แม้แต่เจียงเฉินยังตะลึงงัน แรกเริ่มเดิมทีเขาคิดว่าหวงต้าจะมีวิธีที่จะให้ชายแก่ผู้นี้ฟังคำสั่งของเขา แต่เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่ามันจะง่ายเยี่ยงนี้ ราชันย์สัตว์อสูรระดับแก่นแท้์ทำในสิ่งที่หวงต้าบอกโดยไม่มีการคัดค้านแม้แต่น้อย มันปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่มีเงื่อนไข ดูเหมือนว่าหากหวงต้าสั่งให้มันฆ่าตัวตาย มันก็จะทำตามคำสั่งโดยไม่ลังเล
เขาไม่สามารถที่จะจินตนาการได้ว่าหวงต้าทำได้อย่างไร
ได้เห็นสถานการณ์ในตอนนี้ ตระกูลเยี่ยนที่สูญเสียความหวังทั้งหมดไป ทันใดนั้นกลับมีรอยยิ้มปิติ เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นหัวเราะเสียงดัง โชคชะตาได้เล่นตลกเพียงแค่พวกเขา ยังเล่นตลกกับหลี่ชางเยว่อีกด้วย
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นมีความสุขมาก แต่หลี่ชางเยว่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เขารู้สึกว่าภาพโดยรอบหมุน ทุกสิ่งที่เขาเห็นล้วนไม่ชัดเจนเ
มันเกิดเื่เช่นนี้ได้อย่างไร?เหตุใดถึงเป็เช่นนี้?สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็เื่จริงงั้นรึ?
ราชันย์สัตว์อสูรที่โเี้ที่มาช่วยเขาสังหารคนผู้หนึ่ง แต่ทันใดนั้นมันกลับคุกเข่าตรงหน้าศัตรู? ราชันย์สัตว์อสูรกำลังเล่นตลกกับเขางั้นหรือ?
"เหยี่ยวดำจงลุกขึ้น"
เจียงเฉินพูดอย่างไม่แยแส ชายแก่สวมชุดดำยืนขึ้นจากพื้น ในใจของเขาคิดแปลกใจว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอายุราวๆ 15-16 ปีแต่กิริยาท่าทางดูเหมือนผู้สูงส่ง
หากเป็คนทั่วๆไป เมื่อราชันย์สัตว์อสูรแก่นแท้์คุกเข่าให้ เขาจะขวัญอ่อน แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขากลับสงบเยือกเย็นไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย ราวกับว่ามันเป็เื่ปกติที่ราชันย์สัตว์อสูรแก่นแท้์ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา
อย่างไรก็ตาม ชายแก่รู้สึกโล่งใจ ชายที่หวงต้าติดตามนั้น จะเป็เพียงคนธรรมดาได้อย่างไร
เจียงเฉินเอามือไขว้หลังและก้าวไปด้านหน้า เขามองไปยังหลี่ชางเยว่ที่ยืนตรงข้ามเขาอย่างไม่แยแส
"หลี่ชางเยว่เ้าเคยได้ยินคำพูดนี้ไหม หยิบหินทุ่มใส่เท้าตนเอง"
เมื่อได้ยินเจียงเฉินพูด หลี่ชางเยว่แทบกระอักเืออกมา เจียงเฉินกำลังแดกดันเขา เขากลายเป็ไอ้ตัวโง่บรมที่สุด เขาไม่เพียงแค่สูญเสียดวงจิตอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตและเขายังฉีกหน้าตัวเองอีก เป็ดั่งคำพูดหยิบหินทุ่มใส่เท้าตนเอง หากเขาไม่ได้ขอให้ชายแก่ผู้นี้ช่วยเขา ด้วยความสามารถของตระกูลหลี่ แม้พวกเขาจะไม่ชนะาแต่อย่างน้อยก็พอสู้ได้บ้าง แต่ตอนนี้ทุกสิ่งมลายหายไป ไม่มีทางที่พวกเขาจะสู้ได้อีก
"หลี่ชางเยว่ เ้าเองก็น่าจะเคยได้ยินคำพูดเหล่านี้นะ เ้าวางแผนที่จะฆ่าเยี่ยนเจิ้นอวิ๋นด้วยความช่วยเหลือของราชันย์สัตว์อสูรแก่นแท้์แต่ตอนนี้ข้าจะออกคำสั่งให้ราชันย์สัตว์อสูรแก่นแท้์ฆ่าเ้า คิดว่าอย่างไร?"
