“คุณหนูรีบนอนเถิดเ้าค่ะ ระวังอย่าให้กระทบาแนะเ้าคะ”
ฝูเอ๋อร์ประคองไป๋เซี่ยเหอให้นอนลงอย่างระมัดระวัง จากนั้นนางก็มีท่าทีลังเลก่อนจะกล่าวว่า
“คุณหนู สองสามวันมานี้เซ่อเจิ้งอ๋องยืนอยู่นอกกระโจมของเราทุกวัน บ่าวคิดว่าเขาคงสำนึกผิดและโทษตนเองในเื่เมื่อวันนั้นอยู่เ้าค่ะ”
“เ้าใจอ่อนหรือ?”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงเ็าของไป๋เซี่ยเหอ ฝูเอ๋อร์ก็เอามือกำกระโปรงไว้และไม่พูดไม่จา
นางคิดเพียงว่าท้ายที่สุดแล้วคุณหนูก็ต้องแต่งเข้าจวนเซ่อเจิ้งอ๋อง หากคุณหนูทำให้เซ่อเจิ้งอ๋องมีโทสะขึ้นมาจนวันหน้าไม่ได้รับความโปรดปรานจะทำอย่างไร?
“ฝูเอ๋อร์ ข้าว่าเ้ามาดูาแของข้าเสียก่อน แล้วค่อยมาคุยเื่นี้กับข้า”
ฝูเอ๋อร์คนนั้นที่ร่ำไห้เสียงดังให้กับาแของนาง และปรารถนาที่จะชักดาบขึ้นมาสังหารฮั่วเยี่ยนไหวในวันที่นางฟื้นขึ้นมาได้หายไปไหนเสียแล้ว?
วินาทีที่ฮั่วเยี่ยนไหวละทิ้งนางไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด เขาก็ได้สูญเสียความเชื่อใจทั้งหมดของนางไปแล้ว
นางเป็คนที่รักแรงเกลียดแรง ทั้งยังมีนิสัยพูดคำไหนคำนั้น เมื่อเป็เื่ของความรัก นางยอมขาดแคลนดีกว่าได้ของด้อยคุณภาพ!
การรู้สึกผิดหรือโทษตัวเองไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับนาง นางไม่สนใจ
เื่ราวต่างๆ ย่อมไม่สามารถคลี่คลายได้เพียงเพราะฮั่วเยี่ยนไหวโทษตนเอง
สำหรับตำแหน่งชายาเซ่อเจิ้งอ๋องนั้น...
หากเป็ไปได้ นางจะหาทางปฏิเสธ
ม่านราตรีค่อยๆ เข้มข้นขึ้น ทั่วทั้งเขตล่าสัตว์ตกอยู่ในความเงียบสงัด
ทว่าในความเงียบสงัดจะมีกี่คนที่นอนไม่หลับ? มีเพียงแสงจันทร์บางเบาเท่านั้นที่รู้
“คุณหนู คุณหนูเ้าคะ มีข่าวใหญ่เ้าค่ะ!”
ไป๋เซี่ยเหอกินอาหารเช้าอยู่ข้างเตียง จู่ๆ ฝูเอ๋อร์ก็วิ่งเหยาะๆ เข้ามาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเล็กนั้นแดงซ่าน
“ข่าวอะไร?”
เพื่อที่จะให้ความร่วมมือกับความตื่นเต้นของฝูเอ๋อร์ ไป๋เซี่ยเหอจึงแสร้งทำเป็ถามด้วยความสนอกสนใจ
ฝูเอ๋อร์ยิ้มตาหยี “มีข่าวว่าฝ่าาทรงสืบหาตัวมือสังหารเจอแล้ว กำลังจะตัดสินโทษปะาชีวิตเ้าค่ะ”
ตัดสินโทษปะาชีวิต?
จะเป็ฮั่วิเชิน?
หรือว่าไป๋หว่านหนิง?
“โอ้ มือสังหารคือผู้ใดหรือ?”
ไป๋เซี่ยเหอหยิบช้อนมาคนโจ๊กอย่างเชื่องช้า แววตาของนางดูลึกล้ำ
“ได้ยินว่าเป็หนึ่งในผู้ดูแลเขตล่าสัตว์เ้าค่ะ”
ทันใดนั้นมือที่กำลังคนโจ๊กก็หยุดชะงักไปสองสามวินาที มุมปากของนางยกขึ้นเป็รอยยิ้มที่แฝงความหมายลึกซึ้ง
ว่าแล้วเชียว...
“เดิมทีพ่อแม่ของเขาเป็คหบดีที่จัดส่งสินค้าให้กับราชวงศ์ เนื่องจากของขวัญที่พวกเขาถวายในวันพระราชสมภพของฮองเฮาเมื่อสี่ปีก่อนถูกเซ่อเจิ้งอ๋องตราหน้าว่าเป็ของปลอม ส่งผลให้ฝ่าาทรงพิโรธ พวกเขาจึงถูกถอดถอนฐานันดรและกลายเป็เพียงสามัญชน แต่พ่อแม่ของเขารับเื่เช่นนี้ไม่ได้ จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายเ้าค่ะ”
“สี่ปีก่อนหรือ?”
