เยี่ยจื่อยื่นหยกม่วงัสัญลักษณ์ของหอประมูลจันทราให้องครักษ์ที่เฝ้าประตู องครักษ์ผู้นั้นถึงกับใจนแทบหาเสียงตนเองไม่เจอ แต่เพียงไม่นานเขาก็ได้สติกลับมาและท่าทางของเขานั้นยิ่งนอบน้อมกว่าเดิมทำให้คนที่กำลังมุงดูพวกเขาถึงกับสงสัยในท่าทางของเขา ปกติองครักษ์ของหอประมูลจันทราไม่จำเป็ต้องนอบน้อมหรือไว้หน้าผู้ใด เพราะพวกเขาเป็องค์กรที่ไม่ขึ้นตรงต่อแคว้นไหนทั้งสิ้นในแผ่นดินชิวหลิง ที่นี่ใช้ความแข็งแกร่งเป็ตัวชี้วัดว่าผู้ใดควรได้รับความนอบน้อมหรือความเคารพ องครักษ์ผู้นั้นรีบทำหน้าที่ต้อนรับและเดินนำทั้งสองไปยังห้องพิเศษที่อยู่ชั้นสามด้วยตนเอง
ห้องพิเศษที่ชั้นสามถูกตกแต่งอย่างหรูหราเพียงเพื่อคนสำคัญของหอประมูลจันทราเท่านั้น จะมีเพียงแค่แขกพิเศษที่พิเศษจริงๆ ที่จะสามารถเข้าใช้ห้องพิเศษแห่งนี้ได้ ผู้ดูแลหอประมูลจันทราเมื่อทราบข่าวจากหัวหน้าผู้คุมว่าผู้ใดมาที่หอประมูลเขาก็รีบตรงดิ่งมาที่ห้องนั้นทันที
" คารวะนายท่านข้าน้อยไม่ทราบว่านายท่านจะมาเยือนหอจันทราในวันนี้"
ผู้ดูแลคุกเข่าลงยกกำปั้นขวาขึ้นแนบอกด้านซ้ายเหมือนที่เยี่ยจื่อเคยทำ เขาพูดอย่างนอบน้อมและชำเลืองมองซินเยว่ที่นั่งจิบชาอยู่ด้านข้างไป๋เยี่ยนหลงเล็กน้อย ผู้ดูแลก้มหน้าลงอย่างเดิมเพราะเกรงว่าจะเป็การเสียมารยาทต่อสตรีของนายท่าน
ไป๋เยี่ยนหลงโบกมือให้เขาลุกขึ้น ซินเยว่มองลงไปด้านล่างเห็นผู้คนมากมายที่ชั้นหนึ่ง ส่วนของชั้นสองเป็ห้องส่วนตัวระดับกลางส่วนมากจะเป็พวกเชื้อพระวงศ์หรือไม่ก็พวกตระกูลขุนนางใหญ่ มีหนึ่งห้องที่ซินเยว่คุ้นหน้าคุ้นตาชายที่นั่งอยู่ด้านในของห้องชั้นสองเขาก็คือแม่ทัพหยาง หยางจิ่งเทียน
“เขามาทำอะไรที่นี่”
ซินเยว่ลุกขึ้นยืนเกาะขอบหน้าต่าง มองลงไปที่ชั้นสองอย่างใ ข้างกายหยางจิ่งเทียนมีบุรุษหน้าตาดีผิวขาวดูสะอาดสะอ้านแต่งกายด้วยชุดผ้าไหมตัดเย็บอย่างดี ฮุ่ยหลิงมองตามสายตาของซินเยว่ นางก็มีอาการใเช่นเดียวกัน เมืองเยว่กว่างห่างไกลจากเมืองหลวง หลายพันลี้เหตุใดแม่ทัพหยางถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ฮุ่ยหลิงเดินมาจับแขนเสื้อของซินเยว่
"คุณหนู"
ฮุ่ยหลิงมองนางด้วยสายตาไม่สบายใจ ซินเยว่จึงตบหลังมือฮุ่ยหลิงเบาๆ อย่างปลอบประโลม
"ไม่เป็ไรข้าตัดขาดจากเขาแล้ว ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถทำอันใดข้าได้เ้าก็รู้ เ้าอย่าลืมตอนนี้ข้ามีพลังปราณแล้ว"
