“ทำไมล่ะ น้องหว่านหรู เ้าลองดูเครื่องประดับเหล่านี้แล้วเลือกชิ้นที่เ้าชอบสิ” หานอวิ๋นซีใจกว้างเป็พิเศษ
“ไม่ไม่ นี่เป็ของขวัญที่ฮ่องเต้ทรงพระราชทานให้พี่สะใภ้” มู่หรงหว่านหรูรีบปฏิเสธ
“ไม่เป็ไรหรอก มากมายขนาดนั้นข้าเองก็คงใช้ไม่หมด เลือกไปเถอะ” หานอวิ๋นซีกระตือรือร้นอย่างมาก พร้อมกับดึงมือของมู่หรงหว่านหรูมา
ความจริงแล้ว มู่หรงหว่านหรูได้ตรวจสอบอัญมณีเหล่านี้ก่อนหน้านี้แล้ว สิ่งของที่ฮ่องเต้เทียนฮุยพระราชทานเหล่านี้เป็เครื่องบรรณาการจากต่างประเทศทั้งหมด และไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน
และมีอยู่หลายชิ้นที่มู่หรงหว่านหรูชอบอย่างมาก เมื่อเห็นท่าทางเร่งเร้าของหานอวิ๋นซีนั้น นางจึงหยิบมันขึ้นมาโดยไม่ลังเล
แต่ใครจะรู้ว่าหานอวิ๋นซีกลับพูดขึ้นมาว่า “ข้าน่ะ อยากจะตรวจสอบเหลือเกินว่าใครเป็คนแพร่ข่าวว่าข้ารักษาโรคได้ คิดจะแบ่งปันรางวัลเหล่านี้ให้คนผู้นั้นสักหน่อย อย่างไรก็ตาม นางก็ควรได้รับความดีความชอบนี้เหมือนกันใช่หรือไม่?”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา มือของมู่หรงหว่านหรูก็แข็งทื่อทันที
“น้องหว่านหรู เ้าว่าใครเป็คนแพร่ข่าวลือกัน? นางไม่ได้้าทำร้ายข้า แต่้าช่วยข้าใช่หรือไม่?” หานอวิ๋นซีถามอย่างจริงจัง
ไม่ว่าใบหน้าของมู่หรงหว่านหรูจะแสร้งทำเป็ดีแค่ไหน แต่มือกลับทรยศนางอยู่ดี หานอวิ๋นซีที่ยังคงจับมือนางไว้ ทว่ามือของนางกลับหดกลับไปราวกับไฟฟ้าช็อต
หานอวิ๋นซีที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มกว้างขึ้น และจับมือของนางอีกครั้ง “น้องหว่านหรู เ้ารีบเลือกสิ ไม่ต้องเกรงใจ”
มู่หรงหว่านหรูรู้สึกร้อนรนใจเหลือเกิน พยายามควบคุมตัวเองไว้และพูดอย่างสุภาพว่า “ไม่ดีกว่า...สะ...สิ่งที่ฮ่องเต้พระราชทานไม่สามารถให้ใครสุ่มสี่สุ่มห้าได้ พี่สะใภ้ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ท่านควรไปพักผ่อนเสียดีกว่า ข้าจะไปอยู่เป็เพื่อนหมู่เฟย”
หลังจากที่นางพูดจบ ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกและหนีเตลิดไป
หานอวิ๋นซีมองไปยังด้านหลังของนาง เมล็ดแห่งความเกลียดชังก็ถูกปลูกในดวงตาของนาง
มีคนไม่มากนักที่รู้เื่ภายในมากมายขนาดนี้ และคนที่ได้ประโยชน์จากการเผยแพร่ข่าวลือนี้ก็ยิ่งมีน้อยเข้าไปอีก นอกจากคนในวังแล้ว ก็คือคนในจวนนี่แหละ
หากฮองเฮา้าให้นางรักษาไท่จื่อ ก็ไม่จำเป็ต้องสร้างเื่ให้ใหญ่ขนาดนี้ แค่เอ่ยออกมาคำเดียวก็ทำได้แล้ว ดังนั้นความสงสัยจึงตกไปที่มู่หรงหว่านหรูมากที่สุด
เป็นางอีกแล้ว คราวนี้ก็เป็นางอีก แม่ดอกบัวขาว ครั้งนี้เ้าแค่ร้อนรนใจไปก่อนแล้วกัน ครั้งหน้าข้าจะดึงหางจิ้งจอกของเ้าออกมาแน่นอน!
