สถานการณ์ของเฉิงชิงที่สถานศึกษาค่อยๆ เปลี่ยนไปในทางที่ดี
เื่นี้เกี่ยวข้องกับการที่อวี๋ซานเก็บตัวสำนึกผิด ที่สำคัญกว่านั้นยังคงเป็คะแนนของนางที่เพิ่มสูงขึ้นแล้ว หากคิดจะเอาชนะความเคารพของผู้อื่น ตนเองก็ควรแสดงความแข็งแกร่งและคุณค่าของตนเองก่อน
“อันดับที่สิบเจ็ดของห้องเรียนตัวอักษรติง ยังคงขาดอีกหน่อย…”
อย่างน้อยก็ต้องอยู่ที่สิบอันดับแรกอย่างมั่นคงจึงจะสามารถมั่นใจได้ว่าจะสอบผ่านซิ่วไฉ
เยี่ยอ๋องซื่อจื่อกล่าวว่าต้องมีผลลัพธ์ภายในสามเดือน ยามนี้เวลาล่วงเลยไปครึ่งทางแล้ว อีกทั้งยังไม่รู้ว่าเหตุการณ์ทางด้านเมืองหลวงเป็อย่างไร
อากาศนับวันยิ่งหนาวเย็น มือของเฉิงชิงแข็งอยู่บ่อยๆ ไม่แปลกที่จะเป็อาการหิมะกัด อาการหิมะกัดแม้ไม่ใช่โรคแต่ก็คันเป็อย่างมาก นางหลิ่วให้ซือโม่นำเตาอังมือมาส่งให้นาง หลังจากใช้แล้วมือก็ไม่แข็งแล้ว แต่พอเจอความร้อนกลับยิ่งคันแทน!
เฉิงชิงอดทนที่จะไม่เกาตรงที่เกิดอาการหิมะกัด เอ่ยถามซือโม่ว่า่นี้ภายในบ้านเกิดเื่อะไรหรือไม่
ทางตระกูลฉีหลังจากเสียหน้าไปครั้งหนึ่งและเสียเงินห้าพันตำลึงเงินก็ย่อมต้องยังคงมีเื่ราวต่อมา
“ที่นายน้อยให้ข้าจับตาดูตระกูลฉี ได้ยินว่านายท่านฉีนำตัวคุณชายรองฉีกลับบ้านไปกักบริเวณแล้ว ทิ้งคำพูดไว้ว่ารอคุณชายรองฉีได้คุณวุฒิแล้วจะถึงค่อยหาคู่ใหม่อีกครั้ง เื่อื่นไม่อาจสอบถามมาได้ แต่่หลายวันนี้มีแม่สื่อหลายคนมาเยี่ยมเยียน กล่าวว่า้ามาทาบทามสู่ขอคุณหนูใหญ่ ฮูหยินกล่าวว่ายังต้องไว้ทุกข์จึงปฏิเสธไปทั้งหมดแล้วขอรับ”
ไม่ใช่ว่านางหลิ่วเป็ห่วงว่าบุตรสาวคนโตจะออกเรือนไม่ได้หรือ เหตุใดจึงปฏิเสธแม่สื่อทั้งหมด?
หากจะกล่าวว่าไว้ทุกข์ เฉิงจือหย่วนเสียชีวิตเมื่อปลายปีที่แล้ว ระยะเวลาการไว้ทุกข์ของแคว้นเว่ยยาวนานเพียงหนึ่งปีเท่านั้น อีกไม่นานครอบครัวของเฉิงชิงก็จะออกทุกข์แล้ว
เฉิงชิงตระหนักได้ในทันใด ย่อมต้องเป็เพราะการแต่งงานที่แม่สื่อหลายคนนั้นกล่าวมาแย่เกินไปเป็แน่ นางหลิ่วจึงไม่ให้ความสนใจ
ผู้คนทั้งอำเภอหนานอี๋ต่างรู้กันหมดแล้วว่าบุตรสาวคนโตมีสินเดิมหลายพันตำลึง ยามนี้ที่ร้อนรนไปสู่ขอเกินกว่าครึ่งย่อมต้องมาเพราะเงินเป็แน่ ทรัพย์สมบัติทำให้คนประทับใจ สำหรับเื่นี้เฉิงชิงเองก็ไม่มีวิธีที่ดีที่จะหยุดยั้งพวกแมลงวันไม่ให้มาเยี่ยมเยือน
“แล้วทางซือเยี่ยนล่ะ?”
