แท้จริงแล้วปราณสังหารจากูเาซวงเฟิงกระจายออกมาจากหลุมขนาดใหญ่แห่งนี้ หลังจากทีู่เาซวงเฟิงพังทลายก็ปรากฏหลุมขนาดใหญ่ขึ้น ใจกลางของหลุมขนาดใหญ่แห่งนี้คือต้นกำเนิดของปราณสังหาร
ตี้เหยียนเดินลงไปสำรวจอย่างระมัดระวัง ถึงแม้เขาจะเป็ยอดฝีมือระดับราชันยุทธ์ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับสถานที่ลึกลับเช่นนี้ เขาก็ต้องสำรวจพื้นที่ด้วยความระมัดระวัง
“นี่คือเืเนื้อของสัตว์อสูรชนิดใดกันแน่?” ตี้เหยียนก้าวเดินลงไปในหลุมขนาดใหญ่ช้าๆ จากนั้นใช้มีดสั้นเฉือนเนื้อออกมาชิ้นหนึ่ง
ในเนื้อยังคงแฝงด้วยปราณโลหิตที่ทรงพลัง ความจริงแล้วูเาซวงเฟิงแห่งนี้มีอายุหลายร้อยปีแล้ว แม้แต่เศษชิ้นเนื้อเหล่านี้ก็อยู่มานานหลายร้อยปีเช่นกัน แต่ปราณโลหิตที่อยู่ภายในยังคงมีพลังมหาศาล
จากการคาดเดาของตี้เหยียน เืเนื้อที่เขาเห็นเหล่านี้ล้วนมาจากสัตว์อสูรตัวเดียวกัน เขาตกตะลึงจนพูดไม่ออก ร่างกายของสัตว์อสูรตัวนี้มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่เขาคาดเดาเอาไว้มาก
นอกจากูเาซวงเฟิงแห่งนี้จะมีเืเนื้อแล้ว ยังมีอาวุธที่ไม่สมบูรณ์บางส่วนกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ และยังสามารถเห็นโครงกระดูกของมนุษย์ได้ทั่วไปอีกด้วยและโครงกระดูกเหล่านี้ล้วนเป็ยอดฝีมือระดับราชันยุทธ์
“าแบบใดกันที่ทำให้ผู้ฝึกตนต้องมาตายราวกับผักปลา!” ตี้เหยียนพึมพำกับตัวเอง ตัวเขาเองก็เป็ระดับราชันยุทธ์เช่นกัน สิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้าจึงทำให้เขารู้สึกหวั่นเกรงอยู่บ้าง
ร่างของผู้ฝึกตนระดับราชันยุทธ์เหล่านี้ล้วนถูกปราณสังหารกัดกร่อนเป็เวลานานหลายปี จึงทำให้ในเวลานี้แทบจะไม่เหลืออะไรให้สนใจอีกแล้ว แม้แต่ตี้เหยียนก็ทำได้เพียงเก็บกวาดสมบัติที่ผุพังกลับมาเท่านั้น เวลาหลายร้อยปีได้ทำลายสมบัติบางส่วนเกือบจะสมบูรณ์แล้วด้วยซ้ำ
แม้แต่ตี้เหยียนก็รู้สึกผิดหวัง เดิมทีเขาหวังว่าจะได้สมบัติล้ำค่ากลับไป แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของเขาในเวลานี้ราวกับขยะกองหนึ่งเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นานก้อนหินสีดำก้อนหนึ่งได้ดึงดูดความสนใจของตี้เหยียน
เดิมทีก้อนหินก้อนนี้อยู่ในผนังถ้ำ จากการถล่มของูเาซวงเฟิงจึงทำให้หินสีดำก้อนนี้ถูกค้นพบ ก้อนหินสีดำก้อนนี้ไม่มีร่องรอยของการกัดกร่อนจากปราณโลหิตแม้แต่น้อย แม้แต่แสงสว่างที่กระทบกับผิวของมันก็ไม่มีแสงสะท้อนกลับออกมา ราวกับว่ามันได้ดูดซับแสงสว่างเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น
ตี้เหยียนเดินไปด้านหน้าก้อนหินสีดำอย่างระมัดระวัง ก้อนหินสีดำก้อนนี้ปรากฏให้เห็นเพียงครึ่งเท่านั้น อีกส่วนหนึ่งยังคงติดอยู่ในผนังหินเช่นเดิม เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ลมหายใจต่อมาฝ่ามือของตี้เหยียนก็ปรากฏเปลวเพลิงสายหนึ่งััไปที่ก้อนหินสีดำเพื่อทำการตรวจสอบ
“นี่มันไม่ใช่ก้อนหิน มันคือการหลอมรวมพลังปราณของจ้าวยุทธ์!” ตี้เหยียนพึมพำด้วยความตกตะลึง
เขาััได้ถึงกลิ่นอายของพลังปราณในวัตถุสีดำชิ้นนี้ ภายในยังคงมีพลังปราณไหลเวียนอยู่ วัตถุสีดำนี้คือสิ่งที่ยอดฝีมือระดับจ้าวยุทธ์สร้างขึ้น
นี่คือการหลอมรวมของิญญายุทธ์!
