เซี่ยโม่ดูออกว่าซ่งมู่ไป๋อารมณ์ไม่ดี ถึงได้พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวดุดันกับเธอ
“อาจารย์ พวกเราขึ้นรถเถอะค่ะ”
แม้คุณปู่จ้าวจะไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ เ้าหนุ่มมู่ไป๋ถึงมีสีหน้าหงุดหงิด แต่ก็พอจะคาดเดาได้ว่าคงเกี่ยวกับเซี่ยโม่ เขาคิดพร้อมกับมุมปากที่ยกขึ้นเป็รอยยิ้ม
โม่โม่เป็เด็กสาวที่ฉลาด แต่เนื่องจากอายุยังน้อยจึงไม่ทราบถึงความคิดของเ้าหนุ่มมู่ไป๋
ส่วนเ้าหนุ่มมู่ไป๋ถึงจะมีใจชอบพอลูกศิษย์ของเขา แต่ก็ทำได้แค่เอาตัวมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ ไม่รู้จักหาวิธีเอาชนะใจผู้หญิง
เช่นนั้นก็ปล่อยให้เ้าหนุ่มนี่หาวิธีไปสักสองสามปี รอลูกศิษย์เขาโตกว่านี้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน
เซี่ยโม่ขึ้นไปบนรถแล้วนั่งตำแหน่งกลางเบาะ ก่อนที่เหล่าจ้าวจะตามขึ้นไปนั่งริมหน้าต่าง
เธอเห็นบรรยากาศดูอึดอัดแปลกๆ เลยหันไปมองซ่งมู่ไป๋ ก่อนจะแกล้งถามอย่าโง่งมว่า “พี่ซ่ง ใครทำให้พี่โกรธเหรอคะ ใจกว้างหน่อยสิคะ อย่าไปถือสากับอีกฝ่ายเลย”
ซ่งมู่ไป๋เค้นเสียงขึ้นจมูก ใครทำให้เขาโกรธงั้นหรือ ก็เด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างเขาตอนนี้อย่างไรล่ะ ยังมีหน้ามาโบ้ยให้คนอื่นอีก
“โม่โม่ เมื่อวานเธอเข้าไปในป่าลึกบนเขาคนเดียวใช่ไหม” ด้วยความที่ทนไม่ไหวเขาจึงถามออกไป
ประโยคนี้ทำให้เซี่ยโม่ชะงักไป
เธออุตส่าห์ปิดบังคนที่บ้านกับอาจารย์แล้วเชียว ตอนนี้อาจารย์นั่งอยู่ข้างๆ เธอมีหรือจะกล้ายอมรับ
เมื่อวานเหล่าจ้าวเชื่อที่ลูกศิษย์บอกจนหมดใจ นึกว่าเด็กสาวพบสมุนไพรหายากทั้งสองชนิดแถวป่ารอบนอก ไม่ได้เข้าไปถึงเขตป่าลึก แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปไม่ตอบคำถาม ก็รู้ได้ทันทีว่าคือเื่จริง
ทีนี้เขารู้แล้วว่าทำไมเ้าหนุ่มมู่ไป๋ถึงมีสีหน้าบึ้งตึง
“นี่เธอเข้าไปในป่าลึกจริงๆ เหรอเนี่ย”
เซี่ยโม่รีบอธิบาย “อาจารย์ ฉันอยู่แค่แถวๆ รอบนอกจริงๆ นะคะ”
แต่น่าเสียดายที่เด็กสาวตอบช้าไป ไม่เพียงแค่เหล่าจ้าวที่ไม่เชื่อ แม้แต่ซ่งมู่ไป๋ก็ยังคิดว่าเธอโกหก
“ฉันเคยบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่า หากอยากได้อะไรก็บอกฉัน เธอเป็ผู้หญิงเข้าไปในป่าลึกได้ยังไง ในนั้นเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์อันตรายมากมาย เกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไง” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน
ฟังแล้วเหล่าจ้าวพลันนึกถึงลูกหมาป่าที่เด็กสาวนำกลับมาด้วย คิดแล้วก็สะท้านวูบ ถอนหายใจก่อนจะออกปาก “โม่โม่ ต่อไปถ้าเธอจะเข้าไปในป่าลึกอีกก็บอกฉัน ฉันจะไปด้วย เธอเข้าไปคนเดียวมันอันตราย”
เื่ดำเนินมาถึงตอนนี้ เซี่ยโม่ได้แต่ยอมจำนน “ค่ะ ฉันผิดไปแล้ว ต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วค่ะ”
“ฉันไม่เชื่อ ใครจะรู้ว่าต่อไปเธอจะไม่เข้าไปอีก” ซ่งมู่ไป๋ยังคงมีสีหน้ามึนตึง
เซี่ยโม่รีบเอ่ยออกมาทันทีว่า “ถ้าฉันเข้าไปอีกขอให้ถูกฟ้าผ่า…”
พูดยังไม่ทันจบดี ซ่งมู่ไป๋รีบยื่นมืออีกข้างที่ไม่ได้จับพวงมาลัยไปปิดปากเธอเอาไว้ เขาไม่อยากให้เด็กสาวพูดคำว่าขอให้ถูกฟ้าผ่าตายออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็จริงเข้า
ซ่งมู่ไป๋ชะงัก ตอนนี้ถึงค่อยรู้ตัวว่ามือข้างหนึ่งกำลังปิดปากเด็กสาวอยู่
เซี่ยโม่เองก็นิ่งไปเช่นกัน มือของชายหนุ่มได้นำพากลิ่นอายของบุรุษเพศเข้ามาโอบล้อมตัวเธอ
เธอไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนมาก่อน แม้จะมีชีวิตอยู่มาสองชาติ หากนี่เป็ครั้งแรกที่ใกล้ชิดกับผู้ชายมากขนาดนี้ ทำให้เธอลืมไปจนหมดสิ้นว่าตัวเองกำลังจะพูดสิ่งใด
มือของซ่งมู่ไป๋ััได้ถึงความนุ่มนิ่มของริมฝีปากเด็กสาว หัวใจเขาในยามนี้กระหน่ำเต้นอย่างรุนแรง จนแทบจะกระดอนออกมาข้างนอก
หากเขาไม่ได้ขับรถอยู่ละก็ จะต้องรีบหนีออกจากตรงนี้ไปให้ไกลแน่
ชายหนุ่มชักมือกลับ รู้สึกว่าเืไหลไปรวมกันที่ใบหน้า ทำให้ใบหน้าแดงก่ำ ร่างกายก็ร้อนผ่าวไปทั้งตัว
หัวใจของเซี่ยโม่เองก็เต้นแรงเช่นกัน หากประสบการณ์ที่ได้ประสบพบเจอมาในสองชาติทำให้เธอยังคงนิ่งอยู่ได้
อาจารย์ก็อยู่ในรถด้วย เธอไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนถ้าอาจารย์รู้ว่าตอนนี้หัวใจเธอกำลังเต้นแรง และโชคดีที่ชายหนุ่มดึงมือกลับไปแล้ว
เซี่ยโม่หันไปมองอาจารย์ พบว่าอาจารย์หันหน้าไปด้านข้าง กำลังดูทิวทัศน์นอกหน้าต่าง
ความจริงแล้วเหล่าจ้าวได้ยินประโยคก่อนหน้านี้ของเด็กสาว และเห็นการกระทำของเ้าหนุ่มมู่ไป๋เมื่อสักครู่แล้ว ถึงได้รีบหันไปมองนอกหน้าต่างด้วยใบหน้าแดงก่ำ
เขาทราบดีว่าทำไมเ้าหนุ่มมู่ไป๋จึงทำแบบนั้น ยังดีที่เ้าหนุ่มนี่มีใจคิดเผื่อลูกศิษย์ของเขา หากปล่อยให้พูดจนจบประโยค เกิดอนาคตเป็จริงขึ้นมาได้แย่แน่ๆ
ก่อนหน้านี้เหล่าจ้าวไม่เคยเชื่อในเื่ดวงหรือโชคชะตา ั้แ่ถูกบีบคั้นให้ปิดร้านหมดซึ่งหนทาง จนกระทั่งมีเด็กสาวก้าวเข้ามาในชีวิต ทำให้เขากลับมามีทางรอดและกล้าที่จะใช้ชีวิตต่อไปอีกครั้ง จากนั้นก็เริ่มที่จะเชื่อในเื่พวกนี้ขึ้นมา
หลังจากสงบสติอารมณ์ตัวเองได้แล้ว เซี่ยโม่ก็แอบยกมือขึ้นลูบหน้าอกตัวเอง
ใหมดเลย!
