“เ้าก็ทำได้อย่างนั้นหรือ”
เหลยป้าเทียนได้ยินน้ำเสียงของเสิ่นเสวียน รู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้อวดดี จึงอดถามขึ้นมาไม่ได้
“สิ่งที่ท่านแสดงออกมาเป็เพียงเคล็ดวิชาสะกดกายาระดับต่ำเท่านั้น ยังต้องใช้จิติญญาควบคุมอีกหรือ เช่นนั้นหากเผชิญหน้ากับคนที่มีพลังจิติญญาแข็งแกร่งกว่าท่าน ท่านจะควบคุมได้อย่างไร”
เสิ่นเสวียนมองอีกฝ่ายพลางกล่าวเสียงเรียบ
สิ่งที่เรียกว่าเคล็ดวิชาสะกดกายา เป็เคล็ดวิชาที่พบเจอได้ทั่วไปในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร เมื่อครู่ที่เหลยป้าเทียนแสดงเคล็ดวิชานี้ออกมาทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย ยังคิดว่าเคล็ดวิชาในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรถ่ายทอดมาถึงที่นี่ด้วย ทว่าหลังจากนั้นเขาก็ต้องส่ายหัว
เคล็ดวิชาสะกดกายาเป็การใช้พลังมิติควบคุมอาณาเขตเล็กๆ เป็วิธีการบีบอัดมิติเพื่อตรึงร่างเอาไว้อย่างสมบูรณ์ ร่างกายของแต่ละคนแม้พลังร่างกายรวมตัวกันแล้วจะแข็งแกร่ง แต่เมื่อกระจายตัวออกไปกลับไม่แน่นอน ความลึกลับของเคล็ดวิชาสะกดกายาก็คือการใช้มิติบีบอัดพลังที่กระจัดกระจายเอาไว้จนสามารถควบคุมได้
ส่วนการใช้พลังจิติญญาควบคุม หากพลังจิติญญาของอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าจนสามารถต่อต้านการควบคุมได้ จะไม่น่าอายหรอกหรือ
“นี่ต่างหากที่เรียกว่าเคล็ดวิชาสะกดกายา”
เสิ่นเสวียนหรี่ตามองอีกฝ่าย ชี้นิ้วยิงลำแสงออกไปสายหนึ่ง
เหลยป้าเทียนเห็นดังนั้นจึงสะบัดมือออกไปต้านทานไว้ทันที แต่ในพริบตาที่เขาโดนลำแสงยิงจนร่างกระเด็นออกไป แรงกดดันที่รุนแรงพลันพุ่งเข้าใส่ร่างของเขา ทำให้เขายืนนิ่งอยู่กับที่ มิอาจขยับร่างได้
“เอ๋? เ้า!”
เหลยป้าเทียนพยายามดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่ง พบว่าไม่มีพลังจิติญญาเหลืออยู่เลย จึงมิอาจเคลื่อนตัวออกจากมิติได้
“อยากถามไหมว่าข้าทำได้อย่างไร”
เสิ่นเสวียนย่างเท้าไปตรงหน้าเหลยป้าเทียนพลางกล่าวเบาๆ “ข้าไม่คิดจะบอกท่านหรอก วางใจได้ สิ่งนี้มิอาจกักขังท่านได้นานนัก ข้าเองก็ไม่มีพลังมากพอที่จะจัดการท่านเช่นกัน ว่ามา จะจัดการเื่นี้อย่างไรดี”
เสิ่นเสวียนหรี่ตามองอีกฝ่ายแล้วถาม
“ข้ารับปากเ้า หินเฮยเย่าเป็ของเ้าครึ่งหนึ่ง”
ในขณะที่มิอาจขยับเขยื้อนร่างได้ทำให้เหลยป้าเทียนหวาดกลัวขึ้นมา ฝีมือเช่นนี้เขาไม่เคยเจอมาก่อนเลย สองคนนี้เป็คนที่มิอาจล่วงเกินได้ การประนีประนอมคือทางเลือกที่ดีที่สุด
เพียะ!!!
เสิ่นเสวียนสะบัดมือตบหน้าเหลยป้าเทียนอย่างแรงจนเสียงดังสนั่น ความเ็ปผสมผสานกับความร้อนแรงกระจายไปทั่วใบหน้า ทำให้เหลยป้าเทียนใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที
“อยากตายหรือไง!”
