หลังหยางติ่งจวินออกไปฝูงลูกไล่ของหยางติ่งจวินก็ออกไปจากตำหนักภารกิจอย่างรวดเร็ว สายตามองเสวียนเทียนแววตาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงและความริษยา
ลูกศิษย์คนอื่น คนที่มารับภารกิจก็รับภารกิจ คนที่มาแลกผลึกอสูรก็แลกผลึกอสูรแต่สายตาก็มองมาที่เสวียนเทียนเป็ระยะ แววตาอิจฉาเ่าั้ซ่อนอย่างไรก็ซ่อนไม่มิดในใจทุกคนล้วนตั้งคำถาม ทำไมถึงไม่ใช่ตนเอง?
เสวียนเทียนไม่ได้หยุดอยู่นานเขาออกมาจากตำหนักภารกิจแล้วตรงไปยังที่พักของตน
ยอดเขารอบนอกของยอดเขากระบี่์มีอยู่มากทอดต่อกันถึงสิบกว่ายอด เขาแต่ละลูกมีที่พักของศิษย์นอกสี่ถึงห้าร้อยคน รวมทั้งคนของสำนักนอกที่สอนวิถีปราณและวิทยายุทธ์ให้แก่ศิษย์นอกด้วย
ยอดเขาที่เสวียนเทียนอยู่ห่างจากตำหนักภารกิจไม่ไกลคั่นด้วยเขาเพียงสองลูก ดังนั้นใช้เวลาไม่นานเขาก็กลับมาถึงที่พัก
เสวียนเทียนพักอยู่ห้องเดียวกับหวงสือเมื่อกลับมาถึงห้องพัก หวงสือกลับไม่อยู่
แต่ผ่านไปไม่นานก็ได้ยินเสียงของหวงสือดังมาจากไกลๆ“พี่เทียนพี่เทียน พี่กลับมาแล้วหรือ?”
ไม่ได้พบหน้าหวงสือมาสองเดือนบนใบหน้าของเสวียนเทียนปรากฏรอยยิ้มยินดีในสำนักกระบี่์มีหวงสือเพียงคนเดียวที่เป็ครอบครัวของเขาลูกหลานคนอื่นของตระกูลหวงต่างแยกย้ายไปเข้าสำนักอื่นๆ ในอาณาจักรเสินเตา
เสวียนเทียนเดินออกมานอกห้องเห็นหวงสือกับหลินตงรีบวิ่งรี่มาทางนี้
“พี่เทียน” “ศิษย์พี่หวง” เมื่อเห็นเสวียนเทียน ทั้งคู่ก็ร้องเรียกเสียงดัง ดูแล้วดีใจมากลิงโลดยินดี
“น้องชาย ศิษย์น้องหลินตง”หน้าของเสวียนเทียนเผยรอยยิ้มจาง โบกมือให้ทั้งคู่
ไม่ช้าทั้งสองก็วิ่งเข้ามาถึงตรงหน้าเสวียนเทียนหวงสือหายใจขาดห้วงพลางพูดว่า “พี่เทียน ข้าได้ยินคนพูดกันว่าที่ตำหนักภารกิจพี่ปะทะกับศิษย์พี่หยางหนึ่งฝ่ามือ ทั้งยังไม่ได้รับาเ็ด้วยเป็เื่จริงหรือ?”
หวงสือพูดพลางเดินวนรอบเสวียนเทียนรอบหนึ่งมือก็ตบๆ เหมือนจะสำรวจตรวจตราว่าไม่ได้รับาเ็หลินตงที่อยู่ด้านข้างผงกศีรษะไม่หยุด
เสวียนเทียนพยักหน้ารับแล้วกล่าวขึ้นว่า “ข่าวสารแพร่ไปเร็วจริงเข้าไปคุยในห้องกันเถอะ!”
