อยจะสู้แรงจ่าฝูงอย่างอัลฟ่าตรงหน้าได้
“ที่รัก”
“อ...อื้อ แซคพอแล้ว”
“อยากให้เธอท้อง อยากมีลูก” น้ำเสียงเพ้อพกราวกับคนไม่ได้สติพร้อมกับััแ่เบาที่ไล่ั้แ่ซอกขาลงมาจนถึงปลี่น่อง—ดวงตาคมฉ่ำเยิ้มมองสบกับเขาทั้ง ๆ ที่ริมฝีปากยังคงกดจูบย้ำ ๆ เสียจนผิวเนื้อบริเวณนั้นขึ้นสีแดงระเรื่อในที่สุด
และยิ่งเห็นว่าจานินไม่ได้เอ่ยปรามอะไรต่อ คนที่สติยังไม่เข้าร่องเข้ารอยก็ยิ่งได้ใจ ทั้งจูบ ทั้งหอมสลับกับใช้ปลายลิ้นเลียลงต่ำมาเรื่อย ๆ จนถึงส่วนที่ต่ำที่สุดของร่างกายอย่างฝ่าเท้า
ใช่ ฟังไม่ผิดหรอกฝ่าเท้า
“แซค ม...ไม่เอา—”
“เมียจ๋า คิดถึงนะ”
“มันสกปรก อ๊ะ!” พูดยังไม่ทันขาดคำ ลิ้นร้อนที่มักจะชำแรกเข้ามาในร่างกายของเขาอยู่บ่อยครั้งก็เริ่มปรนนิบัติอย่างทะนุถนอมราวกับว่ามันมีค่าเสียจนไม่อาจกระทำแรง ๆ ได้...จานินใบหน้าแดงก่ำ เขาลอบมองคนรักที่จับฝ่าเท้าแนบลงกับใบหน้าซึ่งนั่นเป็ภาพที่จานินคิดว่าชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้เห็น
ช่างเป็ฝันที่ไม่กล้าฝัน
แกร๊ก!
“ไง ไอ้แซคโซนิค เห็นจานินบอกมึงไม่สบาย—เหี้ย ๆๆ ฟากมึงหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอหน่อย ไอ้หมาแซคมันเลียตีนเมีย”
40%
เสียงปลดล็อคกลอนประตูและภาพของเพื่อนสนิทคนรักที่เดินตีคู่กันมาทำให้ร่างบางที่อยู่ในท่วงท่าน่าอายนั้นใช้ฝ่าเท้ายันใบหน้าของคนรักอย่างแรงจนอีกฝ่ายหงายหลังลงไปนอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้น
ส่วนด้านของคนที่เพิ่งมีสติเต็มร้อยก็รีบยกมือกุมหน้า ทั้งยังบนพึมพำในใจว่าตีนจานินแม่งหนักฉิบหาย ถีบลงมาได้ยังไงนี่หน้าผัวนะเว้ยไม่ใช่จักรยานสามล้อ!
แล้วไอ้แม่เย็ดสองตัวนี่ใครก่อน เข้ามาในห้องกูได้ยังไงเอ่ย—
“เหี้ย!” แซคสบถเสียงดังลั่นเมื่อได้เห็นหน้าของสองหนุ่มที่เข้าห้องมาโดยพละการชัดเจนขึ้น...น้ำตาที่เพิ่งหยุดไหลไปหยก ๆ อยู่ ๆ ก็กลับมาคลออีกครั้งเมื่อได้เห็นหน้าเพื่อนสนิทในสมัยที่หน้ายังตึงราวกับอัดโบท็อกซ์ทุกสัปดาห์ยืนอยู่ไม่ห่าง
และคนที่ทำให้แซคอยากร้องไห้มากที่สุดก็คงไม่พ้นไอ้ฟากเพราะทันทีที่จานินบอกเลิกเขาเป็ครั้งสุดท้ายมันก็เอ่ยปากตัดความสัมพันธ์โดยให้เหตุผลว่าสิ่งที่แซคทำแม่งเหี้ยเกินเยียวยาส่วนคนที่ยืนตัวสูงเป็เปรตอยู่ข้าง ๆ คือไอ้แบร์เพื่อนเพียงคนเดียวที่ยังเหลือในอยู่ในชีวิต...
