“สิบแปดล้าน ราคานี้เกินกว่าจะเป็หยดิญญาจงหยวนแค่ครึ่งขวดแล้ว หยวนจุนกล้าอ้าปากคำใหญ่ถึงเพียงนี้ ไม่กลัวกระอักเืตายหรืออย่างไร!”
“หญิงชุดดำที่นั่งอยู่ข้างเขาคงเป็นักสร้างในสังกัดโรงประมูล ดูแล้วมีฐานะและเอาแต่ใจ เ้าหนุ่มหน้าขาวผู้นี้ช่างรูปงามเป็พิเศษเสียจริง เพิ่งทอดทิ้งหลิวหรูเยียนมาไม่เท่าไรก็ได้มาถึงเพียงนี้แล้ว”
“ความสามารถของหยวนจุนเป็ที่ประจักษ์ไปทั่ว แค่พลังยุทธ์ระดับวงแหวนเล็กขั้นห้าก็สามารถเอาชนะเซียวหานจากเมืองลั่วฝานได้ ฮาฮา เ้าอย่าทำตัวเป็จิ้งจอกเห็นองุ่นเปรี้ยวไปหน่อยเลย”
กลุ่มคนที่อยู่ด้านล่างต่างอยู่ในความวุ่นวาย พวกเขาส่งเสียงอื้ออึงออกมาจนทำให้เจียงเทียนมิ่งหัวเสียมากกว่าเดิม
เจียงชางก้มลงกระซิบที่ข้างหูเขาแล้วถามว่า “นายท่าน เราจะทำอย่างไรดี?”
“ข้าอยากได้หยดิญญาจงหยวนขวดนั้นจริงๆ แต่ราคาสิบแปดล้านนั้นช่างสูงเกินไป แม้ข้าจะป่วยรุมเร้ามาหลายปี แต่ข้าก็มิอาจนำสมบัติทั้งหมดของตระกูลเจียงไปเสี่ยงเช่นกัน ยอมแพ้เสียเถอะ”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ออกมาจากปากของเจียงเทียนมิ่ง หยวนจุนจึงหัวเราะเสียงดังออกมาทันที
“เดิมทีข้าคิดว่าคนตระกูลเจียงมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ตอนนี้ไม่คิดเลยว่าทั้งผู้ใหญ่ทั้งลูกหลานจะเป็เหมือนกันหมด หลานไม่เอาไหน ส่วนปู่ก็ไม่ได้เื่ ไม่มีเงินแล้วยังจะมาประมูลอีก อายุถึงเพียงนี้แล้วไม่กลัวโดนหัวเราะเยาะหรืออย่างไร!”
“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน เ้ากล่าวสิ่งใดออกมา! ข้าเสนอยี่สิบล้าน!”
เจียงเทียนมิ่งลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยใบหน้าท่าทางที่เต็มไปด้วยความดุดัน
เมื่อเห็นเจียงเทียนมิ่งอารมณ์ขึ้นเหมือนดั่งสุนัขบ้า เจียงชางรีบคว้าเขาไว้แล้วกระซิบทันทีว่า “นายท่าน ทำเช่นนั้นไม่ได้นะ ยี่สิบล้านเป็เงินที่ตระกูลเจียงเก็บมาห้าปีเชียวนะ!”
เมื่อถูกคำพูดของเจียงชางเรียกสติ เจียงเทียนมิ่งจึงรีบนั่งลงแล้วกล่าวว่า “ข้าขอสละสิทธิ์การประมูล!”
“ะโราคาออกมาแล้ว จะสละสิทธิ์เมื่อไรก็ได้อย่างนั้นหรือ? หากทำเช่นนี้ได้ แล้วจะประมูลไปเพื่อสิ่งใด?”
แม้คำพูดของหยวนจุนจะไม่ค่อยน่าฟังนัก แต่นั่นก็เป็เื่จริง เหตุผลที่โรงประมูลถูกตั้งขึ้นในเมืองใหญ่ เพราะวิธีนี้สามารถทำให้การค้าขายเกิดการหมุนเวียนได้
แม้ทุกคนจะสามารถเข้าร่วมการประมูลได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะะโสุ่มสี่สุ่มห้าออกไปได้
ผู้ดำเนินการประมูลยกมือขึ้นมาปิดปากก่อนจะกระแอมไอสองสามครั้งเพื่อส่งสัญญาณให้กลุ่มคนที่อยู่ด้านล่างสงบลง จากนั้นเขาจึงพูดกับเจียงเทียนมิ่งด้วยรอยยิ้มว่า “แม้ท่านผู้าุโเจียงจะเป็แขกประจำของโรงประมูล แต่กฎย่อมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”
“เว้นแต่จะมีผู้ใดเสนอราคาที่สูงกว่าเพื่อให้ได้หยดิญญาจงหยวนขวดนี้ไป ดังนั้นขอให้ท่านเจียงทำตามขั้นตอนด้วย!”
