“เดิมทีกระหม่อมนำแมวเทพสามหางเพื่อมาเข้าเฝ้าฮองเฮา แต่เื่บังเอิญก็คือ ฮองเฮาไม่อยู่ในตำหนัก กระหม่อมจึงได้แต่รออยู่ด้านนอกประตู อาจเป็เพราะเดินทางมาแคว้นเป่ยเยียนเป็ครั้งแรกจึงปรับตัวกับดินฟ้าอากาศไม่ได้ รออยู่ครู่หนึ่งกระหม่อมรู้สึกปวดท้อง จึงขอกูกูในตำหนักเข้าห้องเวจ ขณะเดียวกันก็ขอให้กูกูช่วยดูแลแมวเทพสามหางสักครู่ แต่ใครจะรู้...”
เขาจงใจหยุดพูดและพูดต่อว่า “แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อกระหม่อมกลับมาจากห้องเวจ ก็เห็นว่าแมวเทพสามหางถูกพิษตายเสียแล้ว ตายอยู่ในกรง...”
เขามีท่าทีโกรธแค้นอย่างยิ่ง “ฮองเฮาเหนียงเหนียง กระหม่อมรับบัญชาให้นำแมวมามอบให้ เดินทางไกลมาเป็พันลี้ด้วยความจริงใจ ไม่คิดมาก่อนว่าจะเกิดเื่เช่นนี้ นี่จะให้กระหม่อมกลับไปรายงานฮองเฮาของกระหม่อมอย่างไร จะอธิบายกับไทเฮาอย่างไร ฮองเฮาโปรดมอบฆาตกรตัวจริงออกมาเพื่อให้คำอธิบายกับกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
ชิงเหอกูกูได้ยินเช่นนั้นจึงรีบอธิบาย “เหนียงเหนียง ใส่ร้ายเพคะ! บ่าวไม่ได้วางยาพิษจริงๆ บ่าวเพียงแค่ทำตามที่ท่านทูตกำชับไว้ว่าให้ป้อนน้ำแมวเทพสามหางเล็กน้อย บ่าวไม่รู้ว่าเกิดเื่อะไรขึ้นเช่นกัน แมวเทพตัวนั้นอยู่ดีๆ ก็ถูกพิษ บ่าวไม่ได้วางยาพิษจริงๆ บ่าวถูกใส่ร้ายเพคะ!”
ฟังมาถึงตรงนี้ ในใจเฟิ่งเฉี่ยนกระจ่างแจ้งราวกับกระจก ทุกอย่างล้วนปรากฏอยู่เบื้องหน้า
นี่เป็หลุมพราง!
เป็องค์หญิงหลานซินกับทูตแคว้นหนานเยียนที่ร่วมกันวางหลุมพราง!
นางเพิ่งจะสั่งสอนคนขององค์หญิงหลานซินไป ตอนนี้องค์หญิงหลานซินจึงเล่นงานคนของนางกลับเช่นกัน จุดประสงค์ก็เพื่อแก้แค้นนาง!
ช่างเป็การเอาคืนที่เหี้ยมโหด!
แมวเทพสามหางอยู่ในมือทูตยังดีๆ อยู่ แต่เมื่อมาถึงมือชิงเหอกูกูกลับถูกพิษตาย ต่อให้ชิงเหอกูกูอธิบายอย่างไรก็ไม่อาจหลุดพ้นจากการเป็ผู้ต้องสงสัยได้!
เป็แผนการที่ไร้ช่องโหว่!
“ไทเฮา เื่ราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เปิ่นกงกระจ่างแจ้งดีแล้ว ในเมื่อเื่นี้เกิดขึ้นในตำหนักใน เปิ่นกงเป็ผู้ถือครองตราประทับหงส์ ดูแลเื่ทั้งหมดของตำหนักใน สำหรับเื่นี้เปิ่นกงไม่นิ่งดูดาย จะต้องตรวจสอบเื่นี้ให้แน่ชัด!” เฟิ่งเฉี่ยนกล่าวประนีประนอม
ในใจนางแจ่มแจ้งดี เื่สำคัญในตอนนี้ก็คือต้องกุมอำนาจในการสอบสวนเื่นี้เอาไว้ในมือก่อน เช่นนี้แล้วนางย่อมมีเวลาที่จะค่อยๆ สืบหาความจริง
นางคิดถึงเื่นี้ได้ องค์หญิงหลานซินก็คิดได้เช่นกัน ไฉนนางจะปล่อยให้ฮองเฮามาตรวจสอบและตัดสินนางกำนัลของตัวเองเล่า
องค์หญิงหลานซินพูดขึ้นทันทีว่า “ไม่ต้องรบกวนฮองเฮาแล้วเพคะ พวกเราได้เชิญบุคคลที่เหมาะสมเพื่อพิจารณาคดีนี้แล้วเพคะ”
ทันทีที่สิ้นเสียง ขันทีนอกประตูเข้ามารายงานว่า “ทูลไทเฮา ใต้เท้าหลี่แห่งมู่เทียนฝู่มาถึงแล้วพ่ะยะค่ะ”
ไทเฮาโบกมือ “เชิญ”
เฟิ่งเฉี่ยนขมวดคิ้ว นางรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล หรือพวกนางคิดจะ...