อี้ไท่เฟยและมู่หรงหว่านหรูเดินออกไปด้วยความโกรธ หานอวิ๋นซีเองก็พ่นลมหายใจด้วยความโกรธ เมื่อมองไปที่รางวัลใหญ่ตรงหน้า ดวงตาของนางก็โค้งขึ้น
ความรู้สึกนี้ราวกับถูกหวย รวยข้ามคืน ต่อจากนี้ก็สามารถใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องมานั่งกังวลเื่เงินอีกต่อไป
นางหยิบเงินขึ้นมาอย่างลวกๆ แล้วโยนให้สาวใช้ข้างๆ “ไปหาคนมาช่วยข้าย้ายของพวกนี้ไปที่ลานดอกบัว”
สาวใช้รีบรับเงินก้อนโตไว้ด้วยความลนลาน พร้อมกับแววตาโง่เง่าเล็กน้อย หวังเฟยให้ข้ามากขนาดนี้จริงๆ หรือ? ต้องรู้ว่าแม้แต่ไท่เฟยก็ยังไม่ใจกว้างขนาดนี้เลย
“ยังไม่ไปอีกหรือไร?” หานอวิ๋นซีถามพลางขมวดคิ้ว
“ไปเพคะ หม่อมฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้เพคะ หวังเฟยโปรดรอสักครู่!” สาวใช้ที่ดีใจเป็อย่างมากก็เก็บเงินและวิ่งออกไป
ในไม่ช้า สาวใช้ก็พาชายฉกรรจ์มาหกเจ็ดคน คนกลุ่มนี้เป็คนที่หานอวิ๋นซีคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่แล้ว ล้วนแล้วแต่เป็คนเย่อหยิ่งอวดดี ทว่าตอนนี้แต่ละคนต่างเคารพ และเรียกตนว่าหวังเฟยนู่นนั่นนี่ เป็สุนัขรับใช้แต่โดยดี
เป็ความจริงอย่างยิ่งที่เงินสามารถเปลี่ยนคนได้
สิ่งต่างๆ ถูกขนย้ายอย่างระมัดระวังไปยังลานดอกบัว ใครจะรู้ว่าหานอวิ๋นซีใจกว้างมากถึงขนาดมอบทองคำแท่งให้พวกเขาไปแบ่งปันกัน
คนรับใช้ที่ไม่เคยเห็นทองคำเลยสักครั้งในชีวิตต่างไม่อยากจะเชื่อเลย และเคารพหานอวิ๋นซีราวกับว่าพวกเขาได้พบกับบรรพบุรุษของพวกเขา ขอบคุณหลายครั้งก่อนที่จะออกไป
“นายหญิง นั่นมันทองคำเลยนะเพคะ พอๆ กับค่าจ้างหลายเดือนของพวกเขาเลยนะเพคะ!” เสี่ยวเฉินเซียงพูดเสียงดัง
“เสี่ยวเฉินเซียง เ้ารู้หรือไม่ว่าการวางยาพิษเองก็มีหลักการ?” หานอวิ๋นซีถามอย่างจริงจัง
เสี่ยวเฉินเซียงส่ายหน้า หานอวิ๋นซียิ้มและพูดว่า “การวางพิษต้องวางพิษอย่างทั่วถึง และชนิดของพิษที่เข้าสู่อวัยวะภายในทั้งห้าจะรักษาได้ยากที่สุด การซื้อใจผู้คนเองก็ใช้หลักการนี้เช่นกัน”
เสี่ยวเฉินเซียงยังคงส่ายหัวด้วยความไม่เข้าใจ หานอวิ๋นซีเองก็จนปัญญา “เ้าคิดว่ามู่หรงหว่านหรูจะใจกว้างได้ขนาดนี้หรือ?”
