คุณหนูใหญ่สกุลหลี่คิดแผนการแทบตายกว่าจะพาถังชิงหรูมาได้ ไหนเลยจะปล่อยไปเช่นนี้
พอได้ยินถ้อยคำของหลี่จื้อ นางก็เอ่ยขึ้นมาอย่างไม่พอใจ "พี่สาวแท้ๆ ของเ้าอยู่นี่ อย่างนางถือว่าเป็ญาติฝ่ายไหนของเ้ากันฮึ!"
หลี่จื้อหันไปมองถังชิงหรู ก่อนตอบกลับไปว่า "ข้าเห็นพี่สาวคนสวยแล้วรู้สึกถูกชะตา อีกอย่างอาจารย์บอกว่านางสำคัญต่อเขามาก"
ถังชิงหรูแทบกุมขมับ คุณหนูใหญ่สกุลหลี่ชมชอบน่าหลันหลิง ยามนี้ก็หึงหวงจนแทบจะจับนางกลืนลงท้องทั้งเป็อยู่แล้ว ถ้อยคำของหลี่จื้อประโยคนี้เป็การสาดน้ำมันเข้ากองเพลิงชัดๆ
"คุณหนูหลี่ แม้ท่านจะไม่เจ็บไข้ แต่ตามระเบียบโรงหมอของเรา เมื่อมีการตรวจวินิจฉัยท่านจะต้องจ่ายค่าปรึกษาแพทย์ โปรดชำระเงินด้วยห้าสิบตำลึง" ถังชิงหรูเอ่ยปากพลางยกยิ้มน้อยๆ
คุณหนูใหญ่สกุลหลี่มองนางอย่างเ็า สายตาเต็มไปด้วยการดูิ่เหยียดหยัน
"ช่างน่าสนใจยิ่งนัก ข้างนอกล้วนเล่าลือกันว่าโรงหมอของพวกท่านตรวจคนไข้ไม่รับค่ารักษา แล้วเหตุใดจึงมาเก็บเงินกับคุณหนูของเราล่ะ" จื่อเจวียนซึ่งอยู่ด้านข้างกล่าววาจาถากถาง
"กฎของข้าคนยากจนไม่ต้องจ่ายค่ารักษา ทำไม... หรือว่าสกุลหลี่ของพวกท่านก็ยากไร้ หากเป็เช่นนั้นคนยากไร้เช่นพวกท่านก็มีชีวิตความเป็อยู่ที่แสนวิเศษยิ่ง" ถังชิงหรูกล่าวเสียงเรียบ
หลี่จื้อกับหลีหย่วนต่างสบตากัน หลี่จื้อหันมาจูงมือถังชิงหรูเดินออกไปด้านนอกพลางกล่าวว่า "พี่สาวคนสวย พี่สาวข้าตามท่านมาตรวจย่อมต้องจ่ายค่ารักษา พวกเราไปหาท่านแม่ของข้ากันดีกว่า ให้ท่านแม่จ่ายให้ก็ได้"
คุณหนูใหญ่สกุลหลี่ลุกขึ้นมาเต้นผาง ถลึงตาใส่น้องชายอย่างโมโหโทโส "พวกเ้าเป็คนสกุลไหนกันแน่ ถึงได้เห็นขี้ดีกว่าไส้ จำไม่ได้หรือว่าใครเป็พี่สาวของพวกเ้า"
หลี่จื้อซึ่งจับมือถังชิงหรูอยู่เอี้ยวศีรษะกลับมา พูดกับพี่สาวของตนเองอย่างไม่สบอารมณ์ "ข้าทราบอยู่แล้วว่าท่านคือพี่สาว มิเช่นนั้นคงไม่มาเยี่ยมถึงที่นี่หรอก ท่านพ่อกล่าวไม่ผิด สตรีเช่นพวกท่านชอบก่อแต่เื่ไม่เป็เื่ ถึงไม่ให้พวกเราอยู่ในเรือนหลังนานเกินไป ทั้งห้ามลอกเลียนแบบวิสัยของสตรี ในที่สุดข้าก็เข้าใจความหมายของท่านพ่อเสียที"
ถังชิงหรูลอบชื่นชมหลี่จื้ออยู่เงียบๆ เด็กสองคนนี้เฉลียวฉลาดยิ่งนัก ไม่เสียแรงที่น่าหลันหลิงอบรมสั่งสอน หากไม่เพราะมีพี่สาวน่ารังเกียจเยี่ยงนั้น นางก็คงชอบพวกเขาสองคนมากกว่านี้