ซินเยว่พูดปลอบให้ฮุ่ยหลิงคลายกังวล ไป๋เยี่ยนหลงมองซินเยว่และฮุ่ยหลิงที่มีสีหน้าไม่สบายใจแล้วมองเลยทั้งสองคนลงไปที่ชั้นสองห้องที่ซินเยว่กำลังมองอยู่ ไป๋เยี่ยนหลงไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมามีเพียงใบหน้าราบเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์เท่านั้นไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่
"มานั่งนี่"
ไป๋เยี่ยนหลงตบไปที่เบาะนวมหนานุ่มด้านข้างเขาเป็สัญญาณบอกให้ซินเยว่นั่งลง ซินเยว่เดินไปนั่งด้านข้างเขาแต่โดยดี
การประมูลเริ่มขึ้นสิ่งของมีค่าที่ถูกนำมาประมูลในครั้งนี้ถูกประมูลผ่านไปหลายอย่าง แต่ไม่มีสิ่งใดทำซินเยว่ให้ความสนใจเพราะในมิติของนางทุกอย่างที่นี่ไม่สามารถเทียบได้ ของที่นางมียังเป็สิ่งของที่หาได้ยากในแผ่นดินนี้ ไป๋เยี่ยนหลงมองซินเยว่ที่นั่งปิดปากหาวตาปรือเหมือนจะหลับให้ได้อยู่ตลอดเวลา ยิ่งทำให้เขาเกิดความรู้สึกบางอย่างที่แปลกประหลาดขึ้นในใจ
สตรีนางนี้ไม่มีความเหนียมอายหรือประหม่าเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าเขาเลยหรือ ช่างเป็สตรีที่แปลกประหลาดและแตกต่างจากสตรีทั่วไปยิ่งนัก ไป๋เยี่ยนหลงมองซินเยว่อยู่นานจนทำให้นางรู้สึกตัวว่านางกำลังถูกคนด้านข้างจ้องอยู่
"มีอะไรหรือ"
เห็นเขามองหน้านางอยู่นานแต่ไม่ยอมพูดอะไรสักที
"เ้ามีสิ่งใดที่้าหรือไม่
เขาถามซินเยว่เบาๆ นางส่ายหน้าไปมาทำสีหน้าเบื่อหน่าย
"ท่านลากข้ามาจากบ้านเพื่อที่จะมาดูอะไรที่น่าเบื่อแบบนี้เนี่ยนะ ช่างเสียเวลาของข้าซะจริงท่านจะรับผิดชอบอย่างไร"
ซินเยว่ทำหน้างอง้ำ พานางมาทั้งที่นางไม่เต็มใจแถมยังต้องมาเจอกับคนที่ไม่อยากเจอที่สุด
"ข้าคิดว่ามีบางสิ่งที่เ้า้า"
หลังจากที่ไป๋เยี่ยนหลงพูดจบด้านล่างก็บังเกิดเสียงฮือฮาของผู้คนดังขึ้น
"เกิดอะไรขึ้นหรือ"
ซินเยว่หันไปให้ความสนใจด้านล่าง ผู้ดูแลหอประมูลจันทราที่ก่อนหน้านี้เข้ามาทำความเคารพไป๋เยี่ยนหลงยืนอยู่กลางลานเวทีประมูลด้านข้างมีสาวงามชุดสีแดง ยืนถือถาดสีทองตรงกลางมีกล่องกำมะหยี่สีดำวางอยู่
"สิ่งนี้คือของประมูลชิ้นสุดท้ายของวันนี้ บางท่านคงจะทราบดีอยู่แล้วว่าของที่อยู่ในกล่องนี้คือสิ่งใด"
ผู้ดูแลกล่าวเสียงดังชัดเจน เขารับกล่องกำมะหยี่จากสาวงามมาวางไว้บนเเท่นศิลาสีดำกลางลานประมูล
"สิ่งนี้ก็คือโอสถเพิ่มพลังปราณความบริสุทธิ์เต็มสิบส่วน ซึ่งยังไม่มีผู้ใดเคยมีในมาก่อน ผู้ที่กินโอสถนี้เข้าไปสามารถเลื่อนระดับพลังได้ถึงสามขั้นย่อยหนึ่งขั้นใหญ่ เทียบเท่ากับผู้ฝึกพลังปราณโดยการบำเพ็ญตบะถึงสิบปี"
สิ้นคำของผู้ดูแลเสียงผู้คนด้านล่างฮือฮาต่างคนต่างหมายตา ของด้านในกล่อง หมายมั่นว่าจะต้องนำมาเป็ของตนให้ได้อย่างแน่นอน ผู้ดูแลเปิดฝากล่องกำมะหยี่ที่ทำขึ้นเป็พิเศษเพื่อกักเก็บกลิ่นอายของเม็ดยาที่อยู่ด้านใน ต่อให้เดินถือกล่องนี้ในตลาดก็ไม่มีผู้ใดสามารถรู้ได้ว่ามีโอสถล้ำค่าอยู่ด้านใน