“ถึงแม้ว่านางจะใจกว้างมาก ก็ไม่มีเงินเหมือนนายหญิง” เสี่ยวเฉินเซียงมุ่ยปากพูด ตอนนี้ในสายตาของนาง นายหญิงคือผู้หญิงที่ร่ำรวย
“นั่นคือเหตุผลอย่างไรล่ะ เช่นนั้น จากนี้ไปคนกลุ่มนี้ก็จะอยู่ฝั่งข้าเท่านั้น และไม่ไปอยู่ฝั่งนางอีก” หานอวิ๋นซีพูดพลางยิ้ม
หากแจกจ่ายความมั่งคั่งให้คนอื่น ผู้คนก็จะมาล้อมรอบตัวเรา แต่หากเก็บไว้เพียงผู้เดียว ก็จะไม่มีใครอยู่ใกล้และห่างหายไป หานอวิ๋นซีคิดว่าเื่เงินของนางจะแพร่กระจายไปในหมู่คนรับใช้ของจวนฉินอ๋องในไม่ช้า มาดูกันว่าใครจะยังกล้าดูถูกนางอีกหรือไม่
ท้องฟ้าที่มืดสลัวก็เริ่มสว่างขึ้น ทว่าหานอวิ๋นซีกลับไม่ได้รู้สึกง่วงแต่อย่างใด ดังนั้นนางและเสี่ยวเฉินเซียงจึงนับเงินไปพลาง และเก็บมันไปพลาง คงใช้ประโยคที่ว่า ‘นับเงินจนมือเป็ตะคริว’ ได้จริงๆ
ในตอนรุ่งสาง สุดท้ายก็เก็บข้าวของจนเสร็จ เสี่ยวเฉินเซียงหมดแรงและกำลังจะไปที่ห้องครัวเพื่อทำอาหารเช้า ทว่าหลังจากออกจากลานดอกบัว กลับมีคนรับใช้มารอพร้อมกับอาหารเช้าร้อนๆ!
อันที่จริง เสี่ยวเฉินเซียงก็ไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่นายหญิงพูด แต่เมื่อเห็นฉากนี้ที่ประตูแล้ว นางก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว มีเงินนี่มันดีจริงๆ!
หานอวิ๋นซีกินไปเพียงเล็กน้อย บางทีอาจเกิดจากความเหนื่อยล้ามากเกินไป จนไม่อยากอาหารหรือง่วงนอน ร่างกายจึงไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและขอให้เสี่ยวเฉินเซียงไปดูที่ห้องนอน
“นายหญิง ฉินอ๋องยังไม่กลับมาเพคะ” เสี่ยวเฉินเซียงรายงานอย่างรวดเร็ว
หานอวิ๋นซีมีความสุขในทันที เก็บข้าวของและเตรียมตัวไปบ่อน้ำพุร้อน หลังจากเหน็ดเหนื่อยอย่างมากในฤดูหนาว วิธีที่ดีที่สุดคือการแช่ในบ่อน้ำพุร้อน
หลังจากที่นางแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในห้องจริงๆ นางจึงสั่งให้เสี่ยวเฉินเซียงเฝ้าประตูไว้ จากนั้นก็ลงไปแช่ในบ่อน้ำพุร้อน
แม้ว่าบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ของหลงเฟยเยี่ยจะอยู่ในห้อง ทว่าก็เป็บ่อธรรมชาติ คุณภาพน้ำจึงบริสุทธิ์มาก อุณหภูมิของน้ำก็อยู่ในระดับปานกลาง ความลึกพอเหมาะ ทันทีที่หานอวิ๋นซีลงไปแช่ ก็รู้สึกผ่อนคลายไปทั้งร่างกายและจิตใจ