เจียงเฉินพูดต่ออย่างไม่แยแส ทันใดนั้นตระกูลหลี่หวาดกลัวขึ้นมา หากหลี่ชางเยว่ตาย พวกเขาก็ไม่มีจุดหมายในการสู้ต่อ
"เ้าเหยี่ยวดำเอ๋ย ช่วยข้าจัดการหลี่ชางเยว่หน่อย"
ไม่แม้จะให้หลี่ชางเยว่ได้คิด เจียงเฉินได้ออกคำสั่งต่อชายแก่ชุดดำ
"ขอรับ นายท่าน"
ชายแก่ก้มหัวอย่างสุภาพต่อเจียงเฉิน เขาขยับร่างของเขาและในวินาทีถัดไปได้ปรากฎตรงหน้าหลี่ชางเยว่ มันจ้องมองไปยังหลี่ชางเยว่ด้วยสายตาเย็นะเื
ทันใดนั้นหลี่ชางเยว่รู้สึกหนาวเหน็บไปถึงไขสันหลัง นี่เป็ภัยคุกคามถึงตาย ชายแก่ได้จ้องมองทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนจ้องมองโดยอสรพิษ
"ไม่ อย่าฆ่าข้า! ข้าได้มอบดวงจิตอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตแก่ท่านแล้วนะ"
หลี่ชางเยว่พูดขณะกำลังสั่น
เจียงเฉินตาลุกวาวทันทีเมื่อได้ยินคำว่า'เหยี่ยวปีกโลหิต' เขาคิดกับตัวเองว่าไม่แปลกใจเลยที่หลี่ชางเยว่สามารถที่จะขอให้สังหารเยี่ยนเจิ้นอวิ๋น ทั้งหมดเป็เพราะดวงจิตอสูรเหยี่ยวปีกโลหิต
ดวงจิตอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตเป็สมบัติที่หาได้ยาก ไม่เพียงแค่ดึงดูดใจชายแก่ มันยังดึงดูดเจียงเฉินอีกด้วย หากเป็ชีวิตที่แล้วของเขา ดวงจิตอสูรไม่ได้เป็ประโยชน์เท่าไรกับเขา แต่เวลานี้มันแตกต่างกัน เขาได้บ่มเพาะด้วยทักษะร่างแปลงัและเขาสามารถที่จะดูดซับสายเืใดๆในโลกนี้ได้ จนถึงตอนนี้เขาได้ดูดซับสายเืของอสรพิษชิงิ ในการที่จะเลื่อนระดับทักษะร่างแปลงั การดูดซับสายเืหายากนั้นเป็ทางลัดที่ไวที่สุด นอกจากนี้ตามที่ทักษะร่างแปลงัจะเลื่อนขึ้น หากเขาได้รับสายเืของเหยี่ยวปีกโลหิต เขาสามารถที่จะสืบทอดความสามารถดั้งเดิมของมันด้วย