“มึงสิเหี้ย” ไอ้ฟากตอบกลับและไม่ลืมที่จะชูนิ้วกลางใส่หน้าเขาหนึ่งที
“แล้วเมื่อกี้มึงเป็กระดออะไร อยู่ ๆ ก็เลียตีนเมีย หรือรู้สึกสำนึกในค่าน้ำนม?”
ตุ้บ
หมอนอิงที่อยู่ใกล้มือถูกโยนอัดหน้าอัลฟ่าขี้เล่นอย่างเต็มแรง—แซคที่อยากจะมีซีนดราม่าวิ่งโอบกอดเพื่อนทั้งสองด้วยความรักถึงกับหน้าตึงขึ้นมาเพราะนิสัยเล่นไม่รู้เื่ พูดไม่รู้ความของไอ้สัดแบร์
“เวร ดีนะจมูกไม่หัก”
“สมควร”
“เอ๊ะ ไอ้เหี้ยนี่” แบร์ยกมือขึ้นเกาหัวด้วยความงุนงง เพราะเมื่อกี้ตอนที่มันเห็นเขากับไอ้ฟาก มันยังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่เลย ส่วนตอนนี้น่ะเหรอหน้าบูดบึ้งราวกับหมาอมขี้อีกทั้งยังเดินจ้ำอ้าวเอาเมียพาดบ่าแล้วพาหลบเข้าไปในห้องอีก
อย่าบอกนะว่าจะทำต่อ?
“งง ไอ้แซคมันเป็ห่าอะไร”
“มันไม่สบาย จานินก็บอกอยู่มึงลืมแล้วเหรอ” ฟากที่เดินเอาของฝากไปเก็บราวกับเป็ห้องของตัวเองเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งอย่างไม่ใส่ใจ—สองหนุ่มมองหน้าอย่างรู้กันก่อนเอนตัวนั่งลงบนโซฟารอสองผัวเมียที่อาจจะใช้เวลาสานสัมพันธ์อยู่นานพอสมควร
ใช่ มันควรจะเป็แบบนั้นแต่ทว่าในความเป็จริงแล้ว...
ประตูห้องนอนถูกลงกลอนอย่างแ่าก่อน่ขายาวจะก้าวมายังปลายเตียงแล้วค่อย ๆ วางคนรักลงอย่างนุ่มนวล
จานินหน้าแดงก่ำไม่รู้ว่าเป็เพราะโกรธหรืออายกันแน่ที่ถูกทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น ต่างจากตัวต้นเื่ที่ยังทำหน้านิ่งหยิบผ้าห่มมาห่อตัวของเขาราวกับดักแด้ก็มิปาน
“แซค เล่นอะไรเนี่ย เพื่อนรออยู่นอกห้องไม่เห็นเหรอ” หงุดหงิดที่ขยับตัวไม่ได้ ซ้ำยังโดนกอดเอาไว้แน่นและยังดีที่อีกฝ่ายเหลืออวัยวะอย่างปากให้เขาขยับได้บ้าง จานินจึงบ่นออกมาสลับกับสาดคำถามใส่คนข้างกาย
“พวกมันเข้ามาได้ไง” นอกจากจะไม่ยอมตอบแล้วยังมีหน้ามาถามกลับอีก
“ก็เจอกันอยู่ข้างล่าง แต่แบร์กับฟากจะแวะมินิมาร์ทก่อนเราเลยทิ้งคีย์การ์ดอีกใบไว้ให้จะได้ไม่ต้องลงมารับ” ความจริงจานินจะยืนรอก็ได้แหละแต่เพราะหลายวันที่ผ่านมานี้คนรักมีอาการแปลก ๆ ยามที่ตื่นมาแล้วไม่เจอเขา ทำให้จานินนึกห่วงเลยไม่อยากปล่อยให้อีกฝ่ายนอนอยู่บนห้องคนเดียวเป็เวลานาน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันเพราะภาพที่เห็นในวันนี้มันทั้งหนักหน่วงและชวนเวทนาใจอยู่ไม่น้อย
ฝ่ามือบางพยายามดันอกแกร่งของคนรักให้ออกห่างแต่กระนั้นก็ไม่เป็ผล จานินจึงตัดสินใจใช้ฝ่าเท้ายันหน้าท้องเกร็งซึ่งดูเหมือนว่าจะได้ผลเป็อย่างดีเพราะบัดนี้ร่างหนาของอัลฟ่าหนุ่มกระเด็นกระดอนจนเกือบตกเตียง
“ทำไม่นี้งอแงจัง” ร่างสูงนั่งกอดอกหน้ามุ่ยอยู่บริเวณปลายเตียงฟังคนรักที่เริ่มต้นบทสนทนาอีกครั้งด้วยคำถามที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับอย่างไรดี
“โห ใช้คำซะน่ารักเชียว เอ็นดูผมมากเลยดิคุณอะ” แซคเอ่ยแซวแต่ดูเหมือนว่าจานินจะไม่ตลกด้วยเพราะอีกฝ่ายยังคงขมวดคิ้วมุ่นใช้สายคาดคั้นปนกดดันเพื่อให้เขายอมพูดมันออกมา
“ก็แซคเคยบอกไปแล้วไง ว่าไม่ชอบเวลาที่ตื่นมาแล้วไม่เจอเธอ”
“เป็เด็กหรือไงฮะ ถ้าวันนึงไม่มีเราขึ้นมาเธอจะทำยัง—อื้อ!”