“จริงหรือนี่?” พอเสวียนเทียนยืนยัน หวงสือพลันอุทานด้วยความตกตะลึง “พี่เทียน พลังวัตรของพี่อยู่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดแต่กลับรับฝ่ามือนั้นของศิษย์พี่หยางได้?วิชาปราณที่เขาฝึกเป็ ‘ปราณหยางบริสุทธิ์’ ที่เลื่องลือนั่นเชียวนะ!”
หลินตงที่อยู่ข้างๆ ปากคอสั่น ใไม่หาย
ศิษย์พี่หยางเป็ใครเล่า? ชื่อศิษย์พี่หยางโรคจิตทั้งสำนักนอก ใครบ้างไม่รู้จัก ใครบ้างไม่เคยได้ยิน?
นั่นเป็ถึงคนที่ปีนี้มีหวังจะคว้าอันดับหนึ่งของสำนักนอกที่จริงลูกศิษย์ทั้งสำนักนอกต่างก็แอบยกให้ศิษย์พี่หยางเป็ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสำนักนอกไปแล้วด้วยซ้ำ
เสวียนเทียนกลับรับฝ่ามือของศิษย์พี่หยางได้ทั้งยังไม่ได้รับาเ็แม้แต่น้อย เื่นี้สำหรับลูกศิษย์สำนักนอก นอกจากใแล้วก็คือความตะลึง
แม้ว่าสองเดือนกว่าก่อนหน้านี้เสวียนเทียนจะใช้พลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกเอาชนะหนิวจื้อเกาทั้งยังสัญญานัดสามเดือนกับจางหลง จากคนไร้ชื่อ เพียงพริบตาชื่อะเืเลือนลั่นสำนักนอกแต่เทียบกับศิษย์พี่หยางหรือพวกจางหลงซึ่งเป็ผู้ทรงอำนาจบนยอดสูงสุดของศิษย์สำนักนอกแล้วเสวียนเทียนก็ยังห่างชั้นอยู่ไกลโข
สองเดือนกว่าก่อนนี้ เสวียนเทียนนัดสามเดือนกับจางหลงไม่มีใครมองว่าเสวียนเทียนมีดี เวลาสามเดือนสั้นนัก ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกนั้น อย่างไรแล้วในเวลาสั้นๆ เพียงสามเดือนก็ไม่อาจแข่งขันเอาชนะกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบได้ต่อให้สามปีก็ยังยาก เพราะเวลาที่พลังวัตรของเราเพิ่มขึ้น คนอื่นก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
แต่ว่า หลังข่าวเื่เสวียนเทียนรับหนึ่งฝ่ามือของศิษย์พี่หยางได้โดยไม่าเ็แพร่ออกไปลูกศิษย์ทั้งสำนักนอกก็ตะลึงงัน พลังวัตรและความสามารถของเสวียนเทียนเหนือความคาดคิดของพวกเขาทุกคน
ปราณหยางบริสุทธิ์ที่ศิษย์พี่หยางฝึกฝนนั้นจุดเด่นที่สุดก็คือพลังภายในที่ล้ำลึก ถึงจะเป็ฝ่ามือส่งๆ สักฝ่ามือศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้ามีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รับได้แล้วไม่ได้รับาเ็แม้แต่น้อย
ดังนั้นเมื่อข่าวแพร่ออกไปตัวตนของเสวียนเทียนในใจของศิษย์นอกก็สลักลึกลงไปอีกชั้น เมื่อก่อนจดจำได้เพียงชื่อของเสวียนเทียนเพราะเขานัดท้าประลองกับจางหลงในสามเดือนทั้งที่ไม่ได้มีความสามารถแข็งแกร่งมากมาย
แต่ครั้งนี้เสวียนเทียนใช้ความสามารถอันแข็งแกร่งทำให้ศิษย์สำนักนอกตะลึงไปทั่ว
ในใจของศิษย์สำนักนอกนั้นเสวียนเทียนกลายเป็ตัวแทนของความแข็งแกร่งถึงจะไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับคนเก่งเด่นดังอย่างศิษย์พี่หยางหรือจางหลงแต่ก็เป็คนที่อยู่แนวหน้าในหมู่ศิษย์นอกหลายพันคน