ท่ามกลางแสงสว่างนั้นพลันจับได้ถึงรอยยิ้มที่พาดผ่านใบหน้าขององค์หญิงหลานซิน หัวใจนางหนักอึ้ง ดูท่าแล้วเื่นี้จะเป็อย่างที่นางคาดการณ์เอาไว้
ไม่นานนักบุรุษวัยหนุ่มในชุดผ้าแพรสีน้ำเงินผู้หนึ่งก็เดินเข้ามา ด้านหลังยังมีผู้ติดตามในชุดเครื่องแบบของศาลาว่าการมาอีกสี่คน แต่ละคนล้วนมีท่าทีหยิ่งผยองและร้ายกาจ
เมื่อเดินมาหยุดเบื้องหน้าไทเฮา บุรุษวัยหนุ่มนั้นประสานมือเป็หมัด “กระหม่อมหลี่จงฮั่น ได้รับคำสั่งจากใต้เท้าหลี่เสนาบดีกรมอาญาให้มาตรวจสอบคดีแมวเทพสามหางถูกวางยาพิษตายพ่ะย่ะค่ะ!”
ฉีเหม่ยเหรินเห็นผู้ที่มาเป็พี่ชายแท้ๆ ของตนเอง พลันมีกำลังใจขึ้นมากโข นางลุกขึ้นกล่าวว่า “พี่ใหญ่ ท่านมาได้จังหวะดีมาก!”
นางชี้ไปที่ชิงเหอกูกู “นางก็คือฆาตกรที่วางยาพิษจนแมวเทพสามหางต้องตาย ท่านรีบจับกุมตัวนางไปไต่สวนที่มู่เทียนฝู่เถิด!”
นางยังชี้ไปที่นางกำนัลคนอื่นๆ “ยังมีพวกนาง ที่เป็ผู้สมรู้ร่วมคิดของนาง! จับกุมไปให้หมด!”
เฟิ่งเฉี่ยนหรี่ตาลงเล็กน้อย นางแค่นหัวเราะเสียงเย็น ที่แท้ผู้ที่วางหลุมพรางนี้มิได้มีเพียงองค์หญิงหลานซิน ยังมีฉีเหม่ยเหริน พวกนางร่วมมือกันเอาคืนนาง!
ชั่วระยะเวลาสั้นๆ ที่เกิดเื่ขึ้น คนของมู่เทียนฝู่ก็มาถึงที่นี่แล้ว ชัดเจนเหลือเกินว่าเป็แผนการที่วางล่วงหน้า
หลีจงฮั่นมีสีหน้าเคร่งเครียด สั่งการว่า “เด็กๆ จับตัวผู้ต้องสงสัยทั้งหมด!”
มือปราบสี่คนเื้ัเขากำลังจะลงมือ เฟิ่งเฉี่ยนตวาดเสียงดังลั่น “ข้าจะดูว่าใครกล้า”
มือปราบสี่คนหยุดชะงัก
เฟิ่งเฉี่ยนแค่นเสียงเย็น “ที่นี่คือตำหนักใน เื่ของตำหนักในเปิ่นกงเป็คนตัดสิน ต้องให้พวกเ้ามู่เทียนฝู่มาลากมือวาดเท้าที่นี่ั้แ่เมื่อใดกัน”
หลี่จงฮั่นมิใช่คนที่จะต่อกรด้วยโดยง่ายเช่นกัน เขาหัวเราะเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ทูลฮองเฮา หากกล่าวว่าเป็เื่ของตำหนักใน ย่อมไม่ต้องถึงมือมู่เทียนฝู่ แต่แมวเทพนี้เป็ของขวัญที่ส่งมาเพื่อช่วยชีวิตไทเฮา แมวเทพถูกพิษ หากมิใช่เป็เพราะถูกพบทันเวลา อันตรายอาจเกิดขึ้นกับชีวิตของไทเฮา ย่อมต้องเป็เื่ของชีวิตคน จึงต้องเกี่ยวข้องกับมู่เทียนฝู่ ใครจะบอกได้ว่าเป้าหมายของคนที่วางยาพิษเป็แมวเทพหรือไทเฮา อีกทั้งเื่นี้ยังเกี่ยวพันไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น มู่เทียนฝู่ย่อมต้องเข้ามาเป็ผู้รับผิดชอบ!”
“เ้า...” เฟิ่งเฉี่ยนขบฟัน นางประเมินคนผู้นี้ต่ำไป ถึงกับกลับดำเป็ขาวด้วยปากเปล่า คำพูดเพียงสองสามประโยคจากเื่เล็กของแมวเทพ กลายเป็เื่ใหญ่ถึงขั้นทำร้ายไทเฮา กระทบความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น เก่งกาจเหลือเกิน!