นางพิงบ่อน้ำแล้วเงยหน้าขึ้น ปล่อยให้น้ำพุร้อนชำระร่างกายและเพลิดเพลินกับ่เวลาแห่งการพักผ่อนนี้ ในไม่ช้าหานอวิ๋นซีก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว
มีร่างหนึ่งอยู่ที่กำแพงด้านขวาของห้องนอน เ้าของห้องกลับมาแล้ว
ขณะที่หลงเฟยเยี่ยกำลังจะเดินเข้าไป ก็เห็นเสี่ยวเฉินเซียงนั่งเหม่ออยู่ที่ประตู ความสงสัยจึงฉายวาบในดวงตาของเขา แต่หลังจากคิดไปคิดมาแล้ว ดูเหมือนจะนึกถึงอะไรบางอย่างได้ เขาจึงะโขึ้นไปบนหลังคาอย่างเงียบๆ
สาวใช้คนนี้อยู่ที่ประตู เป็ไปได้หรือไม่ว่าหานอวิ๋นซีจะอยู่ข้างใน?
สตรีผู้นี้มาทำอะไรในห้องของเขา?
ดวงตาของหลงเฟยเยี่ยหรี่ลงและค่อยๆ ดึงแผ่นกระเบื้องออกมาหนึ่งแผ่น แต่ไม่คาดคิดว่า สิ่งที่เขาเห็นคือภาพของสาวงามที่กำลังอาบน้ำ!
ดวงตาที่เ็าค้างไป หลงเฟยเยี่ยรีบเบนสายตามองไปทางอื่นทันที แต่ครู่เดียว เขาก็มองอีกครั้งและเห็นว่าเสื้อผ้าที่ริมบ่อน้ำนั้นวางอย่างไม่เป็ระเบียบ สตรีผู้นั้นเปลือยไหล่เปล่า กระดูกไหปลาร้าและลำคอขาวอยู่ท่ามกลางควันที่พวยพุ่ง มีความเย้ายวนไม่มีที่สิ้นสุด...
สตรีผู้นี้ช่างกล้าหาญเหลือเกินที่เข้ามาถึงที่ของเขาเพื่อแช่น้ำพุร้อน!
ดวงตาที่เ็าของหลงเฟยเยี่ยดูมืดมนมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจอย่างมาก เพียงแต่...เวลาค่อยๆ ผ่านไป ทว่าเขากลับไม่ได้ละสายตาเลยแม้แต่น้อย
ดวงตาของเขาเ็าและเย่อหยิ่งจองหองราวกับชื่นชมงานศิลปะ เห็นๆ กันอยู่ว่ากำลังแอบมอง ดูเหมือนว่าจะลามกอนาจารแต่ตรงกันข้าม กลับทำให้คนอื่นรู้สึกว่ามันคือธรรมชาติของคนอย่างหนึ่ง เอาเถอะ เขาในเวลานี้ ใบหน้าหล่อเหลานั้นแสดงออกมาว่านั่นเป็งานศิลปะที่น่าทึ่ง!
ทันใดนั้นก็มีลมพัดแรง หลงเฟยเยี่ยเงยหน้าขึ้นและเห็นฉู่ซีเฟิงกำลังเข้ามา
แววตาของเขาเผยความไม่พอใจออกมา เขารีบโบกมือให้ฉู่ซีเฟิงออกไปไกลๆ จากนั้นจึงวางกระเบื้องกลับเข้าที่ แล้วไปที่สวนหลังบ้านเพื่อพบกับฉู่ซีเฟิงด้วยตัวเอง
“นายท่าน ท่าน...” ฉู่ซีเฟิงเต็มไปด้วยความสงสัย เมื่อครู่นายท่านกำลังทำอะไรกันนะ?
