กาลเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ใจของหลินหร่านอยากจะรีบแต่งงานกับอวี้ฉู่จาวในเร็ววัน และเมื่อเขาลองมานั่งนับวันดู เวลาช่างผ่านไปอย่างเอื่อยเฉื่อย
แต่เมื่อเวลาผ่านไปจริงๆ กลับรวดเร็วนัก เขามัวแต่ทำนู่นทำนี่ มารู้ตัวอีกที วันพรุ่งนี้จะเป็วันงานอภิเษกสมรสของเขากับท่านอ๋องเสียแล้ว
พอเวลาใกล้เขามา เขากลับรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
“หร่านเอ๋อร์อา ในวังหลวงไม่เหมือนกับจวนของเรา ทุกอย่างต้องทำตามกฎระเบียบ หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด แม้ว่าท่านอ๋องจะคอยเอาใจ เ้าก็อย่าได้คิดหยิ่งผยองจนเกินไป ในวังมีกฎมากมาย ตำแหน่งของท่านอ๋องค่อนข้างเกิดผลกระทบได้ง่าย ยากที่จะรับประกันว่าจะไม่มีใครกล้าทำอะไรเ้า”
คำพูดของหลินฮวาเหนียนเต็มไปด้วยความด้วยความจริงใจและ้าแนะนำ เขากลัวว่าบุตรชายของเขาที่มีนิสัยเช่นนี้จะต้องอยู่ในวังอย่างโดดเดี่ยว
“ลูกทราบดีขอรับ ลูกจะระวังตัว ไม่ทำให้ท่านอ๋องเดือดร้อน”
“อืม” หลินฮวาเหนียนพยักหน้ารับด้วยความพึงพอใจ “ถึงเ้าจะถือตำแหน่งพระอัครชายาก็ไม่ควรแสดงท่าทีหึงหวง คนอื่นที่มองมาเขาคิดว่าเ้าให้กำเนิดทายาทไม่ได้ หากท่านอ๋องจะมีพระชายาลำดับที่สอง ฟูเหริน หรือแม้แต่สนม เ้าก็ต้องเคารพท่านอ๋อง เป็พระชายา ปฏิบัติด้วยท่าทีสุภาพเสมอ”
“...ขอรับ” หลินหร่านไม่อยากรับปากเื่พวกนี้ แต่หากเกิดเื่เ่าั้ขึ้น อย่างไรเขาก็ห้ามท่านอ๋องไม่ได้
“ยังมีอีกเื่หนึ่ง…” หลินฮวาเหนียนมีท่าทีลังเลเล็กน้อยก่อนจะหยุดพูด
แล้วถึงตัดสินใจพูดในที่สุด “...มารดาของเ้าเป็คนของเผ่าจือเม่ย ร่างกายของเ้ามีหลอดเืดำคู่อยู่ ถึงเ้าจะเป็ชาย แต่หากร่างกายถูกเปิดผนึกก็อาจให้กำเนิดทายาทได้ สำหรับเื่นี้...เ้าไม่ต้องใไป เดี๋ยวข้าจะหาโอกาสบอกเื่นี้กับท่านอ๋องเอง”
หลินฮวาเหนียนคิดว่าหลินหร่านยังไม่รู้ ตัวเขาเองก็ไม่คิดว่าจะให้บุตรชายคนนี้ออกเรือน ว่าจะเก็บเื่นี้ไว้เป็ความลับและไม่บอกเื่นี้กับเขาตลอดไป
แต่ว่าตอนนี้...
“เื่นี้...ข้ากับท่านอ๋องรู้แล้วขอรับ”
“รู้แล้วหรือ เป็ไปได้อย่างไร?”
เมื่อสังเกตเห็นว่าหลินหร่านไม่ได้แสดงท่าทีใแม้แต่น้อย ทำให้หลินฮวาเหนียนไปต่อไม่ถูก
พวกเขารู้เื่นี้ได้อย่างไรกัน?
