ฟ้าดินสั่นไหว แรงะเืจากการโจมตีที่น่ากลัวสะท้อนกลับมา กดทับร่างของเหล่าผู้คน พอััได้ว่ามีแรงะเืกดทับร่างตน สายตาของเย่เฟิงเผยประกายแหลมคม ระดมพลังหยวนเข้าต่อต้านโดยไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิด
แรงะเืเข้าปกคลุมพื้นที่ ระลอกแรกมีสิบกว่าคนตกเวทีประลอง จากนั้นมีคลื่นสามระลอกถูกปล่อยออกมาพร้อมกัน ก็ทำคนเกือบสองร้อยคนตกเวทีประลองเช่นกัน
จงเทาก็ทนรับแรงะเืจากการโจมตีนั่นเช่นกัน แต่เขากลับกัดฟันทนอย่างยืนหยัด
ในหนึ่งการโจมตีจะมีเกือบสองร้อยคนถูกคัดออก นี่คือความห่างชั้นระหว่างผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดากับอัจฉริยะ จงเทาสมแล้วที่เป็อัจฉริยะมากพร์
“จงเทาแกร่งมาก!”
บนอัฒจันทร์เหล่าผู้คนต่างตกตะลึง จงเทาคือความภาคภูมิใจของตระกูลจง อัจฉริยะที่แท้จริง
“จงเทา พรรคเทียนเซียวของข้ายินดีรับเ้า และจะมอบทรัพยากรให้เ้าเช่นกัน” ผู้ฝึกยุทธ์พรรคเทียนเซียวตาเป็ประกาย การทดสอบรอบที่สองยังไม่ทันจบก็ชักชวนจงเทาเข้าร่วมกลุ่มแล้ว
“ข้ายินดีเข้าพรรคเทียนเซียว” จงเทาลังเลอยู่ชั่วครู่ก็ตอบกลับไป ส่วนอีกสามพรรคไม่มีท่าทีเสียใจใด ๆ
“อัจฉริยะจากเมืองหลวงไม่ธรรมดาอย่างที่คิด” เย่เฟิงถอนหายใจ พลังโจมตีของจงเทาแกร่งมาก หากเขาไม่ระดมพลังหยวนเข้าต่อต้าน เกรงว่าจะได้รับาเ็แน่นอน
ต่อไปเป็ตาของเซี่ยเหวินหลง คนผู้นี้มีพลังเทพแต่กำเนิด ยังไม่ปลุกิญญาา ทว่าพลังโจมตี และการป้องกันของเขากลับแกร่งมาก
ม่านกระจกผูกมัดเขาไม่ได้ เขาะเิพลังโจมตี หนึ่งการโจมตีะเืเกือบสามร้อยคน ทำผู้คนใมาก แม้ยังไม่ปลุกิญญาา แต่พลังโจมตีของเซี่ยเหวินหลงก็แข็งแกร่งอย่างมาก สมแล้วที่เป็อัจฉริยะอันเลื่องชื่อ
พรรคเทียนเซียวและพรรคเทียนอวิ๋นต่างอยากได้ตัวเซี่ยเหวินหลง แต่สุดท้ายเซี่ยเหวินหลงก็เลือกเข้าพรรคเทียนอวิ๋น
จงเทาและเซี่ยเหวินหลงแสดงฝีมือได้ยอดเยื่ยม จึงถูกพรรคทั้งสองดึงเข้าพวก นี่ทำให้หวงจิ้งเริ่มอยู่ไม่นิ่ง หวงจิ้งเดินไปข้างหน้า นางปลุกิญญาากระเรียนขาวขั้นเหลือง ต่อต้านแรงกดดันได้อย่างไม่มีปัญหา