นัดสามเดือนของเสวียนเทียนกับจางหลง แต่เดิมในหมู่ศิษย์นอกเป็เพียงเื่ตลกแต่ตอนนี้ศิษย์นอกทุกคนต่างรอคอยการแข่งขันจัดอันดับครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึงคาดหวังว่าเสวียนเทียนจะสามารถแหกด่านสังหารแม่ทัพ สู้กับจางหลงได้ในที่สุด
แม้ว่าในใจของศิษย์นอกยังคงมองว่าจางหลงต้องชนะแต่การต่อสู้ครั้งนี้ก็นับว่ามีดีให้ดูไม่ใช่โดนล้มอยู่ฝ่ายเดียว
เมื่อทั้งสามคนเข้ามาในห้องสายตาของเสวียนเทียนก็ประเมินทั้งสองครั้งหนึ่งแล้วกล่าวขึ้นว่า “ไม่เลวไม่เห็นหน้ากันสองเดือนกว่า พลังวัตรของพวกเ้าสองคนเลื่อนขึ้นหนึ่งระดับขั้นลุถึงชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่แล้ว”
หวงสือพูดขึ้น “สองเดือนนี้ได้หลินตงให้ยาพลังปราณกับข้าไม่น้อยทำให้ข้ามียาพลังปราณฝึกฝนตลอดข้าถึงได้ก้าวเข้าสู่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่เร็วขนาดนี้ แต่จะเทียบอะไรกับพี่ได้เล่าพี่เทียน นี่เพิ่งกี่เดือนเองพลังวัตรของพี่กลับเลื่อนชั้นจากชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ไปสี่ขั้นลุถึงชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดแล้ว เฮ้อ แช่น้ำที่บึงซ่อนกระบี่ที่แท้ได้ผลดีขนาดนี้เชียวตกดึกข้าไปแช่น้ำในบึงซ่อนกระบี่ดูบ้างสักครั้งดีหรือไม่? แต่ว่าตอนนี้เดือนสิบเอ็ดอากาศหนาวแล้ว น้ำในบึงหนาวเกินไปเสียแล้วสิ”
หลิงตงพูดอย่างตื่นเต้นขึ้นว่า “ได้ยินพวกศิษย์พี่พูดกัน ที่ตำหนักภารกิจศิษย์พี่หวงเอาผลึกอสูรของสัตว์อสูรขั้นสองออกมาหนึ่งพันกว่าเม็ดมากกว่าสองเท่าของศิษย์พี่หยางอีก ขนาดศิษย์พี่หยางยังสู้พี่ไม่ได้ ศิษย์พี่หวงท่านช่างเก่งเหลือเกิน”
หวงสือดีใจจนยิ้มกว้าง พูดว่า “พี่ชายของข้าเป็ถึงเสวียน...เอ่อศิษย์ที่เก่งกาจที่สุดของสำนักนอก ย่อมต้องร้ายกาจอยู่แล้ว”
หวงสือตื่นเต้นขึ้นมาก็เกือบจะหลุดปากออกไปคำพูดขึ้นมาถึงลำคอ แต่โดนเสวียนเทียนมองฉับถึงกลืนกลับลงไป
คำยกยอของทั้งสองคนทำเสวียนเทียนฉีกยิ้มเบิกบานใจมิน่าเล่า เขาถึงว่าพันสิ่งหมื่นสิ่งล้วนมองออกได้ มีแต่คำยอที่มองไม่ออกโดนคนยกยออย่างไรก็เป็เื่ชวนให้คนดีใจเื่หนึ่ง
หวงสือกับหลินตงคุยกับเสวียนเทียนอยู่เกือบครึ่งชั่วยามหลิงตงถึงขอตัวกลับไปยังห้องพักของเขา เมื่อในห้องไม่มีคนอื่นเสวียนเทียนก็ปิดประตูห้องเข้ามา
“พี่เทียนหรือว่าพี่มีของดีอะไรจะให้ข้าดูหรือ?” เห็นเสวียนเทียนปิดประตูหน้าต่างท่าทางระแวดระวัง หวงสือพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
เสวียนเทียนเดินกลับมาข้างตัวของหวงสือกล่าวขึ้นว่า “เ้าลืมชื่อของข้าออกไปจากสมองเสียหากเื่แพร่ออกไป ตระกูลหวงทั้งตระกูลได้จบสิ้นกันแน่ ถ้าถูกเจอเข้าอีกครั้งพวกเราไม่มีที่ให้หนีแล้วนะ”
“อืม จะไม่ทำอีกแล้ว” หวงสือหยักหน้ารับหนักแน่น
เสวียนเทียนหยิบห่อผ้าออกมาจากอกเสื้อเปิดออกช้าๆ
สายตาของหวงสือพลันสว่างขึ้นมา “นี่คือสิ่งใดหรือ? ใช่หญ้าฉีหวงหรือไม่? นี่เป็สมุนไพรทิพย์ต้นหนึ่งนี่นา?”