ความสามารถดั้งเดิมนั้นจะต่างจากทักษะยุทธทั่วไป ทักษะยุทธทั่วไปนั้นอยู่ในระดับตอนนี้ เจียงเฉินรู้ว่ามีหลายคนที่มีทักษะต่อสู้ระดับเซียน และพลังเก้าสุริยันที่เขาเป็ผู้คิดค้นขึ้น แต่โชคร้ายระดับของเขาตอนนี้อ่อนแอเกินไป แม้ว่าเขามีทักษะยุทธที่ทรงพลังเป็จำนวนมาก แต่เขายังไม่สามารถที่จะใช้มันได้ตอนนี้ตราบที่เขายังอ่อนแอเช่นนี้
แต่ความสามารถดั้งเดิมนั้นแตกต่าง มันไม่สำคัญหากกายศักดิ์สิทธิ์ของมนุษย์หรือความสามารถดั้งเดิมของสัตว์อสูร มันสามารถที่จะพัฒนาและเติบโตได้ พลังขั้นสูงสุดของความสามารถเฉพาะนั้นไม่มีขีดจำกัดหากระดับขั้นการบ่มเพาะยิ่งแข็งแกร่ง มันจะยิ่งทรงพลังมากยิ่งขึ้น มันมักจะอยู่ในขั้นที่สมบูรณ์ นี่จะเหตุว่าทำไมความสามารถดั้งเดิมถึงสุดยอดนัก
เหตุที่กายศักดิ์สิทธิ์และความสามารถดั้งเดิมน่ากลัว เป็เพราะพวกเขาไม่จำเป็ต้องเรียนทักษะยุทธใดๆ ตราบที่ความสามารถได้ตื่นขึ้น ด้วยการสนับสนุนของสายเืพวกเขา พวกเขาสามารถที่จะใช้ความสามารถดั้งเดิมออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้
กร้อบ!
โดยไม่สนใจหลี่ชางเยว่ที่ตื่นตระหนก ชายแก่ได้ใช้กรงเล็บที่แหลมคมฟาดไปยังหัวของหลี่ชางเยว่ หลังจากนั้นหลี่ชางเยว่ที่สิ้นหวัง ชายแก่ได้ขยี้หัวของเขา หนึ่งในพยัคฆ์แห่งเมืองชื่อได้ตกตายอนาถ
เหวอ!
การตายอย่างน่าอนาถของหลี่ชางเยว่ได้สร้างความแตกตื่นกับตระกูลหลี่ ความหวังและกำลังใจของพวกเขาได้หายไป หน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็สีเทาราวกับขี้เถ้า เผชิญกับราชันย์สัตว์อสูรแก่นแท้์ แม้แต่หลี่ชางเยว่ยังตกตายด้วยการลงมือเพียงครั้งเดียว แล้วพวกเขาจะสู้ได้อย่างไร?
หลังจากที่สังหารหลี่ชางเยว่แล้ว ชายแก่ได้หันกลับมาและเดินมายังเจียงเฉินและหวงต้าอีกครั้ง ด้วยสีหน้าท่าทางเคารพ
"เ้าเหยี่ยวดำน้อย เ้าทำได้ดีมาก"
หวงต้าได้กล่าวชมเชยชายแก่ ราชันย์สัตว์อสูรแก่นแท้์ะเืใจที่โดนเรียกว่า'เ้าเหยี่ยวดำน้อย' หากเป็คนอื่นๆล่ะก็ ชายแก่ผู้นี้จะสังหารทิ้งอย่างไม่ลังเล
"เ้าหนู เ้าจะทำเช่นไรกับคนพวกนี้?"