“วี๊ด!” กระเรียนขาวกู่ร้อง ก่อนเงากระเรียนจะปรากฏตัวที่ด้านหลังหวงจิ้ง กระเรียนนั้นว่องไว ิญญาากระเรียนขาวจึงมอบท่าร่างที่เบาราวกับปุยเมฆให้หวงจิ้ง ส่วนพลังโจมตีของนางก็ร้ายกาจไม่แพ้กัน
ตวัดปีกออกไปด้วยท่วงท่างดงามประหนึ่งเทพกระเรียนประทับร่าง
“ตูม!!!” แรงะเืระลอกติดต่อกันถึงสี่ครั้ง ไม่มีหยุดแม้เสี้ยวนาที อักขระบนม่านกระจกเคลื่อนไหว ก่อนจะปลดปล่อยแรงะเืสี่ครั้งพร้อมกัน
ผู้คนต่างใด้วยไม่นึกว่าพลังโจมตีของหญิงงามอย่างหวงจิ้งจะรุนแรงกว่าของจงเทากับเซี่ยเหวินหลง
“อ้าก...!” เสียงกรีดร้องดังต่อเนื่อง มีกลุ่มคนใหญ่ไม่อาจทนรับมันได้จึงตกเวทีประลองไป ครั้งนี้มี 500 กว่าคนที่ถูกคัดออกเพราะพลังสะท้อนของหวงจิ้ง จำนวนนี้ช่างน่าสะพรึงกลัวมาก
“หวงจิ้ง พร์ของเ้าไม่เลว เข้าร่วมพรรคเทียนเซียวข้า เ้าจะได้เป็ศิษย์สายในและได้รับการชี้แนะจากผู้าุโขั้นยุทธ์แท้”
พรรคเทียนเซียวดูเหมือนจะใจร้อนเพื่อรับศิษย์อัจฉริยะ จึงรีบเอ่ยชักชวน
“พรรคเทียนอวิ๋นข้าเหมาะกับเ้ามากกว่า เ้ามีิญญาากระเรียนขาว ในพรรคเทียนอวิ๋นมีเคล็ดวิชาท่าร่างให้เ้าเลือกมากมาย” พรรคเทียนอวิ๋นก็สนใจหวงจิ้งเช่นกัน
เหล่าผู้คนต่างใจเต้นรัว เงื่อนไขของสองพรรคที่เสนอช่างน่าเย้ายวนนัก ไม่รู้ว่าหวงจิ้งจะเลือกเข้าพรรคไหน
บนอัฒจันทร์ เยว่กู่และเฉินเซี่ยงเทียนที่เป็ตัวแทนของพรรคเทียนจียังคงเงียบกริบ ดูเหมือนจะไม่สนใจหวงจิ้งมากนัก
เป้าหมายสูงสุดของเฉินเซี่ยงเทียนนั้นคือหนานกงหลิงซวง หากเป็ไปได้ โจวมู่ไป๋เขาก็อยากได้ ส่วนคนอื่น ๆ ไม่มีใครเข้าตาเฉินเซี่ยวเทียนสักคน
แต่เยว่กู่ค่อนข้างสนใจเย่เฟิง หลังจากได้เห็นพร์ของเย่เฟิง หนานกงหลิงซวงจะเข้าพรรคเทียนเสวียนได้หรือไม่นั้น ก็ไม่สำคัญกับเยว่กู่ขนาดนั้น เย่เฟิงคือคนที่เขา้า
สายตาของหวงจิ้งเผยประกายแสงแห่งความผิดหวัง ในสำนักยุทธ์เทียนเสวียน พรรคเทียนจีคือจุดศูนย์รวมของพลังที่แกร่งที่สุด หวงจิ้งจึงอยากเข้าพรรคเทียนจี แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้เลือกนาง สุดท้ายหวงจิ้งก็เลือกพรรคเทียนอวิ๋น เคล็ดวิชาท่าร่างดึงดูดนางอย่างมาก