“พี่ซ่ง วันนี้ไม่ต้องไปทำงานเหรอคะ หรือว่ามีธุระ ตอนนี้ถึงตัวตำบลแล้ว เดี๋ยวฉันกับอาจารย์นั่งรถประจำทางเข้าไปในอำเภอเองก็ได้ค่ะ” เธอเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ารถแล่นเข้ามาในตำบล
“วันนี้ฉันไม่ทำงาน ไม่เป็ไร ฉันมีธุระที่อำเภอพอดี”
ที่แท้ก็เป็เช่นนี้เอง เธอไม่ติดใจสงสัยอะไรอีก
ถ้าอีกฝ่ายต้องไปรับไปส่งเธอโดยเฉพาะ เธอคงไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรไหว แค่ให้ติดรถมาด้วย หนี้น้ำใจครั้งนี้ก็ถือว่าไม่เล็กแล้ว
ระหว่างนี้เธอเค้นสมองคิดดีกว่าว่าจะตอบแทนน้ำใจครั้งนี้ของชายหนุ่มอย่างไร
เซี่ยโม่หลับตานึกภาพโกดังสินค้า มองหาของที่มีความหมายน่าจดจำ
สมัยนี้เวลาจะให้ของผู้ชาย ส่วนใหญ่มักนิยมให้เข็มขัด ที่โกนหนวด หรือไม่ก็ไฟแช็ก
ที่โกนหนวดเธอเคยให้แล้ว พี่ซ่งไม่สูบบุหรี่ ให้ไฟแช็กคงไม่เหมาะนัก ตัวเลือกจึงเหลือแค่เข็มขัด
เธอเดินดูตรงชั้นวางพวกเครื่องแต่งกาย เข็มขัดที่จะให้จะมีตัวหนังสือหรือสัญลักษณ์ใดไม่ได้ทั้งสิ้น
เจอแล้ว!
เข็มขัดหนังวัวยี่ห้อนี้ไม่เลวเลย หากเอากล่องทิ้งก็ไม่รู้แล้วว่าคือยี่ห้ออะไร เช่นนั้นก็เอาเส้นนี้แหละ
เธอวางแผนในใจ พอถึงอำเภอก็ค่อยอ้างว่าอยากไปที่ห้างเพื่อซื้อของ พอไปถึงห้างเธอค่อยหาที่ลับตาคนเพื่อหยิบเอาเข็มขัดเส้นนี้ออกมาจากโกดังสินค้า
พอตัดสินใจได้แล้วจึงลืมตาขึ้น
แม้ซ่งมู่ไป๋จะกำลังขับรถ หากสายตาไม่วายหันไปมองเซี่ยโม่อยู่บ่อยๆ พอเห็นเด็กสาวลืมตาจึงเอ่ยถาม “เมื่อคืนนอนหลับไม่สนิทเหรอ”
เซี่ยโม่อยากตอบออกไปเหลือเกินว่า หลับสนิทแล้วก็สบายมากด้วย แต่พอคิดว่าเมื่อครู่ตัวเองหลับตา อีกฝ่ายเลยเข้าใจว่าเธอแอบงีบกระมัง เดี๋ยวนะ นี่ชายหนุ่มแอบมองเธอตลอดเลยหรือ?
เธอรีบอธิบาย “หลับสนิทค่ะ แต่พอนั่งบนรถแบบนี้แล้วมันทำให้ง่วง”
ซ่งมู่ไป๋ฟังแล้วก็รู้สึกปวดใจ
คงเพราะต้องขึ้นเขาทุกวันเพื่อไปเก็บสมุนไพรก็เลยเหนื่อยเป็แน่ ตอนกลางคืนยังมานอนหลับไม่สนิทอีก แต่ที่พูดเช่นนี้คงเพราะกลัวเขา
“งั้นก็หลับสักหน่อยเถอะ อีกครึ่งชั่วโมงกว่าถึงจะถึงตัวอำเภอ ถ้าถึงแล้วเดี๋ยวฉันปลุก” เขาเอ่ยอย่างเป็ห่วง
เซี่ยโม่พยักหน้า “ค่ะ งั้นฉันของีบสักหน่อยนะคะ”
ความจริงแล้วนั่งรถนานๆ แบบนี้เธอรู้สึกเบื่อยิ่งนัก สู้แกล้งหลับแต่จริงๆ แอบไปอ่านหนังสือวิชาภาษาและวรรณคดีของชั้นมัธยมต้นปีที่สองดีกว่า
อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้ว เธอต้องทำเื่สอบข้ามชั้นให้เรียบร้อย
ทุกปีจะมีเด็กชั้นมัธยมต้นที่สามารถสอบข้ามชั้นขึ้นไปเรียนในระดับมัธยมปลายจำนวนไม่มาก หากขายสมุนไพรรอบนี้เสร็จ เธอจะพักการขึ้นเขาแล้วไปอ่านหนังสือทบทวน เพื่อทำคะแนนสอบออกมาให้ดี โรงเรียนจะได้อนุญาตและรับเข้าเรียน ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว เธอต้องรีบอ่านหนังสือโดยด่วน
ชาติที่แล้วเธอความจำดี พอเปิดอ่านทบทวนพบว่ามีกลอนหลายบทที่เธอยังคงจำได้อยู่
ใช้เวลาอ่านเพียงไม่นานก็สามารถท่องจำกลอนโบราณได้ถึงสองบท
หลังจากเซี่ยโม่หลับตา เหล่าจ้าวที่กลัวว่าตัวเองจะเห็นภาพที่ไม่ควรเห็นอีกจึงหลับตางีบหลับบ้าง
คงเป็เพราะอายุมากแล้ว เพียงไม่นานชายชราก็ผล็อยหลับไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้