“เรียนนายน้อย เมื่อมีซือเยี่ยนคอยเฝ้าอยู่ ขยะไร้ค่าบนเนินเขาก็ถูกเก็บกวาดเรียบร้อยจนเกือบหมดแล้วขอรับ ก่อนหน้านี้ได้เชิญคนสวนดอกไม้มาดู ล้วนกล่าวว่าทำไม่ได้ มีเพียงคนสวนดอกไม้ชราที่ไร้บุตรชายหญิงยินดีที่จะลองดู ฟังดูแล้วเหมือนคิดจะหาเ้านายที่พึ่งพาได้เป็ที่พึ่ง…”
ก็คือต้องเลี้ยงดูอีกฝ่ายที่ชรา คนเขาจึงจะยินยอมแสดงฝีมือที่แท้จริงออกมา
เฉิงชิงไม่มีความเห็น “หากเขาสามารถเปลี่ยนเนินเขาเล็กเป็ูเาดอกไม้ได้จริง จะเรียกร้องอะไรก็ล้วนได้ทั้งนั้น”
ไม่มีผลลัพธ์แล้วจะมาพูดเงื่อนไขอะไร หากไม่แสดงความสามารถที่แท้จริง นางก็ต้องหาคนสวนดอกไม้คนอื่นแล้ว
“ข้าน้อยทราบแล้ว ท่านให้ซือเยี่ยนไปสอบว่ามีที่ดินขายไหม ซือเยี่ยนเองก็จดจำได้ขึ้นใจขอรับ”
เงินที่ตระกูลฉีคืนมา เฉิงชิงคิดจะเอาไปซื้อที่ดินให้บุตรสาวคนโต เปิดร้านค้าอะไรนั่นล้วนไม่เหมาะกับครอบครัวนาง มีคำกล่าวไว้ว่าสืบทอดการเกษตรและการเล่าเรียน ในยุคนี้ที่ดินคือทรัพย์สินที่สามารถตกทอดไปถึงรุ่นหลังได้ ตัวนางเองอยากจะลองดูว่าสามารถทำธุรกิจน้ำหอมได้หรือไม่ คิดที่จะซื้อที่ดินที่ตำบลอู่ซินให้บุตรสาวคนโตหนึ่งผืน มีเคหาสน์และที่นาภายใต้ชื่อของทั้งสองคนอยู่ใกล้กันจะสามารถดูแลได้สะดวก
แต่สองปีมานี้ เมืองเซวียนตูน้ำท่าบริบูรณ์ หลายครอบครัวไม่คิดที่จะขายที่ดิน จึงทำได้แค่เพียงถือเงินค่อยๆ ค้นหาไป
เมื่อกล่าวเื่ภายในบ้านจบแล้ว ซือโม่ก็ลังเลเล็กน้อย “นายน้อยขอรับ มีเื่ที่ข้าน้อยไม่แน่ใจว่าจะกล่าวดีหรือไม่ขอรับ”
“เ้าพูดมาเถอะ ถึงพูดผิดข้าก็ไม่โทษเ้า”
ซือโม่ก้มหน้า “บ้านห้าประกาศข่าวว่า้าจะเลือกสามีให้คุณหนูหรงแล้วขอรับ”
ถึงแม้ซือโม่จะติดตามเฉิงชิง เื่ของบ้านห้าก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาแล้วก็ตาม
แต่วันนั้นที่คุณหนูหรงนั่งรถม้าไล่ตามเรือ ตบหน้าเมิ่งไหวจิ่นหนึ่งฉาดนั้นเขาเห็นกับตาตนเอง เขากลัวว่าทั้งสองเื่นี้จะเกี่ยวข้องกัน หากไม่เอ่ยออกมาแล้วเกิดไปชะลอธุระหลักของเฉิงชิงจะทำอย่างไร——ทั้งอำเภอหนานอี๋ต่างรู้ว่าเมิ่งไหวจิ่นถือเป็ขุนเขาให้เฉิงชิงพึ่งพิงครึ่งหนึ่ง
“ข้ารู้แล้ว ในเมื่อท่านย่า้าเลือกสามีให้ท่านอาหรง พวกเราก็ลืมเื่ที่เห็นในวันนั้นไปเสีย หลังจากนี้ห้ามเอ่ยถึงอีก”
เฉิงหรงและเมิ่งไหวจิ่นจะเคยหรือไม่เคยมีความรักต่อกันสำคัญด้วยหรือ?