หลังจากหวงจิ้งลงจากเวที บนเวทีก็มีพันกว่าคนถูกคัดออก จากนั้นมีหลายคนโจมตีม่านกระจก แต่คนส่วนใหญ่ยืดหยันภายใต้แรงกดดันของม่านกระจกไม่ได้
สายตาของโจวมู่ไป๋เผยประกายแหลมคม ในฐานะอัจฉริยะผู้โดดเด่นในหมู่อัจฉริยะขั้นบ่มเพาะกายาแห่งเมืองหลวง เขาย่อมต้องพิสูจน์พร์ของเขาให้มากกว่าหวงจิ้ง เซี่ยเหวินหลง และคนอื่น ๆ
โจวมู่ไป๋เดินออกมา ผมยาวพลิ้วไหว ท่วงท่าของเขาดูสง่างดงาม จากนั้นปลดปล่อยพลังจุดสูงสุดของขั้นบ่มเพาะกายาขั้นที่ 9 แรงกดดันจากม่านกระจกมาเยือน กลับหยุดฝีเท้าของโจวมู่ไป๋ไม่ได้ เขาเดินไปข้างหน้าทีละก้าวอย่างมั่นคง ก่อนจะไปถึงเบื้องหน้าม่านกระจก
“โจวมู่ไป๋แกร่งมาก เขาอยู่จุดสูงสุดของขั้นบ่มเพาะกายาที่ 9 เป็คู่ต่อสู้ของหนานกงหลิงซวงที่แข็งแกร่งที่สุด”
“โจวมู่ไป๋เองก็ปลุกิญญาาอันทรงพลังได้เหมือนกัน การบ่มเพาะของเขาแข็งแกร่งเป็อันดับหนึ่งในการทดสอบ โจวมู่ไป๋ถือว่าเป็คู่แข่งที่น่ากลัวมาก”
เหล่าผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ หากหนานกงหลิงซวงไม่ปลุกิญญาาที่น่าทึ่ง โจวมู่ไป๋ก็ยังคงเป็บุคคลที่โดดเด่นที่สุดในขั้นบ่มเพาะกายาแห่งอาณาจักรจ้าว
“พวกเ้า ดูให้ดี ๆ ล่ะ!” สายตาของโจวมู่ไป๋เผยประกายคมกริบ จากนั้นเห็นแสงสีเขียวปะทุออกจากร่างเขา นาทีต่อมาเงาต้าเผิงที่น่าเกรงขามปรากฏขึ้นเลือนรางที่ด้านหลังของเขา พร้อมกับปลดปล่อยพลังที่น่ากลัว
ต้าเผิงคือาาแห่งท้องนภา และิญญาาต้าเฟิงตนนี้ที่โจวมู่ไป๋ปลุกขึ้นมาก็อยู่ขั้นเขียวแล้ว
“ิญญาาต้าเผิงขั้นเขียว!”
“ิญญาาของโจวมู่ไป๋แข็งแกร่งอย่างที่คิด หากเขาบรรลุขั้นรวมชี่ ิญญาาต้าเผิงขั้นเขียวนี้จะโดดเด่นกว่าเดิม ยามนั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ธรรมดา ๆ ก็จะเปราะบางเมื่ออยู่ต่อหน้าโจวมู่ไป๋”
ขณะมองโจวมู่ไป๋ปลดปล่อยิญญาาต้าเผิงขั้นเขียว เหล่าผู้คนก็ต่างตะลึงงัน
ก่อนหน้านี้เพียงแค่เคยได้ยิน แต่ตอนนี้กลับได้เห็นด้วยตาตัวเอง ความแข็งแกร่งของิญญาาต้าเผิงสร้างความตกตะลึงให้กับพวกเขาไม่น้อย
หนึ่งการทดสอบมีผู้เข้าร่วมเกือบสองหมื่นคน ตอนนี้กลับดูเหมือนกลายเป็ศึกตัดสินระหว่างหนานกงหลิงซวงกับโจวมู่ไป๋ไปเสียแล้ว
