บนโต๊ะแปดเซียนไม้หวงฮวาหลีฝังมุกลายวิหคบุปผา มีอาหารแปดอย่างและน้ำแกงร้อนๆ ควันโขมงตั้งอยู่
ผูหยางชิงหลันเชิญตนเองนั่งรอพวกเขา
"เมื่อเสี่ยวชีเตรียมอาหารไว้พร้อมแล้ว ครัวบ้านข้าก็ไม่ต้องก่อไฟแล้ว"
เหลียนเซวียนคาดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเขาต้องเอ่ยเช่นนี้ ดังนั้นจึงเตรียมอาหารส่วนของพวกเขาด้วย
"เหลยลี่ไปตามเฟิงหยางมา"
"พ่ะย่ะค่ะ" เหลยลี่ซึ่งไม่รู้ว่าโผล่มาั้แ่เมื่อไรรับคำแล้วออกไป
เซวียเสี่ยวหรั่นมองแผ่นหลังของเหลยลี่ด้วยความคลางแคลงสงสัย เหตุใดเมื่อครู่นี้ไม่เห็นพวกเขาเลยล่ะ?
"นั่งเถอะ รอเฟิงหยางก่อน" เหลียนเซวียนบอกให้สองพี่น้องนั่งลง
"เสี่ยวชีเอ๋ย เ้าเปลี่ยนเครื่องเรือนในนี้ทั้งหมดเลยรึ ข้าจำได้ว่าการตกแต่งห้องก่อนหน้านี้มิใช่แบบนี้" ผูหยางชิงหลันกวาดตาจากซ้ายไปขวา ก็มองปัญหาออก
"อื้ม เมื่อเปลี่ยนเ้าของใหม่ ก็ย่อมต้องเปลี่ยนเครื่องเรือนใหม่ด้วย" เหลียนเซวียนผงกศีรษะ
"นี่คือบ้านข้า ท่านเปลี่ยนเครื่องเรือนทั้งหมดโดยที่ข้ายังไม่ยินยอมได้อย่างไร"
พอเซวียเสี่ยวหรั่นได้ยิน ขนคิ้วก็ตั้งชี้ คนผู้นี้ทำตามอำเภอใจเกินไปแล้ว
ผูหยางชิงหลันเลิกคิ้ว ดวงตามีประกายวาบผ่าน มีเื่สนุกให้ดูแล้ว
เหลียนเซวียนเห็นหญิงสาวฝั่งตรงข้ามทำหน้านิ่ง ก็รู้ว่านางโกรธจริงๆ
ดีที่เขาเตรียมทำการบ้านไว้ล่วงหน้า เหลียนเซวียนหัวเราะเบาๆ เอ่ยอย่างไม่ลนลานไม่รีบเร่ง "เสี่ยวหรั่น ข้าทำเช่นนี้ย่อมมีเหตุผล"
เขาตวัดสายตาไปที่ผูหยางชิงหลันซึ่งกำลังตั้งตาชมเื่สนุก "ศิษย์พี่ ยังจำได้หรือไม่ เพราะเหตุใดเ้าของเรือนหลังนี้ถึงยกมันให้แก่ท่าน"
ผูหยางชิงหลันนิ่งงันไปชั่วขณะ สมองหมุนไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถลึงตากลับ เขาคิดจะใช้เหตุผลนี้เองรึ
"นายท่านผู้เฒ่าบ้านเขาล้มป่วยกะทันหัน ต้องใช้สมุนไพรหายากของข้าถึงช่วยชีวิตไว้ได้ ราคาของสมุนไพรเ่าั้มิอาจประเมินค่า พวกเขามิอาจจ่ายเงินมากมายเพียงนั้น ประกอบกับถูกย้ายไปประจำต่างเมือง จึงต้องยกเรือนหลังนี้ให้แก่ข้า"
"บ้านของพวกเขามีคนป่วยหนัก ดังนั้นทางที่ดีต้องเปลี่ยนเครื่องเรือนใหม่ถึงจะสบายใจได้" เหลียนเซวียนมองเซวียเสี่ยวหรั่นพลางยิ้มบางๆ
นี่เป็เหตุผลได้ด้วยหรือ? เซวียเสี่ยวหรั่นมุมปากกระตุก ถ้าคนป่วยตายก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ช่วยคนรอดชีวิตได้แล้วมิใช่หรือ?