ทั้งสองฝ่ายไม่เคยเปิดเผยต่อที่สาธารณะ เมื่อเมิ่งไหวจิ่นไปแล้ว บ้านห้าก็ต้องหาสามีให้เฉิงหรง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ตั้งใจจะจับคู่ให้เฉิงหรงและเมิ่งไหวจิ่น
เฉิงชิงเองก็ไม่ใช่คุณป้าสมาคมเพื่อนบ้านที่จะต้องสอดมือไปยุ่งเื่แบบนี้
ข้อเรียกร้องด้านชื่อเสียงของสตรีในสมัยโบราณนั้นหนักหนามาก นางไม่เพียงจะไม่ยุ่งเื่นี้ ยังจะเก็บงำเื่ที่เห็นเฉิงหรงตบหน้าเมิ่งไหวจิ่นไว้ด้วย
หากเฉิงหรงออกเรือน เฉิงชิงย่อมต้องส่งของขวัญล้ำค่าเพื่อเป็การแสดงความซาบซึ้งต่อการดูแลของนางหลี่และนายท่านห้า
ส่วนเื่อื่น นางผู้เป็ ‘หลาน’ นอกบ้าน ไปยุ่งไม่ได้หรอก
ส่วนทางพี่สาวคนโต เฉิงชิงไม่รู้ว่าผู้ที่มาทาบทามสู่ขอถึงที่เป็พวกปลาเหม็นกุ้งเน่าเช่นไร จึงคิดที่จะเร่งสอบผ่านซิ่วไฉให้เร็วหน่อย นางรับมือกับเยี่ยอ๋องซื่อจื่อไม่ไหวแล้วก็ขวางพวกผู้ชายหยิบโหย่งที่คิดจะเอาเปรียบพวกนั้นไม่ได้ด้วย ทำได้เพียงตั้งใจเล่าเรียนเป็เท่าตัวเท่านั้น!
เ้าอ้วนชุยสอบได้ยี่สิบอันดับแรกก็พึงพอใจมาก เดิมคิดจะผ่อนคลายเสียหน่อย แต่ก็ถูกความขยันหมั่นเพียรศึกษาสุดแรงเกิดของเฉิงชิงทำให้ใ
“น้องชาย เ้าไม่ต้องทุ่มสุดชีวิตขนาดนี้ก็ได้! ปีหน้าพวกเราสองคนมีโอกาสที่จะสอบผ่านซิ่วไฉอยู่มาก ถึงจะสอบไม่ผ่าน ปีหน้าเ้าก็ยังอายุเพียงสิบสี่ปี ไหนเลยจะต้องเร่งรีบถึงเพียงนี้?”
เฉิงชิงที่อดนอนจนดวงตาเปลี่ยนเป็สีแดงก่ำดุจดวงตากระต่าย “ปีหน้าข้าอายุแค่สิบสี่ แต่พี่สาวคนโตของข้าปีหน้าก็จะสิบแปดแล้ว ข้าไม่ได้เร่งรีบเพื่อตัวเอง!”