ขณะนั้นเห็นโจวมู่ไป๋ก้าวออกมาพร้อมแสงสีเขียวโคจรอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะปล่อยพลังฝ่ามือออกไป ขณะเดียวกันิญญาาต้าเผิงตนนั้นส่งเสียงร้องพร้อมกระพือปีกบินโฉบขึ้นฟ้า
กระแสอากาศปั่นป่วน ต้าเผิงราวกับผสานเป็หนึ่งกับพลังฝ่ามือของโจวมู่ไป๋ที่ปล่อยออกไป ก่อนจะเข้าโจมตีม่านกระจก
“ตูม ตูม ปัง!” เสียงะเิดังสามครั้ง แรงะเืที่น่ากลัวถูกปลดปล่อย ผู้คนบนเวทีรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันหนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยมี ทำให้มี 200 คนถูกซัดกระเด็นปลิวตกเวทีประลองและกระอักเืออกมา
ขณะมองแรงะเืที่สะท้อนกลับมา และใกล้จะถึงตัวเย่เฟิง สายตาก็เผยประกายคมกริบ เขาระดมพลังหยวนและมีแสงปกคลุมร่าง มีหยดน้ำสีเขียวชำระล้างร่างกาย ทุกอย่างภายนอกจึงไม่สามารถบุกรุกร่างกายเขาได้
สายตาของหนานกงหลิงยวี่ส่องประกายแสงแหลมคม ิญญาาที่โจวมู่ไป๋ปลุกไม่ด้อยไปกว่านางเลย หากนางอยากพิสูจน์ว่าแข็งแกร่งกว่าโจวมู่ไป๋ก็ต้องเหยียบอีกฝ่ายให้จมดิน
แสงเจิดจ้าโคจรรอบกายโจวมู่ไป๋ เขาอยู่จุดสูงสุดของขั้นบ่มเพาะกายา แม้ถูกกดพลังการบ่มเพาะไว้ แต่เขาสามารถใช้ประโยชน์จากพลังหยวนได้ เคล็ดวิชาและพลังควบคุมของิญญาาอยู่เหนือกว่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาทั่ว ๆ ไป
การโจมตีนี้ทรงพลังอย่างมาก ม่านกระจกสะท้อนพลังกลับสามครั้ง เกรงว่าพลังทำลายล้างจะออกไปนอกม่านกระจกด้วย
“ตูม ตูม ตูม ปัง!” ม่านกระจกสั่นะเื มีพลังสะท้อนกลับติดต่อสี่ครั้ง พลังทำลายล้างจึงแข็งแกร่งมาก
เหล่าผู้คนต่างตกตะลึง โจวมู่ไป๋ สมแล้วที่เป็บุคคลโดดเด่นในขั้นบ่มเพาะกายาแห่งเมืองหลวง เพียงการโจมตีเดียวก็มีพลังมหาศาล
แรงะเืสะท้อนกลับสี่ครั้ง พลังทำลายล้างคำรามอย่างบ้าคลั่ง ก่อให้เกิดน้ำวนทำลายล้างขนาดใหญ่ที่กลางอากาศ มันกวาดผู้คนที่อยู่บนเวทีประลองไปจำนวนมาก ประหนึ่งสึนามิวันสิ้นโลก มีหลายคนหลบหนีหลีกเลี่ยงน้ำวน ซึ่งน่าจะมีเกือบ 500 คนที่ถูกคัดออกเพราะคลื่นระลอกสี่ครั้งนี้
“จะแกร่งเกินไปแล้ว! การโจมตีของโจวมู๋ไป๋ ดูเหมือนจะแกร่งกว่าพวกหวงจิ้งเซี่ยเหวินหลงมาก!”
