การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปในจวนตระกูลถัง ศิษย์ตระกูลถังกำลังใช้ความคุ้นเคยกับพื้นที่ของตระกูลทำาแบบกองโจรกับตระกูลซินและตระกูลตงฟาง แม้ในตอนแรกศิษย์ตระกูลถังจะได้เปรียบ แต่คนของอีกฝ่ายมากเกินไปจริงๆ
อีกทั้งอีกฝ่ายยังมียอดฝีมือระดับผู้ทรงยุทธ์อย่างตงฟางป้าเทียน ในขณะที่ตระกูลถังมีเพียงถังจงชิง
สถานการณ์เช่นนี้ย่อมเป็ผลไม่ดีกับตระกูลถังโดยสิ้นเชิง
ส่วนการต่อสู้ของอวิ๋นเมิ่งกับเฮยฉานฉู่ก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิดไว้ แม้นางจะวางค่ายกลเหมันต์หมื่นหายนะไว้แล้ว แต่เฮยฉานฉู่ก็บ่มเพาะมาร้อยกว่าปีแล้ว เขาไม่เพียงมีประสบการณ์โชกโชน แต่ยังเ้าเล่ห์มาก ไหนจะวิชาพิษของเขาที่เก่งกาจมากอีกด้วย
อวิ๋นเมิ่งกำลังใช้ทุกวิถีทางเพื่อใช้ค่ายกลขังเฮยฉานฉู่เอาไว้ หากสำเร็จค่อยสังหารอีกฝ่ายในกระบวนท่าเดียว
ทว่าวิชาพิษของอีกฝ่ายกลับกัดกร่อนน้ำแข็งได้นี่ซี ตอนนี้น้ำแข็งหนาบนพื้นในเรือนครึ่งหนึ่งกลายเป็สีดำไปแล้ว ยิ่งในน้ำแข็งเ่าั้ล้วนหลอมรวมเข้ากับพิษอีก อวิ๋นเมิ่งจึงไม่กล้าดูดซับพลังเยือกแข็งจากในนั้น
“เ้าตำหนักอวิ๋นเมิ่ง พอกันแค่นี้ดีไหม? วันนี้นับว่าข้าโชคร้าย วันหน้าข้าจะไม่ยุ่งกับตระกูลถังอีก”
เฮยฉานฉู่พลางหลบดาวน้ำแข็งที่พุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว พลางกล่าวกับอวิ๋นเมิ่งไปด้วย
สำหรับเฮยฉานฉู่แล้ว การต่อสู้ครั้งนี้กินแรงไม่น้อย นอกจากนางจะวางค่ายกลเอาไว้แล้ว ระดับของอวิ๋นเมิ่งกับเขาก็เท่ากันอีก
หากไม่ใช่เพราะเฮยฉานฉู่ใช้วิชาพิษที่บ่มเพาะไว้ในร่างมาร้อยปี คงถูกพลังเยือกแข็งของอวิ๋นเมิ่งสังหารไปแล้ว
เฮยฉานฉู่รู้สึกเสียดาย รู้แต่แรกน่าจะให้ศิษย์คนโตเฮยเซียจื่อมาด้วย หากสองคนร่วมมือกันคงทำลายค่ายกลนี้ได้
“เฮยฉานฉู่ เ้ามันลิ้นสองแฉก ต่อให้วันนี้ข้าต้องทุ่มสุดตัวจนต้องทำลายอาคมนี้ ข้าก็จะฆ่าเ้าที่นี่ให้ได้!”
อวิ๋นเมิ่งกัดฟันกล่าว ก่อนจะโบกมือ และรอบด้านพลันปรากฏพลังเยือกแข็งหลายสาย พลังเหล่านี้เข้าไปในร่างกายของอวิ๋นเมิ่ง ทำให้กลิ่นอายของนางเพิ่มขึ้นอย่างมาก
‘ช่างเป็สตรีที่บ้าระห่ำจริงๆ!’
เฮยฉานฉู่ก่นด่าในใจ เขาไม่ได้ไปหาเื่อีกฝ่ายสักหน่อย ไยถึงอ้างว่าต้องกำจัดคนชั่วอย่างเขา และทุ่มสุดตัวขนาดนี้อีก
จิ้งจอกเหมันต์ขยายร่างใหญ่ และบนร่างก็มีหนามน้ำแข็งพุ่งออกมาทันใด คางคกที่หลบไม่ทันก็ถูกแทงจนเป็รูเืหลายรู
อั่ก
เมื่อิญญายุทธ์าเ็ เฮยฉานฉู่ก็กระอักเืออกมาด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด
ถ้าต่อสู้ต่อไปแบบนี้ เขาอาจจะตายจริงๆ!