หวงสือก็เป็คนที่เกิดในตระกูลขั้นห้าสายตาไม่ด้อย มองทีเดียวก็รู้ว่าเป็หญ้าฉีหวง ใยกใหญ่
เสวียนเทียนพยักหน้ารับ เด็ดมาใบหนึ่งส่งไปให้หวงสือแล้วบอกว่า “หญ้าฉีหวงทำให้พลังวัตรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเ้ากินเข้าไป พลังวัตรของเ้าคงทะลุชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าในทันทีทั้งฤทธิ์ยายังอยู่ได้นาน อาจทำให้เ้าฝึกฝนไม่นานก็ขึ้นสู่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกหรือแม้แต่ขั้นเจ็ดได้”
เสวียนเทียนกินใบของหญ้าฉีหวงเข้าไปหนึ่งใบรู้ดีว่าฤทธิ์ของหญ้าฉีหวงมีพลังมากขนาดไหน ไม่เพียงทำให้พลังวัตรของเขาจากชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดเลื่อนสู่ขั้นแปดทั้งยังทำให้เขาฝึกพลังวัตรจนถึงชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดตอนปลายในเวลาสั้นๆ ไม่ถึงเดือนอีกด้วยแทบจะมีแววเลื่อนสู่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้าได้ทุกเวลา
หวงสือเพิ่งมีพลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่กินหญ้าฉีหวงเข้าไปหนึ่งใบ ในเวลาสั้นๆต้องเลื่อนชั้นได้สองสามขั้นเสวียนเทียนค่อนข้างมั่นใจกับการคาดการณ์ของตน
หวงสือรับหญ้าฉีหวงไป ตื่นเต้นไม่เลิกแต่ว่าก็ลังเลอยู่ “หญ้าฉีหวงหนึ่งใบล้ำค่านักที่ถูกหน่อย อย่างน้อยก็มีค่ามากกว่าแสนตำลึง อาจขายได้ถึงสองแสนตำลึงต่อหนึ่งใบเลยด้วยซ้ำพี่เทียน ท่านลุงเขยได้รับาเ็หนักขนาดนั้น หญ้าฉีหวงล้ำค่าขนาดนี้ จะใช้แลกกับโอสถทิพย์มารักษาอาการาเ็ของท่านลุงเขยได้หรือเปล่า”
เสียนเทียนตอบว่า “โอสถทิพย์รักษาอาการาเ็ได้ดีไม่ดีอาจมีราคาถึงล้านตำลึง หญ้าฉีหวงใบหนึ่งอย่างไรก็ไม่พอเื่โอสถทิพย์รักษาอาการาเ็ข้าจะคิดหาวิธีแน่เ้ากินหญ้าฉีหวงใบนี้เข้าไปก่อน ตอนนี้การเพิ่มพลังวัตรเป็เื่สำคัญที่สุดทุกปีตระกูลให้เงินพวกเราฝึกฝนอย่างน้อยก็สองแสน ถ้าหากประหยัดเงินก้อนนี้ไปได้ไม่กี่ปีก็ซื้อโอสถทิพย์รักษาอาการาเ็ได้แล้ว แต่ตระกูลไม่ได้ประหยัดเพราะอะไรรู้ไหม?”