บนอัฒจันทร์ เหล่าผู้คนต่างตกตะลึง ผู้าุโสี่พรรคจากสำนักยุทธ์เทียนเสวียนก็ต่างตาเป็ประกาย
คลื่นระลอกเจ็ดครั้ง ทำให้ 700 คนถูกคัดออก ใครเล่าจะแข่งด้วยได้! การแสดงฝีมือของโจวมู่ไป๋ช่างน่าทึ่งยิ่งนัก
ซ่งซินหลิงกะพริบตาปริบ ๆ ใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้ม นางภูมิใจในตัวศิษย์พี่ของตัวเองมาก
“โจวมู่ไป๋ เข้าพรรคเทียนอวิ๋นข้า ข้าสัญญาว่าจะให้ความสำคัญกับเ้ามากที่สุด เ้าจะได้สิทธิพิเศษอย่างที่ศิษย์คนอื่น ๆ ไม่ได้ และเลือกเคล็ดวิชาที่เหมาะสมกับเ้า” ผู้าุโพรรคเทียนอวิ๋นเอ่ยปากชักชวนโจวมู่ไป๋ก่อนใคร อัจฉริยะมากพร์เช่นนี้ ทั้งสี่พรรคต่างอยากได้ตัวแน่นอน
ต่อจากนั้นผู้าุโพรรคเทียนเซียวก็เชื้อเชิญโจวมู่ไป๋ด้วยเงื่อนไขที่น่าเย้ายวน
โจวมู่ไป๋เอามือไพล่หลัง ไม่มีท่าทีใด ๆ แต่ดูมั่นใจในตนเองมาก ราวกับคาดหวังว่าพรรคเทียนเสวียน และพรรคเทียนจีอีกสองพรรคที่เหลือจะเอ่ยปากชวนเขา
“โจวมู่ไป๋ พรรคเทียนจีข้าไม่เคยสัญญากับใคร แต่ข้าพูดได้เพียงว่า ศิษย์ที่ออกจากพรรคเทียนจีล้วนโดดเด่นที่สุดในสี่พรรค พรรคเทียนจียินดีต้อนเ้าเสมอ หวังว่าเ้าจะตัดสินใจเลือกได้อย่างถูกต้อง” เฉินเซี่ยงเทียนตาทอประกายแวววาวพร้อมลุกขึ้นยืน และกล่าวเช่นนั้น แต่สิ่งที่เขากล่าวก็ไม่เกินความจริง พรรคเทียนจีแข็งแกร่งที่สุดในสี่พรรคแห่งสำนักยุทธ์เทียนเสวียน มีศิษย์ที่โดดเด่นที่สุด และที่พรรคเทียนจียังมีสภาพแวดล้อมในการฝึกฝนที่ดีที่สุดด้วย
เื่นี้เป็สิ่งที่อีกสามพรรคเทียบไม่ได้ แม้แต่พรรคเทียนเสวียนที่ไม่อ่อนแอก็เทียบไม่ได้
โจวมู่ไป๋ส่องแสงอย่างเจิดจรัส สามพรรคต่างเปิดศึกแย่งตัวเขา แต่ผู้าุโพรรคเทียนเสวียนกลับเงียบเชียบ
โจวมู่ไป๋เรียกสติกลับมา เห็นผู้าุโท่านหนึ่งของพรรคเทียนเสวียนอยากพูดบางอย่าง ทว่ากลับถูกเยว่กู่ห้ามไว้เสียก่อน
“อย่าใจร้อน รอดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน” ผู้าุโคนนั้นไม่เข้าใจ แต่เขาก็เคารพความคิดของเยว่กู่ จึงกลับไปนั่งที่เดิม
พรรคเทียนเสวียนไม่มีท่าทีจะเชิญชวน โจวมู่ไป๋จึงเผยสีหน้าไม่ค่อยดี เขาคืออัจฉริยะมากพร์ก็น่าจะถูกสี่พรรคแย่งตัวกันจึงจะถูกสิ
“ข้าขอเลือกพรรคเทียนจี” ครู่ต่อมาโจวมู่ไป๋โค้งคำนับให้เฉินเซี่ยงเทียน
พรรคเทียนจีแข็งแกร่งที่สุดในสี่พรรค มีการพัฒนาการที่ดี โจวมู่ไป๋ย่อมเลือกพรรคนี้
เย่เฟิงมองสถานการณ์เงียบ ๆ พลางเหยียดยิ้มอย่างเยือกเย็น โจวมู๋ไป๋ส่งหวังหลงและคนอีกส่วนหนึ่งไปลอบสังหารเขา แค้นนี้เขาย่อมเอาคืนสนอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้