แต่เฮยฉานฉู่ที่โลดแล่นในจักรวรรดิเทียนอวี่มาได้นับร้อยปี หาใช่จะจัดการได้ง่ายเพียงนั้น
เฮยฉานฉู่โยนยาสีดำเม็ดหนึ่งเข้าปาก แล้วหมอกควันสีดำพลันลอยออกมาทั่วร่างเขา
ตุ่มบนหลังคางคกเริ่มขยายใหญ่ขึ้นคล้ายจะะเิ
นี่คือวิธีเอาชีวิตรอดของเฮยฉานฉู่ ในตุ่มด้านหลังิญญายุทธ์คางคกแฝงด้วยพิษที่เขาสะสมมานานหลายสิบปี หากะเิออกมา ความพยายามในหลายสิบปีนี้จะสลายหายไปในพริบตา
แต่แลกมากับพลังของกระบวนท่าที่สูงอย่างไม่ต้องสงสัย
ตอนนี้ตุ่มด้านหลังคางคกขยายใหญ่กว่าขนาดของตัวมันเองแล้ว ท่าทางของมันดูน่ากลัวนัก
อวิ๋นเมิ่งรีบเรียกจิ้งจอกเหมันต์กลับมา นางโบกมือครั้งหนึ่ง และกำแพงน้ำแข็งหนาก็ปรากฏขึ้นด้านหน้า
ปัง!
ในที่สุดพิษที่ขยายใหญ่ขึ้นก็ะเิออก ของเหลวสีดำะเิกระจายออกไปรอบทิศ พวกมันถูกสาดและกัดกร่อนกำแพงน้ำแข็งจนเป็รูขนาดใหญ่
สิ่งก่อสร้างในเรือนชั้นในของตระกูลถังต้องเผชิญกับพลังทำลายล้างอันรุนแรง กำแพงน้ำแข็งล้วนกลวงโบ๋
ของเหลวสีดำสาดกระเด็นไปจนถึงด้านนอก และเมื่อมันกระทบกับร่างของศิษย์ตระกูลตงฟางกับตระกูลซิน ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้กรีดร้อง…ร่างกายก็ละลายกลายเป็แอ่งเืเสียแล้ว
อวิ๋นเมิ่งไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย นางทุ่มสุดกำลังเพื่อป้องกันตัว และใช้พลังเยือกแข็งของค่ายกลเหมันต์หมื่นหายนะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กำแพงน้ำแข็งอย่างต่อเนื่อง
“เ้าตำหนักอวิ๋นเมิ่ง บัญชีแค้นครั้งนี้ข้าจะกลับกลับมาชำระแน่ ศิษย์ตำหนักเมิ่งเซียนของเ้าเตรียมตัวเอาไว้ให้ดี!”
เฮยฉานฉู่ทิ้งคำขู่เอาไว้ ก่อนจะหายไปจากค่ายกลเหมันต์หมื่นหายนะ
“ข้าไม่ปล่อยเ้าไปแน่!”
อวิ๋นเมิ่งจะปล่อยให้เฮยฉานฉู่จากไปได้เยี่ยงไร ดูจากนิสัยและพลังของเฮยฉานฉู่แล้ว ศิษย์ตำหนักเมิ่งเซียนอาจต้องพบกับจุดจบที่ย่ำแย่ในอนาคต
อวิ๋นเมิ่งถอนกำแพงน้ำแข็งออก นางเลือกที่จะไม่ตรวจสอบสถานการณ์โดยรอบก่อน แล้วไล่ตามทางที่เฮยฉานฉู่หนีทันที
ในจวนเ้าเมือง ณ เวลานี้
การต่อสู้ในตำหนักก็รุนแรงมากเช่นกัน วิหคสีฟ้ากับงูหลามสีม่วงเขียวกำลังปะทะกันโดยสำแดงฤทธิ์ออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน โดยรอบล้วนเต็มไปด้วยขนนกน้ำแข็งกับร่องรอยของมีดสายลม
นอกจากนี้ถังจงเวยกับหลินเนี่ยนยังร่วมมือกันจัดการกับเยียนหลิงซาน แม้เยียนหลิงซานจะเป็ยอดยุทธ์ขั้นที่หนึ่ง แต่อย่างน้อยิญญายุทธ์ของหลินเนี่ยนก็ตรึงิญญายุทธ์ของอีกฝ่ายไว้ได้อยู่
หากเยียนหลิงซานจะจัดการกับสองคนก็หาใช่เื่ง่ายขนาดนั้น ยิ่งหลินเนี่ยนที่กินยาิญญาเหมันต์เข้าไปแล้ว พลังที่ะเิออกมาก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเยียนหลิงซานเลย
ส่วนเยว่มู่จือกับหลินอวี่กำลังหลบอยู่ด้านข้าง พวกเขามิอาจเข้าไปยุ่งการต่อสู้เช่นนี้ไหว เมื่อองครักษ์ของจวนเ้าเมืองได้ยินเสียงจากทางนี้ก็เฝ้าประตูเอาไว้ แต่เหมือนจะไม่มีใครบุกเข้ามาเพิ่ม
“ถังเหล่ย รีบเปิดประตูออกไป อย่ามัวเสียเวลาที่นี่!”