ใช่แล้ว ภายในครอบครัวยังมีพี่สาวสามคนที่ยังรอออกเรือน เฉิงชิงแบกรับความกดดันอย่างมาก
พี่สาวทั้งสามท่านของเฉิงชิงมีรูปลักษณ์และกิริยาเช่นนั้นย่อมต้องให้เฉิงชิงมีคุณวุฒิจึงจะสามารถปกป้องไว้ได้ ก็เหมือนตระกูลชุย ทำเงินได้มหาศาล ทุกปีไม่รู้ว่าต้องติดสินบนเท่าไร ทุกวันยังใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวน รอเขาสอบได้คุณวุฒิแล้วจึงจะสามารถยกระดับสถานะของครอบครัวได้
เฉิงชิงแบกรับภาระของตน เขาก็เช่นกัน ทุกคนต่างก็มีความลำบากของตน ไม่มีผู้ใดที่สบายอกสบายใจ
ท่าทีผ่อนคลายของชุยเยี่ยนก็กลับมาตึงเครียดแล้ว
ทุกวันเฉิงชิงเรียนหนักเช่นไรเขาก็ทำตามด้วย ออกจะจดจ่อกับการเรียนมากเกินไปด้วยซ้ำ ไม่มีใจที่จะตัดสินรสชาติอาหารอร่อยแล้ว ในระยะเวลาหนึ่งเดือน เ้าอ้วนชุยก็ถึงขั้นผอมลงไปหลายจิน
เฉิงชิงไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ยังคงดูบอบบางขนาดที่เพียงลมพัดก็สามารถปลิวไปได้เช่นเดิม
ทั้งๆ ที่ยามปกติก็ใส่ใจกับการกินดื่ม ไม่ได้อดอาหารการกินเอาเปรียบตนเอง แต่ก็ไม่ได้มีเนื้อหนังเพิ่มขึ้น ดูแลฟื้นตัวมานานขนาดนี้ สีหน้าดีขึ้นมาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไม ใบหน้าซีดเหลืองของนางกว่าจะเปลี่ยนเป็ขาวก็ช้ามาก… มีอยู่วันหนึ่ง ชุยเยี่ยนเอ่ยชมนางอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“เฉิงชิง รอเ้าสุขภาพดีแล้วย่อมต้องหล่อเหลามากแน่”
เฉิงชิงกลอกตา “นั่นยังต้องให้เ้าพูดอีกหรือ เ้าก็เคยเห็นคนในครอบครัวของข้าแล้ว เกิดมาจากพ่อแม่เดียวกัน ข้าจะน่าเกลียดไปได้อย่างไร”
ชุยเยี่ยนพยักหน้า “นั่นก็ใช่ พี่สาวบ้านเ้าทั้งงดงามและสง่างาม หากเ้ายังหาพี่เขยที่เหมาะสมไม่ได้ ไม่สู้พิจารณาข้าดูเล่า?”
เดิมชุยเยี่ยนแค่ล้อเล่น แต่เมื่อกล่าวคำพูดนี้ออกไปแล้ว ตัวเขาก็หวั่นไหวอยู่บ้าง
แต่งพี่สาวของเฉิงชิงดีจะตายไป!
ตระกูลชุยมีเงิน เขาไม่สนใจว่าภรรยาจะมีสินเดิมติดตัวมาเท่าไร ตระกูลชุยเป็ครอบครัวที่ไม่ได้สูงศักดิ์แต่ก็ไม่ได้ตกต่ำ คุณหนูแห่งตระกูลขุนนางไม่อาจแต่งงานกับพ่อค้า หากจะแต่งงานกับแม่นางน้อยตระกูลพ่อค้าเขาเองก็ไม่สนใจอีก หากได้เป็พี่เขยเฉิงชิง เฉิงชิงก็จะสนิทสนมกับเขาตลอดไป
คิดไปแล้วก็เป็ตนเองที่ได้กำไรมาก
แววตาชุยเยี่ยนเปล่งประกาย เฉิงชิงพิจารณาเขาจากหัวจรดเท้า “…เ้าคิดจะมาเป็พี่เขยข้า?”
ชุยเยี่ยนยืดอกเก็บพุง ท้องน้อยๆ ถูกหดกลับไปชั่วขณะ ดูๆ ไปแล้วก็มีความสง่าผ่าเผยของเด็กหนุ่มอยู่บ้าง
“หากพี่สาวเ้าไม่ชอบคนอ้วน วันหลังข้าจะกินเนื้อให้น้อยลงสองคำ!”