หวงต้ามองไปยังเจียงเฉิน
"นั่นคือสิ่งที่ตระกูลเยี่ยนจะต้องจัดการกันเอง มันไม่เกี่ยวข้องกับพวกเรา ไปเถอะ"
เจียงเฉินยิ้ม เขาหันไปและมองไปยังเยี่ยนเจิ้นอวิ๋น
"ท่านผู้นำตระกูลเยี่ยน ข้าจะให้ตระกูลเยี่ยนได้จัดการกับพวกที่เหลือ ข้าจะกลับไปก่อนและจะรอฟังข่าวดี จำสิ่งนี้ไว้นะท่านผู้นำตระกูล เมื่อจะกำจัดวัชพืชต้องถอนรากมันด้วย"
"วางใจได้น้องเจียง ข้ารู้ว่าต้องทำเช่นไร"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นประสานมือในขณะที่เคารพเจียงเฉิน ความขอบคุณและความเคารพที่มีต่อเจียงเฉินนั้นไม่สามารถที่จะวัดออกมาได้ ไม่ใช่เพียงแค่เขา ตอนนี้ทุกๆคนในตระกูลเยี่ยนมีความรู้สึกเหมือนกันพวกเขามองเจียงเฉินด้วยความเคารพ ชายหนุ่มผู้สูงส่งได้ช่วยชีวิตคนจากตระกูลเยี่ยนเอาไว้อีกครั้ง
ในใจของคนตระกูลเยี่ยน เจียงเฉินเป็ดั่งดาวนำโชค ไม่ใช่สำหรับเขา ตระกูลเยี่ยนคงได้หายไปแล้ว สิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับหลี่ชางเยว่นั้นคงแทนที่ด้วยเยี่ยนเจิ้นอวิ๋นอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้การช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจะมาจากหวงต้า พวกเขาไม่ลืมว่าเจียงเฉินเป็คนพาหวงต้ามา ตระกูลเยี่ยนไม่ได้เกี่ยวข้องกับหวงต้าสักทาง
เจียงเฉินผงกหัว จากนั้นเขาก็พาหวงต้าและชายแก่ออกจากใจกลางจตุรัส เขาไม่้าที่จะไปเกี่ยวข้องกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ตระกูลหลี่และตระกูลเยี่ยนเป็ดั่งไฟกับน้ำ แต่วันนี้จะเป็วันตัดสินทุกอย่างระหว่างพวกเขา
ตระกูลหลี่สุดท้ายก็ได้หายไป และสิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลหลี่เขาเชื่อว่าเยี่ยนเจิ้นอวิ๋นรู้ว่าควรทำเช่นไร
สิ่งที่สำคัญกว่านั้นสำหรับเจียงเฉินคือ ดวงจิตอสูรเหยี่ยวปีกโลหิต เขาจักต้องได้มันมา
"ฆ่า!"
ด้านหลังเขาเสียงการฆ่าฟันได้ดังออกมา ในไม่ช้าใจกลางจตุรัสทั้งหมดได้กลายเป็สนามรบ จิตสังหารจำนวนมากสามารถที่จะััได้จากจตุรัส และเสียงกรีดร้องโหยหวน เสียงะโดังร่วมกัน
คำคืนที่มืดมิดและสายลมได้พัดผ่าน นี่เป็คืนที่เปี่ยมไปด้วยเื หลังจากวันนี้ตระกูลหลี่ได้หายไปหมดสิ้น และจะมีผู้ปกครองเพียงหนึ่งเดียวสำหรับเมืองนี้
แต่เจียงเฉินไม่ได้กังวลสิ่งใด สำหรับเขาสิ่งที่เกิดขึ้นที่เมืองสีชื่อเป็เพียงแค่บันทึกเล็กน้อยในการเดินทางของเขาหลังจากที่ได้เกิดใหม่ ในไม่ช้าเขาก็จะก้าวเดินทางครั้งใหม่
ระหว่างทางเจียงเฉินและหวงต้าได้เดินนำหน้าและชายแก่ได้ตามหลังอย่างสุภาพเหมือนแกะที่อ่อนโยน
"หวงต้า เ้าทำเช่นไรให้เหยี่ยวตัวนี้ยอมเ้าได้?"