คุณหนูใหญ่สกุลหลี่ถูกน้องชายต่อว่าต่อขานจนหน้าแดงก่ำไปถึงใบหู นายท่านสกุลหลี่ขึ้นชื่อเื่เชิดชูบุรุษดูแคลนสตรี บุตรชายฝาแฝดคู่นี้ถึงจะเป็แก้วตาดวงใจของเขา ส่วนคุณหนูใหญ่เช่นนางก็เป็แค่ผู้อาศัย หลายปีมานี้ นางเฝ้าปรารถนาที่จะได้การยอมรับจากนายท่านสกุลหลี่ พยายามทำสิ่งต่างๆ เรียกร้องความสนใจให้บิดาหันมามองตนเองบ้าง แต่เพลานี้เขากลับยิ่งหมางเมินเ็าใส่นางมากขึ้นทุกวัน
คุณหนูใหญ่สกุลหลี่จ้องสองพี่น้องซึ่งพาถังชิงหรูออกไปจนตาแทบหลุด นางอาละวาดปัดถ้วยชาตรงหน้าตกลงพื้นแตกกระจาย มือบิดผ้าเช็ดหน้าไว้แน่น ดวงเนตรแดงก่ำ แค่นึกถึงดวงหน้าน้อยงามพิลาสของถังชิงหรู จินตนาการไปว่านางกับอาจารย์หลินได้อยู่ร่วมกันทั้งค่ำเช้า รักใคร่กันหวานชื่น นางก็แทบอดใจไม่ไหวอยากเข้าไปฉีกหน้าของหญิงแพศยาผู้นั้นให้ขาดเป็ชิ้นๆ
"คุณหนู..." จื่อเจวียนเข้ามากระซิบข้างหู "หญิงผู้นั้นแต่งกายบุรุษวางตัวเป็หมอ คนอื่นๆ ยังไม่มีใครทราบเื่นี้ หากทุกคนรู้ว่านางเป็สตรี ท่านว่าจะมีผู้ใดมาขอร้องให้นางรักษาหรือไม่ แต่ไรมาใต้หล้านี้ยังไม่เคยมีหมอที่เป็สตรีมาก่อน หากชื่อเสียงของนางถูกทำลาย คุณชายผู้งามสง่าเช่นอาจารย์หลินจะตบแต่งสตรีไร้ยางอายเช่นนางมาเป็ภรรยาได้อย่างไร"
ั์ตาของคุณหนูหลี่พลันสว่างวาบ ดึงมือของจื่อเจวียนมากุมพลางกล่าวด้วยความดีใจ "เ้ากล่าวไม่ผิด สตรีผู้นั้นเป็หมอ ไม่รู้ว่าถูกเนื้อต้องตัวบุรุษมามากน้อยแค่ไหน บัณฑิตให้ความสำคัญกับชื่อเสียงเป็ที่สุด หากเื่นี้แพร่งพรายออกไป ทุกคนก็จะเคลือบแคลงในความบริสุทธิ์ของนาง แม้ว่าอาจารย์หลินกับนางจะเคยมีอะไรกันมาก่อน ถึงเวลานั้นเขาก็จะไม่้านางอีก"
"ใช่เ้าค่ะ คุณหนูอย่าอารมณ์เสียเพียงเพราะหญิงชั้นต่ำเยี่ยงนั้นเลย โมโหไปรังแต่จะทำให้เสียสุขภาพเปล่าๆ เวลายังอีกยาวไกลนัก ตราบใดที่พวกเขายังไม่แต่งงานกัน คุณหนูก็ยังมีโอกาส" จื่อเจวียนเอ่ยปากยุแยง
"แต่ใจข้าก็ไม่มีความสุขอยู่ดี" คุณหนูหลี่เอ่ยพลางยกมือขึ้นกุมอก "กว่าจะเรียกนางมาได้ไม่ง่าย ทำอะไรไม่ได้มิว่า ยังต้องเสียเงินอีกห้าสิบตำลึง"