“ท่านอ๋องรอบรู้ ท่านมีความรู้กว้างขวาง เห็นปานรูปดอกปี่อั้นฮวาบนไหล่ข้าเข้า จึงรู้ว่าข้ามีหลอดเืดำคู่ขอรับ”
“อา” หลินฮวาเหนียนพยักหน้ารับเมื่อรู้ถึงความเป็มา “เป็เช่นนั้นก็ดี”
“...เื่ในภายภาคหน้าเ้าไม่ต้องคิดมาก เผ่าจือเม่ยเป็ที่รู้จักกันอยู่ เพียงแค่พวกเขาค่อนข้างอยู่ห่างไกลผู้คนจึงไม่มีใครคาดคิดมาก่อน หากวันหนึ่งเ้าตั้งครรภ์ขึ้นมา อธิบายเพียงเล็กน้อยก็พอ ไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร”
“ขอรับ”
“ยังมีอีกเื่หนึ่ง เ้าจะออกเรือนแล้ว เื่ที่เ้ามีหลอดเืดำคู่ก็รับรู้แล้ว ดังนั้น ข้าจะบอกเื่นี้กันเ้าด้วย…”
หลินหร่านเตรียมตั้งใจฟัง
หลังจากนั้น หลินฮวาเหนียนถึงเล่าเื่ราวของหลินเซี่ยงตี๋
หลินหร่านใเป็อย่างมาก แม้เื่นี้จะไม่ได้เป็เื่ที่สวยงามนัก แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว คิดมากไปคงไม่มีประโยชน์สินะ
ครู่ต่อมา
“เ้าพักผ่อนเถิด งานอภิเษกสมรสจะเริ่มขึ้นหลังจากผ่านค่ำคืนนี้ไป ประเดี๋ยวเ้าอาจไม่ได้พัก”
“ขอรับ”
ภายหลังหลินฮวาเหนียนออกไปได้ไม่นาน หลินเซี่ยงตี๋ก็เข้ามาอีกคน สิ่งที่เขาพูดไม่ต่างจากหลินฮวาเหนียนมากนัก ก่อนออกไปก็บอกให้หลินหร่านรีบพักผ่อน
หลินหร่านคิดว่าตัวเขาเองเริ่มมีความรู้สึกต่อทั้งสองมากขึ้น เริ่มเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง
หลินหร่านอยู่คนเดียวอีกครั้ง เขาเดินไปหยิบของของตนเองที่หัวเตียง
“อาหร่วน” หลินหร่านหันไปทางประตูพลางะโเรียก
“ขอรับคุณชายน้อย” ติงหร่วนวิ่งเข้ามา
“เก็บของเหล่านี้ให้ข้าที พรุ่งนี้ข้าจะนำไปตำหนักในวังหลวงด้วย”
“ขอรับ”
ของเหล่านี้ล้วนแต่อยู่ข้างกายหลินหร่าน ทำให้เขาผ่านพ้น่เวลาอันโดดเดี่ยวในฤดูหนาวไปได้
ไม่ว่าจะหิวแค่ไหนก็ไม่เคยกินถั่วแดงเหล่านี้ และไม่ว่าจะเหนื่อยเพียงไรก็ไม่มีทางวาดภาพของท่านอ๋องออกมาไม่งดงาม
ต่อมาหลินหร่านขึ้นไปบนเตียง เริ่มนอนพักผ่อนอย่างเชื่อฟัง
เขาไม่ได้กลัวว่าจะเหนื่อย แต่เพราะเขาอยากจะอภิเษกสมรสกับท่านอ๋องโดยเร็ว
หากว่าเขาอยากให้เวลาผ่านไปรวดเร็วก็ต้องเข้านอนให้เร็วขึ้นเท่านั้น
ก่อนพิธีอภิเษกสมรส บ่าวสาวไม่อาจพบเจอกันได้
ทางด้านอวี้ฉู่จาว เขาทำได้เพียงส่งคนมาคอยเฝ้าดูที่จวนตระกูลหลิน ตนไม่สามารถไปดูหลินหร่านด้วยตนเองได้ แต่ก็อยากให้หลินหร่านได้พักผ่อน
.........