อายุมากขนาดนี้ มีตำแหน่งอย่างทุกวันนี้ในสามมณฑลเขตตะวันออก ยังไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าเขามาก่อนเลย ความรู้สึกอัปยศอดสูก่อตัวขึ้นจนเขาสามารถดิ้นหลุดจากเคล็ดวิชาสะกดกายาของเสิ่นเสวียนในพริบตาเดียว พร้อมตบหน้าเสิ่นเสวียนในทันที
ทว่าเสิ่นเสวียนคิดเอาไว้แล้วว่าเหลยป้าเทียนจะทำแบบนี้ เขาเพียงแค่ถอยหลังไปเล็กน้อยเพื่อเว้นระยะห่าง
“หมาบ้า แค่นี้ก็ทนไม่ไหวแล้วหรือ”
เสิ่นเสวียนมองเหลยป้าเทียนพลางกล่าวเสียงเย็น อีกฝ่ายยังมีหน้ามาบอกว่าจะแบ่งให้ครึ่งหนึ่ง ตนรักษาเขาจนหายแล้ว แม้แต่คำขอบคุณยังไม่มี คิดแต่จะลงมือสังหาร คนแบบนี้ยังต้องไว้หน้าอีกหรือ
“เ้าหนุ่ม วันนี้หากเ้าไม่ตายข้าก็ตาย!”
เหลยป้าเทียนโกรธจัด เขาไม่เคยโกรธแค้นขนาดนี้มาก่อน โกรธจนแทบบ้า จนเกือบเสียสติ
เขาเป็ถึงผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งในเมืองเสียเยว่ เป็ผู้นำตระกูลเหลย มีอิทธิพลในสามมณฑลเขตตะวันออก วันนี้กลับโดนเด็กคนหนึ่งตบหน้า
ในพริบตาที่ความโกรธแค้นปะทุออกมา พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้มาก ทำให้เขาฟื้นฟูกลับไปยังจุดสูงสุดในพริบตาเดียว
“แย่ล่ะ พลังของเขาฟื้นฟูกลับมาแล้ว!”
เริ่นเสี้ยวเทียนมองเหลยป้าเทียนที่กำลังโกรธ รู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ไม่ดี ก่อนหน้านี้การถอนพิษทำให้พลังของอีกฝ่ายได้รับความเสียหายไปสามส่วน แต่ตอนนี้พลังที่ได้รับความเสียหายนั้นถูกเรียกคืนกลับมาแล้ว
เหลยป้าเทียนยืนหายใจหอบอยู่ตรงนั้น เขาค่อยๆ แบมือเหยียดแขนออกไปอย่างช้าๆ ทำให้พลังรุนแรงพลุ่งออกมาในทันที
“พลังแข็งแกร่งยิ่งนัก ฮ่าๆๆ!!!”
เหลยป้าเทียนหัวเราะเสียงดัง เขาฝืนฟื้นฟูพลังกลับมาได้ขณะที่กำลังโกรธ ยิ่งไปกว่านั้นภายในร่างไม่มีผลกระทบจากพิษแล้ว เขาสามารถใช้พลังได้ดั่งใจนึก พลังของเขาแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก
“ข้าต้องขอบคุณเ้า หากไม่ใช่เ้า ข้าคงยากจะฟื้นฟูพลังกลับมาได้”
เหลยป้าเทียนมองเสิ่นเสวียนพลางหัวเราะเสียงดัง
ทว่าเสิ่นเสวียนที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับส่ายหัวพลางยิ้ม แล้วกล่าว “ดูเหมือนท่านจะลืมฝ่ามือนั้นไปแล้ว”
“เ้า...”
เหลยป้าเทียนโกรธจัด แต่ต้องอดทนไว้ก่อน
“เ้าหนุ่ม ข้าจะให้เ้าชดใช้ที่เ้าตบหน้าข้า”
ในพริบตาที่กล่าว พลังจิติญญาของเขาพุ่งเข้าตรึงเสิ่นเสวียนเอาไว้แล้ว พลังจิติญญาที่อยู่ในจุดสูงสุดของขั้นราชันระดับกลางควบคุมเสิ่นเสวียนไว้ทั้งร่าง เขาไม่เชื่อว่าเสิ่นเสวียนจะมีพลังยุทธ์ถึงขั้นราชันได้
“ข้าเอาชนะเขาไม่ได้ เ้ายังมีพลังอื่นอีกไหม”
เสิ่นเสวียนััได้ถึงพลังจิติญญาของอีกฝ่ายที่พุ่งเข้ามา เขาแสดงพลังจิติญญาของตนเองออกไปต้านทานไว้ พลางหันไปถามเริ่นเสี้ยวเทียนที่อยู่ด้านหลัง
ตอนนี้เริ่นเสี้ยวเทียนหลุดออกมาจากหินเฮยเย่าแล้ว เขายืนอยู่ข้างๆ เสิ่นเสวียน ส่ายหัวแรงๆ แล้วกล่าว
“ไม่มีแล้ว”
เขากล่าวออกมาอย่างเรียบง่าย
“ถ้าสู้ไม่ได้จะทำอย่างไร”
เสิ่นเสวียนอยากให้เริ่นเสี้ยวเทียนแสดงพลังทั้งหมดออกมา เขารู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด
“พลังมิติของเ้ามันคืออะไรกัน พวกเราเข้าไปซ่อนตัวดีไหม!”
