แสงไฟดาวน์ไลท์สีทองอ่อนจากโคมไฟระย้าทอดยาวไปตามทางเดินคอร์ริเดอร์หินอ่อนสีดำขัดเงาของตึก PIM Tech เสียงฝีเท้าส้นสูงดังกระทบพื้นเป็จังหวะสม่ำเสมอสวนทางกับจังหวะหัวใจของพิมพ์ใจที่กำลังเต้นระรัวเหมือนกลองศึก เธอเพิ่งเดินออกจากห้องประชุมฉุกเฉินที่เต็มไปด้วยสายตาเคลือบแคลงสงสัยของนักลงทุน กลิ่นกาแฟเอสเปรสโซรสขมจากถ้วยในมือยังไม่ทันได้จิบ เธอก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงกระซิบแหลมจากมุมอับข้างห้องน้ำหญิง
"เห็นข่าวยัง? กลุ่มศรีรัญชน์เพิ่งเปิดศึกเต็มรูปแบบ!" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังลอดผ่านประตูห้องน้ำที่เปิดทิ้งไว้ครึ่งบาน
พิมพ์ก้าวช้าลงโดยอัตโนมัติ มือซ้ายบีบถ้วยกาแฟกระดาษแน่นจนบุบ ยามนี้เองที่เธอได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเย้ยผสมความตื่นเต้นของพนักงานสาวสองคนที่กำลังสนทนากันอย่างออกรส
"ราชินีงูเห่าคนนั้นสิคะ...แพ้การประมูลน่าอายเลยนะ"
เสียงที่สองพูดด้วยน้ำเสียงแสร้งทำเป็สงสาร
"ว่าแต่...พี่ว่าพิมพ์ใจ...เค้ามีปัญหาอะไรกับรัญรึเปล่า? ทำไมดึงดันอยากชนะขนาดนั้น?"
ปลายเท้าของพิมพ์หันเหไปทางอื่นโดยสัญชาตญาณ แต่ร่างกายกลับดื้อรั้นหยุดนิ่งอยู่กับที่ เหมือนถูกสาปให้ต้องรับฟังคำตัดสินจากผู้พิพากษาที่มองไม่เห็น
"ฉันว่าเป็เพราะเื่ส่วนตัวเข้ามาเอี่ยวด้วยแน่ๆ!"
เสียงแรกกระชุ่มกระชวยขึ้น "จำได้มั้ยเมื่อตอนเสนอขายงานกันครั้งที่แล้ว? ตอนที่รัญเดินผ่านมา ท่าทางพิมพ์เหมือนจะเอามีดมาเชือดคออยู่แล้ว..."
ฝ่ามือข้างหนึ่งของพิมพ์ทาบลงบนผนังหินอ่อนเย็นเฉียบเพื่อประคองร่างกายที่เริ่มโอนเอน ริ้วรอยบนกำแพงที่เคยดูสวยงามเหมือนลายหินอ่อนธรรมชาติ ตอนนี้กลับรู้สึกคมกริบเหมือนมีดเพชรพลอยกำลังขีดเขียนคำสบประมาทลงบนจิตใจ
"แหม... ถ้าสาวๆ คู่นี้ทะเลาะกันจริง"
เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้น "น่าดูไม่เบานะคะ...แบบว่าเกลียดแต่แอบอยากจีบกัน?"
ทันใดนั้นเองเสียงส้นสูงดังกร้าวเหมือนกระดิ่งเตือนภัยก็ดังขึ้นจากปลายทางเดิน พิมพ์หันไปเห็นรัญในชุดปักเลื่อมสีดำที่เปิดเผยส่วนหลังเป็รูปงูเหลือมคู่ กำลังเดินส่ายสะโพกเข้ามาด้วยท่าทางนักล่าที่ได้กลิ่นเื
"โอ๊ะ...ดูท่าจะมีละครดราม่าให้ดูสดๆ แล้วล่ะ"
เสียงกระซิบจากในห้องน้ำแ่ลงทันที
รัญหยุดยืนข้างๆ พิมพ์โดยไม่เหลียวมอง ปลายนิ้วแตะปุ่มกดสบู่เหลวอัตโนมัติจนมีฟองสีชมพูร่วงหล่นเป็หยดๆ ลงอ่างล้างมือหินอ่อน
"CEO ตัวอย่างอย่างคุณ...ก็แอบฟังเื่ไร้สาระพวกนี้เหมือนกันเหรอ?"
พิมพ์กัดริมฝีปากจนรู้สึกถึงรสโลหิตจางๆ "ฉันแค่สงสัยว่าทำไมบางคนถึงได้หน้าด้าน..."
"พอดีเลย"
รัญตัดบทกลางคัน หันมาสบตาพิมพ์ด้วยแววตาท้าทาย
"คุณอยากรู้จักฉันจริงๆ ใช่ไหม? ไม่ใช่แค่จากข่าวลือหรือรายงานบริษัท?"
มือของรัญยกขึ้นมาจับชายเสื้อเบลเซอร์ของพิมพ์เล่นๆ
"ตามมาสิ...ถ้าไม่กลัวที่จะเห็นด้านมืดของ 'ราชินีงูเห่า' อย่างที่พวกมันเรียกกัน"
ก่อนที่พิมพ์จะตอบโต้ รัญก็เดินมุ่งหน้าไปทางห้องบันไดหนีไฟโดยไม่หันหลัง มือของพิมพ์สั่นเทาเมื่อกดปุ่มลิฟต์ซ้ำๆ หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้องยอมเดินตามไปในทางเดินมืดที่แสงไฟฉุกเฉินสีแดงกะพริบราวกับกำลังเตือนให้เธอถอยหลัง
"นี่ไม่ใช่เกมที่คุณจะกำหนดกติกาได้คนเดียว"
พิมพ์ะโตามไปในห้องบันไดโลหะที่สะท้อนเสียงก้อง
รัญหันหลังพิงราวเหล็กเย็นะเื
"แต่คุณก็ยังตามมาอยู่ดี..."