สองชั่วยามต่อมา ยามเซิน1
ในจวนตระกูลหลินเริ่มยุ่งวุ่นวาย
เทพเ้าแห่งาจะมาสู่ขอใน่ยามเหม่าของเช้าวันใหม่
หลังจากหลินหร่านถูกติงหร่วนปลุกให้ตื่นขึ้นมา ก็มีคนเข้ามาจับตรงนั้นจับตรงนี้ให้เขามากมาย เริ่มจากการอาบน้ำขัดตัว
ใช้เวลาทั้งหมดหนึ่งชั่วยาม
เขาถูกแม่นมหลายคนจัดการตรวจดูจากบนจรดล่าง จากภายในมาภายนอก
ถึงจะรู้สึกเขินอาย แต่ก็ถือเป็กฎระเบียบที่หลินหร่านต้องยอมรับ
แม่นมเหล่านี้ก็เปรียบเสมือนกับหมอในปัจจุบันที่พบเจออะไรมาเยอะ หลินหร่านเข้าใจดีจึงไม่หลงเหลือความรู้สึกประหม่าถึงไปถึงขั้นฝืนใจ
หลังอาบน้ำเสร็จ หลินหร่านรู้สึกว่าผิวของตนเองนุ่มลื่นขึ้นมาก
ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้รับการปรนนิบัติเช่นนี้มาก่อน เจ็ดปีที่ใช้ชีวิตอยู่ในกระท่อมฟางทำให้ผิวพรรณของหลินหร่านไม่ค่อยจะดีนัก ด้วยเหตุนี้ เขาจึงกลัวว่าท่านอ๋องจะไม่ชอบ
เวลาต่อมาถึงได้รู้ว่าอวี้ฉู่จาวไม่ได้สนใจเื่เหล่านี้ ทำเขาไม่ได้ใส่ใจเช่นกัน
เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก็ต้องไปแต่งตัว สวมกวน2 กับชุดแต่งงาน
หลินหร่านเป็ชาย จึงไม่จำเป็ต้องเติมแป้งมากเกินไป แต่ก็ต้องตั้งใจแต่งออกมาให้งดงาม
เพราะนี่คือครั้งแรกที่มีการสู่ขอชายาที่เป็ชาย และเนื่องด้วยเป็ชายาของท่านอ๋องผู้นั้น เพราะอย่างนั้นั้แ่หนึ่งเดือนก่อนจึงได้มีการศึกษาวิเคราะห์มาแล้วว่าจะแต่งหน้าเช่นไร สวมกวนอย่างไร และสวมชุดแต่งงานแบบไหนถึงจะดี
หลินหร่านเป็คนมีใบหน้างาม มีการผสมผสานทั้งชายและหญิงอย่างลงตัว ครั้งนี้จึงทำให้ช่างแต่งหน้าในวังได้มีโอกาสแสดงฝีมือของตนเอง
แต่งแต้มสีแดงเล็กน้อยบนหน้าผาก ส่งผลให้ใบหน้าดูสดใสและขี้เล่น
ปัดแก้มและหางตาสีแดง ดูมีเสน่ห์แต่ก็ยังทำให้เ้าตัวดูมีใบหน้าเขินอาย
ปากสีแดงราวกับสีของลูกเชอร์รี่ ละเอียดอ่อนและดูงดงาม
หลังจากนั้นก็สวมกวนลงบนศีรษะ
เพราะว่าหลินหร่านเป็ผู้ชาย ดังนั้น กวนของเขาจึงไม่ได้ตกแต่งมากมายนัก
เป็เพียงกวนสีทองที่ตั้งสูงตระหง่าน มีพู่สีทองห้อยลงมาจากทางซ้ายขวาและหน้าหลังรอบด้าน
เรียบง่ายดูหรูหรา
สุดท้ายสวมชุดแต่งงาน เป็จี๋ฝู3 สีแดงเืหมูที่ปักนกห้าตัวด้วยดิ้นสีทอง ดอกกุหลาบสีแดงและเสื้อคลุมหางยาว
การปักลงเข็มช่างสมบูรณ์ไร้ที่ติ
หลังจากสวมเสร็จ หลินหร่านได้กลายเป็หนุ่มรูปงามไร้ที่ติราวกับหยกแกะสลัก ทำให้ผู้คนหลงใหลจนไม่กล้าปล่อยมือ