กลิ่นหอมเย็นโชยไปทั่วทั้งห้องโถงงานประมูลแทบจะทำให้ผู้คนคลุ้มคลั่งแต่ที่นี่คือหอประมูลจันทรา ไม่มีผู้ใดกล้าก่อเื่ถึงแม้จะมั่นใจในพลังของตนมากเพียงใดก็ตาม
"ทุกท่านโปรดใจเย็นก่อน เรามาเริ่มการประมูลโอสถล้ำค่านี่กันเลยดีกว่าข้าน้อยอยากทราบแล้วว่าผู้ใดจะได้เป็ผู้โอสถเม็ดนี้"
ราคาประมูลเริ่มต้นที่หนึ่งหมื่นตำลึงทอง
ซินเยว่ตาเหลือกทันที 'นี่ นี่ มันอะไรกัน'
เ้าเถ้าแก่สวีนั่นรู้อยู่แล้วสินะว่ายาของนางราคาแพงมหาศาลตอนที่จ่ายเงินให้นางทำหน้าเหมือนตนขาดทุนย่อยยับ หน็อยเ้าเฒ่าเ้าเล่ห์ ซินเยว่ได้เเต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียวในใจ
"สองหมื่นตำลึงทอง"
เสียงเรียบเย็นของคนด้านข้างของนางดังขึ้น
"ท่านจะทำอะไร"
นางถามเขาด้วยความไม่เข้าใจ
"เ้า้า"
ไป๋เยี่ยนหลงพูดขึ้นเบาๆ นางมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจแต่ความรู้สึกชนิดหนึ่งกลับตีตื้นขึ้นมา 'ทำไมเขาต้องทำให้นางขนาดนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้คนของเขาไล่ตีนางแทบตาย' ซินเยว่มองไป๋เยี่ยนหลงด้วยความฉงนใจ
"เ้าอ่อนแอเกินไป"
เขาพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นนางยังคงจ้องเขาอยู่เช่นนั้น
"ข้าไม่้า"
ซินเยว่อารมณ์ขึ้นทันทีนางรีบปฏิเสธก่อนที่เขาจะซื้อยาของนางด้วยราคาแพงกว่าที่นางขายไป
"ข้ารวย "
เขาตอบกลับอย่างเฉยเมยแต่ไม่ยอมแพ้ ซินเยว่ได้เเต่มองค้อนเขาด้วยความหมั่นไส้ นางผินหน้าไปมองด้านล่างที่กำลังเกิดาขนาดย่อมเมื่อผู้คนกำลังแข่งกันขานราคา สามหมื่น, สี่หมื่น, ห้าหมื่น......
ราคายังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนที่มีความสุขคงจะเป็เถ้าแก่สวีและหอประมูลแห่งนี้ ซินเยว่ถอนหายใจออกมาอย่างจนใจเมื่อไป๋เยี่ยนหลงทำท่าจะเอ่ยราคาประมูล
"นั่นของข้าเอง"
ทุกคนในห้องหันมามองซินเยว่เป็ตาเดียว เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่นาง้าจะสื่อ
"ข้าบอกว่ายานั่นเป็ของข้าเอง"
ซินเยว่เอ่ยย้ำขึ้นมาอีกครั้ง เยี่ยจื่อใจนตัวแข็งไปทันทีเขาไม่มีทางเชื่อว่าสิ่งที่นางพูดจะเป็ความจริง สตรีที่ไร้ความสามารถนางนี้น่ะหรือจะสามารถปรุงโอสถเพิ่มพลังปราณความบริสุทธิ์เต็มสิบส่วนได้ ฆ่าให้ตายเขาก็ไม่มีทางเชื่อ เท่าที่เขาได้ข้อมูลมาโอสถนั่นเป็ของเถ้าแก่สวีร้านขายยาของเมืองเยว่กว่าง แต่เอ๊ะนางก็ขายสมุนไพรให้ร้านเถ้าแก่สวีนี่นา เยี่ยจื่อจ้องหน้าซินเยว่อยู่อย่างนั้นเพื่อค้นหาความจริง