เจียงเฉินไม่สามารถที่จะทนความอยากรู้อยากเห็นได้และถามด้วยััเทวะ
"ว๊ะก่ะก่ะ มันง่ายมาก ข้าได้หว่านเมล็ดััเทวะในััเทวะของเ้าเหยี่ยวดำและมันอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า! ข้าแค่เพียงแค่คิดเท่านั้นมันก็จะตกตาย"
ใบหน้าของหวงต้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและดูฉลาดแกมโกง
เจียงเฉินตะลึง ไม่แปลกใจที่ชายแก่ผู้นี้จะยอมทำตามคำสั่งของหวงต้าโดยไม่กล้าที่จะไม่สุภาพกับเขา ทั้งหมดเป็เพราะชีวิตของเขาอยู่ในกำมือของหวงต้า แต่สิ่งที่ทำให้เจียงเฉินอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ไม่ว่าหากจะเป็มนุษย์หรือสัตว์อสูร ััเทวะจะเป็แหล่งที่มาของทั้งหมด และองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด คนผู้นั้นอาจตายได้หากปล่อยให้ใครบางคนหว่านเมล็ดใส่ััของเขา เว้นแต่เขาจะปัญญาอ่อนแต่เ้าเหยี่ยวนี่ดูไม่เหมือนคนปัญญาอ่อนแต่อย่างใด
นอกจากนี้กำลังของเ้าเหยี่ยวนี่อยู่ขั้นอาณาจักรแก่นแท้์ หวงต้าไปหว่านเมล็ดในเซนส์ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?
"เ้าทำได้อย่างไร?"
เจียงเฉินถาม
"เ้ายังจำสิ่งที่ข้าบอกได้หรือไม่เกี่ยวกับเรือนจำของนิกายเทียนเจี้ยน? ข้าได้ปล่อยราชันย์สัตว์อสูรทั้งสามเป็อิสระ แต่เงื่อนไขในการปล่อยพวกเขาก็คือพวกเขาต้องทำในสิ่งที่ข้าพูดทุกอย่างรวมถึงรับใช้ข้าในอนาคต เ้าต้องรู้ว่าราชันย์สัตว์อสูรทั้งสามได้ถูกจองจำมานานหลายทศวรรษในหอคอยแห่งนั้น และเพราะค่ายกลพิเศษของหอคอยนั่น ราชันย์สัตว์อสูรที่โดนจองจำจะไม่สามารถทำการบ่มเพาะได้ ดังนั้นมันจึงไม่มีโอกาสที่จะออกจากสถานที่นั่นตลอดชีพ"
ภายในดวงตาหวงต้าส่องประกายความฉลาดและแกมโกง
"ดังนั้นเ้าจึงใช้เงื่อนไขนี้ในการปล่อยตัวและสามารถที่จะควบคุมพวกเขาได้โดยทางนี้"
ในที่สุดเจียงเฉินได้เข้าใจ หวงต้านั่นโหดร้ายอย่างยิ่ง แต่ราชันย์สัตว์อสูรทั้งสามนั้นตกลงกับข้อตกลงนั้นแม้พวกเขาจะถูกควบคุมแต่ก็ยังดีกว่าถูกจองจำจนตาย
เจียงเฉินถามอีกครั้ง เขาได้ชื่นชมหวงต้ามากขึ้นตอนนี้ ข่ายป้องกันโดยสามัญนั้นไม่สามารถที่จะรั้งเจียงเฉินไว้ได้ แต่นั่นเพราะเขาเคยเป็ถึงนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้า เขามีประสบการณ์มากมายจากชีวิตที่แล้วของเขา นอกจากนั้นการที่จะทำลายม่านพลังป้องกันจะต้องใช้ทักษะยุทธที่ทรงพลังเข้าช่วยแล้วเ้าหวงต้าสามารถทำลายม่านพลังป้องกันและปลดปล่อยราชันย์สัตว์อสูรทั้งสามได้เช่นไร?
"บิดาเ้ามีวิธีของตัวเอง ข้าไม่บอกหรอก"
หวงต้าภาคภูมิใจในวิธีการของตน
"แต่เ้าก็บอกไม่ใช่รึว่าเหล่าราชันย์สัตว์อสูรทั้งสามได้ถูกศิษย์ในของนิกายเทียนเจี้ยนจับอีกครั้ง แล้วเ้าเหยี่ยวดำนี่หนีออกมาได้อย่างไร?"
เจียงเฉินถามด้วยสีหน้างุนงง