ยังไม่ทันที่จานินจะพูดจบฝ่ามือหนาก็แนบลงบนริมฝีปากก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ ด้วยสายตาหวั่นใจราวกับกำลังร้องขอไม่ให้อีกฝ่ายเอ่ยคำนั้นออกมา
ชีวิตที่ไม่มีจานินมันแย่ แซครู้ดีกว่าใครเพราะฉะนั้นเขาจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเป็ครั้งที่สองเป็อันขาด
“ห้ามพูดแบบนี้ ห้ามเด็ดขาด”
“เราเจ็บ เธอแม่งเป็บ้าอะไรอีกวะ” ทั้ง ๆ ที่พยายามหลีกเลี่ยงการมีปากเสียง
ทุกวิถีทางแต่ทว่าก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผล...าแในใจของเราทั้งคู่ไม่เคยปิดสนิท ฉะนั้นทุกครั้งที่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสะกิดมันเพียงเล็กน้อย ทุกความเ็ปที่เคยพานพบในอดีตหวนกลับมาอีกครั้งเพื่อตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้จะจบลง
“แซคเป็ห่วง เลยอยากเห็นเธออยู่ในสายตาตลอด”
“พอเหอะแซค จะอ้วกว่ะ”
“จานิน” น้ำเสียงแ่เบาเอ่ยเรียกคนรักอย่างเลือนลอย เขามองจานินไม่ออก ทั้งสีหน้าและแววตาทุกอย่างมันดูเรียบเฉยราวกับว่าอีกฝ่ายไม่ได้รักกันแล้ว
“เธอแค่หวงเรา กลัวเราจะไปมีอะไรกับคนอื่นทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยทำ...”
“แซคไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น—”
“ไปนอนอ้าขาให้มันเอามาแล้วกี่ครั้งล่ะ...ถ้าไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แล้วคำพูดเหี้ย ๆ แบบนี้หมาตัวไหนมันพูด” ริมฝีปากสวยขบเข้าหากันแน่นยามนึกถึงเหตุการณ์ที่ต่อให้ตายเขาก็ไม่มีวันลืม แซคแม่งเป็พวกที่คิดว่าคนอื่นจะมีสันดานเหมือนตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ ไม่ใช่เลยสักนิด
“ซ...แซคขอโทษ ขอแซคกราบเธอได้ไหม แซคผิดไปแล้วที่รัก”
“อย่าเลย เก็บสองมือไว้กราบแม่เธอเหอะ เราไม่อิน”
เพราะอารมณ์ที่ขุ่นมัวั้แ่เช้า ทำให้คนที่กะว่าจะเปิดคอมพิวเตอร์ทำงานเลือกที่จะหอบแมคบุ๊คไปนั่งทำที่บริษัทเพราะอย่างน้อยก็ยังมีคนให้พูดคุยด้วยบรรเทาอาการหดหู่—ก่อนจะออกไปจานินไม่ลืมให้ ‘คนนั้น’ หาผ้ามาเช็ดคราบน้ำเต้าหู้ที่เขาทำแตกให้เรียบร้อย ส่วนไอ้เื่ที่จะกลับมานอนห้องไหมนั้นจานินยังตอบไม่ได้ อย่างน้อยก็ขอดูสถานการณ์ก่อนก็แล้วกัน
“ตอนเย็นเธออยากกินอะไรไหม เดี๋ยวแซคทำไว้รอครับ”
“ไม่ต้อง ถ้ากลับมาเดี๋ยวหากินจากข้างนอกเอง”
แซคซึมลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ทว่าก็ไม่กล้าพูดอะไรมากนักเพราะไม่อยากให้จานินหงุดหงิดใจจนพาลไม่อยากพบหน้ากันอีก
