ขณะที่กำลังกินขนม พวกเขาพากันเงียบกันไปชั่วหนึ่ง เว่ยซูหานกำลังคิดว่าจะเอ่ยเื่ย้ายเรือนอย่างไร? เหยียนชิงก็เอ่ยถามตนขึ้นมาก่อนหลังจากกินขนมเสร็จ
“จริงสิ เ้าเลือกเรือนเสร็จแล้วหรือ?”
“ยังไม่เสร็จ”
เว่ยซูหานกล่าวความจริง สายตาจ้องมองเขาอย่างจริงใจ
ที่แท้คนผู้นี้ก็ชอบกินของหวานมาโดยตลอด ชาติก่อนเพื่อเขาแล้ว ตี้จวินจัดหาพ่อครัวที่ชำนาญด้านการทำของหวานมาทำขนมให้จวนราชครูโดยเฉพาะ… ตัวเขาเองก็แอบเรียนมาไม่น้อย แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีโอกาสลงมือทำให้เหยียนชิงกินสักครั้ง
“เอ่อ…” เหยียนชิงกินขนมฝูหรง [1] จนหมดก่อนจะเลียริมฝีปาก “เ้าก็รีบตัดสินใจเลือกเรือนที่ชอบสักหลัง ข้าจะให้คนไปทำความสะอาดให้ ถึงอย่างไรเ้ากับข้าก็แต่งงานกันแล้ว เ้าจะอยู่ในเรือนของพี่ใหญ่ไม่ได้”
“เ้าอยู่ที่เรือนใด? ”
เว่ยซูหานถามด้วยรอยยิ้ม สายตาเป็ประกาย
“ก็ต้องอยู่ที่นี่อยู่แล้วสิ… เอ่อ เ้า…” เหยียนชิงตอบ จากนั้นก็ตกตะลึงงัน “เ้าคงไม่คิดจะอยู่กับข้าใช่หรือไม่? ”
“ไม่ได้รึ? ” เว่ยซูหานถามด้วยรอยยิ้ม คีบขนมให้เขาหนึ่งชิ้น “เ้ากับข้าเป็คู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามัน อยู่ด้วยกันก็เป็เื่ปกติไม่ใช่หรือ? ”
“แต่พวกเราไม่ใช่สามีภรรยากันจริงๆ เสียหน่อย ไม่จำเป็ต้องทำตามผู้ใด ในเมื่อแต่งงานกันแค่ในนามแต่ไม่ได้ปฏิบัติจริง แยกกันอยู่จะสะดวกกว่า… ข้าจะจัดคนที่ไว้ใจได้ให้เ้า วันหน้าจะได้สะดวกกับเ้า”
เหยียนชิงพูดอ้อมๆ แต่เขาเชื่อว่าเว่ยซูหานฟังเข้าใจ แม้ว่าพวกที่อายุเท่ากันกับเขาส่วนใหญ่จะเข้าใจเื่ความรักของผู้ใหญ่แล้ว แต่เขากลับเป็เพียงบัณฑิต ร่างกายอ่อนแอ ยังไม่ผ่านพิธีสวมกวาน ดังนั้นจึงไม่เคยััเื่อย่างว่า
บวกกับสถานการณ์พิเศษในตอนนี้ เื่ในชาติที่แล้วทำให้ความคิดของเขาว้าวุ่น ตอนนี้คิดแต่เพียงว่าต้องพยายามสอบเป็ขุนนางให้ได้โดยที่ต้องไม่มีสิ่งใดมารบกวน ปัญหาอื่นค่อยว่ากัน แม้ว่าเื่การสอบขุนนางจะเป็เื่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ยังต้องใช้ความตั้งใจและพยายามอย่างมาก
แต่เว่ยซูหานกลับแตกต่าง เว่ยซูหานโตกว่าเขา ปีนี้อายุยี่สิบปีแล้ว เป็บุรุษที่มีร่างกายกำยำจิตใจแข็งแรง เป็่อายุที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังวังชา จะมาปกป้องบุรุษอย่างเขาจริงๆ ได้อย่างไร แบบนี้มันช่างไร้มนุษย์ธรรมเกินไปแล้ว