เธอค่อยๆ ยกขาขึ้นทีละขั้นจนอยู่สูงกว่าพิมพ์ครึ่งตัว
"ร่างกายของคุณมันซื่อสัตย์กว่าปากนะ...รู้ตัวไหม?"
แสงแดดยามเย็นที่ลอดผ่านช่องหน้าต่างแคบๆ สาดเป็เส้นเฉียงตัดผ่านใบหน้าทั้งคู่ พิมพ์สังเกตเห็นรอยแผลเป็เล็กๆ ที่ข้อมือซ้ายของรัญซึ่งปกติจะถูกปกปิดด้วยกำไลเพชร
"ถ้าคิดจะล่อฉันมาฆ่าในที่ลับ..."
พิมพ์ก้าวขึ้นไปยืนขั้นเดียวกับรัญ
"คุณคงคำนวณผิดขั้นตอนแล้ว"
รัญหัวเราะห้วนๆ ก่อนใช้ปลายนิ้วชี้ดุนหน้าอกพิมพ์เบาๆ
"ถ้าฉันอยากฆ่าคุณ...คุณคงตายไปั้แ่ตอนจับมือรับป้ายประมูลแล้ว"
ความเงียบคืบคลานเข้ามาแทรกกลางระยะห่างเพียง 10 เิเระหว่างพวกเธอ พิมพ์ได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเองผสมกับเสียงลมโหวกเหวกจากช่องระบายอากาศ กลิ่นโอ๊ดวูดจากรัญผสมกับกลิ่นน้ำหอมมะลิของเธอเอง เกิดเป็กลิ่นพิเศษที่ชวนให้มึนงง
"ทำไมคุณถึงเกลียดฉัน?"
คำถามของรัญดังขึ้นในจังหวะที่รถบรรทุกคันหนึ่งบีบแตรดังลั่นข้างล่าง
พิมพ์ก้มหน้าลงมองนาฬิกาข้อมือที่กำลังนับถอยหลังสู่เวลางานประชุมสุดท้าย
"เพราะคุณคือทุกอย่างที่ฉันไม่้าเป็...นักเลงผู้ดีที่ใช้ชีวิตด้วยการทำลายคนอื่น"
รัญยื่นมือมาจับคางพิมพ์เบาๆ บังคับให้เธอต้องสบตา
"แล้วทำไม...แววตาคุณถึงบอกอีกอย่าง?"
มีเสียงฝีเท้าวิ่งกระชั้นจากด้านล่างดังขัดจังหวะขึ้น รัญฉวยจังหวะดึงพิมพ์เข้าไปในมุมอับข้างตู้ดับเพลิง ฝ่ามือหนึ่งปิดปากพิมพ์ไว้ในขณะที่อีกมือโอบเอวเธอแนบชิด
"นิ่ง..."
ลมหายใจของรัญแ่ลงบนใบหูพิมพ์
"คุณอยากให้พวกเขาเห็น CEO สุดเพอร์เฟคอยู่ในอ้อมกอดศัตรูแบบนี้ไหม?"
ร่างกายของพิมพ์แข็งทื่อเหมือนถูกสาป แม้สมองจะสั่งให้ผลักไส แต่ความรู้สึกอุ่นๆ จากจุดที่รัญัักลับส่งกระแสไฟฟ้าวิ่งวาบไปทั่วร่างกาย เธอสังเกตเห็นเงาของพนักงานสองคนกำลังวิ่งผ่านไปโดยไม่ทันหันมองมาตรงมุมนี้
"ใจคุณ...กำลังเต้นเร็วเป็สองเท่า"
รัญกระซิบบนิัที่บางเบาเหนือข้อมือพิมพ์
"นี่คือสัญญาณของความกลัว...หรือความตื่นเต้นกันนะ?"
เมื่อเงาพนักงานหายไป รัญก็ค่อยๆ ถอยห่างออกอย่างนุ่มนวล ปล่อยให้พิมพ์พิงผนังหายใจหอบเหมือนนักโทษที่เพิ่งหลุดจากพันธนาการ
"ครั้งต่อไป..."
รัญตวัดผมให้เข้าที่ขณะเดินลงบันได
"อย่าแอบฟังเื่เม้าท์ที่เกี่ยวกับฉัน...ถ้าคุณยังไม่อยากรู้ความจริงทั้งหมด"
พิมพ์ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นจนเสียงฝีเท้ารัญเงียบหายไป เธอก้มมองดูมือตัวเองที่กำลังสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ ภาพเงาในกระจกตู้ดับเพลิงสะท้อนหญิงสาวในชุดสูทที่ดูอ่อนแออย่างไม่เคยเป็มาก่อน
"ฉันต้องแข็งแกร่งกว่าเดิม..."
เธอกระซิบกับตัวเองขณะใช้มือซ้ายบีบจุดเหอกู่บนข้อมือขวาให้เ็ป
"เพื่อไม่ให้ใคร...เห็นจุดอ่อนนี้อีก"
แต่เมื่อเธอก้าวกลับสู่ทางเดินหลัก แสงไฟสีขาวสว่างจ้าของตึกระยิบระยับราวกับกำลังเยาะเย้ยความพยายามเก็บกดทุกอย่างไว้ใต้หน้ากากผู้บริหารที่สุดแสนจะสมบูรณ์แบบ...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้