หลงเฟยเยี่ยไม่ตอบ “จัดการเื่ไปถึงไหนแล้ว”
“ทูลฉินอ๋อง หัวหน้าสายสืบของเป่ยลี่น่าจะแฝงตัวอยู่ในเมืองหลวง เป็คนที่เก่งเื่การวางยาพิษ กระหม่อมได้เค้นให้ลูกน้องของเขาตอบคำถามแล้ว มีคำสารภาพอย่างหนึ่งที่สอดคล้องกัน พิษทั้งหมดของพวกนางมาจากที่เดียวกัน ส่วนเป็ใคร พวกนางเองก็ไม่รู้เช่นกันพ่ะย่ะค่ะ” ฉู่ซีเฟิงตอบอย่างจริงจัง
เป่ยลี่ใช้สายสืบในเทียนหนิง เก่งกาจเื่การใช้ยาพิษ และเป้าหมายคือการวางยาพิษขุนนางใหญ่ที่มีความสามารถของเทียนหนิง หากหานอวิ๋นซีไม่พบพิษที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของแม่ทัพใหญ่ หลงเฟยเยี่ยคงไม่พบเงื่อนงำเร็วขนาดนี้
หลายวันมานี้ เขามัวแต่ยุ่งอยู่กับเื่นี้
“ตรวจสอบแหล่งที่มาของพิษ และอย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป” หลงเฟยเยี่ยพูด พิษที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของแม่ทัพใหญ่คือพิษเรื้อรัง อย่างน้อยก็มีมาหลายปีแล้ว และคนที่จะวางพิษนี้ได้ก็ต้องเป็คนรอบตัวเขา
หากพิษของแม่ทัพใหญ่เกี่ยวข้องกับสายสืบด้วย เช่นนั้นก็หมายความว่าสายสืบเหล่านี้ซุ่มซ่อนอยู่ในเทียนหนิงมาหลายปีแล้ว และซ่อนอยู่ลึกมาก
“พ่ะย่ะค่ะ!” ฉู่ซีเฟิงน้อมรับคำสั่งด้วยความเคารพ
ในตอนที่หลงเฟยเยี่ยกลับมาบนหลังคาห้องนอน หานอวิ๋นซีก็ออกมาแล้ว “สตรีผู้โง่เขลา” ที่แสนฉลาดผู้นี้กลับไม่รู้อะไรทั้งสิ้น นางที่เพิ่งขึ้นจากบ่อเป็เหมือนดอกบัวในน้ำใสที่สวยงามและประณีต ใบหน้าเล็กแดงระเรื่อเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข พูดคุยและหัวเราะกับเสี่ยวเฉินเซียงด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจขณะกลับไปที่ตำหนักหยุนเซี่ยน
“เ้าโง่ เมื่อไรจะรู้จักระวังตัวได้เสียที” หลงเฟยเยี่ยพึมพำกับตัวเอง ด้วยความไม่พอใจอย่างมาก
อันที่จริง ไม่แปลกเลยที่หานอวิ๋นซีจะเป็เช่นนี้ นางไม่รู้ศิลปะการต่อสู้ จะไปสังเกตการเคลื่อนไหวรอบตัวเองได้ง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยเหตุผลด้านอาชีพแล้ว นางมีความสามารถในการตั้งสมาธิจดจ่อได้เป็พิเศษในสิ่งต่างๆ และสามารถเพิกเฉยต่อทุกสิ่งรอบตัวได้ดี
หลังจากพักผ่อนเพียงพอแล้ว หานอวิ๋นซีจึงตัดสินใจพาเสี่ยวเฉินเซียงเดินไปตามถนน ประการแรกคือมีเงิน จึงสามารถซื้อของที่อยากได้มานานได้ ประการที่สอง คือนางคิดจะไปดูสถานการณ์ของตระกูลหานเสียหน่อย