ไป๋เยี่ยนหลงปล่อยพลังปราณออกมาด้วยความไม่พอใจทำให้เยี่ยจื่อรู้สึกตัวว่าตนเองได้ทำเื่ที่ล่วงเกินนายท่านแล้วเขารีบคุกเข่าลงทันที เสิ่นเยว่ไม่เข้าใจระหว่างเ้านายกับองครักษ์สองคนนี้ เพราะทั้งสองคนเหมือนคนใบ้ที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เวลาสื่อสารก็ใช้เพียงสายตาแต่สามารถทำให้อีกฝ่ายเข้าใจได้
ไป๋เยี่ยนหลงเก็บพลังกลับคืนมา เยี่ยจื่อถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ฮุ่ยหลิงมองท่าทางของเยี่ยจื่ออย่างไม่เข้าใจว่าเขาเป็อะไรอยู่ๆ ถึงได้คุกเข่าลง
ซินเยว่เบ้ปากอย่างไม่พอใจนางคว้าขวดยาที่อยู่ในมิติเทเม็ดยาลงตรงหน้าพวกเขา ฮุ่ยหลิงทำท่าจะเป็ลมใบหน้าของนางซีดเผือด ไป๋เยี่ยนหลงคว้าตัวนางมานั่งบนตักของเขา
"อธิบายมา"
ซินเยว่ดิ้นขลุกขลักภายในอ้อมแขนแกร่ง
"ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้นะ ข้าก็กำลังจะอธิบายอยู่นี่อย่างไรเล่า"
ซินเยว่หน้าเเดงลามไปถึงใบหูด้วยความเขินอาย ในห้องนี้มีเพียงพวกเขาสองคนเสียที่ไหนกัน ชาติก่อนของนางถึงจะเป็คนสมัยใหม่แต่ซินเยว่ก็ไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนอื่นแบบนี้ ใบหน้าของนางยังมียางอายอยู่นะ
ซินเยว่และไป๋เยี่ยนหลงต่างอยู่ในโลกส่วนตัว แต่คนที่ช็อกจนแข็งค้างคือเยี่ยจื่อและฮุ่ยหลิง พวกเขามีความคิดที่ตรงกันคือทั้งสองมีความสัมพันธ์เช่นนี้ั้แ่เมื่อใด ในขณะที่ด้านล่างมีการเเข่งขันการเสนอราคาอย่างดุเดือด ห้องพิเศษชั้นสามเหมือนจะถูกตัดออกจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง
การประมูลจบลงโดยโอสถเพิ่มพลังปราณเม็ดเเรก ถูกประมูลได้โดยสำนักแพทย์โอสถในราคาหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึงทอง และโอสถเม็ดที่สองราคาสองแสนตำลึงทอง ถูกประมูลได้โดยองค์ชายสามฉิงอิงหลาง
ชื่อฟังดูคุ้นๆ แต่ซินเยว่ไม่ได้ให้ความสนใจ เมื่ออธิบายที่มาที่ไปของโอสถเพิ่มพลังปราณโดยบอกว่านางได้ตำราหลอมโอสถมาโดยบังเอิญและเพียงแค่ทดลองหลอมมันขึ้นมาเท่านั้น จากนั้นซินเยว่ก็มอบยาของนางให้เยี่ยจื่อ กับฮุ่ยหลิงคนละเม็ดแต่ไป๋เยี่ยนหลงไม่รับ
ชิ!!นางก็ไม่ได้อยากให้เ้าคนฉวยโอกาสหน้าตายนี่หรอก ให้สองคนนั้นแล้วจะไม่ให้เขานางก็จะดูเป็คนใจดำน่ะสิ
ทั้งสี่คนเดินออกจากห้องพิเศษมาขึ้นรถม้าที่จอดอยู่ด้านหน้า หอประมูลจันทรา ซินเยว่ก็ได้เจอคนที่ไม่อยากเจอจนได้นางอุตส่าประวิงเวลาไม่รีบออกมาจากหอประมูลจันทรา แต่ดูเหมือน์จะไม่เห็นใจนางสักนิด เขาอาจจะจำนางไม่ได้ก็ได้เพราะตอนนี้นางได้เปลี่ยนไปแล้ว เเต่หยางจิ่งเทียนะโรั้งซินเยว่เอาไว้ก่อนที่นางจะขึ้นรถม้า