“เธอจะไปบริษัทใช่ไหม เอารถแซคไปนะ...นะครับ”
“อือ”
สองหนุ่มนั่งจกขนมมองเพื่อนสนิทที่ยืนเกาะขอบประตูหน้าห้องอำลาแฟนด้วยน้ำเสียงหงอย ๆ อย่างผิดวิสัย ร้อยวันพันปีมันไม่เคยเป็แบบนี้เลยสักครั้ง เพราะปกติแล้ววันไหนที่จานินต้องเข้าบริษัทไอ้เวรนี่จะดี๊ด๊าเป็พิเศษเพราะไม่ต้องอยู่ในขอบเขตและโอวาทของคนรักอีกต่อไป
ตอนแรกที่จานินบอกว่าไอ้แซคป่วย แบร์หัวเราะลั่นเพราะไม่เชื่อ แต่ทว่าพอมาเห็นแบบนี้แล้ว เออ ไอ้ฉิบหายมันป่วยจริงว่ะ
“จะไปไหนวะ”
“เอาทิชชูมาเช็ดคราบน้ำเต้าหู้” แซคตอบแบร์ด้วยน้ำเสียงเอื่อย ๆ ไร้ความรู้สึก ก่อนจะหยิบทิชชูแบบหนาและน้ำยาทำความสะอาดติดมือมาเพื่อเช็ดพื้นบริเวณนั้นไม่ให้เหลือแม้กระทั่งกลิ่นตกค้าง
“ฝนจะตกปะวะ ไอ้แซคทำงานบ้าน”
“มึงก็เวอร์ไอ้แบร์ ใช่ว่ามันจะไม่เคยทำ” ฟากที่กำลังสนใจผลฟุตบอลบนหน้าจอทีวีเอ่ยแก้ต่างเพราะสมันก่อนที่ไปออกทริปด้วยกันก็มีมันนี่แหละคอยทำอาหาร ล้างจานให้...
“พวกหัวดอ กูยังอยู่ตรงนี้เนาะ” แซคได้ยินถ้อยคำนินทาทุกประการณ์จึงอดไม่ได้ที่จะหันไปชูนิ้วกลางให้พวกมันทั้งสองตัวอย่างนึกรำคาญใจ—ไอ้ฟากวัยสี่สิบกว่าเป็ยังไงเขาไม่รู้ เพราะมันเลิกคบกูแล้ว ส่วนไอ้เหี้ยแบร์สภาพไม่ต่างจากตอนนี้นัก เติบโตเป็ไอ้แก่ที่ชอบเลี้ยงเด็กและจ้องจะล่อเย็ดน้องเขาไปวัน ๆ
อา ไหน ๆ ก็ย้อนเวลากลับมาแล้ว ไอ้สัดแบร์เดี๋ยวมึงเจอกู
“สันดานชั่วอย่างเดียวก็พอแล้วมั้ง ไม่ต้องเสียเวลาทำหน้าชั่วหรอกคนเหี้ยแบบมึงอะ”
“ครับ ใครจะดีเหมือนมึงละวินิจ”
“โห สตยายอมรับง่าย ๆ แบบนี้ก็ไม่สนุกดิ” ฟากนั่งถอนหายใจด้วยความรำคาญก่อนจะหยิบรีโมทมาเร่งลำโพงให้ดังขึ้นเพื่อกลบเสียงหวีดครางของพวกชาติเปรตที่โตจนอึ๊บเป็แล้วแต่ยังมานั่งล้อชื่อพ่อแม่กันอยู่ได้
...จะด่ากันให้เสียเวลาทำห่าอะไร พวกมึงไม่ต่อยกันให้มันจบ ๆ วะ
/
รถยนต์สัญชาติอเมริกาขับเลี้ยวเข้ามาจอด ณ ลานจอดรถของบริษัทเกมแห่งหนึ่งอย่างชำนิชำนาญ...จานินหอบหิ้วกระเป๋าโน๊ตบุ๊ค แก้วกาแฟและแซนวิชที่แวะซื้อจากร้านประจำไม่ไกลจากที่นี่นักจนเต็มไม้เต็มมือ
คราแรกกะว่าจะเดินไปกินไปแต่ทว่าสายตากลับเหลือบเห็นประตูลิฟท์ที่ใกล้จะปิดในอีกไม่ช้า โอเมก้าตัวหอมจึงรีบวิ่งกระหืดกระหอบและยังดีที่คนด้านในมีน้ำใจกดรอ มิเช่นนั้นจานินได้เสียเวลาไปอีกหลายนาทีแน่
“แฮ่ก ๆ ขอบคุณครับ” ร่างบางโค้งศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเดินอ้อมเพื่อไปหยุดอยู่ทางด้านหลัง ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นเมื่อรู้สึกคุ้น ๆ กับคนตรงหน้า...