ถังจงเวยที่ถือดาบั์โจมตีเยียนหลิงซานสุดชีวิต แต่คนที่คุกคามเยียนหลิงซานได้จริงๆ คือหลินเนี่ยน
สีหน้าของเยียนหลิงซานยามนี้ยับยู่ยี่นัก เขาคิดไม่ถึงว่าแผนการของตัวเองที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ จะต้องมาเสียการด้วยน้ำมือจากเด็กสาวคนหนึ่ง
“เ้าเมืองเยว่ ข้าขอสั่งให้เ้าขัดขวางถังเหล่ยซะ”
เยียนหลิงซานปลีกตัวออกไปยามนี้ไม่ได้ การโจมตีของกระบี่เหมันต์ในมือหลินเนี่ยนทุกสายล้วนรุนแรงมาก เยียนหลิงซานทำได้เพียงใช้กระบวนท่าต่างๆ ฝืนสกัดอีกฝ่ายเอาไว้ หากคิดจะเอาชนะนาง อาจต้องใช้เวลา
ยามนี้ต้องยืมมือเยว่มู่จือจัดการ ขอเพียงเขาสั่งการ องครักษ์ทั้งจวนเ้าเมืองก็จะล้อมเข้ามา ดูจากพลังของถังเหล่ยแล้ว คงออกไปได้ยาก
เมื่อเยว่มู่จือที่กำลังหลบอยู่ด้านข้างได้ยินเยียนหลิงซานออกคำสั่ง เขาก็ขุ่นเคืองใจ
ชัดเจนว่าเยียนหลิงซาน้าลงมือกับตระกูลถัง แต่ไยถึงเชิญพวกเขามาที่จวนเ้าเมือง เยว่มู่จือรู้สึกลำบากใจนัก ยิ่งเยียนหลิงซานออกคำสั่งด้วยแล้ว นี่ไม่คิดจะเห็นเขาในสายตาบ้างเลยหรือ
“เ้าเมืองเยว่ หรือว่าเ้าคิดจะขัดคำสั่งของข้า!”
เมื่อเยียนหลิงซานเห็นว่าเยว่มู่จือไม่เคลื่อนไหวก็แผดเสียงดังลั่น
ในขณะที่ถังเหล่ยใกล้มาถึงประตูตำหนักจวนเ้าเมือง
ประตูตำหนักที่สร้างจากหินั์มักเปิดในสถานการณ์ปกติเสมอ
ถังเหล่ยเอามือทาบไว้ที่ประตู จากนั้นใช้ปราณแท้พลังยุทธ์ในร่างกาย พลังสีทองไหลเวียนในร่างของถังเหล่ยอย่างรวดเร็ว
ครึ่ก...
ประตูหนักหลายหมื่นจินถูกถังเหล่ยเปิดออกอย่างง่ายดาย ต่อให้เป็ผู้ชำนาญยุทธ์ขั้นที่หกคิดจะเปิดประตูนี้เพียงลำพังยังยากมากเลย แต่พลังของถังเหล่ยมีถึงสี่หมื่นจิน อาจเทียบเท่ากับผู้ชำนาญยุทธ์ขั้นที่เก้าหรือแม้กระทั่งขั้นที่สิบด้วยซ้ำ
หลังจากประตูถูกเปิดออก องครักษ์จวนเ้าเมืองที่ออกันอยู่นอกประตูก็ปรากฏสู่สายตาถังเหล่ย
ทุกคนล้วนเห็นสถานการณ์ในตำหนัก ทูตเยียนกำลังสู้กับผู้นำถังและเด็กสาวอีกผู้หนึ่งด้วย
องครักษ์ทุกคนต่างไม่รู้ว่าเกิดเื่อะไรขึ้น ทำได้เพียงมองเยว่มู่จือที่หลบอยู่ด้านข้าง และไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น
“องครักษ์จวนเ้าเมือง ขวางถังเหล่ยเอาไว้ ใครจับถังเหล่ยได้ ข้ารับรองว่าคนนั้นจะกลายเป็เ้าเมือง!”
เมื่อเยียนหลิงซานเห็นถังเหล่ยเปิดประตูสำเร็จ เขาก็ะโกับองครักษ์ด้านนอกทันที
องครักษ์ต่างหันหน้ามองกันและกัน พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่
“องครักษ์จวนเ้าเมือง ปล่อยพวกถังเหล่ยจากไป ผู้ใดขัดคำสั่ง ให้สังหารได้เลย!”
และแล้วก็มีอีกคำสั่งหนึ่งดังมาจากในตำหนัก เพียงแต่เสียงครั้งนี้มาจากเยว่มู่จือ