เริ่นเสี้ยวเทียนถามเสิ่นเสวียน เสิ่นเสวียนลึกลับมากกว่าที่คิดไว้ กระทั่งถึงตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าเสิ่นเสวียนมีตื้นลึกหนาบางอย่างไร ในทางกลับกัน เสิ่นเสวียนรู้เกี่ยวกับเขาไปแล้วไม่น้อย
“มิตินั้นเล็กมาก ใส่พวกเราสองคนเข้าไปไม่ได้หรอก”
เสิ่นเสวียนกลอกตามองเริ่นเสี้ยวเทียน จากนั้นจึงกล่าว “หาที่ปลอดภัยซ่อนตัวก่อน เหลยป้าเทียนจะลงมือแล้ว”
หลังจากกล่าวจบเขาก็ดีดตัวขึ้นจากพื้นในทันที และเหาะไปอยู่บนูเาหินเฮยเย่า เริ่นเสี้ยวเทียนก็เหาะออกไปจากตรงนั้นพร้อมกัน
และในพริบตาที่พวกเขาออกมา เสียงสายฟ้าฟาดพลันดังขึ้นในมิติว่างเปล่าตรงที่พวกเขายืนอยู่เมื่อครู่นี้ ทำให้พื้นไหม้เกรียม กลายเป็รูขนาดใหญ่
เหลยป้าเทียนเห็นว่าโจมตีไม่โดนจึงพุ่งทะยานขึ้นไปกลางอากาศ ไล่ตามเสิ่นเสวียนและเริ่นเสี้ยวเทียนไปด้วยความเร็วสูงสุด เขารวดเร็วมากจนมองเห็นเพียงร่างเงาเลือนรางเท่านั้น
พริบตาต่อมา ร่างของอีกฝ่ายปรากฏขึ้นพร้อมแสดงพลังหมัดโจมตีใส่เสิ่นเสวียนและเริ่นเสี้ยวเทียน
ทั้งสองเห็นดังนั้นจึงแสดงพลังหมัดออกไปพร้อมกัน
ตูม!!!
หินเฮยเย่าที่อยู่ด้านล่างยุบตัวลงไปราวหนึ่งฉื่อห้าชุ่น โดยมีพลังของพวกเขาทั้งสามคนที่ปะทะกันเป็ศูนย์กลาง คลื่นพลังน่ากลัวซัดร่างของเสิ่นเสวียนและเริ่นเสี้ยวเทียนพุ่งลงกระแทกูเาหินเฮยเย่าอย่างแรง ตามมาด้วยเสียงของตกกระแทกดังก้อง
ส่วนร่างของเหลยป้าเทียนยังคงลอยอยู่กลางอากาศ ไม่สะทกสะท้านใดๆ
“ข้ายอมรับว่าพวกเ้าแข็งแกร่งมาก สามารถอวดดีได้ น่าเสียดายที่พวกเ้าต้องมาเจอกับข้า นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีอัจฉริยะถือกำเนิดขึ้นมากมาย แต่ที่ตายก่อนวัยอันควรก็มีมากเช่นกัน และโชคไม่ดีเลยที่พวกเ้าก็เป็หนึ่งในนั้น”
เหลยป้าเทียนในตอนนี้เปี่ยมไปด้วยพลัง กำลังสั่งสอนเสิ่นเสวียนและเริ่นเสี้ยวเทียนด้วยท่าทีของผู้าุโที่เหนือกว่า
“แค่กๆ!”
เสิ่นเสวียนกระแอมสองครั้ง สงบสติอารมณ์ให้เป็ปกติ เขาคิดว่าตนเองยังสามารถต้านทานได้ แต่เพราะระดับพลังแตกต่างกันมากเกินไปจึงไม่อาจพลิกสถานการณ์ได้อย่างที่คิด
“ในเมื่อเป็เช่นนี้ ข้าไม่เล่นกับท่านอีกแล้วกัน”
เสิ่นเสวียนยืนพิงูเาหินเฮยเย่า ไอพลังของเขาเชื่อมต่อเข้ากับหินเฮยเย่าไปแล้ว ขณะนี้พลังมากมายกำลังหลั่งไหลเข้าไปเติมเต็มภายในร่างของเขาอย่างต่อเนื่อง
“สหายทั้งสอง ออกมาเถอะ!”
หลังจากกล่าวจบ พลังที่เป็เอกลักษณ์สองสายพลันพวยพุ่งออกมาจากูเาหินเฮยเย่า
จากนั้น พี่ใหญ่เผ่าอนธการและเหลยต้งจากสำนักตี้หยินก็ค่อยๆ เดินออกมาจากมิติ
“เหลยต้ง!”
ดวงตาของเหลยป้าเทียนเบิกกว้างทันทีที่ร่างของเหลยต้งปรากฏขึ้น