เสื้อลายตาราง ผิวดำแดดแบบนี้—
“สวัสดีตอนเช้าครับ”
จานินไม่ชอบบรรยากาศกระอักกระอวนใจ...ไม่สิ เข้าขั้นเกลียดเลยล่ะ และที่แย่ไปมากกว่านั้นตอนนี้เขากำลังเผชิญมันอยู่เพียงลำพังโดยที่ใครบางคนซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็หัวหน้า กลับนิ่งเฉยซ้ำยังเอ่ยทักทายกันราวกับเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนนั้นไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น
“เอ่อ สวัสดีตอนเช้าครับ”
“วันนี้มีประชุมทีมเหรอครับ”
“อา เปล่าครับ พอดี Work from home มันน่าเบื่อผมเลยอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง” ร่างบางตอบกลับโดยที่สายตายังคงจดจ้องกับตัวเลขสีแดงบนแถบ เขาภาวนาให้ถึงชั้นสิบห้าไว ๆ แต่ดูเหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกเพราะทุกอย่างดูเชื่องช้าจนจานินเผลอกลั้นหายใจเพราะความกดดัน
ความสัมพันธ์ของเขากับคุณศิระเป็เพียงหัวหน้ากับลูกน้องทั่ว ๆ ไป ทำงานร่วมกันมาเกือบปีทว่าบทสนทนาล้วนแล้วแต่เป็เื่งาน ไม่ก็หัวข้อการประชุมที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็จวบจนกระทั่งปาร์ตี้เลี้ยงส่งน้อง ๆ นักศึกษาฝึกงาน...
“ขอโทษที่ทำให้อึดอัดใจนะครับ”
“เอ่อ ค...ครับ?”
“ก็เื่ที่ผมสารภาพว่าชอบคุณ”
“ไม่เป็ไรครับ ตอนนั้นหัวหน้าเมานี่” จานินตอบยิ้ม ๆ พยายามมองไม่เห็นสายตาลึกซึ้งที่อีกฝ่ายใช้มองกันผ่านบานกระจก...คุณศิระเป็ผู้ชายที่ดี หมายถึงในแง่เพื่อนร่วมงานและเพื่อนร่วมโลกเพราะทันทีที่รู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้วอีกฝ่ายก็ไม่ได้ดันทุรัง ไม่แม้แต่จะแก้ไขความเข้าใจผิดให้เขาอึดอัดใจว่าวันนั้นอีกฝ่ายไม่ได้ยกเหล้าเข้าปากเลยแม้แต่น้อย
...แม้ลึก ๆ จะชื่นชมอีกฝ่ายในด้านการทำงาน แต่จานินก็ต้องรักษาระยะห่างเพราะนอกจากพายที่แซคหึงจนเืขึ้นหน้าแล้ว ก็มีคุณศิระนี่แหละที่ทำอีกฝ่ายหึงหวงจนเผลอทำเื่ที่ไม่สมควรกับเขา
Tbc
มารบน้ำดอกไม้ในใจเราด้วยการคอมเมนท์ หรือเล่นแท็ก #แซคจานิน กันค่ะ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้