"ลองมาคิดดูอีกมุมหนึ่ง หากนางเกิดเื่ในจวนของเรา โดยที่พวกเราเป็คนตามนางออกมา หากอาจารย์หลินทราบภายหลัง จะต้องโทษว่าเป็ความผิดของพวกเราเป็แน่ แม้ปากเขาจะไม่พูด แต่ต้องเ็าห่างเหินกับคุณหนู เช่นนั้นย่อมไม่เป็ผลดีต่อท่านเลย ดังนั้นตอนนี้ปล่อยนางไปก่อน แล้วค่อยๆ หาจัดการกับนางภายหลัง" จื่อเจวียนปลอบประโลมอย่างอ่อนโยน
"จื่อเจวียน เ้าสมกับเป็ที่ปรึกษาของคุณหนูเยี่ยงข้าโดยแท้ สิ่งที่กล่าวมาล้วนมีเหตุผล เอาล่ะ ข้าจะเชื่อเ้า หากข้าได้แต่งงานกับอาจารย์หลิน ข้าจะสนับสนุนให้เ้าได้เป็อนุภรรยาของคุณชายใหญ่ ด้วยรูปโฉมของเ้า หากคลอดบุตรชายบุตรสาวให้พี่ใหญ่ของข้าได้สักคน ต่อไปก็ได้เป็นายคนไปแล้วครึ่งหนึ่ง คุณหนูเยี่ยงข้าใจกว้างเสมอกับบ่าวที่ซื่อสัตย์จงรักภักดี เ้าอย่าทำให้ข้าผิดหวังก็แล้วกัน"
"เ้าค่ะ" จื่อเจวียนตอบรับอย่างกระตือรือร้น
ที่ศาลาในสวนดอกไม้ หลี่จื้อจูงถังชิงหรูไปพักผ่อนอยู่ที่นั่นครู่ใหญ่ หลี่จื้อชี้ไปที่บ่อปลาฝั่งตรงข้ามพลางกล่าวว่า "อาจารย์โปรดปรานที่นี่เป็ที่สุด ทุกครั้งยามสอนบทกวี ก็จะพาพวกเรามานั่งเรียนกันที่นี่ เพียงแต่ระยะหลังพี่หญิงใหญ่ของข้ามักมาที่นี่อยู่บ่อยครั้ง อาจารย์ก็เลยมิค่อยมาแล้ว"
ถังชิงหรูมองบ่อปลาพลางกล่าวเสียงเรียบ "เมื่อก่อนจวนของเขาก็มีบ่อปลาแบบนี้ คงจะเห็นแล้วรู้สึกะเืใจกระมัง"
"บ้านอาจารย์มีบ่อปลาใหญ่ขนาดนี้เลยหรือ" หลีหย่วนซักถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น "แล้วตอนนี้เล่ายังมีอยู่ไหม"
"หรูเอ๋อร์" น่าหลันหลิงเดินเข้ามาจากฝั่งตรงข้าม พอเห็นถังชิงหรูปรากฏตัวที่นี่ ดวงตาก็ฉายแววเคลือบแคลง เอ่ยถามว่า "เ้ามาที่นี่ได้อย่างไร"
ถังชิงหรูปรายตาค้อนควักอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก พลางกล่าวกระทบกระเทียบด้วยน้ำเสียงเอ้อระเหย "สาวใช้ของคุณหนูใหญ่สกุลหลี่บอกว่านางไม่สบาย ให้ข้ามาตรวจชีพจรให้ แต่เท่าที่ข้าเห็น ร่างกายของนางไม่มีปัญหา แต่ที่มีปัญหาอย่างมากคือหัวใจ อาการป่วยใจต้องใช้ใจรักษา เสียดายนั่นคือสิ่งที่ข้าขาดแคลนเป็ที่สุด ญาติผู้พี่ ท่านไม่ลองหายารักษาใจมาให้คุณหนูใหญ่กินดูเล่า"
น่าหลันหลิงได้ยินนางเอ่ยถึงคุณหนูใหญ่สกุลหลี่ก็คาดเดาสถานการณ์ได้ ความรู้สึกรำคาญผุดวาบในแววตา ทว่าแต่ไรมาแม้ว่าคนผู้นั้นจะน่ารังเกียจเพียงใด เขาก็จะไม่แสดงออกมาให้ผู้อื่นเห็น เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะของหลี่จื้อและหลีหย่วน เอ่ยว่า "แอบหนีมาเล่นอีกแล้ว ข้าให้พวกเ้าฝึกเขียนอักษรมิใช่รึ"