ตี้เหยียนดึงเอาเปลวเพลิงกลับมา จากนั้นควบคุมพลังปราณในร่าง ศิลาเพลิงิญญาบนชุดเกราะของเขาเปล่งประกายระยิบระยับทันที และแขนสองข้างของเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง
หลังจากที่ตี้เหยียนหลอมรวมร่างกายเข้ากับิญญายุทธ์แล้ว เขาสามารถใช้ความสามารถของิญญายุทธ์ได้โดยตรง ในเวลาเดียวกันยังได้รับคุณสมบัติที่สอดคล้องกับิญญายุทธ์อีกด้วย
แขนของตี้เหยียนกลายเป็ดาบที่ลุกโชนด้วยเปลวเพลิงสองเล่ม เขาแทงมันไปด้านหน้าโดยตรง
แม้ว่าวัตถุสีดำที่อยู่เบื้องหน้าจะเป็ฝีมือของจ้าวยุทธ์แต่ด้วยอายุหลายร้อยปี และตัวของจ้าวยุทธ์เองก็ไม่รู้ว่าตายไปนานเพียงใดแล้ว ตี้เหยียนจึงสามารถแทงทะลุเข้าไปได้
ทันใดนั้นบนวัตถุสีดำที่ถูกตี้เหยียนโจมตีก็เป็รู หลังจากนั้นไม่นานรูสีดำก็มีหมอกสีดำพุ่งออกมา หมอกสีดำนี้ราวกับสิ่งมีชีวิต
หลังจากที่พุ่งออกมามันก็รวมตัวกลายเป็ฝ่ามือขนาดใหญ่ลอยอยู่กลางอากาศ และพุ่งไปทางตี้เหยียนอย่างรวดเร็ว ตี้เหยียนตกตะลึงคาดไม่ถึงว่าจ้าวยุทธ์ที่ตายไปนานหลายร้อยปีแล้วจะอันตรายได้มากเพียงนี้!
ตรงกันข้ามตี้เหยียนก็ไม่ได้จัดการง่ายๆ ศิลาเพลิงิญญาบนชุดเกราะของเขากะพริบทันที ปีกเพลิงยาวหลายวาคู่หนึ่งกางออกมาจากด้านหลังของเขา ตี้เหยียนสามารถหลบการโจมตีได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
จากนั้นตี้เหยียนดึงดาบออกมาจากชุดเกราะ ดาบที่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงถูกดึงออกมา ดาบเล่มนี้ไม่ใช่ดาบที่แปลงจากแขนของตี้เหยียน แต่เป็อาวุธที่แท้จริง
เดิมทีตี้เหยียนจะเก็บดาบเล่มนี้ไว้ในเกราะ เขาชูดาบขึ้นไปบนฟ้าเปลวเพลิงก็ลุกโชนอย่างร้อนแรงอีกครั้ง ตัวดาบขยายใหญ่และมีความยาวมากกว่าร่างของตี้เหยียนด้วยซ้ำ
จากนั้นตี้เหยียนก็ฟาดฟันดาบไปที่หมอกสีดำ ทันใดนั้นหมอกสีดำก็สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่เขาไม่ได้หยุดมือเขายังคงฟาดฟันดาบออกไปอย่างต่อเนื่อง การโจมตีอย่างบ้าคลั่งของเขาได้ผ่ารูสีดำให้ขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ
ไม่กี่ลมหายใจต่อมาตี้เหยียนก็เก็บเอาดาบเข้าไปไว้ที่ชุดเกราะเช่นเดิม หลังจากนั้นเขาก็ร่อนตัวลงมาที่พื้น ในเวลาเดียวกันปีกเปลวเพลิงด้านหลังก็กลับเข้าร่าง ทันใดนั้นมิติภายในวัตถุสีดำนั้นก็เปิดเผยต่อหน้าของเขาทันที