ณ จุดนี้หานฉงอันน่าจะถูกตัดสินและน่าจะมีประกาศออกมาแล้ว
ฮ่องเต้เทียนฮุยไม่เพียงไม่ปกปิดเื่นี้เท่านั้น แต่ยังจะจัดการกับหานฉงอันด้วยการป่าวประกาศอย่างเอิกเกริก และเพื่อเป็การบอกให้โลกรู้ว่าอาการของไท่จื่อดีขึ้นแล้ว
เพียงแต่ หานอวิ๋นซีไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์จะใหญ่โตขนาดนี้ ทันทีที่นางมาถึงถนนใหญ่ นางได้ยินผู้คนทุกที่พูดถึงเื่นี้ และมีประกาศติดไปทั่วถนน
ฮ่องเต้เทียนฮุยลงโทษหานฉงอันในข้อหาหลอกลวงฮ่องเต้และคิดจะสังหารไท่จื่อ แม้ว่าจะไม่ได้ระบุว่าหานอวิ๋นซีเป็ผู้ช่วยชีวิตไท่จื่อ ทว่าเหตุการณ์นี้ก็ได้แพร่กระจายไปในแวดวงระดับสูงแล้ว
หานอวิ๋นซีนั่งอยู่บนที่นั่งตนเอง และฟังการสนทนาข้างนอก
“เช้านี้ตระกูลหานวุ่นวายไปหมด ได้ยินมาว่าอนุบางคนก็หนีออกมา!”
“ความผิดครั้งใหญ่นี้ มีเพียงหานฉงอันเท่านั้นที่ถูกลงโทษ ข้าว่าเื่นี้ต้องมีลับลมคมในเป็แน่!”
“ฮึฮึ ฉินหวังเฟยเป็บุตรสาวของตระกูลหาน ข้าว่าฉินหวังเฟยต้องออกมาช่วยปกป้องตระกูลหานใช่หรือไม่?”
“ได้ยินมาว่าจะมีการเดินขบวนบนถนนในอีกสามวัน เฮ้อ หานฉงอันเองก็ถือได้ว่าเป็หมอที่มีชื่อเสียงในยุคนี้ แล้วทำไม..."
“ทำไมพวกเขาถึงบอกว่าหานฉงอัน้าฆ่าไท่จื่อล่ะ ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!”
“เื่ราชวงศ์ พูดไปก็เท่านั้น พูดไม่ได้หรอก!”
…
หานอวิ๋นซีฟังอย่างใจเย็น นางไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้สักเท่าไร นางคิดแค่ว่าหลังจากเดินขบวนไปตามถนนแล้ว นางควรไปเยี่ยมพ่อในห้องขังและถามเกี่ยวกับเื่ของแม่นางด้วย
เื่นี้หานอวิ๋นซีเคยถามมาแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้ยินว่าแม่ของนางมีครรภ์ไม่ดีหรือมีโรคภัยไข้เจ็บอะไร ทำไมถึงคลอดยากล่ะ? ตัวแม่เองก็เป็หมอ ควรระวังร่างกายตัวเองมากที่สุดไม่ใช่หรือ
หานอวิ๋นซีรู้สึกอยู่เสมอว่ามีบางอย่างซ่อนอยู่ และคนที่รู้ความจริงมากที่สุดควรเป็สามีของนาง หานฉงอัน
และที่สำคัญที่สุดคือแผลเป็บนใบหน้าของนางเกิดขึ้นได้อย่างไร หากนางเกิดมาพร้อมกับมันแสดงว่ามีคน้าฆ่านางในครรภ์ของแม่แน่นอน เื่นี้ก็ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน
ในตอนบ่าย หานอวิ๋นซีสั่งให้เสี่ยวเฉินเซียงเอาของที่ซื้อกลับไปก่อน และไปที่คุกด้วยตัวเอง