ไป๋เซี่ยเหอพึมพำ
“การล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ผลิจัดขึ้นทุกปี ทว่าเขากลับล้างแค้นให้พ่อแม่ที่ตายมาสี่ปีแล้ว อันที่จริงความแค้นควรจะรุนแรงตอนเกิดเื่ใหม่ๆ ไม่ใช่หรือ?”
“คุณหนูหมายความว่า ‘มือสังหาร’ ผู้นี้เป็เพียงแพะรับบาปหรือเ้าคะ?”
“เก่งมาก มีอนาคตสอนได้!”
นางตักโจ๊กเข้าปาก ไม่ได้กินเนื้อสัตว์มาหลายวันจนลิ้นไร้รสชาติไปหมดแล้ว
จู่ๆ ก็อยากกินเนื้อไก่ขึ้นมา...
“เช่นนั้นจะทำอย่างไร? จะปล่อยให้มือสังหารตัวจริงลอยนวลเช่นนี้หรือเ้าคะ?”
ฝูเอ๋อร์ร้อนใจจนแทบตายแล้ว ทว่าคุณหนูของนางดันมีท่าทีไม่ยี่หระเสียนี่
อีกฝ่ายคือมือสังหารเชียวนะ!
ไป่เซี่ยเหอวางช้อนลง ก่อนจะยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดมุมปาก
“เ้าร้อนใจไปไย? คนที่ควรร้อนใจคืออีกฝ่ายต่างหาก ไม่อาจสังหารเป้าหมายได้ในคราวเดียวก็ถือเป็การแหวกหญ้าให้งูตื่นแล้ว พวกเขาต้องลงมืออีกครั้งเป็แน่”
“อะไรนะ? ยังจะมีอีกครั้งหรือเ้าคะ!”
หากเป็ไปได้ ฝูเอ๋อร์ก็อยากเลือกที่จะเป็ลมล้มพับเสียั้แ่ตอนนี้
“เช่นนั้นจะทำอย่างไร? จะไม่ตายหรือเ้าคะ?”
“ถูกต้อง ย่อมตายแน่”
เพียงแต่คนที่ตายก็คือพวกเขา
ฝูเอ๋อร์แทบร้องไห้ออกมาด้วยความใ ใบหน้าเล็กซีดขาวราวกับกระดาษ สุดท้ายนางก็กัดฟันเอ่ยอย่างเด็ดเดี่ยว “ช่างเถิด ต่อให้บ่าวต้องต่อสู้สุดชีวิต บ่าวก็ต้องรับคมดาบแทนคุณหนูให้จงได้เ้าค่ะ!”
หากบอกว่าไป๋เซี่ยเหอไม่ซาบซึ้งก็โกหกแล้ว
นางมีชีวิตมาสองชาติ ทว่ามีเพียงฝูเอ๋อร์ที่ปกป้องนาง และปฏิบัติต่อนางเป็อย่างดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
“เด็กโง่ ั้แ่ข้าเกิดมาก็อยู่ในวังวนความวุ่นวายเหล่านี้แล้ว เพียงแต่ตอนแรกข้าใช้ชีวิตอย่างคนไม่ใช่ผีไม่เชิงในจวนสกุลไป๋ จึงไม่มีผู้ใดสนใจก็เท่านั้น”
“ตอนนี้ข้าเปลี่ยนไปราวกับคนละคนแล้ว จึงยากที่จะหลบเลี่ยงความปรารถนาที่อยากจะกำจัดข้าของผู้อื่น”
แม้ว่าการลอบสังหารในคราวนี้จะดูเหมือนไท่จื่อ้าลงมือกับฮั่วเยี่ยนไหว ทว่าไป๋หว่านหนิงย่อมมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเป็แน่
ผู้ที่ไป๋หว่านหนิงเพ่งเล็งคือไป๋เซี่ยเหอ
ส่วนโหยวพิงถิง เื่ในวันนั้นนางตั้งใจหรือไม่กันแน่ ตอนนี้ยังยากที่จะตอบได้
ไป๋เซี่ยเหอพูดเื่เหล่านี้ให้ฝูเอ๋อร์ฟัง ไม่ใช่เพราะ้าอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงอย่างเดียว ทว่ายังอยากให้นางรู้รายละเอียดทั้งหมดด้วย มิฉะนั้นนางย่อมรับเื่ราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไม่ได้แน่
“ฝูเอ๋อร์ เ้าต้องรู้เอาไว้ว่าชาติกำเนิดของข้ากำหนดให้ข้าไม่อาจใช้ชีวิตอย่างสงบไปชั่วชีวิต วันหน้าไม่รู้ว่ามีอันตรายอีกมากเพียงใดรออยู่”