แค่มีคนป่วยถึงกับต้องเปลี่ยนเครื่องเรือนใหม่ทั้งหมด มีแต่มหาเศรษฐีเท่านั้นถึงจะทำเช่นนี้ได้
แต่ก็จริงอยู่ ตอนนี้เขาก็เป็มหาเศรษฐีเลี่ยมทองทั้งตัวเลยนี่นา
แต่เขามีเงินก็เื่ของเขาสิ ทำไมต้องเอาเงินมาละลายในที่ของเธอ เซวียเสี่ยวหรั่นตวัดสายตามองเขา
เหลียนเซวียนเห็นนางมองค้อนทำกะหลับกะเหลือกก็รู้ว่าเื่ยังไม่จบ "แฮ่ม เื่มิได้มีแค่นี้ บุตรคนโตกับบุตรคนเล็กของบ้านนี้ล้วนเคยออกไข้ตุ่มน้ำใส [1] เ้ารู้หรือไม่ว่านี่เป็โรคติดต่อ"
เซวียเสี่ยวหรั่นฟังจบก็ยิ่งหมดคำเอ่ย เห็นเธอเป็เด็กหรือไง ถึงเอาเื่นี้เกลี้ยกล่อม "เรือนหลังนี้ยกให้ญาติผู้พี่ั้แ่สามปีก่อน เวลาสามปี โรคติดต่ออะไรก็คงหายไปหมดแล้ว"
"ฮ่าๆ" ผูหยางชิงหลันพอใจยิ่ง "ข้าว่านะ เสี่ยวชี ญาติผู้น้องเป็สตรีฉลาดหลักแหลม เ้ายังคิดจะหลอกนางอีกรึ"
พอเห็นสายตาของเหลียนเซวียนฉายแววไม่พอใจ ผูหยางชิงหลันก็ยิ่งหัวเราะตัวโยน
"แฮ่ม เสี่ยวเหล่ยยังเด็ก เื่เหล่านี้ควรป้องกันไว้ก่อนจริงหรือไม่" เหลียนเซวียนหันไปหาเซวียเสี่ยวเหล่ย "เสี่ยวเหล่ย เ้าเคยออกไข้ตุ่มน้ำใสแล้วหรือยัง"
"ไม่เคยขอรับ" เซวียเสี่ยวเหล่ยส่ายหน้า หากเมื่อก่อนเขาเป็ไข้ตุ่มน้ำใสภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนั้น ก็คงไม่รอดชีวิตมาถึงทุกวันนี้
เหลียนเซวียนหันไปหาเซวียเสี่ยวหรั่น คิ้วเข้มเลิกขึ้นน้อยๆ ขับเน้นใบหน้าหล่อเหลาให้ดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก
เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกร้อนใบหูอย่างอดไม่ได้ ผู้ชายหน้าตาดีมีสกิลจีบหญิงติดตัวมาทั้งนั้น
แม้แต่ท่ายักคิ้วยังแฝงแววเ้าสำราญ
เมื่อก่อนรู้สึกแค่ว่าเขามีดวงตาและคิ้วที่สวยงาม ตอนนี้มาพิศดูอย่างละเอียด คิ้วดาบสีดำเข้ม ดวงตาคมเปล่งประกายดุจดารา จมูกโด่งเป็สัน แม้ริมฝีปากจะบางแต่กลับรูปสวย ประกอบกับรูปหน้าคมสันชัดเจน ชวนให้คนมิอาจละสายตา
เคราะห์ดี เซวียเสี่ยวหรั่นยังมีภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง จึงกระแอมกระไอก่อนเบือนสายตาไป
"แฮ่ม ครั้งนี้ก็แล้วไปเถอะ แต่คราวหน้าห้ามท่านมาเ้ากี้เ้าการบ้านข้าตามอำเภอใจอีก เงินค่าเครื่องเรือนข้าจะคืนให้ หากท่านไม่รับ ข้าก็ย้ายพวกมันออกไป" เซวียเสี่ยวหรั่นจงใจทำสีหน้าบึ้งตึง
ผูหยางชิงหลันยิ้มพรายมองพวกเขา หลังจากนั้นก็กล่าวเตือนอย่างแฝงเจตนาร้าย "ญาติผู้น้อง เ้าดูสิ มีแต่เครื่องเรือนไม้หวงฮวาหลีทั้งนั้น ไม่ใช่ถูกๆ เลยนะ"
เซวียเสี่ยวหรั่นตกตะลึง ลูบเก้าอี้ไม้อันประณีต "แพงมากเลยเหรอ?"
"หากเรือนหลังนี้เปลี่ยนเป็ไม้หวงฮวาหลีทั้งหลัง ย่อมแพงมากแน่นอน สามหมื่นห้าพันตำลึงก็ยังไม่แน่ว่าจะซื้อได้"
ผูหยางชิงหลันทำเมินสายตาคมกริบดุจกระบี่เย็นของเหลียนเซวียนที่สาดพุ่งมา ยิ่งเติมน้ำมันใส่น้ำส้ม [2]
"สามหมื่นห้าพันตำลึง?"
