“ท่านแม่ เื่นี้ไม่เกี่ยวกับองค์หญิงจริงๆ ขอรับเมื่อครู่ข้าทราบจากองค์หญิงแล้วว่าคนพวกนั้นมีเป้าหมายที่ตัวข้า องค์หญิงเพียงไปพบพวกมันเข้าโดยบังเอิญเท่านั้นท่านแม่โปรดระงับโทสะขอรับ”
ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นป้าจ้าวถูกหั่วอี้ถีบไปกองกับพื้นยิ่งไปกว่านั้นบุตรชายเพียงคนเดียวก็ถึงกับขัดการตัดสินใจของนางเป็ครั้งแรกเื่เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
อี้เอ๋อร์สามารถครองตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ชั้นเอกแห่งแคว้นชางอี้ด้วยความสามารถที่แท้จริงของเขาเองเป็ผลงานที่เขามีชัยต่อศึกใหญ่น้อยหนแล้วหนเล่า
บุตรชายของนางที่ทุกคนในแคว้นชางอี้ล้วนหวาดกลัวผู้นี้แต่เล็กจนโตไม่เคยขัดคำนางแม้แต่คราเดียว
มีเพียงหลังจากองค์หญิงเข้าจวนมา จึงเกิดเื่เกินคาดขึ้นหนแล้วหนเล่า
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าพลันลุกพรวดขึ้นด้วยโทสะที่ไม่รู้ว่ามาจากที่ใดนางปรี่ไปตรงที่หลิ่วจิ้งคุกเข่าอยู่ เดินไปด่าทอไปว่า “องค์หญิง ครานี้ท่านคงพอใจแล้วสินะท่านทำให้พวกเราแม่ลูกบาดหมางกัน ลำพังแค่ประเด็นนี้ข้าก็สามารถขับท่านออกไปจากจวนได้แล้ว”
ฮูหยินผู้เฒ่าว่าพลางเอื้อมมือผลักหลิ่วจิ้งอย่างแรง
นางผลักหนักหน่วงจนตัวหลิ่วจิ้งโยกคลอนไปหลายหน ก่อนที่ฮูหยินผู้เฒ่าจะลงมืออีกสองขาของหลิ่วจิ้งที่คุกเข่าอยู่แต่เดิมก็เกิดชาขึ้นมา ขณะกำลังจะขยับตัวเพื่อให้นั่งได้อย่างสมดุลไม่รู้เพราะเหตุใดกลับล้มลงไปที่พื้น
หลิ่วจิ้งเหนื่อยมากแล้วนางไม่้ามาเสียเวลานั่งคุกเข่าอยู่ตรงนี้อีกจึงอาศัยจังหวะที่ฮูหยินผู้เฒ่าผลักตนเอนตัวล้มลงกับพื้น อย่างไรเสียคืนนี้นางก็ได้รับความใอย่างมากมาก่อนอยู่แล้วจึงสามารถแสดงออกว่าอ่อนแรงทั้งกายและใจได้สมจริงนัก
นางไม่อยากมาเสียเวลาที่นี่ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ชอบนางเรื่อยมาอยู่แล้วฉะนั้นเหตุใดนางต้องมาเปลืองเรี่ยวแรงเพื่อคนที่ไม่ชอบนางคนหนึ่ง
นางหลับสองตาแน่นตอนที่ล้มตัวลงไปที่หูได้ยินเพียงเสียงร้องอย่างใของหั่วอี้ หลิ่วจิ้งปล่อยให้หั่วอี้ร้องเรียกนางแต่อย่างไรก็ไม่ยอมลืมตา
นางแอบยิ้มอยู่ในใจ แต่กลับไม่มีผู้ใดสามารถมองเข้าไปในใจนางได้ สิ่งที่สตรีไม่ขาดเหลือที่สุดก็คือความอ่อนแอบอบบางซ้ำแล้วคืนนี้นางยิ่งมีเหตุผลเพียงพอให้อ่อนแอเสียด้วย ครั้นแล้วนางก็ล้มตัวลง ‘หมดสติ’ ไปอย่างงดงาม
หลิ่วจิ้งหลับตา ได้ยินเสียงร้องเรียกอย่างร้อนใจของหั่วอี้และเสียงด่าทอด้วยความไม่พอใจของฮูหยินผู้เฒ่า “เ้าดู ดูสิอ่อนแอเช่นนี้จะมีทายาทให้สกุลหั่วได้หรือ?”