เจียงเทียนมิ่งถึงกับกระอักเื เขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะถูกคำพูดของหยวนจุนทำให้หน้ามืดตามัว ะโเสนอราคาออกไปยี่สิบล้านโดยที่ไม่คิด
หากมิใช่เพราะได้ยินเขาพูดถึงเจียงเฮ่อ เจียงเทียนมิ่งคงไม่พลาดพลั้งเช่นนี้แน่นอน
“เ้าหนุ่มหยวนจุน เ้า้าแข่งความร่ำรวยกับตระกูลเจียงมิใช่หรือ! หากมีความสามารถเ้าก็เสนอราคาที่สูงกว่าออกมาสิ!” เจียงเทียนมิ่งชี้นิ้วอันสั่นเทาไปทางหยวนจุน ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า
หยวนจุนหัวเราะเสียงดัง ก่อนที่สองมือจะแสดงความอ่อนน้อม และคำนับให้กับกลุ่มคนที่นั่งอยู่ในโรงประมูล
“ในเมื่อท่านผู้าุโเจียงยอมเสนอราคายี่สิบล้านออกมา แสดงว่าท่านคง้าหยดิญญาจงหยวนขวดนี้เป็อย่างมาก เช่นนั้นหยวนจุนในฐานะผู้เยาว์ มีเหตุผลอันใดที่จะต้องสู้ต่อ? ข้าขอยอมแพ้การประมูล!”
เมื่อได้ยินหยวนจุนเอ่ยปากขอยอมแพ้การประมูล ไม่ตกหลุมคำพูดยั่วยุของเขา เจียงเทียนมิ่งจึงกระอักเืออกมาอีกครั้ง พร้อมทั้งรู้สึกเสียใจอย่างที่สุด
“นึกไม่ถึงว่าเ้าจะเ้าเล่ห์ถึงเพียงนี้” เสี่ยวเมิ่งขยับปากอมชมพูเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งหัวเราะเบาๆ ก่อนจะมองหยวนจุนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด
“การศึกต้องไม่หน่ายอุบาย ข้ามิใช่คนเ้าเล่ห์เสียหน่อย!” หยวนจุนดีดนิ้ว พอใจกับการที่ทำให้เจียงเทียนมิ่งทุ่มเหรียญทองไปยี่สิบล้านเพื่อประมูลหยดิญญาจงหยวน
เริ่มแรกเจียงเทียนมิ่งมีท่าทีสนใจในหยดิญญาจงหยวนขวดนั้นเป็อย่างมาก และรีบร้อนที่จะเอาชนะ นั่นจึงทำให้ตัวเขาได้เปิดเผยจุดประสงค์ที่มาโรงประมูลโดยทางอ้อม
แต่ตอนที่หยวนจุนเสนอราคาเป็สิบแปดล้าน นั่นทำให้เขาไม่มั่นใจเท่าไรแล้ว
หากเจียงเทียนมิ่งนิ่งเฉยกับคำพูดยั่วยุของเขา เช่นนั้นผู้ที่จ่ายสิบแปดล้านเหรียญทองเพื่อหยดิญญาจงหยวนคงต้องเป็เขาเอง
“หยดิญญาจงหยวนครึ่งขวดนั้นก็สำคัญสำหรับเ้าเช่นกัน เ้าจะยอมให้ไปอยู่ในมือของคนตระกูลเจียงจริงๆ หรือ?”
แม้เสี่ยวเมิ่งจะถามหยวนจุน แต่ในใจกลับรู้อยู่แล้วว่าเขาคิดจะทำสิ่งใด
นางสังเกตได้ว่าเขาจะแสดงความหยิ่งทะนงออกมาเมื่อถือกระบี่ยาวอยู่ในมือ ดังนั้นกระบี่หยวนจุนจึงต้องมีความสำคัญกับเขาเป็อย่างมากแน่นอน
“หลังจากสิ้นสุดการประมูล เราสองคนจะให้เจียงชางกับเจียงเทียนมิ่งไปยังป่าเขาที่ห่างไกล ด้วยพลังของเราสองคนแล้วน่าจะจัดการกับพวกเขาได้”
เมื่อได้ยินว่าหยวนจุน้าลงมือกับคนในตระกูลเจียง เสี่ยวเมิ่งจึงยกคิ้วขึ้นด้วยความตื่นเต้น ครั้งนี้เป้าหมายแรกคือเจียงเทียนมิ่ง ผู้าุโที่มีสถานะสูงสุดของตระกูลเจียง!