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างออกมาตามที่พวกเขาคิดเอาไว้ไม่มีผิดเพี้ยน อีกประเดี๋ยวหลินหร่านต้องสวมผ้าคลุมหน้า รอจนกระทั่งเข้าห้องหอ
ท่ามกลางแสงเทียนจะมีเพียงท่านอ๋องเท่านั้นที่จะได้เห็น ดังนั้น เพื่อทุก่เวลาอันมีค่าในคืนส่งตัว หลินหร่านที่แต่งตัวแต่งหน้าออกมาเช่นนี้จึงนับว่าเหมาะสมกับค่ำคืนที่ท่านอ๋องรอคอยแล้ว
เมื่อเวลาล่วงเลยเข้าสู่ยามอิ๋น4 อีกไม่นานขบวนขันหมากขององค์ชายสามก็ใกล้จะมาถึงที่จวนแม่ทัพแล้ว
“เร็วเข้าๆ เอาผ้าคลุมหัว” แม่นมท่านหนึ่งะโ
หลินหร่านนั่งอยู่บนเตียง ไม่กล้าขยับไปไหน ั้แ่หลังเที่ยงเมื่อวานนี้เขายังไม่ได้กินอะไรเลย
บรรดาแม่นมล้วนแต่บอกกับเขาว่า ก่อนเข้าสู่ตำหนักและเข้าเรือนหอห้ามรับประทานอะไรทั้งสิ้น เพราะอย่างนั้น คนที่แสนจะเชื่อฟังอย่างหลินหร่านถึงได้ยอมทนหิว
หลินหร่านคิดอะไรไปต่างๆ นานา ตอนนี้บนหัวมีผ้าสีแดงคลุม
มองอะไรไม่เห็นเลย
หลินหร่านรู้สึกว่ารอบตัวมีเสียงดังขึ้น เสียงดังจ้อกแจ้กจอแจ ไม่รู้ว่าทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับอะไร
ต่างคนดูเร่งรีบ ะโกันเสียงดังราวกับกลัวคนอื่นจะไม่ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้หลินหร่านรู้สึกไม่ปลอดภัยนัก เขาอยากอ้าปากเรียกติงหร่วนก็พบว่าเสียงของตนเองถูกกลบจนหมด
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงในห้องก็เงียบลง ติงหร่วนมาปรากฏตัวอยู่ข้างกายหลินหร่าน
“อาหร่วน” หลินหร่านลองเรียกเสียงเบา
“มีอะไรหรือขอรับคุณชายน้อย”
“ตอนนี้กี่ยามแล้ว”
“จะยามเหม่าแล้ว ท่านอ๋องใกล้เสด็จมาถึงแล้วขอรับ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น หลินหร่านยิ่งรู้สึกประหม่าขึ้นไปอีก
ท่านอ๋องใกล้จะมารับเขาแล้ว เขาจะต้องแต่งงานกับท่านแล้วจริงๆ ั้แ่วันนี้เป็ต้นไป พวกเขาทั้งคู่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน พร้อมฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันตลอดชีวิต
-------------------------------
1 ยามเซิน(申)คือ ่เวลา 15.00 – 16.59 น.
2 กวน หมายถึง สิ่งที่ชนชั้นสูงชาวจีนในสมัยโบราณใช้สวมครอบบนศีรษะ เพื่อเป็เครื่องบอกระดับ ประดับพระยศพระเกียรติ
3 จี๋ฝู หมายถึง ชุดมงคล ใช้สำหรับพิธีการต่างๆ และเทศกาล เช่น วันตรุษจีน งานแต่งงาน เป็ต้น
4 ยามอิ๋น(寅)คือ ่เวลา 03.00 – 04.59 น.