องค์หญิงหลานซินและฉีเหม่ยเหรินลอบสบตากันพร้อมกับแย้มยิ้มออกมา
ทั้งหมดล้วนเป็ไปตามที่พวกนางวางแผนเอาไว้!
สร้างความร้าวฉานระหว่างฮองเฮาและไทเฮา นี่เป็ก้าวแรก ให้มู่เทียนฝู่ออกหน้า เป็ก้าวที่สอง สำหรับก้าวที่สาม...
องค์หญิงหลานซินยิ้มเหี้ยม ละครฉากดีๆ ยังรออยู่ข้างหลัง!
ไทเฮาได้ยินหลี่จงฮั่นพูดเช่นนี้ ยิ่งมีโทสะ นางตบโต๊ะแรงๆ และถลึงตาใส่ชิงเหอกูกู และตวาดถามว่า “พูดมา เป็ใครที่สั่งให้เ้าทำ เป้าหมายของพวกเ้า คือ้าทำร้ายอายเจียใช่หรือไม่”
ชิงเหอกูกูโขกศีรษะติดๆ กันและพูดอย่างตื่นตระหนก “ทูลไทเฮา บ่าวไม่ได้วางยาพิษจริงๆ ยิ่งไม่กล้าทำร้ายไทเฮา บ่าวถูกใส่ร้ายเพคะ!”
ความเหี้ยมโหดพาดผ่านใบหน้าของหลี่จงฮั่น เขาประสานมือพูดว่า “ทูลไทเฮา ขอพระองค์อนุญาตให้กระหม่อมนำตัวนางกำนัลทั้งหมดของตำหนักเว่ยยางกลับไปไต่สวนที่มู่เทียนฝู่ กระหม่อมมีวิธีการที่จะทำให้พวกนางสารภาพว่าใครเป็ผู้บงการเื้ัพ่ะย่ะค่ะ!”
ชิงเหอกูกูและคนอื่นได้ยินว่าต้องไปมู่เทียนฝู่ แต่ละคนหน้าถอดสีใจนตัวสั่นเทิ้ม
“เหนียงเหนียง ช่วยพวกเราด้วยเพคะ!”
“เหนียงเหนียง!”
เฟิ่งเฉี่ยนคับแค้นใจ ผู้บงการเื้ัที่พูดถึง มิใช่ชี้มาที่นางหรือ
การไต่สวนทั้งหมด ก็แค่การโบย ตี จนรับสารภาพ บีบบังคับให้เหล่านางกำนัลยอมรับและชี้ว่านางเป็คนลอบทำร้ายไทเฮา!
แผนการครั้งนี้ของพวกเขา โเี้จริงๆ
ก่อนที่ไทเฮาจะเอ่ยปากเฟิ่งเฉี่ยนชิงพูดขึ้นก่อน “ไทเฮา เื่นี้บังเอิญมากเกินไป เปิ่นกงเสนอความเห็นให้นำเื่นี้ไปกราบทูลฮ่องเต้ ให้ฮ่องเต้เป็ผู้ตัดสิน!”
นางเชื่อว่าด้วยความปราดเปรื่องของเซวียนหยวนเช่อ เขาจะต้องคืนความบริสุทธิ์ให้นาง
ทว่าองค์หญิงหลานซินไม่ให้โอกาสนี้แก่นาง
“ฝ่าามีราชกิจมากมาย ไหนเลยจะมีเวลามาใส่ใจเื่เล็กเช่นนี้ พี่หญิงฮองเฮา ท่านอย่าได้ทำเื่เล็กให้เป็เื่ใหญ่เลยเพคะ!”
“ถูกต้อง! ในวังมีนางกำนัลและขันทีมากมาย หากแต่ละคนทำความผิดแล้วยังต้องให้ฝ่าามาเป็ผู้ตัดสิน ฝ่าามิต้องเหน็ดเหนื่อยตายหรือ” ฉีเหม่ยเหรินสนับสนุนทันที “ไทเฮาเพคะ ตามที่หม่อมฉันเห็น ไม่สู้มอบเื่นี้ให้มู่ไท่ฝู่ไต่สวน ด้วยประสบการณ์และศักยภาพการทำงานของพี่ใหญ่หม่อมฉัน ไม่เกินครึ่งวันก็ตรวจสอบเื่ราวได้อย่างชัดเจนแล้วเพคะ!”
ไทเฮาได้ยินเช่นนั้นรู้สึกสมเหตุสมผล จึงพยักหน้า “พวกเ้าพูดถูก ฝ่าาทรงมีราชกิจมากมาย งานในราชสำนักก็ทำไม่ทันแล้ว ไหนเลยจะมีเวลาว่างมาสนใจเื่ของตำหนักใน เื่นี้อายเจียตัดสินใจแล้ว มอบให้คนของมู่เทียนฝู่ไต่สวน จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจน!”