หวงสือผงกศีรษะ “เพราะว่าพวกเราเป็อนาคตของตระกูล”
“รู้ก็ดีแล้ว”
เสวียนเทียนตบไหล่ของหวงสือ พูดว่า “กินหญ้าฉีหวงแล้วสองสามวันนี้ก็สงบใจหลอมแปรพลังจากสมุนไพร ยังมีเวลาอีกสิบวัน การแข่งขันจัดอันดับครั้งใหญ่ก็จะเริ่มขึ้นแล้วรางวัลของการเป็อันดับหนึ่งของศิษย์สำนักนอกคงจะมีค่าไม่น้อยหลายวันนี้ข้าก็จะตั้งใจฝึกฝนเหมือนกัน ใช้สภาพที่พร้อมที่สุดเข้าร่วมการแข่งขันจัดอันดับใหญ่ของศิษย์สำนักนอก”
หวงสือเบิกตาโตด้วยความใแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่จริงน่า พี่เทียนนี่พี่คิดจะคว้าอันดับหนึ่งของสำนักนอกหรือ? ศิษย์พี่หยางโรคจิตผู้นั้นแข็งแกร่งมากฝึกปราณหยางบริสุทธิ์จนถึงขั้นสูงสุดแล้ว! เหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะเลื่อนสู่ชั้นเบิกนภาแล้ว”
เสวียนเทียนยิ้มนิดๆ บอกว่า “ข้ามั่นใจอยู่”
ฉับพลัน ดวงตาเขาก็สว่างวาบ คิดบางอย่างขึ้นมาได้กล่าวต่อว่า “ข้าลืมเสียได้ข้าเลื่อนขึ้นชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดแล้วยังไม่ได้ไปรับรางวัลจากตำหนักยาพลังปราณเลยยาพลังปราณของสองเดือนนี้ก็ยังไม่ได้ไปรับ ก่อนอื่นไปรับยาพลังปราณก่อนพลังวัตรของพี่ใกล้จะเลื่อนชั้นแล้ว แต่ยาพลังปราณแพงมาก เก็บไว้ให้เ้าฝึกฝนวันหลังก็คงดี”
เสวียนเทียนตบบ่าของหวงสือแล้วเปิดประตูออกจากห้องไป
หวงเสือมองแผ่นหลังของเสวียนเทียนลับหายไปผ่านไปนครู่หนึ่งถึงใ พูดขึ้นว่า “อะไรนะ? พลังวัตรใกล้เลื่อนชั้นแล้ว์ นั่นไม่ใช่ว่าจะบรรลุชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้าแล้วหรือ?”
เวลาหลังจากนั้น เสวียนเทียนไม่ได้ฝืนดิ้นรนเลื่อนขึ้นชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้าแต่ปล่อยให้เป็ไปตามธรรมชาติ ผ่อนคลายทุกอย่างเตรียมสภาพร่างกายให้อยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุด
เขารู้สึกได้ว่าตัวเขาห่างจากชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้าเพียงเส้นกั้นบางๆเท่านั้นเมื่อเวลามาถึงย่อมเลื่อนชั้นได้เอง เพราะการฝึกฝนพลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดนั้นเขาอาศัยหญ้าฉีหวงย่นระยะเวลาลงมามากแล้ว หากยังฝืนเลื่อนชั้นอีก คงจะยากเย็นแสนเข็ญทั้งยังไม่ดีต่อร่างกายไม่สู้ปล่อยให้เป็ไปตามธรรมชาติดีกว่า
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตา ก็ผ่านไปสิบวันแล้วการแข่งขันจัดอันดับครั้งใหญ่ที่บรรดาลูกศิษย์รอคอยมานาน ในที่สุดก็เปิดประตูรับวันเริ่มต้น