"อ๋า..." หลี่จื้อจับมือน่าหลันหลิงทำตาปริบๆ "อาจารย์ เดิมทีพวกเราก็อยากเขียนอักษรอยู่นะ แต่เห็นพี่สาวคนสวยมาที่จวน พวกเราในฐานะเ้าของบ้าน ก็ควรต้อนรับนางอย่างดีมิใช่หรือ พี่หญิงใหญ่ของข้าจิตใจคับแคบ ไม่ชอบสตรีที่งดงามกว่า ดังนั้นพวกเราเลยคิดว่าขอแค่พวกเราอยู่ข้างกายพี่สาวคนสวย นางก็จะไม่ถูกผู้อื่นรังแก พวกเรามาอยู่ที่นี่เพื่อคุ้มครองพี่สาวคนสวยโดยเฉพาะ อาจารย์ไม่ต้องขอบคุณพวกเราก็ได้ แต่ว่า... เื่อักษรนั้น เอาไว้วันอื่นค่อยคัดได้หรือไม่"
ถังชิงหรูอมยิ้ม มองน่าหลันหลิงด้วยความเห็นใจ หัวเราะเบาๆ กระเซ้าว่า "ลูกศิษย์เฉลียวฉลาดเกินไปมักทำให้อาจารย์ปวดศีรษะ ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้วล่ะ ว่าเพราะเหตุใดท่านถึงไม่อาจกลับบ้านบ่อยๆ ได้"
น่าหลันหลิงเขกศีรษะของเด็กชายทั้งสองคนละที พลางเอ่ยอย่างจนปัญญา "พรุ่งนี้ค่อยคัด วันนี้ให้พวกเ้าพักผ่อนก็ได้"
"ดีที่สุดเลย" หลี่จื้อะโโลดเต้นด้วยความดีใจ "อาหย่วน พวกเราไปเล่นกันเถอะ พี่สาวคนสวยกับอาจารย์มีธุระคุยกัน พวกเราอย่าอยู่เกะกะขวางทางพวกเขาเลย"
หลีหย่วนมองพวกเขาสองคนอย่างมีเลศนัย ก่อนตอบรับหลี่จื้อ "ตกลง"
สองพี่น้องวิ่งไปจากตรงนั้น ในศาลาจึงเหลือเพียงถังชิงหรูกับน่าหลันหลิง
"คุณหนูหลี่คงไม่ได้ทำอันใดเ้าหรอกนะ" น่าหลันหลิงเดินเข้ามา มองสังเกตนางแล้วเอ่ยถาม
"หากลูกศิษย์ของท่านไม่ตามไปด้วย ข้าคงไม่มีโอกาสออกมาง่ายดายเช่นนี้ ญาติผู้พี่คนดีของข้า ชะตาดอกท้อของท่านช่างแรงนัก" ถังชิงหรูมองเขาอย่างปั้นปึ่ง
น่าหลันหลิงมุ่นคิ้วเอื้อมมือมาดึงปิ่นบนมวยผมของนาง แล้วจัดทรงผมปักปิ่นให้ใหม่ เมื่อครู่ตอนนั่งรถม้าส่ายไปส่ายมา ผมจึงเสียทรงเล็กน้อย บัดนี้พอผ่านการจัดแต่งเสียใหม่ ก็ดูงามตาขึ้นเยอะ ถังชิงหรูมองบุรุษตรงหน้า หากเขาแต่งงาน ต่อไปคงเป็สามีที่แสนประเสริฐเป็แน่ ความอ่อนโยนต่อสตรีของเขา เป็สิ่งที่พบเห็นได้ยากยิ่งในยุคสมัยนี้
"อีกไม่ช้าข้าจะไปจากสกุลหลี่ ถึงเวลานั้นนางก็มาก่อกวนเ้าไม่ได้อีกแล้ว" น่าหลันหลิงเอ่ยกับถังชิงหรู "ขออภัยด้วย หรูเอ๋อร์..."