เมื่อเห็นท่าทีที่หวาดผวาขึ้นเรื่อยๆ ของฝูเอ๋อร์ ไป๋เซี่ยเหอก็รู้สึกทนไม่ได้เล็กน้อย
ถึงอย่างไรฝูเอ๋อร์ก็เป็เพียงแม่นางน้อยอายุสิบสองปีเท่านั้น ส่วนกลอุบายในจวนสกุลไป๋ก็เป็เพียงละครฉากหนึ่งของเหล่าสตรี
ทว่าการเผชิญหน้ากับมือสังหารที่ปลิดชีพคนโดยไม่กะพริบตาราวกับชีวิตเป็สิ่งไร้ค่า ช่างห่างไกลจากชีวิตของฝูเอ๋อร์และน่าหวาดผวายิ่งนัก
“ฝูเอ๋อร์ หากเ้ากลัว ข้าพาเ้าไปหาท่านแม่ได้ มีเ้าคอยดูแลนางข้าก็วางใจ หรือหากเ้า้า ข้าก็คืนสัญญาทาสให้เ้าได้”
มารดาของฝูเอ๋อร์ขายนางให้เจียงเยว่เสียน ดังนั้นพูดตามหลักแล้วฝูเอ๋อร์ย่อมไม่ใช่คนของจวนสกุลไป๋ ไป๋เซี่ยเหอจึงมีสิทธิชี้ขาดว่าจะให้ฝูเอ๋อร์อยู่หรือไป
“ไม่เอาเ้าค่ะ!”
เมื่อได้ยินว่าไป๋เซี่ยเหอจะไล่นางไป ใบหน้าของฝูเอ๋อร์ก็ถอดสี นางปรี่มาตรงหน้าเตียง “คุณหนู อย่าไล่บ่าวไปนะเ้าคะ”
“ข้าไม่ได้ไล่เ้า เพียงแต่เป็ห่วงว่าเ้าจะหวาดกลัวในภายภาคหน้า”
“ไม่เ้าค่ะ ขอเพียงได้ติดตามคุณหนู บ่าวก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ก็แค่มือสังหารไม่ใช่หรือ? มีอะไรเก่งกาจกัน ขอเพียงมีบ่าวอยู่ด้วย แม้ว่าบ่าวต้องใช้ร่างกายรับคมดาบให้คุณหนู ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดทำร้ายคุณหนูได้เป็อันขาดเ้าค่ะ”
ดวงตาของไป๋เซี่ยเหอปกคลุมไปด้วยหมอกบางๆ อย่างอธิบายไม่ได้
ที่แท้การถูกคนห่วงใยและดูแลก็ให้ความรู้สึกเช่นนี้นี่เอง ช่างดีจริงๆ
ไป๋เซี่ยเหอยกมือขึ้นบีบแก้มของฝูเอ๋อร์ ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง “วางใจเถิด ขอเพียงมีคุณหนูของเ้าอยู่ เ้าจะไม่มีทางได้ใช้ร่างกายเล็กๆ ของเ้ามารับคมดาบหรอก นอกจากนี้ เ้าจะรับได้มากน้อยเพียงใด? เ้าคิดว่าชีวิตคือสิ่งใด? ใช้หมดไปแล้วจะยังมีให้ใช้อีกหรือ?”
ฝูเอ๋อร์คลี่ยิ้ม “เราไม่เคยทำเื่ไม่ดี ฮูหยินถือได้ว่าเป็พระโพธิสัตว์ที่ยังมีชีวิต ทั้งยังคอยช่วยเหลือผู้คนจากความทุกข์ยาก เง็กเซียนฮ่องเต้ต้องคุ้มครองพวกเราเป็แน่เ้าค่ะ”
ไป๋เซี่ยเหอยิ้มแล้วไม่พูดอะไรอีก
ไป๋เซี่ยเหอไม่เคยอธิษฐานต่อเง็กเซียนฮ่องเต้มาก่อน และไม่เคยฝากฝังชีวิตไว้ในการคุ้มครองของเง็กเซียนฮ่องเต้ด้วย
ทุกวันคนที่จุดธูปขอพรมีมากมายนับไม่ถ้วน เง็กเซียนฮ่องเต้จะมีเวลามาสนใจทุกคนได้อย่างไร? หากประสบอันตรายแล้วมัวแต่คุกเข่าอธิษฐานต่อ์ กว่าจะอธิษฐานเสร็จ ร่างกายกับศีรษะก็แยกจากกันแล้ว
นางจึงไม่เชื่อในความหวังลมๆ แล้งๆ มาแต่ไหนแต่ไร โชคชะตาของนางล้วนเป็ตัวนางที่กำหนดเอง!
------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้