เดิมทีที่แห่งนี่เป็เพียงหลุมรกร้างขนาดใหญ่ หลังจากการโจมตีอย่างบ้าคลั่งของตี้เหยียน ในเวลานี้ทุกอย่างที่อยู่เบื้องหน้าก็หายไปเกือบครึ่ง กลายเป็พื้นที่เปิดโล่งอย่างสิ้นเชิง สิ่งแรกที่เห็นคือโครงกระดูกโครงหนึ่ง
โครงกระดูกโครงนั้นนั่งอยู่บนก้อนหินก้อนหนึ่ง สองมือจับอยู่ที่ดาบสีดำขนาดใหญ่ที่ปักอยู่บนพื้น ภายในถ้ำค่อนข้างโล่ง แต่ในลมหายใจต่อมาตี้เหยียนก็กวาดสายตาไปเห็นแหวนมิติวงหนึ่งอยู่ที่โครงกระดูก
แหวนมิติของยอดฝีมือระดับจ้าวยุทธ์ ถึงแม้จะผ่านไปนานหลายร้อยปีแล้ว แต่สมบัติของยอดฝีมือระดับจ้าวยุทธ์ก็ไม่อาจมองข้ามได้ อีกทั้งมิติรอบด้านล้วนใช้ความสามารถในการหลอมรวมผนึกเอาไว้ แม้กระทั่งสามารถกำจัดปราณสังหารกับปราณโลหิตออกไปได้ นี่คือเหตุผลที่ไม่อาจมองข้ามสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับจ้าวยุทธ์ผู้นี้ได้
ตี้เหยียนเดินเข้าใกล้อีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง ถึงแม้ไม่รู้สถานะของอีกฝ่าย แต่ตี้เหยียนเดาว่าอีกฝ่ายน่าจะไม่ใช่คนดีอะไรนัก ไม่เช่นนั้นคงไม่ทิ้งกับดักเอาไว้อย่างแน่นอน
โชคดีที่ตี้เหยียนเป็ยอดฝีมือระดับราชันยุทธ์ หากเป็ยอดฝีมือที่มีระดับต่ำกว่ายอดยุทธ์เข้ามาในถ้ำ เกรงว่าคงต้องกลายเป็ศพอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน
แต่สำหรับร่างของยอดฝีมือระดับจ้าวยุทธ์ผู้นี้ ทำให้ภายในใจของตี้เหยียนรู้สึกหวั่นเกรงอยู่บ้าง แม้ว่าอีกฝ่ายจะตายไปแล้ว แต่ตอนนี้เขาได้บุกเข้ามาในสุสานของอีกฝ่าย และ้าจะปล้นเอาสมบัติอีกด้วย
“ข้าน้อยตี้เหยียน ไม่ได้มีเจตนาจะรบกวนผู้าุโแต่อย่างใด แต่สมบัติเหล่านี้ไม่สมควรที่จะจมอยู่ใต้ฝุ่นดินเช่นนี้ ขออภัยหากข้าน้อยล่วงเกินท่าน!” ตี้เหยียนพึมพำพร้อมกับประสานมือ
ตี้เหยียนซัดฝ่ามือออกไป ฝ่ามือเพลิงขนาดใหญ่ปกคลุมโครงกระดูกเอาไว้ จากเขาก็เก็บแหวนมิติกลับไป โครงกระดูกแหลกสลายหายไปทันที
ในขณะนี้ดาบสีดำขนาดใหญ่และแหวนมิติอยู่ในมือของตี้เหยียนแล้ว เขายังไม่ทันได้ตรวจสอบแหวนมิติด้วยซ้ำก็ััได้ถึงเสียงเคลื่อนทัพจากระยะไกล สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เขากางปีกเพลิงด้านหลังและบินออกจากหลุมขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว
……