ดังนั้น เขาจึงคิดไว้แล้วว่าให้เว่ยซูหานเลือกเรือนที่เขาถูกใจ หลังจากจัดคนที่ไว้ใจได้ไปปรนนิบัติ ต่อไปหากเขา้าจะทำอะไรก็จะได้สะดวกขึ้น ในเมื่อเขาไม่อาจตอบสนองความ้าปกติให้เว่ยซูหานได้ ก็จัดคนอื่นให้ไปทำแทนเสีย ดังนั้น… แน่นอนว่าพวกเขาจึงไม่สะดวกที่จะอยู่ด้วยกัน
เว่ยซูหานเห็นติ่งหูของเขาแดงก่ำก็รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ มุมปากหยักยกยิ้ม
“ก่อนที่เ้าจะเข้าพิธีสวมกวาน ข้ายินดีจะทะนุถนอมเ้าให้เหมือนดั่งหยก ข้ายังควบคุมความ้าของตัวเองได้”
“ข้า… เ้า… เ้าไม่จำเป็ต้องทะนุถนอมข้า แม้ว่าเราจะแต่งงานกัน แต่ข้าก็ไม่ได้อยากจะให้เ้าทำอะไรจริงๆ …”
เหยียนชิงดูเหมือนจะเข้าใจผิดแล้ว เขาพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย ไม่ได้ตั้งใจจะใช้ประโยชน์จากเว่ยซูหานจริงๆ
เว่ยซูหานกลับไม่ฟังคำอธิบายจากเขา ยังคงเอ่ยถามอย่างอ่อนโยนด้วยรอยยิ้ม
“ชิงเอ๋อร์ ข้าอยู่หอชิงเฟิงกับเ้าได้หรือไม่? ”
จากนั้นก็ยกนิ้วขึ้นเช็ดเศษขนมที่มุมปากของเหยียนชิงเบาๆ ก่อนจะชักนิ้วกลับแล้วเลียนิ้วของตนที่มีเศษขนมนั้น
“เ้า… เหตุใดถึง…”
เหยียนชิงใกับการกระทำเช่นนี้ ยกมือขึ้นเช็ดปากของตนเองโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ใดๆ คนผู้นี้เหตุใดถึงได้… ยั่วยวนเขาเช่นนี้ การกระทำเช่นนั้นมันคลุมเครือยิ่งนัก เขาคิดจะทำอะไรกันแน่
หรือว่าเขาจะชอบพอตน?
ไม่สิ แม้ว่าตอนยังเยาว์พวกเขาจะพบเคยเจอกัน แต่ตอนนั้นก็แทบไม่มีความทรงจำใดๆ เหลืออยู่ หลังจากรู้ความก็ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน ความรู้สึกที่แปลกประหลาดนี้มาจากที่ใดกัน?
หรือว่า…
เว่ยซูหานคิดจะใช้ประโยชน์จากเขาด้วยความอ่อนโยน?
เขาไม่ใช่คนบริสุทธิ์ เขาเคยผ่านประสบการณ์เลวร้าย เคยถูกเอาเปรียบถูกหลอกด้วยกลอุบายต่างๆ นาๆ ในชาติที่แล้วมาก่อน และเขาก็ไม่เชื่อว่าเว่ยซูหานจะไม่มีแผนการสกปรกอยู่ในหัว
ตอนนี้สถานการณ์ต่างจากชาติก่อน เขาเกิดใหม่แล้ว ไม่แน่อาจมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป เว่ยซูหานอาจจะมีความคิดเป็อื่น
ตัวอย่างเช่นเห็นว่าเขาอายุยังน้อยจึงหลอกใช้เขา…
เชิงอรรถ
[1] ขนมฝูหรง มีลักษณะและสีสันคล้ายดอกบัว จึงมีชื่อว่าขนมฝูหรง หรือขนมดอกบัว มีรสชาติหอมหวาน เนื้อนุ่ม