"มิเกี่ยวกับท่านเสียหน่อย ใครใช้ให้ท่านหน้าตาดีขนาดนี้เล่า" ถังชิงหรูมิเคยโกรธเขา
นางหาใช่คนไร้เหตุผล เื่แบบนี้ขึ้นอยู่กับความยินยอมของแต่ละบุคคล เขาเองก็ตกเป็ผู้รับเคราะห์เหมือนกันมิใช่หรือ น่าหลันหลิงอยู่ในจวนสกุลหลี่ทั้งวัน ต้องอดทนกับคุณหนูหลี่ซึ่งโผล่มากวนใจได้ทุกเมื่อจนไม่เป็อันทำการทำงาน เชื่อว่าเขาคงรำคาญใจไม่น้อยไปกว่านาง
"หรูเอ๋อร์ ข้าต้องเตรียมสอบเคอจวี่[1] มีแต่วิธีนี้ถึงจะเปลี่ยนสถานะของตนเองได้ ดังนั้นอีกไม่ช้าข้าต้องไปจากเมืองชิ่ง"
"หืม? ท่านจะไป แล้วข้าเล่า" ถังชิงหรูมุ่นคิ้วขมวด "ท่านไปแล้ว ข้าจะอยู่ที่นี่ต่อไปทำไม ไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิด"
"ตามประสงค์ของคุณชายเฉินผู้นั้น เ้ามิอาจติดตามข้าไปได้ หนึ่งตอนนี้ชื่อเสียงของเ้าโด่งดังเกินไป อาจเป็ที่จับตามองของคนจำนวนมาก หากเ้าไปพร้อมกับข้า สถานะของข้าคงปิดบังซ่อนเร้นไม่ได้อีกต่อไป สองสุขภาพของชิ่งอ๋องยังไม่ฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ โรคที่เขาเป็มีแต่เ้าที่รักษาได้ ดังนั้น เขาปรารถนาให้เ้ารั้งอยู่เมืองชิ่งต่อไป" ั์ตาของน่าหลันหลิงฉายแววหม่นหมอง
ยามเอ่ยเื่นี้กับถังชิงหรู ในใจของเขาทรมานเกินจะรับได้ เขารู้ใจของตนเองดี ว่าปรารถนาให้นางติดตามไปเพียงใด แต่หากทำเช่นนั้น นางคงต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย หากคนที่ตามสังหารพบเบาะแสของตนเอง ก็ไม่มีสิ่งใดจะรับประกันความปลอดของนางได้ แต่หากรั้งอยู่เมืองชิ่ง นางย่อมได้รับความคุ้มครองจากชิ่งอ๋อง
นี่คือเหตุผลสำคัญที่น่าหลันหลิงจำต้องยอมรับข้อเสนอ หากเป็ไปได้ เขาไม่อยากฝากหญิงสาวไว้ในมือของชายอื่น เขา้าสตรีผู้นี้ และอยากให้นางอยู่ข้างกายของตนเองตลอดไป
ถังชิงหรูรู้สึกเคว้ง น่าหลันหลิงกำลังจะจากไป จากนี้นางก็ต้องอยู่คนเดียว ในสายตาของนาง น่าหลันหลิงคือญาติคนเดียวที่ตนเองมีอยู่ในโลกใบนี้ เขาและนางต่างมีความลับส่วนตัว และช่วยสนับสนุนซึ่งกันและกันเสมอมา กว่าชีวิตจะดีขึ้นได้ไม่ใช่เื่ง่าย แต่สุดท้ายกลับต้องพรากจากกัน ไม่มีงานเลี้ยงใดในโลกนี้ที่ไม่มีวันเลิกราสินะ...
"ท่านจะไปเมื่อไร" ถังชิงหรูหลุบสายตาพลางเอ่ยถาม "ข้าจะได้เตรียมของกินของใช้ให้ล่วงหน้า"
"อีกสิบวัน" น่าหลันหลิงตอบเสียงเรียบ "เ้า... จะแต่งงานหรือไม่"
หืม? ถังชิงหรูกำลังเศร้า แต่จู่ๆ น่าหลันหลิงก็เปลี่ยนเื่คุยกะทันหัน ชวนให้ปรับอารมณ์ไม่ทัน นี่นางดูเหมือนคนขาดความรักไม่ได้ขนาดนั้นเชียวหรือ?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้