เซวียเสี่ยวหรั่นเบิกตากว้างราวกับกระพรวนทองแดง แม่เ้าโว้ย แพงกว่าเรือนหลังนี้ตั้งกี่เท่า
เหลียนเซวียนปรายตามองผูหยางชิงหลันอย่างเฉยชา แต่ขณะหันไปหาเซวียเสี่ยวหรั่น แววตากลับเปลี่ยนเป็อ่อนโยนละมุนละไม
"ไม่ได้มากขนาดนั้น เครื่องเรือนไม้หวงฮวาหลีมีเฉพาะห้องโถงกับเรือนหลัก ห้องอื่นล้วนเป็เครื่องเรือนไม้แดงธรรมดา"
ผูหยางชิงหลันกลอกตาอย่างอดไม่ได้ ศิษย์น้อง ปฏิบัติแตกต่างชัดเจนขนาดนี้ จะดีแน่หรือ?
"ชะ... เช่นนั้นเท่าไรกันล่ะ?" เซวียเสี่ยวหรั่นถามตะกุกตะกัก ต้องจ่ายเยอะขนาดนั้นจริงหรือ เธอตัดใจจ่ายไม่ได้หรอก ให้เขาเอากลับไปดีกว่า
"แค่สองสามร้อยตำลึงเท่านั้นเอง รอข้าถามผู้ดูแลก่อนค่อยว่ากัน" เหลียนเซวียนทำหน้าตาย
สองสามร้อยตำลึง? นั่นก็ค่อยยังชั่ว เซวียเสี่ยวหรั่นถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเปรียบเทียบกับสามหมื่นห้าพันตำลึง สองสามร้อยตำลึงนับว่าน้อยกว่ามาก
ขณะสนทนากันอยู่ อวี๋เฟิงหยางก็มาถึง ทุกคนจึงเริ่มขยับตะเกียบ
เพราะเร่งเดินทางกลับเมืองหลวง มื้อกลางวันจึงกินอย่างลวกๆ ดังนั้นตอนนี้ทุกคนจึงหิวโซ
ชั่วขณะนั้นบนโต๊ะอาหารเงียบกริบ
หลังจากนั้นหนึ่งเค่อ ผูหยางชิงหลันก็เริ่มวางตะเกียบ "เสี่ยวชี เ้ามีเวลาแล่นมาที่นี่ได้อย่างไร ตอนนี้เ้าควรจะยุ่งอยู่มิใช่หรือ"
พอได้ยินพวกเขาคุยกัน คนทั้งโต๊ะก็เริ่มชะลอตะเกียบ
"ยุ่งอย่างไร ก็ต้องมีเวลาพักกันบ้าง"
เหลียนเซวียนตอบกลับไปอย่างมีเหตุผล เขาย่อมจะยุ่ง สองสามวันที่กลับมาล้วนหมดไปกับการสะสางงานที่คั่งค้าง ยังต้องรับมือกับแขกที่มาเยือนไม่ขาดสาย ไม่รวมจัดการกับพระบัญชาที่มาจากในวัง
แน่นอนว่าสำหรับเขาแล้วเื่เหล่านี้แท้จริงแล้วจะว่ายุ่งก็ไม่เท่าไร ภารกิจที่คั่งค้าง อย่างไรเสียก็สะสมมานาน เร่งไปก็ไม่เสร็จภายในสามสี่วัน คนมาเยี่ยมเยือน ก็ยิ่งจัดการง่าย คนไหนอยากพบก็ให้พบ ไม่อยากพบก็ปฏิเสธไป
ที่ยุ่งยากมากว่าก็คือพระบัญชาเรียกตัวเข้าวัง
อาจเป็เพราะเขาลำบากอยู่ข้างนอก คนวางยาพิษก็จับมือใครดมไม่ได้ อู่เซวียนตี้อยากจะชดเชยให้เขา ถึงเรียกตัวเข้าวังบ่อยครั้ง
ไม่เพียงแต่ประทานของให้กองใหญ่ ยังเร่งให้เหลียนเซวียนร่วมประชุมในท้องพระโรงเพื่อแบ่งเบาภาระของพระองค์
เหลียนเซวียนหายไปปีกว่า ฝ่ายซีฉีได้ข่าว จากที่พ่ายาจนหดหู่เสียขวัญ ก็เริ่มกลับมาแข็งข้อ
เหลียนเซวียนในฐานะแม่ทัพใหญ่ทหารม้าอันดับหนึ่ง เมื่อปีก่อนชนะห้าศึกติดต่อกัน ตีจนซีฉีแตกพ่าย เื่นี้ย่อมต้องให้เขาออกหน้าไปข่มขวัญข้าศึก
...
[1] หมายถึงโรคอีสุกอีใส
[2] เติมน้ำมันใส่น้ำส้ม หมายถึงการพูดยุยงเสริมแต่งให้ดูเกินจริง