หลิ่วจิ้งไม่ใส่ใจไปฟังเสียงก่นด่าของฮูหยินผู้เฒ่าให้มากกว่านี้ความอบอุ่นหนึ่งแผ่นซ่านเข้ามา นางััได้ว่านางกำลังอยู่ในอ้อมอกของหั่วอี้
ในหูได้ยินหั่วอี้อธิบายไปว่า “ท่านแม่ คงเพราะวันนี้องค์หญิงถูกลักพาตัวจนขวัญผวาลูกจะพานางไปพักก่อน วันหน้าจะให้นางมาขออภัยกับท่านแม่ขอรับ”
หั่วอี้พูดพลางอุ้มนางจากไปอย่างรีบเร่ง
ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธจนสั่นไปทั้งตัวขณะมองตามแผ่นหลังของหั่วอี้ไป
“ดีจริง ข้าเลี้ยงลูกมาดีจริงๆ เสียแรงที่ข้าสู้อุตส่าห์ตื่นกลัวเป็ห่วงมาทั้งคืนแต่พอมีสตรี ในสายตาเขาก็ไม่มีแม่อยู่แล้ว”
นางว่าพลางเอาแขนเสื้อกวาดชุดน้ำชาที่วางอยู่บนโต๊ะทั้งหมดลงพื้นเสียงดัง ‘เพล้ง’ หลายหน และกระแทกโดนใจนางไปพร้อมกัน
ป้าหวังและป้าจ้าวที่อยู่ภายในห้องต่างใกันจนหน้าซีดป้าจ้าวรีบลุกขึ้นมาคลานแล้วประคองฮูหยินผู้เฒ่ากลับไปนั่งลงข้างเตียงช่วยปลอบให้นางระงันโทสะส่วนป้าหวังก็รีบไปเรียกสาวใช้รุ่นเล็กเข้ามาเก็บกวาดเศษถ้วยชาที่แตกอยู่ภายในห้อง
“ฮูหยินผู้เฒ่าโปรดระงับโทสะก่อนเ้าค่ะท่านแม่ทัพก็ไม่ได้อยู่ในจวนนานนัก ถึงยามนั้นอย่างไรองค์หญิงนั่นก็เป็เพียงลูกพลับนิ่มๆในมือท่านอยู่แล้วเ้าค่ะ อยากบีบอยากคั้นเช่นไรก็มิใช่แล้วแต่ใจฮูหยินผู้เฒ่าหรือเ้าคะ”
เดิมทีฮูหยินผู้เฒ่ายังโมโหไม่อาจสงบใจลงได้ แต่พอได้ยินป้าจ้าวพูดขึ้นมาเช่นนี้ก็ฟังเข้าหูในทันใด
“จริงด้วย อี้เอ๋อร์นานๆ ครั้งจะอยู่เรือน ในหนึ่งปีไม่ได้อยู่จวนกว่าครึ่งปีแล้วเหตุใดข้าจะต้องไปทะเลาะกับอี้เอ๋อร์เพราะสตรีเ่าั้ด้วย อยากจัดการสตรีพวกนี้ยังต้องกลัวจะไม่มีโอกาสอีกหรือ?
ป้าจ้าว เ้ามองได้ทะลุปรุโปร่งจริงๆ ดีนัก ดีนักปล่อยให้องค์หญิงนั่นดีใจไปก่อนสักวันสองวันถึงยามนั้นข้าจะดูซิว่านางยังจะยิ้มออกอีกหรือไม่?”
เมื่อคิดวิธีตอบโต้ได้แล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าจึงค่อยนอนหลับได้อย่างวางใจ
วุ่นวายกันรอบนี้ก็ผ่านไปอีกกว่าครึ่งชั่วยามมองเห็นว่าฟ้ากำลังจะสางแล้ว คืนนี้มีเื่ราวมากมายจนยามนี้ก็ยังไม่หยุด
หั่วอี้อุ้มหลิ่วจิ้ง ทางหนึ่งก็รีบเดินไปอีกทางหนึ่งก็สั่งความพ่อบ้านหวังที่ยืนรออยู่นอกประตูว่า “รีบไปเชิญท่านหมอมา”
“ขอรับ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้” พร้อมกับพ่อบ้านหวังที่เร่งเดินจากไปอย่างรีบร้อนหั่วอี้ก็ยิ่งเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ เขาอุ้มหลิ่วจิ้งเอาไว้ในอกจึงมองไม่ถนัดตาไม่รู้ว่าเหตุใดนางจึงหมดสติไปอีก
ค่ำคืนต้นฤดูใบไม้ร่วงเหน็บหนาวดั่งธารา ยามเช้าจวนเจียนจะมาถึงแสงตะวันเบิกฟ้า แสงจันทรากลับยังไม่หดหายไปจนหมดสิ้นทัศนียภาพงดงามยามตะวันจันทราสอดประสานกันนี้ เขากลับไม่มีแก่ใจใดไปชื่นชม