เมื่อการประมูลจบลง ผู้คนที่พลุกพล่านต่างก็แยกย้ายกันไป ส่วนหยวนจุนกับเสี่ยวเมิ่งนั้นตั้งใจอยู่ในสถานที่ที่โดดเด่น เมื่อเจียงเทียนมิ่งกับเจียงชางออกมา หยวนจุนก็ยิ้มเยาะให้แก่พวกเขา
แววตาของเขาเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม
หลังจากทำเช่นนี้แล้ว หยวนจุนจึงเดินไปทางูเาลึกฝั่งตะวันตกของเมืองเทียนอวิ่นทันที
แววตาของเจียงเทียนมิ่งลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความโกรธ ก่อนจะผลักเจียงชางที่กำลังพยุงเขาอยู่แล้วกล่าวว่า “เ้ากลับไปรายงานตระกูลเจียง ส่วนข้าจะไปสับเ้านั่นให้เป็หมื่นๆ ชิ้นก่อน!”
เสียงคลื่นพลังแผ่ออกมาจากร่างกายของเจียงเทียนมิ่ง แม้แต่เสียงพูดของเขายังแฝงไปด้วยพลังสังหารอันน่ากลัว หากเขาไม่ฆ่าหยวนจุนให้ตาย คงยากที่จะขจัดความคับแค้นภายในใจให้ออกไป!
“นายท่านโปรดคิดทบทวน ตอนนี้ร่างกายของท่านป่วยอยู่ ไม่ควรให้มีเื่ร้ายเกิดขึ้น!”
เจียงชางกล่าวด้วยความจริงใจ ก่อนจะรีบพยุงเจียงเทียนมิ่งขึ้นมาอีกครั้ง
“เป็แค่ระดับวงแหวนเล็กขั้นห้าแล้วจะทำอะไรได้? แม้หญิงอายุสิบห้าสิบหกที่อยู่ข้างเขาจะเป็ถึงนักสร้างในสังกัดโรงประมูล แต่พลังของนางอย่างมากก็แค่ระดับดาราวงแหวนใหญ่ขั้นเก้า”
“สำหรับข้าที่อยู่ในระดับจันทราวงแหวนใหญ่ขั้นหนึ่ง อย่างไรเสียนางก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว! เพียงแค่ข้าไม่เอาชีวิตนาง คิดว่าโรงประมูลจะกล้ามีปัญหากับตระกูลเจียงเพื่อนางหรือไม่?”
เจียงชางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “ในเมื่อนายท่านยืนยันที่จะทำ เช่นนั้นข้าจะไปกับท่านด้วย การรายงานเป็เื่เล็กน้อย ความปลอดภัยของนายท่านสำคัญที่สุด”
เมื่อเจียงเทียนมิ่งเห็นว่าเจียงชางนั้นคอยระมัดระวังให้ เขาจึงสะบัดชุดคลุมยุทธ์แล้วรีบตามหยวนจุนไปทันที
แม้เขาจะอายุมากกว่าครึ่งร้อย แต่พละกำลังที่มีกลับมิได้น้อยลงเลย เพราะขณะที่กำลังก้าวเดินมีพายุหมุนขนาดเล็กได้ปรากฏอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาด้วย
หยวนจุนและเสี่ยวเมิ่งเพิ่งมาถึงนอกเมืองเทียนอวิ่น ขณะที่เจียงเทียนมิ่งกับเจียงชางตามมาติดๆ
“เ้าหนุ่มหยวนจุน เ้าช่างกล้าหาญเสียจริง การประลองทีู่เาสองแดนนั้นทำให้เ้ายโสโอหังสินะ ถึงได้กล้ามาท้าทายข้าที่นี่!”
“ในไม่ช้าเ้าจะรู้ว่าผู้ที่หยิ่งยโสนั้นไม่เคยมีจุดจบที่ดี! ความแข็งแกร่งของเ้าถือว่าเหนือกว่าผู้เยาว์ในวัยเดียวกัน แต่กับนักยุทธ์ระดับจันทราแล้ว นั่นเปรียบเสมือนกรวดเจอทะเล!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้