เพียงแต่เมื่อหยดน้ำค้างในคืนเหน็บหนาวท่ามกลางลมโบกพัดยามต้นสารทฤดูถูกสะท้อนอยู่ภายใต้แสงตะวันบางเบาส่งให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ใบหญ้าโชยมา ชวนให้สดชื่นสบายใจนัก
ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ นี้กลับทำให้ความร้อนรุ่มในใจเขาทุเลาลงไปมาก
“ท่านแม่ทัพ…”
เสียงโรยแรงของหลิ่วจิ้งดังเข้ามาในหูหั่วอี้ขณะที่เขากำลังเร่งเดิน
หั่วอี้หยุดเท้าพลางก้มหน้าลง ได้สบตากับดวงตาลึกล้ำของหลิ่วจิ้งพอดี
นางลืมตาขึ้นน้อยๆ ั์ตาที่เคยสดใสทอประกายยามนี้แววแห่งพลังในดวงิญญาถดถอยไปหลายส่วนคล้ายกำลังพรรณนาความกลัดกลุ้มที่อยู่ภายในให้เขาฟัง
ดวงตาแวววับดั่งน้ำทั้งคู่ ประหนึ่งธารน้ำลึกที่มีน้ำแร่ท่วมท้นพร้อมๆ กับน้ำตาที่ทะลักเข้าสู่ก้นบึ้งของหัวใจ ที่สุดน้ำตาสั่นเครือที่นองอยู่ในดวงตาก็ไม่อาจกักกั้นและเอ่อล้นออกมา
มือของหั่วอี้ที่กำลังอุ้มนางอยู่ยิ่งรัดแน่นเข้า สองคิ้วขมวดแน่น อารมณ์ที่ไร้ที่มาที่ไปยิ่งกดดันเขาเข้าไปทุกที
เขาว้าวุ่นจนต้องหยุดฝีเท้าลงเพื่อสบตากับหลิ่วจิ้ง น้ำตาของนางดั่งศิลาก้อนั์ที่กดทับอกเขามีความรู้สึกบางอย่างที่ยังไม่เข้าใจค่อยๆ ก่อเกิดขึ้นในส่วนลึกของหัวใจเขา
หลิ่วจิ้งถอนใจแ่เบา “ท่านแม่ทัพ มิเช่นนั้นท่านก็ไล่ข้าออกจากจวนเถิดปล่อยข้าไปตามยถากรรมเสียดีกว่า”
เมื่อนึกถึงสถานการณ์แสนยากลำบาก ไร้หนทางให้เดินต่อไร้หนหางให้ถอยหลัง น้ำตาของนางก็ทะลักไหลออกมาดั่งน้ำในทะเลสาบที่เซาะตลิ่งจนพัง
นี่เป็น้ำตาแห่งความทุกข์ในใจของหลิ่วจิ้ง ที่แท้แค่อยากมีชีวิตอยู่ต่อก็เป็เื่ยากเย็นเหลือเกินแล้วหากยัง้าแก้แค้นให้ครอบครัวยิ่งเป็เื่ที่ยากเสียยิ่งกว่ายาก
นางไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะมีชีวิตรอดต่อไปได้ส่วนการแก้แค้นให้คนในครอบครัว ยามนี้ดูท่าว่ายิ่งเป็เื่ที่ยังหาคำตอบไม่ได้เลย
ความเย็นะเืคืบคลานเข้ามาปกคลุมในส่วนลึกของหัวใจ จนนางหนาวเหน็บเหมือนอยู่ในแม่น้ำที่จับตัวเป็แผ่นน้ำแข็ง
เมื่อนางเห็นกับตาว่าคนที่เคยรักใคร่นักหนาบุกเข้ามาสังหารคนในบ้านนางคับแค้นแต่มิได้ขลาดกลัว
เมื่อนางได้แต่ดูบิดามารดาและคนในครอบครัวต้องตายอย่างอนาถแต่ตัวนางกลับไม่อาจทำสิ่งใดได้นางเ็ปแต่ก็ยังฝืนทนให้มีชีวิตอยู่
เมื่อนางถูกกษัตริย์แห่งชางอี้กลั่นแกล้งอย่างไร้เมตตาราวนางเป็สัตว์เล็กๆตัวหนึ่ง นางเป็ทุกข์แต่ก็ยังแย้มยิ้มเอาอารมณ์ขันเข้าสู้
วันนี้ ความโรยแรงแสนสาหัสขวางเท้าที่กำลังก้าวไปข้างหน้าของนางนางไม่รู้ว่าเส้นทางจะก้าวเดินต่ออยู่ที่ใด
ความอ่อนล้าหนักหน่วงเข้าจู่โจมครานี้ต่างกับเมื่อครู่ที่นางแสร้งทำ เพราะนางเหนื่อยล้าจริงๆ เสียแล้ว
_____________________________
